Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
บทที่ 4 พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๑ สภาการพยาบาล
มาตรา ๖
ให้สภาการพยาบาลเป็นนิติบุคคล
มาตรา ๗
ควบคุมความประพฤติของผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
ให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่งเสริมการศึกษา การบริการ การวิจัย ความก้าวหน้าในวิชาชีพการพยาบาล
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่น
ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการพยาบาลการผดุงครรภ์
เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก
มาตรา ๘
รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ
สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับ อุดมศึกษา
รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบันที่จะทำการ สอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองหลกัสูตรต่างๆ สำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของ สถาบนัการศึกษาที่จะทำ การฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองวิทยฐานะของสถาบนัที่ทำการสอนและฝึกอบรม
รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์
ออกหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง
ดำเนินการให้เป็นไปตามวตัถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
มาตรา ๙
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๗
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาการพยาบาล
ดอกผลของเงินและทรัพยส์ินอื่นตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
มาตรา ๑๐
ให้รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการพยาบาลและมีอำนาจหน้า ที่ตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑
สมาชิกสามัญ คุณสมบัติ
มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
มีความรู้ในวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์โดยได้รับปริญญา ประกาศนียบตัร เทียบเท่าปริญญา
ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย
ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด
ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งสภาการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๑๒
ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการ
ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฎิบัติตนตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๓
สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลง เมื่อ
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบตัิตามมาตรา ๑๑ (๑)
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา ๑๔
ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๕
คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษาได้
มาตรา ๑๖
ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสภาการพยาบาล เลือกต่อๆกันไป
มาตรา ๑๗
มาตราที่ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ให้เป็นไปตามขอ้บงัคบัสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๘
คุณสมบัติกรรมการ
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผดุงครรภ์
ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา ๑๙
มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี
มาตรา ๒๐
การพ้นจากตำแหน่งตามวาระ
สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓
ขาดคุณสมบตัิตามมาตรา ๑๘ ลาออก
มาตรา ๒๑
กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งว่างลงไม่เกินกึ่งหน่ึงของจำนวนกรรมการ
ให้คณะกรรมการเลือกสมาชิกสามัญผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๘
มาตรา ๒๒
คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่
บริหาร แต่งตั้ง ออกข้อบังคับ
มาตรา ๒๓
นายกสภาการพยาบาลมีอำนาจ
ดำเนินกิจการ เป็นผู้แทน เป็นประธาน
เลขาธิการมีอำนาจหน้าที่
ควบคุมบังคับบัญชา ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการ รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก
ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาการพยาบาล
หมวด ๔
การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๔
การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน กรรมการทั้งหมด
มาตรา ๒๕
สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็น
มาตรา ๒๖
มติของที่ประชุม
ออกข้อบังคับ กำหนดงบประมาณ
ให้สมาชิกสามัญพน้จากสมาชิกภาพตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม
วินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา ๔๑ วรรคสาม (๔) และ (๕)
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๗
ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล กระทำการพยาบาล หรือการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๘
การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต ฯลฯ ให้เป็นไปตามขอ้บงัคบัสภาการพยาบาล
มาตรา ๒๙
การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท ต่ออายุ 5 ปี
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๐
ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๒๙ ต้องมีความรู้ดังนี้
หมวด ๕ ทวิ (๑) พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๕ ทวิ
พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ
ตรวจสอบใบอนุญาต ค้นหรือยึดเอกสารหลักฐาน หรือสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาหรือดำเนินคดี
มาตรา ๔๕ ตรี
พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำ ตัวพนักงานเจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๔๕ จัตวา
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ เบญจ
อำนวยความสะดวกในการปฏิบตัิงานของพนักงานเจา้หน้าที่
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๖
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๗
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสามต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา ๔๘
ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งให้ส่งตาม มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกิน 1 บาท
มาตรา ๔๘
ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามความในมาตรา ๔๕ เบญจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๓
ผู้ประกอบวิชาชีพ
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๔
ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมาย ของบ้านเมือง
ข้อ ๕
ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง
ข้อ ๖
ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใดๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๗
รักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกร้อง สินจ้างรางวัลพิเศษนอกเหนือจากค่าบริการที่ควรได้รับตามปกติ
ข้อ ๘
ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาล
ข้อ ๙
ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทนเนื่องจาก การรับหรือส่งผู้ป่วย
ข้อ ๑๐
ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจาก การบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๑๑
ต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชน์ของตน
ข้อ ๑๒
ต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย และ ความสิ้นเปลืองของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๓
ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ ทางการแพทย์อันไม่เปิดเผยส่วนประกอบ
ข้อ ๑๔
ต้องไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็น โดยไม่สุจริตในเรื่องใดๆ อันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
ข้อ ๑๕
ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๖
ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
ข้อ ๑๗
ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่
ในเหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๘
ต้องไม่ใช้หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้รวมวิชาชีพ
ข้อ ๑๙
พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
ข้อ ๒๐
ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
ข้อ ๒๑
ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๒
พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓
ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๔
พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
ข้อ ๒๕
ผู้ทําการทดลองต่อมนุษย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกทดลอง และต้องพร้อมที่จะป้องกันผู้ถูกทดลองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทดลองนั้นๆ
ข้อ ๒๖
ต้องปฏิบัติต้อผู้ถูกทดลอง เช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือ ผู้ใช้บริการในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามส่วนที่ ๑ โดยอนุโลม
ข้อ ๒๗
ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลอง ที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลอง อันมิใช่ความผิดของผู้ถูกทดลอง
ข้อ ๒๘
สามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัย
ข้อ ๒๙
จะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัย และการทดลอง ในมนุษย์ และจรรยาบรรณของนักวิจัย
หมวด ๓ การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๐
ต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ความรู้ ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น
ข้อ ๓๑ การโฆษณาทำได้โดย
การแสดงผลงานในวารสารทางวิชาการหรือในการประชุมวิชาการ
การแสดงผลงานในหน้าที่หรือในการบําเพ็ญประโยชน์สาธารณะ
การแสดงผลงานหรือความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อการศึกษาของมวลชน
การประกาศเกียรติคุณเป็นทางการโดยสถาบันวิชาการ สมาคมหรือมูลนิธิ
ข้อ ๓๒
ชื่อ ชื่อสกุล และอาจมีคําประกอบชื่อได้เพียงคําอภิไธย ตําแหน่งทางวิชาการ ฐานันดรศักดิ์ ยศ
ชื่อปริญญา วุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติ หรือหนังสือแสดงคุณวุฒิอย่างอื่น ซึ่งตนได้รับมา โดยวิธีการถูกต้องตามกฎเกณฑ์
สาขาของวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
เวลาทําการ
ข้อ ๓๓
การแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เฉพาะการแสดงที่อยู่ ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์
ข้อ ๓๔
ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน
ถ้าแสดงตน ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานที่ทําการประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทํานองการโฆษณา
ข้อ ๓๕
ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปใน
สื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ ความสามารถ
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๑ ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ และและด้วยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ ตามมาตรา ๒๖
ข้อ ๑
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๒
ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์
การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
การวางแผนบำบัดหรือรักษาโรค
การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลไม่เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์หรือวินิจฉัย
เว้นแต่กรณีการให้บริการแก่ผู้รับบริการ รายที่ตนเองเป็นผู้ดูแลในลักษณะการตรวจ ณ จุดดูแลผู้รับบริการ เช่น ตรวจเบาหวาน
ข้อ ๕
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดด าส่วนปลาย
ข้อ ๖
การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลาง ตามแผนการรกัษา
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๑.
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๒.
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓.
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ให้กระทําการพยาบาล การคัดกรองผู้ป่วย การเจ็บป่วยทางตาฉุกเฉิน หรือการเจ็บป่วยวิกฤต และการฟื้นฟูสมรรถภาพการมองเห็น
ข้อ ๔.
