Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ :!!: - Coggle Diagram
บทที่ 4 พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ :!!:
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 2528
ให้ตราพระราชบัญญติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
มาตรา ๓ บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติ นี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกบบทแหั่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา ๔
“ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์” หมายความว่า วิชาชีพ
เก่ียวกับการพยาบาลและ การผดุงครรภ์
การพยาบาล ” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เก่ียวกับ การดูแลและการช่วยเหลือ เมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำ การรักษาโรค ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปการพยาบาล
การผดุงครรภ์” หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือ หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด
“ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน
“ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อ หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงกาหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราช บัญญัติ
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ”
หมวด ๑ สภาการพยาบาล
มาตรา ๖ ให้มีสภาการพยาบาล มีวัตถุ ประสงค์และอำนาหน้าที่ตราชบัญญัตินีมพระให้สภาการพยาบาลเป็นิติบุคคล
มาตรา ๗ สภาการพยาบาลมีวัตถุประสงค์
ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาล และการผดุงครรภ์ ให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่งเสริมการศึกษา การบริการการวิจัย และความกาวหน้าในวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่นในเรื่องที่เก่ียวกบั การพยาบาล การผดุงครรภ์ และการสาธารณสุข
ให้คาปรึกษา หรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเก่ียวกบปัญหาการพยาบาลการผดุงครรภ์และ การสาธารณสุข
เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ในประเทศไทย
ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก
มาตรา ๘ สภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่
รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๗) รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบันต่าง ๆ
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับ อุดมศึกษาของสถาบันการศึกษา
รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการสอนและฝึกอบรม
รับรองหลักสูตรต่างๆ สาหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบันที่จะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองหลักสูต่างๆ สาหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของ สถาบันการศึกษาที่จะทำการฝึ กอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๘) ออกหนังสืออนุมัติรอวุฒิบัตรเก่ียวกบความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง
มาตรา ๙
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาการพยาบาล
ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๗
ดอกผลของเงินและทรัพย์สินอื่น
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบารุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
มาตรา ๑๐ ให้รัฐมนตรีดารงตาแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการพยาบาลและมีอำนาจหน้า ที่ตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑ สภาการพยาบาลประกอบด้วยสมาชิกสองประเภท
สมาชิกสามัญ
มีอายุไม่ตำ่กว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
ความรู้ในวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์โดยได้รับปริญญา ประกาศนียบัตร เทียบเท่าปริญญา
ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนามาซึ่งความเสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กาหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
ไม่เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุด หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกใน คดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งสภาการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
แสดงความเห็นเป็นหนังสือเก่ียวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลง
ตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา ๑๔ ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๕ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ ปรึกษาได้
มาตรา 16 ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดารงตำแหน่งนายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่หนึ่ง และอุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สอง ตำแหน่งละหนึ่งคน
มาตรา ๑๗ การเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา ๑๔ การแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๕ และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามมาตรา ๑๖ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๘ กรรมการนอกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุ ขและกรรมการที่ปรึ กษาต้องมีคุณสมบัติ
ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
(๒) ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๑๙ ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และ อาจได้รับแต่งตั้งหรือรับเลือกตั้งใหม่ได้แต่จะดารงตาแหน่งเกินสองคราวติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้ง พ้นจากตำแหน่ง
สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓ขาดคุณสมบัติตามมาตรา๑๘ ลาออก
มาตรา ๒๑ ในกรณีตาแหน่งกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งวางลงไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ ดังกล่าวทั้งหมดก่อนครบวาระให้คณะกรรมการเลือกสมาชิกสามัญผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๘ เป็น กรรมการแทนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ตาแหน่งกรรมการนั้นว่างลง
มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่
บริหารกิจการสภาการพยาบาล
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น
ออกข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วย
มาตรา ๒๓ นายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่หนึ่ ง อุปนายกสภาการ พยาบาลคนที่สองเลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก
หมวด ๔ การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน กรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
มาตรา ๒๕ สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะ กรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการในเรื่องใดๆ ก็ได้
มาตรา ๒๖ มติของที่ประชุมคณะกรรมการในเรื่องต่อไปนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานายก พิเศษก่อน จึงจะดำเนินการตามมตินั้นได้
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๘ การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาตการต่ออายุใบอนุญาตการออกหนังสื อ อนุมัติหรือวุฒิบัตรเก่ียวกบความรู้หรือความชัานาญเฉพาะทาง และหนังสื อแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๒๙ การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท คือ ผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๐ ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๒๙ ต้องมี ความรู้
มาตรา ๓๑ ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกสามัญแห่งสภาการพยาบาลและ มีคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ต้องรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการ พยาบาล
มาตรา ๓๓ บุคคลผู้ซึ่ งได้รับความเสียหายเพราะผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล มี สิทธิกล่าวหาผู้ก่อให้เกิดความเสียหายนั้น โดยทาเรื่องยื่นต่อสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๔ เมื่อสภาการพยาบาลได้รับเรื่องการกล่าวหา ให้เลขาธิการ เสนอเรื่องดังกล่าวต่อประธานอนุกรรมการจริยธรรมโดยไม่ชักช้า
มาตรา ๓๕ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญทารายงานพร้อมทั้งความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
มาตรา ๓๖ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าว
มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญ ประกอบ ด้วยประธานคนหนึ่ง และอนุกรรมการมีจานวนรวมกนไมั่น้อยกวาสามคนมีหน้าที่สอบสวน
มาตรา ๓๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมกาธรจริรมและของคณะอนุกรรมการย สอบสวน
มาตรา ๓๙ ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษพร้อมทั้งส่ง สำเนาเรื่องที่กล่าวหา
มาตรา ๔๐ เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนทาการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วให้เสนอสำนวนการ สอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้าเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา ๔๑ เมื่อคณะกรรมการได้รับสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะอนุกรรมการ สอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสานวนการสอบสวนและความเห็นดังกล่าว
าตรา ๔๒ ให้เลขาธิกรแจ้งคำสั่งสภาการพยาบาลตามมาตรา ๔๑ ไปยังผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ ถูกกล่าวโทษเพื่อทราบ
มาตรา ๔๓ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ซึ่งอยูในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
มาตรา ๔๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดกระทาการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ และถูกลงโทษจ าคุกตาม มาตรา ๔๖
ให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้นั้นตั้งแต่วันที่ศาลมี ค าพิพากษาถึงที่สุ ด
มาตรา ๔๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื่อพ้นสองปี
หมวด ๕ ทวิพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๕ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบใบ อนุญาต ค้นหรือยึดเอกสารหลักฐาน
(๑) สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ปฏิบัติงานอยู่
สถานที่ที่มีเหตุสมควรเชื่อวามีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการ พยาบาลผดุงครรภ์
สถานที่ที่ทำการสอนหรือเชื่อว่าทาการสอนวิชาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการ พยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๔๕ ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้า หน้าที่แก่บุคคลที่เก่ียวข้อง
มาตรา ๔๕ จัตวา ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ เบญจ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้รับผิดชอบหรือปฏิบัติหน้าที่ ในสถานที่ตามมาตรา๔๕ ทวิ อ านวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตร ๓๑ วรรคสาม ต้องระวางรับไม่เกินหนึ่งพันบาท มาตรา ๔๘ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งให้ส่งตาม
มาตรา ๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๘ ทวิ(๑) ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามความในมาตรา ๔๕ เบญจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่นมาตราาฝื ๒๗ หรือมาตรา๔๓ ต้องระวาโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล*
มาตรา ๕๐ ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปแผนปัจจุบัน ในสาขา การพยาบาล
ให้ถือวาผู้นั่นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็ นผู้ประกอบวิชาชีพในเภทและชั้นแล้วแต่กรณี ตาม พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕๑ ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้เลือกตั้งสมาชิกสามัญของสภาการพยาบาลเป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็ นนายกสภาการพยาบาล และผู้ซึ่ งได้รับ แต่งตั้งมาตรา ๑๔ เป็นกรรมการ การแต่งตั้งดังกล่าวจะต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับ แต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๔๙ ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขา การพยาบาล
ให้ถือว่าผู้นั้น เป็นสมาชิกสามัญของสภาการพยาบาลตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕๒ ในระหว่างที่ยังมิได้ออกระเบียบหรือข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นากฎกระทรวง ระเบียบหรือประกาศที่ออกตามกฎหมายวาด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะใน่ ส่วนที่เก่ียวกบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์มาใช้บังคับโดยแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินหนึ่งปีนับ แต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ พ.ศ. ๒๕๕๐
หมวด ๑
บททั่วไป
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็นต้อง ดําเนินการช่วยเหลือและการดูแลรักษาทันที
การเจ็บป่วยวิกฤต” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึงแก ชีวิต หรือพิการได้
หมวด ๒
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่๑
การพยาบาล
ส่วนที่๒
การทําหัตถการ
ส วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
หมวด ๓ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๖ ผู้ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสองผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ ป่วยได้ เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ ระบุไว้ ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะทําการผดุงครรภ์ ได้ แต่ เฉพาะรายที่มีครรภ์ ปกติและคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๑๘ ผู้ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ชั้นหนึ่ง
จะให ยาผู้ ป่วยได้ เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู บําบัดโรคได้ ระบุไว้ ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๙ ผู้ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
จะทําการผดุงครรภ์ ได้ แต่ เฉพาะรายที่มีครรภ ปกติและคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๒๐ ผู้ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ผู้ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะต้องใช้ ยาทําลายและป้องกันการติดเชื้อสําหรับหยอดตา หรือปายตาทารก เมื่อคลอดแล วทันที
ข้อ ๒๑ ผู้ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ผู้ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ และการทําคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๑
ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๒
ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นหน่ึง
ข้อ ๔
๔.๑ การเขี่ยส่ิงแปลกปลอมออกจากตา
๔.๒ การวัดค่าสายตาผิดปกติ
๔.๓ การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตา
๔.๔ การวัดกำลังเลนส์แก้วตาเทียม
๔.๕ การล้างท่อนํ้าตา
๔.๖ การเจาะตากุ้งยิง
ข้อ ๕
๕.๑ ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
๕.๒ การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคตา
(๑) ภาวะฉุกเฉินทางตา
(๒) ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน
(๓) ตาแดงจากไวรัส แบคทีเรีย ภูมิแพ้
(๔) ตากุ้งยิง
(๕) สายตาผิดปกติ สายตาสั้น ยาว เอียง ภาวะตาขี้เกียจ ตาเข สายตาเลือนราง
(๖) ท่อน้ําตาอุดตนั ตาแฉะ ตามหี นอง
(๗) อื่นๆ
การตรวจประเมินสภาพตาและสายตา การบันทึกผลการตรวจ และการแปลผล
(๑) การวัด VA (Visual Acuity)
(๒) การวัดความดนั ลูกตาด้วย Schiotz Tonometer
(๓) การตรวจดู retina ด้วย Direct Ophthalmoscope
(๔) การวัดความโค้งของกระจกตา และวดั กําลงั เลนส์แก้วตาเทียม(Intraocular Lens)
(๕) การใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจสภาพตาส่วนหน้าด้วยSlit lamp biomicroscope
(๖) การบันทึกผลการตรวจประเมินสภาพผู้ป่วย และการประเมินสภาพตาและสายตา
(๗) แปลผลการประเมินสภาพตาและสายตา เพื่อประกอบการรักษาโรคเบื้องต้น
๕.๔ การตรวจประเมินภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและส่งต่อ
(๑) บาดเจ็บทางตาจากอุบัติเหตหุ รือถูกทําร้าย
(๒) กรด ด้าง สารเคมีเข้าตา (Chemical burn)
(๓) ตาแดง บริเวณรอบกระจกตา (Perilimbal หรือ ciliary injection)
(๔) แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเขาตา
(๕) ตามองเห็นไม่ชัด หรือ มืดมัวอย่างรุนแรง และเฉียบพลัน
(๖) มีอาการปวดตาอย่างรุนแรง
(๗) เลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว ( Subconjunctival hemorrhage) ท่ีมีระดับการมองเห็น( Visual acuity ) ลดลง
(๘) เยื่อบุตาฉีกขาด ( Conjunctival tear)
(๙) กระจกตาอักเสบจากแสงยูวี(U.V.keratitis)
(๑๐) กระจกตาทะลุ (Perforated cornea)
(๑๑) เห็นหยากไย่จุดดําลอยไปมาในลูกตา และหรือเห็นแสงฟ้าแลบ
๕.๕ การตรวจวินิจฉัยแยกโรค และ
ให้การรักษาโรคเบื่องต้น
เคืองตา
ตาแดง
ตามัว
อุบัติเหตุต่อดวงตาที่ไม่รุนแรง
ข้อ ๖
ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏ ตรวจพบ หรือ เห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มข้ึน มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน หรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการ บําบัดรักษา เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์บําบัดรักษา เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ข้อ ๗
ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามท่ี สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๘
เขียนบนั ทึกรายงานเก่ียวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการและการเจ็บป่วย โรค และการให้การรักษาโรคหรือการให้บริการตามความเป็นจริงและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยข้อจ ากัดและเงื่อนไขในการประกอบิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
(๑) การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
(๒) การวางแผนบาบัดหรือรักษาโรค
(๓) การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
(๔) การบริจาคโลหิต
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๔ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล (Clinical Nursing Practice
Guideline (CNPG)) หรือเป็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม (Clinical Practice Guideline (CPG)) และ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลไม่เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์หรือวินิจฉัย
ข้อ ๕ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดดาส่วนปลาย
ข้อ ๖ การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ตามแผนการรกั ษา ให้จัดเก็บจากสายสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้เปิดไว้แล้ว
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2550
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือ ลัทธิการเมือง
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรกั ษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ส่วนที่ ๑ การปฏิบัติต้อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกรอง
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาล
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทนเนื่องจาก การรับหรือสูงผู้ป่วย
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพ
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไมฃ่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา
ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ใช่หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ การประกอบวิชาชีพด้านการแพทย
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
ข้อ ๒๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการทดลองต่อมนุษย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกทดลอง
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต้อผู้ถูกทดลองเช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ป่วย
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลอง ที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลอง อันมิใช้ความผิดของผู้ถูกทดลอง
ข้อ ๒๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ สามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัย
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ จะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัย และการทดลอง ในมนุษย์ และจรรยาบรรณของนักวิจัย
หมวด ๓ การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง
ข้อ ๓๑ การโฆษณาตามข้อ ๓๐ อาจกระทําได้ในกรณี
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
เฉพาะการแสดงที่อยู่ ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์และหรือข้อความที่อนุญาตในข้อ ๓๒ เท่านั้น
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน ถ้าแสดงตน ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานท่ีทําการประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทํานองการโฆษณาและ ต้องไม่มีการแจ้งความตามข้อ ๓๓ ในที่เดียวกันหรือขณะเดียวกันนั้นด้วย
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ ความสามารถ