Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Prevalence and associated risk factors of insomnia among pregnant women…
Prevalence and associated risk factors
of insomnia among pregnant women in China
วัตถุประสงค์
ตรวจสอบความชุกของการนอนไม่หลับและปัจจัยเสี่ยงในสตรีจีนในระหว่างตั้งครรภ์
ความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการนอนไม่หลับต่อสุขภาพของมารดาและทารก
การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ (ความดันโลหิตสูง, เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM))
เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลในระหว่างตั้งครรภ์
การเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีมวลกายในการตั้งครรภ์หลังคลอด
การชะลอการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ระยะเวลาในการคลอดนาน
มีโอกาสเกิดการผ่าตัดคลอดสูงขึ้น 4.5 เท่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อการนอนไม่หลับ
สภาพร่างกายภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงตั้งครรภ์
ช่องท้องที่มีขนาดใหญ่และขยายขึ้นทำให้อึดอัด
อาการปวดหลัง เสียดท้อง
ปวดปัสสาวะบ่อยๆ ในช่วงกลางคืน
สภาพร่างกายภายในที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงตั้งครรภ์
มีความวิตกกังวลถึงทารกที่กำลังจะคลอด
ความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของทารกหลังคลอด
ความฝันอันแปลกประหลาดจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มนสูงขึ้น
การนอนไม่หลับของแม่ท้องตามลำดับอายุครรภ์
ตั้งครรภ์ระยะ 1-3 เดือน
ระยะนี้จะมีระดับ progesterone สูง ทำให้ง่วงนอนเก่ง แต่เนื่องจากจะมีอาการปัสสาวะบ่อยทำให้นอนไม่เพียงพอซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิด อาการง่วงและหลับในเวลากลางวันบ่อย
ตั้งครรภ์ระยะ 4-6 เดือน
ระดับฮอร์โมนยังสูงต่อเนื่อง แต่ขึ้นไม่เร็วเท่าช่วงแรก ช่วงนี้หลับได้ดีขึ้น
ตั้งครรภ์ระยะ 7-9 เดือน
ครรภ์เริ่มใหญ่ขึ้นทำให้นอนไม่ สะดวก ปัสสาวะบ่อย แน่นท้องและปวดขา ทำให้ต้องตื่นนอนตอนกลางคืน
ผลการศึกษา
ในปัจจุบันหญิงตั้งครรภ์มีอาการนอนไม่หลับ มีความรู้สึกไม่สบายทางร่างกายสูงขึ้น
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาขณะตั้งครรภ์ ที่เป็นปัจจัย
สำคัญซึ่งที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพการนอนหลับของหญิงตั้งครรภ์ คือ อาการเหนื่อยล้า ปัสสาวะบ่อย ปวดหลังอึดอัดร่างกาย จะเห็นได้ว่าการถูกรบกวนการนอนหลับในช่วงเวลากลางคืนนั้นทำให้หญิงตั้งครรภ์รู้สึกอ่อนเพลียในช่วงเวลากลางวันตามมา
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน
ต่อกล้ามเนื้อเรียบการหายใจและระบบประสาท
ผลของฮอร์โมนต่อวงจรการนอนหลับตื่น
ความรู้สึกไม่สบายทางร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการนอนไม่หลับไม่ควรถือเป็น "ปกติ"
มีอาการนอนไม่หลับในผู้หญิง 46% ในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
มีอาการนอนไม่หลับในผู้หญิง 63% ในไตรมาสที่สาม
อาการนอนไม่หลับจัดเป็นปัญหาทางจิตเวช พบได้บ่อยในระหว่างการตั้งครรภ์
อาการซึมเศร้าและนอนไม่หลับมีความสัมพันธ์กันอย่างรุนแรง
มีพยาธิสภาพที่พบได้บ่อย เช่น การอักเสบ Neuroendocrine dsyregulation
กลุ่มตัวอย่าง
หญิงตั้งครรภ์ชาวจีนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในทุกไตรมาสของการตั้งครรภ์
ยกเว้น
1)ประวัติของโรคเรื้อรังทางร่างกายที่สำคัญและโรคทางจิตเวช
2) มี benzodiazepine หรือยาอื่น ๆ หรือบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ในระหว่างตั้งครรภ์
3) มีปัญหาเรื่องการนอนหลับก่อนการตั้งครรภ์
4) ข้ามเขตเวลาระหว่างเที่ยวบินหรือกะกลางคืนระหว่างตั้งครรภ์
5) มีเงื่อนไขทางการแพทย์หรือจิตเวชในระหว่างตั้งครรภ์
จำนวน 436 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
รวบรวมข้อมูลต่อไปนี้
ลักษณะทางสังคมวิทยา
ข้อมูลการดำเนินชีวิต
พฤติกรรมการนอนหลับ
ประวัติการเจริญพันธุ์
ระดับของความเครียด ความปวดร่างกายหรือไม่สบาย
ดัชนีความรุนแรงของโรคนอนไม่หลับ (ISI)
แบบสอบถามมีข้อคำถาม 7 ข้อให้คะแนนความรุนแรงของการนอนไม่หลับในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
การไม่มีอาการนอนไม่หลับ (0–7); โรคนอนไม่หลับบ่อย (8–14); นอนไม่หลับปานกลาง (15–21); นอนไม่หลับรุนแรง (22–28)
Epworth Sleep- iness Scale (ESS)
เพื่อประเมินความง่วงนอนตอนกลางวันหรือความโน้มเอียงในการหลับไหล
แบบสอบถามคุณภาพการนอนหลับ
The Pittsburgh Sleep Quality Index (PSQI)
มี 9 ข้อ 7 องค์ประกอบ
มีคะแนนรวมอยู่ ระหว่าง 0-21 คะแนน คะแนนรวมที่ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 หมายถึง คุณภาพการนอนหลับดี และคะแนนรวม ที่มากกว่า 5 หมายถึงคุณภาพการนอนหลับไม่ดี
1) คุณภาพ การนอนหลับเชิงอัตนัย 2) ระยะเวลาตั้งแต่เข้านอน จนกระทั่งหลับ 3) ระยะเวลาการนอนหลับในแต่ละคืน 4) ประสิทธิผลการนอนหลับโดยปกติวิสัย 5) การใช้ ยานอนหลับ 6) ผลกระทบต่อการทำกิจกรรมในเวลา กลางวัน 7) การรบกวนการนอนหลับ
Beck Depression Inventory (BDI)
เพื่อวัดอาการของภาวะซึมเศร้าและคลังความวิตกกังวลของรัฐ