Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมาย ของบ้านเมือง
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๑ การปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกร้อง สินจ้างรางวัลพิเศษนอกเหนือจากค่าบริการที่ควรได้รับตามปกติ
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์เพื่อผลประโยชน์ของตน
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทนเนื่องจากการรับหรือส่งผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการเพื่อรับบริการทางการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจากการบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชน์ของตน
ข้อ ๑๕ ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ซึ่งตนทราบมาเนื่องจากการประกอบวิชาชีพเว้นแต่ด้วยความยินยอมของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการหรือเมื่อต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามหน้าที่
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยและความสิ้นเปลืองของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์อันไม่เปิดเผยส่วนประกอบ
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็นโดยไม่สุจริตในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่ ในเหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล หรือในการปฏิบัติหน้าที่การงานของกระทรวง
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ใช่หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ การประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์หรือการสาธารณสุขหรือการประกอบโรคศิลปะโดยผิดกฎหมาย
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
ข้อ ๒๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการทดลองต่อมนุษย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกทดลองและต้องพร้อมที่จะป้องกันผู้ถูกทดลองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทดลองนั้น ๆ
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ถูกทดลองเช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติตอผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามส่วนที่ ๑ โดยอนุโลม
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลองที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลอง อันมิใช่ความผิดของผู้ถูกทดลอง
ข้อ ๒๘ ผู้ประกอบวิชาชีพสามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัยหรือการทดลองดังกล่าวได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องแล้วเท่านั้น
ข้อ ๒๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ สามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัยหรือ การทดลองดังกล่าวได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องแล้วเท่านั้น
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัยและการทดลองในมนุษย์และจรรยาบรรณของนักวิจัย
หมวด ๓ การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่โฆษณาใช้จ้างหรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น
ข้อ ๓๑ การโฆษณาตามข้อ ๓๐ อาจกระทําได้ในกรณีต่อไปนี้ ทั้งนี้ ต้องละเว้นการแสวงหาประโยชน์ที่จะเกิดต่อการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ส่วนบุคคล
การแสดงผลงานในหน้าที่หรือในการบําเพ็ญประโยชน์สาธารณะ
การแสดงผลงานหรือความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อการศึกษาของมวลชน
การแสดงผลงานในวารสารทางวิชาการหรือในการประชุมวิชาการ
การประกาศเกียรติคุณเป็นทางการโดยสถาบันวิชาการ สมาคมหรือมูลนิธิ
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพอาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์หรือสํานักงานได้เพียงข้อความเฉพาะเรื่องต่อไปนี้
ชื่อ ชื่อสกุล และอาจมีคําประกอบชื่อได้เพียงคําอภิไธย ตําแหน่งทางวิชาการฐานันดรศักดิ์ ยศ และบรรดาศักดิ์เท่านั้น
ชื่อปริญญา วุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติ หรือหนังสือแสดงคุณวุฒิอย๋างอื่น ซึ่งตนได้รับมาโดยวิธีการถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสภาการพยาบาลหรือสถาบันนั้น ๆ
สาขาของวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
เวลาทําการ
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพอาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์เฉพาะการแสดงที่อยู่ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์และหรือข้อความที่อนุญาตในข้อ ๓๒ เท่านั้น
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชนถ้าแสดงตนว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานที่ทําการประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทํานองการโฆษณาและต้องไม่มีการแจ้งความตามข้อ ๓๓ ในที่เดียวกันหรือขณะเดียวกันนั้นด้วย
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ ความสามารถ
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓)
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจนุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อ
การตรวจวิเคราะห์หรือการวินัจฉัยโรค
การวางแผนบำบัดหรือรักษาโรค
การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
การบริจาคโลหิต
ข้อ 5 การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้วหรือจากหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ข้อ 4 การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล CNPG หรือเ็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม CPG
ข้อ 6 การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลางตามแผนการรักษาให้จัดเก็บจากสวนสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลาง ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้เปิดไว้แล้ว
ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๔. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งหรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรองและได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
การเจาะตากุ้งยิง ยกเว้นกรณีตากุ้งยิงอยู่ใกล้ท่อน้ําตาหรือ ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ร่วมมือได้
การล้างท่อน้ําตา ยกเว้นผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ร่วมมือได้
การวัดกําลังเลนส์แก้วตาเทียมด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตาและส่งเพาะเชื้อจากบริเวณแผลกระจกตา
การวัดค่าสายตาผิดปกติด้วยเครื่องมือ retinoscope หรือ autorefractorและทดลองเลนส์แว่นตา
การเขี่ยสิ่งแปลกปลอมออกจากตา ในกรณีที่สิ่งแปลกปลอมไม่ฝังลึกในกระจกตาจนอาจเกิดอันตรายได้
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล
๕.๓ การตรวจประเมินสภาพตาและสายตา การบันทึกผลการตรวจ และการแปลผล การวัด VA การวัดความดันลูกตาด้วย Schiotz Tonometer การตรวจดู retina ด้วย Direct Ophthalmoscope การวัดความโค้งของกระจกตา และวัดกําลังเลนส์แก้วตาเทียม(Intraocular Lens) การใช้เครื่องมือพิเศษ การบันทึกผลการตรวจประเมินสภาพผู้ป่วย และการประเมินสภาพตาและสายตา แปลผลการประเมินสภาพตาและสายตา เพื่อประกอบการรักษาโรคเบื้องต้น
๕.๔ การตรวจประเมินภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและส่งต่อ บาดเจ็บทางตาจากอุบัติเหตุหรือถูกทําร้าย กรด ด่าง สารเคมีเข้าตา ตาแดง บริเวณรอบกระจกตา แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ตามองเห็นไม่ชัด หรือ มืดมัวอย่างรุนแรง และเฉียบพลัน มีอาการปวดตาอย่างรุนแรง เลือดออกใต้เยื่อบุตาขาวที่มีระดับการมองเห็นลดลง เยื่อบุตาฉีกขาด กระจกตาอักเสบจากแสงยูวี กระจกตาทะลุ เห็นหยากไยจุดดําลอยไปมาในลูกตา และ/หรือเห็นแสงฟ้าแลบ
๕.๒ การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ ตรวจคัดกรองผู้ป่วย โรคตา ภาวะฉุกเฉินทางตา ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน ตาแดงจากไวรัส แบคทีเรีย ภูมิแพ้ ตากุ้งยิง สายตาผิดปกติ สายตาสั้น ยาว เอียง ภาวะตาขี้เกียจ ตาเข สายตาเลือนราง ท่อน้ําตาอุดตัน ตาแฉะ ตามีหนอง
๕.๕ การตรวจวินิจฉัยแยกโรค และให้การรักษาโรคเบื้องต้น เคืองตา ตาแดง ตามัว อุบัติเหตุต่อดวงตาที่ไม่รุนแรง
๕.๑ ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพการพยาบาลโดยเคร่งครัด
ข้อ ๓.ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาลให้กระทําการพยาบาลการคัดกรองผู้ป่วยการเจ็บป่วยทางตาฉุกเฉินหรือการเจ็บป่วยวิกฤตและการฟื้นฟูสมรรถภาพการมองเห็น
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเมื่อปรากฏตรวจพบหรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นมีโรคหรือภาวะแทรกซ้อนหรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการบําบัดรักษา
ข้อ ๒.ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป้นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๑.ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๘ เขียนบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการอาการและการเจ็บป่วยโรคและการให้การรักษาโรค หรือการให้บริการตามความเป็นจริง และต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน