Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิด และขอบเขต กฎหมาย พระราชบัญญัติวิชาชีพ - Coggle Diagram
แนวคิด และขอบเขต กฎหมาย พระราชบัญญัติวิชาชีพ
แนวคิดและหลักการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
การบรรเทาความรุนแรงของโรคหรือการบาดเจ็บระยะต้นก่อนการส่งต่อเพื่อรับการรักษา
การให้การรักษาดูแลสุขภาพการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ไม่ซับซ้อนได้อย่างเหมาะสม
ตัดสินใจช่วยเหลือผู้ป่วยและส่งต่อผู้ป่วยหรือแนะน าให้ไปรับการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ความเป็นมาของการรักษาโรคเบื้องต้น
ปี พ.ศ. 2540
สภาการพยาบาลได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์โดยกำหนดให้ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล ครอบคลุม การรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคเนื่องจากมองเห็นว่า พยาบาลเป็นกำลังหลักในการให้บริการการรักษาโรคเบื้องต้นแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ปี พ.ศ. 2545
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการประกอบวิชาชีพการ
พยาบาลตามข้อก าหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค พ.ศ. 2545
ปี พ.ศ. 2550
สภาการพยาบาลได้ออกข้อบังคับว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์และข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2550
ปี พ.ศ. 2539
กระทรวงสาธารณสุข ออกระเบียบมอบหมายให้พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่น ซึ่งปฏิบัติงานในกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล สุขาภิบาล องค์กรบริหารส่วน
จังหวัด องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นอื่น และสภากาชาดไทย สามารถประกอบวิชาชีพเวชกรรได้ แต่อยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่
ปีพ.ศ.2520 -2524
ดำเนินการควบคุมป้องกันและรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อต่างๆ
ส่งเสริมงานด้านชันสูตร และวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะเกี่ยวกับงานด้านรักษาพยาบาลและงานอนามัยในส่วน
ภูมิภาค
ปรับปรุงและขยายบริการด้านการรักษาพยาบาลให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถรับบริการอย่างทั่วถึง
ดำเนินงานวางแผนครอบครัวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นไปอย่างทั่วถึง
เพิ่มจำนวนและสมรรถภาพบุคลากรสาธารณสุขประเภทต่างๆ
ดำเนินการปรับปรุงสภาวะสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก และปรับปรุงภาวะโภชนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ทารกและเด็กวัยก่อนเรียน ให้ได้รับสารอาหารที่จ าเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายเพียงพอ
ปี พ.ศ. 2551
สภาการพยาบาลได้ออกข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง) ประกอบด้วย ความเป็นมา การควบคุมมาตรฐานการปฏิบัติการรักษาโรคเบื้องต้น การจำแนกผู้ป่วยที่มารับบริการ การดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง หัตถการที่กำหนด รายการยาที่กำหนด และการให้
ภูมิคุ้มกันโรค
ความหมายการรักษาโรคเบื้องต้น
การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัดรักษาเบื้องต้น เพื่อแก้ไขปัญหาการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วย บรรเทาความรุนแรง หรืออาการของโรคให้ผู้ป่วยพ้นภาวะความเจ็บป่วยหรือภาวะวิกฤต ทั้งนี้ รวมถึง การประเมินผลการรักษาเบื้องต้นด้วย
ความสำคัญของการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ลดภาวะความพิการและการเสียชีวิตของผู้ป่วย
ประหยัดต้นทุนการให้บริการ
ผู้ป่วยได้รับการพยาบาลอย่างถูกต้อง เหมาะสม ทันท่วงที
ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน
ขอบเขตความสามารถในการให้การรักษาโรคเบื้องต้นของพยาบาลวิชาชีพ
ปี 2540
ให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ / รักษาโรคตามแนวทางที่กำหนดไว้ให้ภูมิคุ้มกันโรคพื้นฐาน และให้บริการวางแผนครอบครัว
ติดตามผลการให้การช่วยเหลือรักษา
รับดูแลผู้ป่วยต่อ เพื่อให้การดูแลที่ต่อเนื่อง
ให้การดูแลช่วยเหลือ ส่งต่อ การรักษาโรค และอาการที่พบบ่อย และทำหัตถการที่กำหนด
สามารถตรวจ ประเมินสภาพ วินิจฉัย แยกโรคว่า อยู่ในกลุ่มใด แล้วให้การรักษาดูแลช่วยเหลือที่เหมาะสม ตามข้อกำหนดการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
ปี 2550
กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการต่อไปนี้ จะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนดและได้รับใบรับรองจากสภาการพยาบาล
การใส่และถอดห่วง (IUD)
การฝังและถอดยาคุมกำเนิด (Nor Plant)
การผ่าตัดตาปลา
การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง บริเวณที่ไม่เป็นอันตราย
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA (Visual Inspection Using Acetic Acid)
การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น (Cryotherapy)
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้จะต้อง
ได้รับการศึกษา/อบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลกำหนด และต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร การพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) ตามประกาศของสภาการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระทำ
การพยาบาลโดยการทำหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด
“การเจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องดำเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ต้องให้ผู้ป่วยไปรับการบำบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเมื่อปรากฏ ตรวจพบหรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน เป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อหรือมีเหตุอันควรอื่น ๆ
เกี่ยวกับการบำบัดรักษา เช่น เครื่องมืออุปกรณ์ การบำบัดรักษาหรือ เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งที่ได้รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สาขาเวชปฏิบัติชุมชน กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้และต้องขึ้นทะเบียน เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคตามประกาศของสภาการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งจะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการอาการ และการเจ็บ ป่วยโรค การให้การรักษาโรค หรือการให้การบริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งถ้าจำเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกำหนด
คุณสมบัติของพยาบาลวิชาชีพ ที่รับผิดชอบในการตรวจรักษาโรคเบื้องต้น
ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) ที่สภาการพยาบาลรับรอง และได้รับประกาศนียบัตรการพยาบาล เฉพาะทางการรักษาโรคเบื้องต้นจากสถาบันที่ฝึกอบรม
ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) กับสภาการพยาบาล
มีประสบการณ์ในการปฏิบัติการพยาบาลหลังได้รับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 2 ปี
มีการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการรักษาโรคเบื้องต้นให้ทันสมัยอยู่เสมอเป็นไปตามประกาศสภาการพยาบาลกำหนด
ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
การจำแนกผู้รับบริการหรือผู้ป่วย
กลุ่มอาการที่ต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่มเติม (28 อาการ)
กลุ่มอํากํารที่ต้องวินิจฉัยแยกโรคและให้กํารรักษําโรคเบื้องต้น
กลุ่มอํากํารฉุกเฉินที่ต้องช่วยเหลือเบื้องต้นและส่งต่อทันที (39 กลุ่ม)
การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการปฏิบัติ
มีการบันทึก และทำรายงานเพื่อการตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพ
สภาการพยาบาล จะต้องจัดทำเนียบทะเบียนผู้ได้รับประกาศนียบัตรการพยาบาลเฉพาะทาง
เวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) ที่เป็นปัจจุบันทุก 6 เดือน
มีแนวปฏิบัติทางคลินิกที่ชัดเจน (Clinical Practice Guideline)
มีกลไกในการประสานเพื่อการควบคุมคุณภาพติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ
ต้องมีเครือข่ายที่สามารถปรึกษา หรือส่งต่อ เมื่อเกินขอบเขตความสามารถหรือรับผิดชอบ