การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
(Participatory Action Research : PAR)

ลักษณะสำคัญของวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR)

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) มีนัยอยู่3 ประการคือ

1) การวิจัยเพื่อให้ได้ความรู้

2) การปฏิบัติการ เพื่อใช้ความรู้และสะท้อนผลการปฏิบัติที่มีที่มาจากการใช้ความรู้

3)การมีส่วนร่วมที่มีความหมายของการเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลงการสร้างความรัก ความผูกพัน และความหวังในกระบวนการเปลี่ยนแปลง

วัตถุประสงค์ของ PAR

เพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนในชุมชนตระหนักในปัญหา หน้าที่ และร่วมกันแก้ปัญหาของตนเอง

เพื่อให้ชุมชนได้เรียนรู้แบบพหุภาคี (Steak Holder)

เพื่อให้ชุมชนร่วมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

เพื่อส่งเสริมกิจกรรมกลุ่ม และการทำงานร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

หลักการของการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม

ให้ความรู้ที่เหมาะสมกับชาวบ้านและคนยากจน

ให้ความสำคัญและเคารพต่อภูมิความรู้ของชาวบ้าน

ปรับปรุงความสามารถและศักยภาพของชาวบ้านด้วยการส่งเสริม ยกระดับและพัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเอง

สนใจปริทัศน์ของชาวบ้าน

ปลดปล่อยความคิด การวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมจะช่วยให้ชาวบ้านและคนยากจนสามารถใช้ความคิดเห็นของตนอย่างเสรี

แนวคิดของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

เป็นกระบวนการทำงานร่วมกัน PAR เกิดจากประชาชนต้องการแสวงหาความรู้ในการแก้ปัญหาของตนเอง เป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยคนยากจนและด้อยโอกาส ซึ่ง PAR จะเน้นหนักการเรียนรู้จากประสบการณ์ เพราะ PAR อาศัยการยอมรับของประชาชนได้สืบทอดต่อเนื่องเป็นประสบการณ์หลากหลาย

  1. PAR เป็นวงจรของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 5 องค์ ประกอบคือ การสังเกต ,การสะท้อนคิด ,การวางแผน ,การปฏิบัติและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
    

การสังเกต การสังเกตที่ดีต้องการการเฝ้ามองดูว่าอะไรเกิดขึ้นและพรรณนาตามความเป็นจริง เพื่อเตรียมข้อมูลในการสะท้อนคิดโดยการทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

การสะท้อนคิด

1) ถอยกลับมาและสะท้อนคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ให้เวลากับการเข้าร่วมและฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในส่วนที่มี มุมมองและการตีความที่ต่างกัน

2) พัฒนาความคิดต่างๆ หรือทฤษฎีเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น การ แลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้งและการนำสิ่งต่างๆ มาประติดประต่อกัน

3) การแลกเปลี่ยนความคิดต่างๆ กับผู้อื่น เกี่ยวกับการตีความและการให้ความหมาย

การวางแผน

1) ตั้งคำถามที่จะต้องหาคำตอบให้ชัดเจน

2) ระบุกิจกรรมต่างๆที่ทดลอง

3)การพัฒนาแผนปฏิบัติการ

การลงมือปฏิบัติ (Act)

3.1) เป็นการทำตามที่วางแผนไว้อย่างเป็นระบบ

3.2) การสื่อสารกับผู้อื่นและเข้าร่วมในกระบวนการ

3.3) ติดตามสิ่งที่เกิดขึ้น

การแลกเปลี่ยน (share)

1) นำสิ่งที่ยังมีคำตอบไม่แน่นอนมาแลกเปลี่ยนในกลุ่ม

2) เชิญชวนคนอื่นๆ ให้สะท้อนคิดว่าแต่ละคนได้พบอะไร

3) กำหนดขอบเขตข้อสรุปของแต่ละ

2.PAR เป็นวิธีการที่อาศัยการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นกระบวนการที่มีชีวิตขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเป็นกระบวนการที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการตัดสินหรือกำหนดเวลาที่แน่นอนล่วงหน้า ไม่มีการกำหนดคำถาม หรือความสัมพันธ์ที่แน่นอน ผู้มีส่วนร่วมทุกคนมีส่วนร่วมตั้งแต่การระบุปัญหา การสำรวจวิเคราะห์ข้อมูล การลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา
เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

  1. PAR เป็นการเรียนรู้อย่างเป็นระบบวิจัยเชิงปฏิบัติการ เป็นระบบที่ส่งเสริมให้คนค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่เขาเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. PAR เป็นพลวัตร กระบวนการของ PAR จะมีความยืดหยุ่น มากในแง่ของกิจกรรม เวลา และวิธีการเก็บ รวบรวมข้อมูล
  1. PAR เป็นการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ผู้มีส่วนร่วมจะพัฒนาความสามารถในการคิดและทำงานด้วยกันเพื่อชีวิตที่ดีกว่าองค์ความรู้ทักษะและทรัพยากรต่างๆ จะถูกนำมาแบ่งปันในวิถีทางที่เสมอภาค ยุติธรรม ภายใต้โครงสร้างความ สัมพันธ์ที่เป็นธรรม
  1. PAR เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์อย่าง มีวิจารณญาณเพื่อให้เกิดความเข้าใจในสถานการณ์ อย่างแท้จริงตามธรรมชาติของสถานการณ์นั้นๆ

การนำวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมมาใช้ในการวิจัยชุมชน

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมต้องการความผูกพันยึดมั่นของทีมวิจัยต้องให้การศึกษากับผู้มีส่วนร่วมและแบ่งเวลาในการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ทุกกระบวนการในวงจรวิจัยสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้

ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

ชาวบ้าน ประชาชน จะตื่นตัว ได้รับการศึกษามากขึ้น สามารถคิดและวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง การแก้ไขปัญหา การจัดสรรทรัพยากรต่างๆ จะมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

นางสาวรวิวรรณ ยะจันโท เลขที่ 44 ห้อง A