Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เลือดและส่วนประกอบของเลือด🩸 - Coggle Diagram
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เลือดและส่วนประกอบของเลือด🩸
หลักการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
Central venous therapy
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปาก
Implanted vascular access device หรือ venous port
ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้สารละลายทางหลอดเลือดดาเป็นระยะ ๆ และไม่สามารถให้สารน้ๆและสารละลายทางหลอดเลือดดำส่วนปลายได้
Peripheral intravenous infusion
ผู้ป่วยที่ต้องงดอาหารและน้ำดื่ม เพื่อเตรียมผ่าตัด ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้ยาทางหลอดเลือดดำ
ชนิดของสารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
Hypotonic solution
เกิดการเคลื่อนของน้ำเข้าสู่เซลล์
Hypertonic solution
ดึงน้ำจากเซลล์สู่ระบบการไหลเวียน
Isotonic solution
เพิ่มปริมาตรของน้ำที่อยู่นอกเซลล์
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการหยดของสารน้ำ
ความหนืดของสารน้ำ
ขนาดของเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดดำ
ระดับขวดสารน้ำสูงหรือต่ำเกินไป
เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมาก
สายให้สารน้ำ มีความยาวมาก มีการหักพับงอหรือถูกกด จะทำให้สารน้ำผ่านไม่สะดวก
การผูกยึดบริเวณหลอดเลือด แน่นหรือตึงเกินไปรวมทั้งการนั่ง หรือนอนทับสายให้สารน้ำ
การเคลื่อนย้ายและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
การปรับอัตราหยด
การคำนวณอัตราการหยดของสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
สูตรการคำนวณอัตราหยดของสารน้ำใน 1 นาที
จำนวนหยดของสารละลาย (หยด/ นาที) =( จำนวน Sol.(มล/ชม.) x จำนวนหยดต่อมล.) /
เวลา(นาที)
สูตรการคำนวณสารน้ำที่จะให้ใน 1 ชั่วโมง
ปริมาตรของสารน้ำที่จะให้ใน 1 ชม. = ปริมาตรของสารน้ำที่จะให้ / จำนวนเวลาที่จะให้เป็นชั่วโมง
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การเลือกตำแหน่ง
คำนึงถึงชนิดของสารน้ำที่ให้
เลือกแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดก่อน
หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณข้อพับต่าง ๆ
เริ่มต้นแทงเข็มที่ให้สารน้ำที่หลอดเลือดดาส่วนปลายของแขนก่อน
ถ้าจำเป็นต้องผูกยึดแขนและขา ให้หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้ำ
ตรวจสอบบริเวณตาแหน่งที่จะแทงเข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม
2.อุปกรณ์เครื่องใช้
1 ขวดสารน้ำ เตรียมให้ตรงกับใบสั่งการรักษาและตรวจสอบดูสภาพ
2 ชุดให้สารน้ำ (IV Administration set)
3 เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดดำส่วนปลาย (Peripheral insertion devices)
4 อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เสาแขวนขวดให้สารน้ำ ยางรัดแขน แผ่น
โปร่งใสปิดตาแหน่งที่แทงเข็ม เป็นต้น
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
Local complication
มีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม
Local infection บวมแดง ร้อน อาจจะมีหนองบริเวณที่แทงเข็ม
เกิดอาการบวมบริเวณที่
แทงเข็มให้สารน้ำ
หลอดเลือดดำอักเสบ (Phlebitis)
Systemic complication
การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ (Allergic reaction)
การติดเชื้อในกระแสเลือด (Bacteremia หรือ Septicemia)
เกิดฟองอากาศในกระแสเลือด (Air embolism)
ให้สารน้าเร็วเกินและมากเกินไป (Circulatory overload)
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผน
วางแผนให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำโดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่ 4 การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย
บอกให้ผู้ป่วยทราบโดยอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการให้
ล้างมือให้สะอาด
ดึงแผ่นโลหะที่ปิดขวดสารน้ำหรือฝาครอบที่ปิดถุงน้าพลาสติกออก