การเขี่ยสิ่งแปลกปลอมออกจากตา
การวัดค่าสายตาผิดปกติ (Refraction) ด้วยเครื่องมือ retinoscope
การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตา (Corneal scraping and curette) และส่งเพาะเชื้อ จากบริเวณแผลกระจกตา
การวัดกําลังเลนส์แก้วตาเทียม ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
การล้างท่อน้ำตา (Lacrimal sac irrigation)
การเจาะตากุ้งยิง (Incision and curette)
ข้อ ๕
๕.๑ ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
๕.๒ การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคตา
ภาวะฉุกเฉินทางตา ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน
ตาแดงจากไวรัส แบคทีเรีย ภูมิแพ ตากุ้งยิง
สายตาผิดปกติ สายตาสั้น ยาว เอียง ภาวะตาขี้เกียจ ตาเข สายตาเลือนราง
๕.๓ การตรวจประเมินสภาพตาและสายตา การบันทึกผลการตรวจ และการแปลผล
การวัด VA (Visual Acuity)
การวัดความดันลูกตาด้วย Schiotz Tonometer
การบันทึกผลการตรวจประเมินสภาพผู้ป่วย และการประเมินสภาพตาและสายตา
๕.๔ การตรวจประเมินภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและส่งต่อ
บาดเจ็บทางตาจากอุบัติเหตุหรือถูกทําร้าย
กรด ด่าง สารเคมีเข้าตา (Chemical burn)
แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
ตามองเห็นไม่ชัด หรือ มืดมัวอย่างรุนแรง และเฉียบพลัน
กระจกตาทะลุ (Perforated cornea)
เยื่อบุตาฉีกขาด ( Conjunctival tear)
๕.๕ การตรวจวินิจฉัยและการรักษาเบื้อต้น
เคืองตา ตาแดง ตามัว อุบัติเหตุต่อดวงตาที่ไม่รุนแรง
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจาก
ผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อพบว่าอาการไม่ดีขึ้น
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๘ เขียนบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการและการเจ็บป่วย โรค และการให้การรักษาโรค หรือการให้บริการตามความเป็นจริง และต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.๒๕๕๐
ข้อ ๑ ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ให้ยกเลิก
๓.๑ ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๓๐
ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๔
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
การเจ็บป่วยวิกฤต
การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต หรือพิการได้
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๕
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ให้กระทําการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล
ข้อ ๖ และข้อ ๗
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง/ชั้นสอง ให้ยาได้ตามที่แพทย์สั่งไว้เท่านั้น
การให้ยาผู้ป่วย เงื่อนไข
ห้ามให้ยา/สารละลายทางเยื่อบุไขสันหลัง และหลอดเลือดดำ
ส่วนที่ ๒ การทําหัตถการ
ข้อ ๘
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง
การทําแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผล การตัดไหม การผ่าฝี
การผ่าเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ใต้ผิวหนังออก โดยใช้ยาชา
การล้างตา
ข้อ ๙
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
การใส่และถอดห่วง (IUD)
การฝังและถอดยาคุมกําเนิด (Nor Plant)
การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง
การตรวจคัดกรองมะเร็งปามดลูก และจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น
ส่วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๐
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง จะต้องได้รับการศึกษา/อบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลกําหนด และต้องขึ้นทะเบียนเป็น
ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร การพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรค เบื้องต้น) ตามประกาศของสภาการพยาบาล
ข้อ ๑๑
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ที่ได้รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สาขาเวชปฏิบัติชุมชน สามารถให้การรักษาเบื้องต้นได้ และต้องปฏิบัติตามประกาศของสภาการพยาบาล
ข้อ ๑๒
ให้ผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏตรวจพบ หรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น
ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรค ตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
ข้อ ๑๓
ถ้าจําเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๑๔
จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวง สาธารณสุขกําหนด
ข้อ ๑๕
จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ และการเจ็บป่วยโรค การให้การรักษาโรค หรือการให้การบริการตามความเป็นจริง
หมวด ๓ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๖
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง
จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๗
จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง
ข้อ ๑๘
ห้ามมิให้ยา หรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง หรือช่องไขสันหลัง
ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดํา
ข้อ ๑๙
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๒๐
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะต้องใช้ยาทําลายและป้องกันการติดเชื้อสําหรับหยอดตา หรือป้ายตาทารก เมื่อคลอดแล้วทันที
ข้อ ๒๑
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง
จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ์และการทําคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ์ ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน