Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติของรก นำคร่ำ และความผิดปกติของทารก…

- - - - ปริมาณน้ำคร่ำมากกว่า2000มล.
    - - ปริมาณน้ำคร่ำสัมพันธ์กับปริมาณของเหลว
        ที่เข้าออกจากถุงน้ำคร่ำ
    - - ด้านมารดา
        
        มารดาเป็นโรคเบาหวาน
        ระหว่างตั้งครรภ์
        
        ตั้งครรภ์แฝด
      - ด้านทารก
        
        สัมพันธ์กับการกลืน
        
        ความผิดปกติของระบบประสาท
        
        ภาวะอุดตันของระบบทางเดินอาหาร
        
        ทารกหัวบาตร
        
        ครรภ์แฝดที่เป็น twin-twin transfusion syndrome (TTTS)
        
        ทารกบวมน้ำ
    - - ภาวะน้ำคร่ำมากอย่างเฉียบพลัน
        
        พบตั้งแต่อายุครรภ์ 20-24 สัปดาห์
        
        ไม่สุขสบาย ปวดหลังและหน้าขา แน่นอึดอัดในช่องท้อง หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจยน
        
        ต่อมามีอาการบวมที่ผนังหน้าท้อง อวัยวะเพศ
        หน้าขอ คลำหาส่วนต่างๆของทารกได้ชัดเจน
      - ภาวะน้ำคร่ำมากเรื้อรัง
        
        น้ำคร่ำค่อยๆเพิ่ม หายใจลำบาก อึดอัด
        
        อายุครรภ์ 30 สัปดาห์ขึ้นไป
    - - ผลต่อมารดา
        
        อึดอัด หายใจลำบาก ท้องอืด
        เนื่องจากมีการขยายตัวของมดลูกมากเกินไป
        
        คลอดก่อนกำหนด
        
        ช็อคจากความดันในช่องท้องลดลงอย่างรวดเร็ว
        
        ตกเลือด ติดเชื้อหลังคลอด
      - ผลต่อทารก
        
        เกิดภาวะพิการ คลอดก่อนกำหนด
        
        เกิดภาวะ fetal distress จากสายสะดือย้อย
        
        ทารกอยู่ในมาผิดปกติ
    - - แน่นอึดอัด หายใจลำบาก เจ็บชายโครง
      - บวมบริเวณเท้า ขา ปากช่องคลอด
      - น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  - - - การตั้งครรภ์ที่มีน้ำคร่ำน้อยว่า300มล.
      - พบร่วมกับความผิดปกติของทารก โครโมโซม
      - ภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์ ภาวะเกินกำหนด
    - - ทารกมีความผิดกติ ระบบไต ทางเดินป้ัสสาวะ
        เช่น ไตตีบ การอุดตันทางออกปัสสาวะ
      - ความผิดปกติของโครโมโซม trisomy18
      - ถุงนำ้คร่ำแตกก่อนกำหนด
      - รกเสื่อมสภาพ ตั้งครรภ์เกินกำหนด ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
    - - ต่อทารก
        
        Amniotic band syndrome
        
        ทารกอยู่ในภาวะคับขัน
        
        ภาวะปอดแฟบ
        
        ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
        
        มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด
      - ต่อมารดา
        
        มีโอกาสผ่าตัดคลอดทารกทางหน้าท้องมากกว่าการตั้งครรภ์ปกติ
    - - วัดดัชนีน้ำคร่ำ มีค่าน้อยกว่า5CM
      - วัดโพรงน้ำคร่ำที่ลึกที่สุดในแนวดิ่ง
    - - ดูแลให้ได่รับการใส่สารนำ้เข้าไปในถุงน้ำคร่ำ
      - รัปฟังปัญหา
      - อธิบายถึงสาเหตุการเกิดโรค การรักษา
- - - - ภาวะโลหิตจาง มีภาวะติดเชื้อ
      - โรคของมารดา ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง
      - มารดารูปร่างเล็ก ภาวะขาดสารอาหาร
      - ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ใช้สารเสพติด มารดาอยู่พื้นที่สูง
      - ตั้งครรภ์แฝด
    - - ความผิดปกติของโครโมโซม trisomy21,13,18
      - ติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์ Rubella
      - ความพิการแต่กำเนิด ไม่มีกะโหลกศีรษะ ผนังหน้าท้องไม่ปิด
  - - - สตรีตั้งครรภ์มีภาวะทุพโภชนาการ
      - ความผิดปกติของโครโมโซม ติดเชื้อ
      - ได้รับยาหรือสารเสพติด
    - - สตรีตั้งครรภ์มีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือหลอดเลือด เม็ดเลือดแดง
      - มีประวัติเป็นโรคไต
      - ภาวะครรภ์แฝด ความผิดปกติของรกและสานสะดือ
  - - - แนะนำการนอนหลับพักผ่อนมากๆ นอนตะแคงซ้าย
      - ติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์
      - แนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการใช้ยา
    - - ประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
      - ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก เสียงหัวใจของทารก
      - หลึกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด จะกดการหายใจของทารก
    - - ป้องกันการเกิดภาวะ hypo
      - lycemia hypothermia polycythemia
- - - - เกิดจากการปฏิสนธิจากไข่1ใบ และอสุจิ1ตัว
      - รูปร่าง หน้าตา เพศ ลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกัน
      - สาเหตุเกิดจากธรรมชาติ ปัจจัยด้านอายุ เชื้อชาติ พันธุกรรม
    - - สาเหตุเชื้อชาติ พันธุกรรม อายุมารดามากกว่า35ปี
        ปัจจัยโภชนาการ มารดารูปร่างใหญ่
      - มีประวัติใช้ยากระตุ้นการตกไข่ จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์
      - เกิดจากไข่2 ใบ อสุจิ2ตัว amnion2อัน chorion2อัน รก2อัน
  - - - ระยะคลอด
        
        กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวผิดปกติ
        
        รกลอกตัวก่อนกำหนด
      - ระยะหลังคลอด
        
        เลี้ยงลูกด้วยนมมารดา
        
        ตกเลือดหลังคลอด ติดเชื้อหลังคลอด
      - ระยะตั้งครรภ์
        
        มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
        
        โลหิตจาง ตกเลือดก่อนคลอด
        
        ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน
    - - IUGR
      - ทารกขาดออกซิเจน
      - คลอดก่อนกำหนด
      - TTTS
      - ทารกตายในครรภ์ การแท้ง
  - - - ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
      - ดูแลการเจริญเติบโตของทารกอย่างใกล้ชิด
      - ต้องวินิจฉัยให้เร็วที่สุด
      - ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะอันตรายต่อทารกในระยะคลอด
- - - - ก่อนตั้งครรภ์ในรายที่มีภาวะเสี่ยง การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด
      - เมื่อตั้งครรภ์ ตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด เจาะน้ำคร่ำ ตัดชิ้นเนื้อรก
      - ให้คำปรึกษาภายหลังการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอด
        หลีกเลี่ยงการสัมผัส teratogen
  - - - ความพิการของเพดานริมฝีปาก เหงือกส่วนหน้า เพดานแข็ง, อ่อน
    - - กรรมพันธุ์ ครอบครัมมีประวัติ
      - สิ่งแวดล้อม มารดาติดเชื้อหัดเยอรมันช่วง3เดือนแรก
    - - การสร้างเนื้อเยื่อริมฝีปากตั้งแต่อายุครรภ์ 3-12 สัปดาห์
      - เพดานอ่อนและเพดานแข็งจะเชื่อมสมบูรณ์อายุครรภ์ 11-17สัปดาห์
    - - ทารกมีเพดาโหว่มักจะสำลักนมขึ้นจมูก
        เข้าช่องหูชั้นกลางสำลักนมเข้าปอด
      - ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น
      - ทารกปากแหว่งอย่างเดียว ไม่สามารถอมจุกนมได้สนิท ลมรั่ว พบท้องอืด
    - - ดูแลด้านจิตใจ บิดามารดา
      - ให้คำแนะนำการดูแลทารก
      - ดูแลการให้นมแม่
      - กรณีที่ทารกไม่สามารถดูดนมแม่ได้แนะนำมารดาให้ใช้ขวดนมพิเศษ
- - - - การตายหรือเสียชีวิตเองโดยธรรมชาติของทารกก่อนคลอด โดยไม่คำนึงถึงอายุครรภ์
    - - ด้านมารดา
        
        อายุมากกว่า35 ปี
        
        ภาวะทางสูติกรรม คลอดก่อนกำหนด มดลูกแตก รกลอกตัว รกเกาะต่ำ
        
        ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน SLE
        
        ไม่มาฝากครรภ์ ใช้ยา อุบัติเหตุ
      - ด้านรก
        
        รกลอกตัวก่อนกำหนด ติดเชื้อโพรงมดลูก สายสะดือผิดปกติ
      - ด้านทารก
        
        IUGR
        
        การกดทับของสายสะดือ
        
        ภาวะพิการแต่กำเนิด ความผิกปกติของโครโมโซม
    - - ซักประวัติ
        
        ทารกไม่ดิ้น
      - ตรวจร่างกาย
        
        น้ำหนักมารดาน้อยลง เต้านมเล็ก ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้
        
        สารคัดหลั่งสีนำ้ตาลไหลออกทางช่องคลอด
      - ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        การเกยกันของกะโหลกศีรษะ
        
        แก๊สในหัวใจ
        
        ทารกไม่มีการเต้นของหัวใจ
    - - ด้านร่างกาย
        
        มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
        
        เกิดภาวะเลือดไม่แข็งตัว
      - ด้านจิตใจ
        
        รู้สึกสูญเสีย ตกใจ เศร้า โทษตัวเอง
        
        เกิดความกลัวความรู้สึกขัดแย้ง
    - - ประเมินความต้องการสัมผัสกับทารกแรกคลอดที่เสียชีวิต
      - ให้การประคับประครองจิตใจ แนะนำให้สามีให้กำลังใจ ปลอบใจ
      - ติดตามผลตรวจเลือดเพื่อหาระยะการแข็งตัวของเลือด
      - ให้ยายับยั้งการหลั่งน้ำนมตามแผนการรักษา