เช็ดจุกยางที่ขวดหรือถุงสารน้ำด้วยสาลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ต่อ IV set กับ IV fluid
ต่อ three ways กับ extension tube แล้วมาต่อกับ IV set
ปิด clamp ที่ IV set
แขวนขวด IV fluid เสาน้ำเกลือแขวนให้สูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต) จากผู้ป่วย
บีบ chamber ของ IV set ให้ IV fluid ลงมาในกระเปาะประมาณ ½ ของกระเปาะ
การเตรียมผิวหนังและการแทงเข็มให้สารน้ำ
เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดาตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผล
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินด้านร่างกาย
การประเมินแผนการรักษา
การใช้กระบวนการพยาบาลในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดำ
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
การบริหารยาที่มีประสิทธิภาพโดยใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนในการบริหารยา
วางแผนบริหารยาตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
การฉีดยาแบบที่ 1 IV plug กับ piggy back (100 ml)
การฉีดยาแบบที่ 2 IV plug กับ syringe IV push
การฉีดยาแบบที่ 3 Surg plug กับ piggy back (100 ml)
การฉีดยาแบบที่ 4 Surg plug กับ syringe IV push
การฉีดยาแบบที่ 5 three ways กับ piggy back (100 ml)
การฉีดยาแบบที่ 6 three ways กับ syringe IV push
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผล
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ต่อสายยางให้อาหารเข้าไปในชุดให้สารอาหาร
ตรวจสอบ PPN หรือ TPN จะต้องไม่ขุ่นหรือมีตะกอน
เตรียมอุปกรณ์ในการให้ PPN หรือ TPN ที่สะอาดปราศจากเชื้อ และเตรียมชุดให้สารอาหารให้พร้อม
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิดและปริมาณของสารอาหาร อัตราหยด/นาที วันและเวลาที่เริ่มให้ วันและเวลาที่สารอาหารหมด ชื่อผู้เตรียมสารอาหาร
ล้างมือให้สะอาดก่อนให้การพยาบาลทุกครั้ง สวมmask
นำสารอาหารและสายยางให้สารอาหารไปต่อกับผู้ป่วย
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ
ให้สารอาหารปรับจานวนหยดตามแผนการรักษา
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
Local infiltration
ลักษณะที่พบ
2) ผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบายบริเวณที่ให้
1) บวมบริเวณที่ให้
Embolism
ลักษณะที่พบ
1) อาการเขียว
2) สังเกตพบว่าอัตราการหยดของสารอาหารจะช้าลง หรือหยุดไหล
Circulatory overload
ลักษณะที่พบ
1) อาการแสดงที่ปรากฏเริ่มแรก คือ ปวดศีรษะ หายใจตื้น และหอบเหนื่อย
2) ตรวจพบความดันเลือดและแรงดันหลอดเลือดส่วนกลางสูงขึ้น ชีพจรเร็ว
3) ผู้ป่วยมีปริมาณน้าเข้าและออก (intake/output) ไม่สมดุล
4) มีการคั่งของเลือดดาจะพบว่าหลอดเลือดดาที่คอโป่ง
5) ถ้ารุนแรงจะมีภาวะปอดบวมน้า
pyrogenic reactions
ลักษณะที่พบ
1) ไข้สูง 37.3-41 องศาเซลเซียส
2) ปวดหลัง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
3) หนาวสั่น
4) ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้รับและสภาวะของผู้ป่วย
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดำ
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย (Assessment)
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการพยาบาล (Planning)
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
1.ประเมินสภาพร่างกาย และควบคุมผู้ป่วยในระยะแรก และระยะหลัง
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและขณะให้สารอาหารและติดตามทุก 2-4 ชั่วโมง
3.เปลี่ยนตำแหน่งให้ทุก 3 วัน หรือทุกครั้งที่มีสารอาหารรั่วไหล
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิด และปริมาณของสารอาหารอัตราหยดต่อนาที วัน และเวลาที่เริ่มให้ วัน และเวลาที่สารอาหารหมด ชื่อผู้เตรียมสารอาหาร
สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ป่วย
ถ้าสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำรั่ว หรือทางเส้นเลือดดำอุดตัน ให้ไม่ได้ ควรรายงานให้แพทย์ทราบ
หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทางหลอดเลือดดำสายเดียวกับให้สารอาหารทางหลอกเลือดดำ
ดูแลทางด้านจิตใจ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลทางการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ(Evaluation)
การให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ประกอบด้วย 3 ส่วน
2.white blood cell หรือ leukocyte
3.platelet และ plasma
1.red blood cell หรือ erythrocyte
การให้และการรับเลือดในหมู่เลือด
คนเลือดกรุ๊ป Rh-ve ต้องรับจาก Rh-ve เท่านั้น แต่ต้องดูกรุ๊ปเลือดตามระบบ ABO ด้วย
คนเลือดกรุ๊ป O รับได้จาก O เท่านั้น แต่ให้กับกรุ๊ปอื่นได้ทุกกรุ๊ป
คนเลือดกรุ๊ป AB รับได้จากทุกกรุ๊ป แต่ให้เลือดแก่ผู้อื่นได้เฉพาะคนที่เป็นเลือดกรุ๊ป AB
คนเลือดกรุ๊ป A รับได้จาก A และ O ให้ได้กับ A และ AB
คนเลือดกรุ๊ป B รับได้จาก B และ O ให้ได้กับ B และ AB
ภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือด
การถ่ายทอดโรค (Transfusion-associated graft versus host disease)
ปฏิกิริยาภูมิแพ้ (Allergic reaction)
ไข้ (Febrile transfusion reaction)
การอุดตันจากฟองอากาศ (Air embolism)
ปริมาตรการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป (Volume overload)
ภาวะสารซิเตรทเกินปกติ เกิดจากการให้เลือดติดต่อกันเป็นจำนวนมากจึงมีการสะสมของสารกันการแข็งตัวของเลือด (Acid – citrate dextrose)
เม็ดเลือดแดงสลายตัว (Hemolysis)
ภาวะโปตัสเซียมเกินปกติ (Hyperkalemia)
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผน
ขั้นตอนที่ 4 การให้เลือดและสารประกอบของเลือด
เช็ดรอบ ๆ ด้วยสาลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ต่อ blood set กับ ขวดเลือด
ดึงที่ปิดถุงเลือดออก
ต่อ three ways กับ extension tube แล้วมาต่อกับ blood set ปิด clamp
แขวนขวดเลือดกับเสาน้าเกลือแขวนให้สูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต)จากผู้ป่วย
บีบ chamber ของ blood set ให้ เลือดไหลลงมาในกระเปาะประมาณ ½ ของกระเปาะ
ล้างมือให้สะอาด
บอกให้ผู้ป่วยทราบโดยอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการให้
การเตรียมผิวหนังและการแทงเข็มให้สารน้ำ
เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ตรวจสอบชื่อนามสกุล Rh. ของผู้ป่วย
ตรวจสอบแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้เลือดและสารประกอบของเลือดตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผล
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การบันทึกปริมาณน้ำเข้า-ออกจากร่างกาย (Record Intake-Output)
หลักการบันทึก
1) แบบฟอร์มการบันทึกควรแขวนไว้ที่เตียงผู้ป่วย
2) อธิบายเหตุผลและความสาคัญของการวัดและการบันทึกจานวนน้าที่รับเข้าและขับออกจากร่างกาย
3) ร่วมกับผู้ป่วยในการวางแผนกำหนดจำนวนน้ำที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละช่วงเวลา
4) จดบันทึกจานวนน้าและของเหลวทุกชนิดที่ให้ขณะมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร
5) การจดบันทึกควรสรุปทุก 8 ชั่วโมง และทุกวัน
6) บันทึกจานวนสารน้ำที่สูญเสียทางอื่น ๆ
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมความสมดุลของสารน้ำในร่างกาย
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
1) หยุดให้สารน้ำทันที
2) ประเมินอาการบวมที่หลังมือซ้ายทุกเวร หากบวมมากขึ้น ผู้ป่วยมีไข้
3) บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย
4) จัดมือซ้ายที่บวมให้สูงกว่าลาตัวผู้ป่วย โดยใช้หมอนรอง เพื่อลดอาการบวม
5) เปลี่ยนบริเวณที่แทงเข็มให้สารน้าใหม่
6) ประเมินการขาดสารน้ำและอิเล็คโตรไลท์ โดยบันทึกปริมาณสารน้ำเข้าและออก
7) ลดภาวะเครียดโดยให้ความช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
มีภาวะหลอดเลือดดำอักเสบจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำเป็นเวลานาน
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)