Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 ยาปฏิชีวนะกลุ่มต่างๆ ยาต้านมะเร็ง, image, image, image, image,…
บทที่ 4 ยาปฏิชีวนะกลุ่มต่างๆ ยาต้านมะเร็ง
ยาปฏิชีวนะ
ยาที่ยับยั้ง ฆ่า หรือ ต้าน จุลชีพซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นเชื้อแบคทีเรีย
ยาต้านไวรัส (anti-viral drugs)
ยาต้านเชื้อรา (anti-fungal drugs)
ยาต้านปรสิต (anti-parasitic drugs)
ข้อมูลเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ
ดังนี้
1.ยาที่ยับยั้งหรือขัดขวางการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย
1.1 กลุ่ม Beta –lactams และยาอื่นที่มีโครงสร้างคล้ายกัน
ได้แก่ ยากลุ่มPenicilline ทั้งหมด
Cephalosporins และ Carbapenam
1.2 Glycopeptide ได้แก่ Vancomycin และ Teicoplanin
1.3 Fosfomycin
ยาที่ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน
2.1 Aminoglycoside เช่น Gentamicin , Amikacin
2.2 Macrolides ได้แก่ erythromycin, roxithromycin azithromycin,
Clarithromycinและ Lincosamide
2.3 Tetracycline เช่น Tetracycline, Minocycline,doxycycline
2.4 Glycylcyclines ขณะนี้มีตัวเดียวคือ tigecycline
ยาที่ยับยั้งการสังเคราะห์สารตั้งต้นในกระบวนการสังเคราะห์กรดนิวคลิอิก
ได้แก่ Trimethoprim และ Sulfa
4.ยาที่ขัดขวางกระบวนการแบ่งตัวและการถอดรหัสพันธุกรรม
คือยากลุ่มFluoroquinolone เช่น Norfloxacin,Ciprofloxacin
ยาอื่นๆ เช่น Metronidazole
ยาปฏิชีวนะที่สำคัญ
ยาเพนิซิลลิน (Penicillin)ยากลุ่มแรก
กลไกการออกฤทธิ์
ตัวยาจะยับยั้งการ
เจริญเติบโตของแบคทีเรียยับยั้ง
การสร้างสารเปบทิโดกลัยแคน
ข้อควรระวังการใช้ยาเพนิซิลลิน
ดังนี้
ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาเพนิซิลลิน
ระวังการใช้ยากับสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
ระวังการเกิดเชื้อราในช่องปากและที่อวัยวะเพศ
2.แมคโครไลด์(Macrolide)
สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียโดยการก่อกวนที่สารพันธุกรรม เรียกว่า
อาร์เอนเอ (RNA)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรียที่ตอบสนองกับยากลุ่มนี้
ยับยั้งการเปลี่ยนถ่ายและสลาย
การเชื่อมกันของสารพันธุกรรม
จำแนกแมคโครไลด์เป็นหมวดหมู่
ดังนี้
ก. กลุ่มที่เป็นยาปฏิชีวนะและถือเป็นกลุ่มที่มีตัวยามากที่สุด
เช่น Azithromycin, Clarithromycin, Erythromycin,
Midecamycin, Roxithromycin
ข. กลุ่มที่ใช้ต้านเชื้อรา
เช่น Amphoteracin B, Nystatin
ค. กลุ่มที่ใช้เป็นยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย
เช่น Cyclosporin
3.อะมิโนไกลโคไซด์(Aminoglycosides)
ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่กระดูกข้อ
กลไกการออกฤทธิ์
ตัวยาจะออกฤทธิ์รบกวนการท างานของสารพันธุกรรมในแบคทีเรีย
4.เซฟาโลสปอริน (Cephalosporin)
ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด เช่น ชนิดก่อการอักเสบของทางเดินหายใจ และของทางเดินอาหาร
กลไกการออกฤทธิ์
ตัวยาจะรบกวนการสังเคราะห์เปปทิโดไกลแคน
สรรพคุณ
รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและส่วนที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อน (Softtissue) ตามร่างกาย
รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียของเยื่อหุ้มสมอง
เตตราไซคลีน Tetracycline
ใช้รักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและการติดเชื้อในลำไส้
6.ควิโนโลน (Quinolones)
ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ ทางไต และต่อมลูกหมาก
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ(DNA) ของตัวแบคทีเรีย
ยาต้านโรคมาลาเรีย
ยาคลอโรควิน (Chloroquine)
สารเคมีประเภท 4-Aminoquinoline
นำมาใช้ผลิตยาต้านโรคมาลาเรีย/ไข้จับสั่น
กลไกการออกฤทธิ์
ตัวยาจะถูกดูดซึมเข้าเซลล์เม็ด
เลือดแดง เมื่อเชื้อที่เป็นปรสิต
ยา Mefloquine
รักษาโรคมาลาเรีย
ป้องกันการติดเชื้อผู้ที่ต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ยา Primaquine
กลไกการออกฤทธิ์
ยังไม่เป็นที่ทราบชัด
ยา Quinine sulphate
เป็นสารประกอบประเภทแอลคาลอยด์ เป็นยาแก้ไข้ที่กลั่นมาจากต้นชิงโคนา
ยาต้านเชื้อรา
ประเภท ได้2 แบบ
จำแนกตามโครงสร้างทางเคมี
1.1 polyene (amphotericin B, nystatin)
1.2 imidazole derivatives (miconazole, ketoconazole), triazole(itraconazole, fluconazole)
1.3 fluorinated pyrimidine derivatives (flucytosine), allylaminederivatives (terbinafine)
จำแนกตามการใช้ทางคลินิก
กลุ่มที่ใช้กับการติดเชื้อทั่วร่างกาย
กลไกการออกฤทธิ์
เป็น ergosterol ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ
membrane ของเชื้อรา ในขณะที่เยื่อหุ้มเซลล์ของมนุษย์จะเป็น cholesterol
ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (Azole antifungals) Azole Group
ดังนี้
กลุ่มอิมิดาโซล (Imidazoles)
เช่น Clotrimazole, Econazole, Isoconazole, Ketoconazole, Miconazole
กลุ่มไตรเอโซล (Triazoles)
เช่น Fluconazole,Itraconazole, Voriconazole
กลุ่มไทเอโซล (Thiazoles)
เช่น Abafungin
การกระจายยา (distribution)
ยา amphotericin B
เช่น ที่ตา, pleural fluid
ยา fluconazole
กระจายตัวไปที่น้ำไขสันหลังได้ดี
ยาitraconazole
กระจายตัวไปที่เล็บและ bronchial fluid
ยา Ketoconazole
กระจายไปตามเนื้อเยื่อได้ดี
ยาถ่ายพยาธิ Antihelminthics
ได้แก่
ปิเปอราซีน
ไพแรนเทลพาโมเอต
อัลเบนดาโซล
มีเบนดาโซล
นิโคลซาไมด์
พราซิควานเทล
ปวกหาด
ยาต้านไวรัส (Antiviral drugs)
รักษาการติดเชื้อ Herpes simplex และ Varicella zoster
ได้แก่
acyclovir, valacyclovir, famciclovir, penciclovir,trifluridine
รักษาการติดเชื้อ cytomegalovirus
เช่น
ganciclovir,valganciclovir, cidofovir, foscarnet, fomivirsen
รักษาการติดเชื้อ Influenza ไช้หวัดใหญ่
เช่น
amantadine, oseltamivir และ zanamivir
ยาต้านวัณโรค
2 ประเภท
ยาอันดับรอง (Second line)
ยาอันดับแรก (First line)
Isoniazid (ไอโซไนอะซิด)
• Rifampicin (ไรแฟมพิซิน)
• Pyrazinamide (ไพราซินาไมด์)
• Ethambutol (อีแทมบูทอล)
• Streptomycin (สเตร็ปโตมัยซิน)
ผลข้างเคียง
Isoniazid (ไอโซไนอะซิด) เกิดภาวะตับอักเสบ อาการชาตามปลายประสาท
Rifampicin (ไรแฟมพิซิน) เกิดภาวะ น้้ำตา น้ำลาย เสมหะ
3.Pyrazinamide (ไพราซินาไมด์) เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
Ethambutol (อีแทมบูทอล) เกิดอาการประสาทตาอักเสบ
กรอบแนวคิดการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
มีข้อบ่งชี้
• มีประสิทธิผล
• ความปลอดภัยของผู้ป่วย
• ขนาดยา ความถี่ วิธีการให้ยา ระยะเวลาที่ให้ยาเหมาะสม
• ราคาเหมาะสม
• ความสะดวก และการยอมรับของผู้ป่วย
นางสาวกัลชิญา อทุมชาย UDA6280001 นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2