Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่6 ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร - Coggle Diagram
บทที่6 ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร
ยารักษาแผลในทางเดินอาหาร
2 ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรด
3 ยาที่ออกฤทธิ์ปกป้องเยื่อบุผนังทางเดินอาหาร
1 ยาออกฤทธิ์โดยการลดกรด
ยาระงับการหลั่งกรด
ยาลดกรด
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1 ยาลดกรดที่ออกฤทธิ์โดยทั่วไป (Systemic Gastric Antacid)
2 ยาลดกรดที่ออกฤทธิ์เฉพาะแห่ง (non-systemic gastric antacid)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาลดกรดส่วนใหญ่จะประกอบด้วยสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนจึงอาศัยความเป็นด่างทําปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารทำให้ระดับ pH ในกระเพาะเพิ่มขึ้น 3- 4 ระดับทำให้ความเป็นกรดในกรระเพาะอาหารลดลงจึงส่งผลทำให้ pepsin ในกระเพาะอาหารทำงานได้น้อยลง (pepsin เป็นตัวกระตุ้นให้แผลในทางเดินอาหารแย่ลง) นอกจากนั้นยายังมีผลเพิ่มแรงดันในหรูดหลอดอาหารส่วนล่างและมีฤทธิ์สมานแผลเฉพาะที่
ประโยชน์ในการรักษาทางคลินิก
peptic ulcer disease
dyspepsia
non-ulcer dyspepsia
heart burn
GERD การให้ยา antacid หลังอาหารทุก 1 และ 3 ชั่วโมงและก่อนนอน จะช่วยช่วยให้แผลทางเดินอาหารหายเร็วขึ้นและหากให้ติดต่อกันนานอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์จึงจะให้ผลการรักษาที่ ดีต่อการรักษา
ผลทางเภสัชวิทยาของยาลดกรด
1 ทำให้ pH ในกระเพาะอาหารสูงขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดกรดของยา
2ขนาดที่ให้และสภาวะของกระเพาะอาหารว่ามีอาหารอยู่หรือไม่
3 เริ่มยับยั้งการทำงานของ peptic เมื่อ pH ในกระเพาะอาหารมากกว่า 2
4การเพิ่ม ph ในกระเพาะอาหารจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดและ pepsin เพื่อเป็นการชดเชย
5 การเพิ่ม pH ในทางเดินอาหารจะกระตุ้นหรือลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ขึ้นอยู่กับชนิดของยา
ข้อควรระวัง
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยาลดกรดโดยรวม
4 ยาที่ขจัดเชื่อ H.pylori
ยาระงับอาการคลื่นไส้และอาเจียน
ยาที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับเซอโรโตนิน
ยาที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับโดปามีนชนิดที่ 2
ยาที่มีฤทธิ์ต้านโคลิเนอร์จิก
สารสกัดจากกัญชา
ยาที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับฮีตามีนชนิดที่ 1
อื่นๆ
ยารักษาอาหารท้องเสีย
สารที่ลดการเคลื่อนไหวของลำไส้
Loperamide(Loperdium, Imodium, Loperamide)
ยากลุ่มนี้นิยมใช้รักษาอาการท้องเสียมากกว่ายากลุ่มอื่นยาเป็นกลุ่มอนุพันธ์ของฝิ่นออกฤทธิ์จับกับ µ-receptor ที่ทางเดินอาหารทำให้ลดการเคลื่อนไหวของ ลำไส้ช่วยยึดเวลาที่อุจจาระอยู่ในลำไส้ ลดปริมาตรอุจจาระทำให้อุจจาระเป็นก้อนได้มากขึ้นและจับกับ ∞ Centor เพื่อลดการหลั่งของของเหลวจากล้าได้ limen เป็นยาซึ่งมีความแรงมากกว่า Diphenoxylate
คำเตือน
ไม่ควรใช้ยาในขนาดสูงเกินไประวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเดินแบบติดเชื้อที่มีการอักเสบและแผลที่ลำไส้หากรับประทานยาแล้วภายใน 48 ชั่วโมงอาการไม่ดีขึ้นควรหยุดใช้ยา
ยา Diphenoxylate (Dilomil®, Ditropine®)
ออกฤทธิ์
ยับยั้งการเคลื่อนไหวของลำไส้เหมือน Morphine แต่ไม่มีฤทธิ์ระงับความเจ็บปวด
การให้ยาในขนาดต่ำไม่มีผลต่อระบบประสาทหากใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเกิดอาการติดยาได้มีการนำยา dphenoxylate มาผสมกับ atropine ได้เป็นยา lomotil เพื่อลดการบีบตัวในลำไส้ แต่ยานี้ประเทศไทยได้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเมื่อปลายปี 2557 แล้วเพราะมีสารที่จัดเป็นสารเสพติดให้โทษประมาทที่ 3
