Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของหญิงตั้งครรภ์ ในระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ -…
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของหญิงตั้งครรภ์ ในระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
การสะสมของแคลเซียม
ขณะตั้งครรภ์ทารกต้องการแคลเซียมเพิ่มมากขึ้น
การดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
จำนวนของแคลเซียมที่ส่งผ่านไปยังทารกมีจำนวนน้อย ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูกไปให้ทารก
มีปัญหา Leg cramp เนื่องจากความไม่สมดุลของแคลเซียม
การเปลี่ยนแปลงท่าทาง
เปลี่ยนไปทีละน้อยน้อยขณะตั้งครรภ์ เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่สอง
ฮอร์โมน Relaxin, Progesterone และ Estrogen ทำให้เส้นเอ็นและข้อต่อในอุ้งเชิงกรานหลวม
อุ้งเชิงกรานหลวม ทำให้เดินขาถ่าง ท่าเดินเหมือนเป็ด เพื่อปรับศูนย์ถ่วงของร่างกายให้อยู่ตรงกลางของร่างกาย
ไตรมาสที่สาม มดลูกมีการขยายขนาดเพิ่มมากขึ้น จึงปรับร่างกายโดยการแอ่นไปด้านหลังเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาภาวะ lordosis
lordosis กระดูกสันหลังส่วนล่างโค้งแอ่นมากขึ้นทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
ผนังหน้าท้อง
ไตรมาสที่สาม กล้ามเนื้อหน้าท้องยืดขยายทำให้กล้ามเนื้อ rectus abdominis แยกออกจากกัน เรียกภาวะนี้ว่า diastasis recti
ถ้ามีรอยแยกขนาดใหญ่ ทำให้ผนังมดลูกถูกปกคลุมเพียงเยื่อบุช่องท้อง พังผืดและผิวหนังเท่านั้น
การนำไปใช้/ความรู้ใหม่
แนะนำแหล่งอาหารที่มีแคลเซียม ซึ่งสามารถหาได้ในท้องถิ่นที่หญิงตั้งครรภ์อาศัยอยู่
การให้คำปรึกษาด้านอาหารของหญิงตั้งครรภ์ ส่งเสริมให้บริโภคแคลเซียมที่เพียงพอผ่านอาหารที่รับประทานในแต่ล่ะมื้อที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เช่น ปลา กุ้ง ถั่วพู ตำลึง เป็นต้น
ให้คำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ให้ได้รับแคลเซียมในจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการ
ให้หญิงตั้งครรภ์อธิบายย้อนกลับให้ถูกต้องตามที่ได้ให้ความรู้ และเปิดโอกาสให้สอบถามเพิ่มเติม
การให้แคลเซียมเสริมอาการก่อนตั้งครรภ์หรือช่วงต้นของการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สตรีตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงภาวะ pre-eclampsia ,ความดันโลหิตสูงและปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