ผลข้างเคียง
คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ผื่นแดง มึนงง เวียนศีรษะ ซึม กระสับกระส่าย ท้องอืด ปากแห้ง ตาพร่ามัว
Opioids (Morphine, Diphenoxylate
บรรเทาอาการท้องเดินโดยการออกฤทธิ์ที่ 4-receptor ที่บริเวณผิวเซลล์ของลำไส้เล็กโดยมีผลยับยั้งการบีบตัวของลำไส้ทำให้เพิ่มระยะเวลาในการที่อุจจาระอยู่ในลำไส้ทำให้น้ำมีโอกาสถูกดูดซึมกลับเข้าเยื่อบุลำไส้ได้อีก
อื่นๆ
Lactobacillus acidophilus
เป็นแบคทีเรียในรูปแห้งและเข้มข้นสำหรับรับประทานใช้ในผู้ป่วยท้องเดินซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในลำไส้ acidophilus เป็นแบคทีเรียที่พบได้ในลำไส้สร้างกรด Lactic ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคจึงไม่ควรใช้ยานี้เกิน 2 วันติดต่อกัน
ผงน้ำตาลเกลือแร่ (Oral rehydration salts ORS)
ผงน้ำตาลเกลือแร่หรือโออาร์เอสใช้รักษาอาการท้องเสียเบื้องต้นเพื่อทดแทนน้ำและเกลือรี่ร่างกายสูญเสียไปจากอาการท้องเสียวิธีรับประทานคือให้จิบในปริมาณน้อย ๆ จิบไปเรื่อย ๆ จิบบ่อย ๆ และควรดื่มให้หมดภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผสม
สารที่มีฤทธิ์ดูดขับสารพิษเป็นต้นเหตุของอาการท้องเสีย
3 เกลือ Bismuth
ออกฤทธิ์
สามารถจับกับสารพิษที่สร้างจากเชื้ออหิวาห์และ E. coli ช่วยลดการอักเสบของลำไส้และการเคลื่อนไหวลำไส้ที่มากเกินไป
รักษา
แก้ท้องเสียที่ไม่รุนแรงมากและใช้ป้องกันและรักษาต้องเสียเมื่อมีการเดินทาง
2 Activated charcoal
ออกฤทธิ์
เป็นถ่านชนิดพิเศษซึ่งกระตุ้นให้ผิวเซลล์สามารถดูดซับสารพิษได้เร็วใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเดินเนื่องจากสามารถดูดซับสารพิษที่เป็นต้นเหตุของท้องเดินได้ดี
ผลข้างเคียง
อุจจาระสีดำ
4 Cholestyramine
ออกฤทธิ์
คุณสมบัติเป็นประจุบวกสามารถรวมกับประจุลบของกรดน้ำดีและเปลี่ยนเป็น insotubule Complex และถูกขับออกทางอุจจาระทำให้ลดระดับ cholesterol
รักษา
ใช้บรรเทาอาการท้องเดินซึ่งเกิดจากกรดในน้ำดีในลำไส้มากกว่าปกติ
ผลข้างเคียง
ท้องอืดท้องผูกอุจจาระอุดตันในลำไส้ถ้าใช้นาน ๆ อาจเกิดภาวะขาดวิตามิน A D และกรด folic รสชาติยาไม่น่ารับประทานอาจผสมกับน้ำหวานหรือน้ำผลไม้และติดตามผลการตรวจหาระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดก่อนให้ยาและติดตามผลการตรวจเป็นระยะ ๆ ขณะให้ยา
1.KaolinและPectin
ออกฤทธิ์
ยาจะไปเคลือบคลุมเยื่อเมือกในทางเดินอาหารช่วยป้องกันไม่ให้สัมผัสกับสิ่งระคายเคืองต่างๆนอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ดูดซับแก็สและกรดด่างสารพิษต่างๆและแบคทีเรียทำให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อน
ผลข้างเคียง
อาเจียน ท้องผูก
สารที่ทำให้อุจาระเป็นก้อน
ได้แก่ methylcellulose,psylium,sterculia,polycarbophil
ออกฤทธิ์
ดูดน้ำเข้าหาตัว ทำให้อุจจาระพองตัวและจับกันเป็นก้อน
ประโยชน์
บรรเทาอาการอุจจาระเหลวเป็นน้ำ
ยาระบาย
ยาระบายที่มีแรงดึงมาก
ออกฤทธิ์
ดึงน้ำจากร่างกายเข้ามาในลำไส้ด้วยแรงดัน osmotic ทำให้รงดันในลำไส้เพิ่มขึ้นเกิดการกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวและขับถ่ายอุจจาระออกมา
ยาในลุ่มนี้ ได้แก่ ยาน้ำตาลแลคหูโลส (actutose) กลีเซอรีน (glycerin) ซอร์บิทอล (sorbital) สะโพลีเอทธิลีนไกลคอล (polyethelineglycol)
ที่ใช้มาก ได้แก่ ยาเหน็บ glycerin ออกฤทธิ์ฉภายใน 30 นาทีโดยยาจะทำให้เกิดแรงดันออสโนติกและมีผลต่อการระคายเคืองเฉพาะที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเหมาะในเด็กในสตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร
ยาที่ระบายที่มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้
3.1 Bisacodylunina (Dulcolax®, Bisolax®, Emulax®)
ออกฤทธิ์
กระตุ้นปลายประสาทในเยื่อมูกของลำไส้ใหญ่โดยตรงทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวแรงและเร็วขึ้นและกระตุ้นเยื่อบุทางเดินอาหารให้หลั่ง PGE2
หลั่งน้ำและเกลือแร่เพิ่มมากขึ้น
ยาที่อยู่ในรูปแบบเม็ดเคลือบห้ามบดหรือเคี้ยวยาเพื่อให้ยาแตกตัวในลำไส้ควรรับประทานยาทั้งเม็ดพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันทีและดื่มน้ำตามมาก ๆ ใช้แก้ท้องผูกแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง 10 mg
3.2 Anthraquinone laxatives
เป็นสารที่พบในใบมะขามแขก (senna) ว่านหางจรเข้ (Aloe) โกฏน้ำเต้า(rhubarb) ได้แก่ยา Senna (Senokot-s®, Peri-Colace
ออกฤทธิ์
Anthraquinone glycosides สารที่พบในมะขามแขกจะถูกแบคทีเรียในลำไส้ย่อยให้กลายเป็นกลูโคสและ emodins ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นปลายประสาทลำไส้ใหญ่ทำให้การเคลื่อนไหวลำไส้เพิ่มขึ้น
3.3 Castor oil
เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดละหุ่ง
ออกฤทธิ์
เอนไซม์ lipase จากตับอ่อนได้กลีเซอรีนและกรดริซิโนเลอิค (ricinoleic acid) ทำให้มีการเพิ่มปริมาณในลำไส้เกิดเร่งการขับถ่ายขึ้นยา Castor oil
ยาที่ทำให้เกิดการเพิ่มของกากใย
ได้แก่ (psyllium, methylcellulose)
กลไกในการออกฤทธิ์
เกิดการพองตัวในลำไส้ทำให้เพิ่มปริมาณกากในอุจจาระทำให้เกิดการกระตุ้นที่ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหวบีบตัวขับอุจจระออกมา
การรักษา
อาการท้องผูกเรื้อรัง
ผลข้างเคียง
ยามีผลไปดูดซับยาตัวอื่นจึงห้ามให้พร้อมกับยาตัวอื่นห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เป็นแผลเรื้อรังในลำไส้
เกิดลมในกระเพาะอาหารมากกว่าปกติได้
ยาที่ช่วยหล่อลื่นและทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม
ยาในกลุ่มนี้มีฤทธิ์
ลดความตึงผิวของก้อนอุจจาระทำให้น้ำและไขมันรวมตัวกันเป็นผลทำให้อุจจาระนุ่มลงใต้และขับถ่ายออกได้สะดวกมากขึ้น แต่ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้
ยา docusate salts
ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลงภายใน 24-48 ชั่วโมงใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ต้องให้ออกแรงเบ่งเช่นผู้ป่วยไส้เลื่อนผู้ป่วยโรคหัวใจ
การพยาบาลและคำแนะนำผู้ป่วยที่ใช้ยาระบายและยาถ่ายโดยทั่วไป
4 หากเป็นยาระบายให้รับประทานก่อนนอนเพื่อให้ฤทธิ์ออกในตอนเข้า (6 ชั่วโมงหลังได้ยา) หากเป็นยารูปแบบสวนทางทวารยาจะออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที
5 ไม่ควรใช้ยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีและในหญิงตั้งครรภ์
3 ไม่ควรใช้ยาระบายลดน้ำหนักเพราะจะเกิดผลเสียกับร่างกายเช่นขาดสารอาหาร
6..ยา Lactutose มีส่วนผสมของน้ำตาลควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
2 การใช้ยาระบายเป็นประจำทำให้ลำไส้เกิดความเคยชินอาจส่งผลทำให้เกิดอาการติดการใช้ยาอาจแก้ไขโดยเลือกใช้ยาช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระมาใช้ร่วมด้วย
ห้ามเคี้ยวยา Bisacodyl หรือรับประทานพร้อมยาลดกรดเนื่องจากยามี enteric-Coated ต้องรักษารูปยาเพื่อให้ไปแตกตัวและดูดซึมที่ลำไส้เล็ก
1 ห้ามใช้ยาระบายในผู้ที่มีอาการท้องผูกหรือมีอาการปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุผู้ที่มีอุจจาระอัดแข็งเป็นก้อนอุดลำไส้และผู้ที่ท้องผูกจากพยาธิสภาพของทางเดินอาหารควรหาสาเหตุให้ทราบแน่ชัดเพื่อการแก้ไขที่ปลอดภัยและตรงจุดมากกว่า
ยาลดกรดที่ไม่ถูกดูดซึมจากทางเดินอาหารอาจส่งผลรบกวนการออกฤทธิ์ของ Lactulose ได้