Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่4 พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๘, นางสาว…
บทที่4
พระราชบัญญัติ
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๘
พระราชบัญญัติ
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติ น้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
พ.ศ. ๒๕๒๘ ”
มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใช้าบังคับ ตั้งแต่ ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์”(๔) หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อ หญิงมีครรภ์ หญิงหลัง คลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว โดยการกระทาต่อไปน้ี
มาตรา ๔
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า วิชาชีพเก่ียวกับการพยาบาลและ การผดุงครรภ์
การพยาบาล ”(๑) หมายความว่า การกระทาต่อมนุษยเ์ กี่ยวกบั การดูแลและการช่วยเหลือ เมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกัน โรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้ง การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งน้ีโดยอาศัย หลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
“ การผดุงครรภ์ ”(๒) หมายความว่า การกระทา เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือ หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทา คลอด การส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน ความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลงัคลอด รวมทั้งการช่วยเหลือแพทยก์ระทา การ รักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศยัหลกัวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
“ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล ”(๓) การปฏิบตัิหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน
“ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ” (๔) หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อ หญิงมีครรภ์ หญิงหลงัคลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ” หมายความว่า บุคคลซ่ึงได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผปู้ระกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า บุคคลซ่ึงได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผปู้ระกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า บุคคลซ่ึงได้ขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ ใบอนุญาต ” หมายความว่า ใบอนุญาตซ่ึงสภาการพยาบาลออกให้แก่ผูป้ระกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๕(๒)
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบญัญตัินี้ และให้มี อนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงก าหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราช บญัญตัินี้ รวมทั้งออกระเบียบและประกาศเพื่อปฏิบตัิการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบและประกาศนั้น เมื่อไดป้ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ให้ใช้บงัคบัได้
หมวด ๑
สภาการพยาบาล
มาตรา ๗
(๑) ควบคุมความประพฤติของผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาล และการผดุงครรภ์ ให้ถูกตองตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๓) ส่งเสริมความสามคัคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
(๒) ส่งเสริมการศึกษา การบริการ(๑) การวิจยั และความก้าวหนา้ในวิชาชีพการพยาบาล การ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๔) ช่วยเหลือ แนะนา เผยแพร่ และใหก้ารศึกษาแก่ประชาชนและองคก์รอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับ การพยาบาล การผดุงครรภ์ และการสาธารณสุข
(๕) ให้คาปรึกษา หรือข้อ เสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับ ปัญหาการพยาบาล การผดุงครรภ์และการสาธารณสุข
(๖) เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในประเทศไทย
(๗)ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวสั ดิการให้แก่สมาชิก
มาตรา ๘(๒
(๑) รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผูข้อเป็นผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๒) สั่งพกัใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การ ผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๓) ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับ อุดมศึกษาของสถาบนัการศึกษาท่ีจะทา การสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อเสนอต่อ ทบวงมหาวิทยาลัย
(๔) รับรองหลกัสูตรต่างๆ สา หรับการศึกษาในระดบัประกาศนียบตัรของสถาบนัที่จะท การ สอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๕) รับรองหลกัสูตรต่างๆ สา หรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของ สถาบนัการศึกษาท่ีจะทา การฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (
(๖) รับรองวิทยฐานะของสถาบนัที่ทา การสอนและฝึกอบรมตาม ( ๔ ) และ ( ๕ )
(๗) รับรองปริญญา ประกาศนียบตัรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบตัร หรือวฒุิบตัรในวชิาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบนัต่าง ๆ
(๘) ออกหนงัสืออนุมตัิ หรือวุฒิบตัรเกี่ยวกับความรู้หรือความชา นาญเฉพาะทาง และหนงัสือ แสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้แก่ผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๙) ดเนินการให้เป็นไปตามวตัถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
มาตรา ๙
(๑) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๓) ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวตัถุประสงคท์ี่ก าหนดในมาตรา ๗
(๒) ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามญั ค่าบา รุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
(๓) ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวตัถุประสงคท์ี่ก าหนดในมาตรา ๗
(๕) ดอกผลของเงินและทรัพยส์ินอื่นตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
มาตรา ๑๐
ให้รัฐมนตรีดา รงตา แหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการพยาบาลและมีอา นาจหน้า ที่ตามพระราชบญัญตัินี้
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑
(๑) สมาชิกสามัญ
(๒) สมาชิกกิตติมศกัดิ์ ไดแ้ก่ ผทู้รงคุณวุฒิซ่ึงสภาการพยาบาลเชิญใหเ้ป็นสมาชิกกิตติมศกัดิ์
มาตรา ๑๒ สิทธิและหนา้ที่ของสมาชิกสามัญ
มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลง
เม่ือ (๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบตัิตามมาตรา
หมวด ๓
คณะกรรมการ
มาตรา ๑๔(๑)
ใ
ห้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล ประกอบด้วยผูแ้ทนกระทรวงสาธารณสุข หา้คน ผแู้ทนกระทรวงกลาโหมสามคน ผแู้ทนกระทรวงมหาดไทยหน่ึงคน ผแู้ทนทบวงมหาวทิยาลยัสี่คน ผแู้ทนกรุงเทพมหานครหน่ึงคน ผแู้ทนสภากาชาดไทยหน่ึงคน นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถมัภข์องสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมาชิกสามญัสภาการพยาบาลอีกสิบ หกคนซ่ึงได้รับเลือกตั้งโดยสมาชิกสามญัของสภาการพยาบาล เป็นกรรมการ และให้เลขาธิการเป็น กรรมการและเลขานุการ
มาตรา ๑๖(๒)
ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดา รงตา แหน่งนายกสภาการพยาบาล อุปนายก สภาการพยาบาลคนที่หน่ึง และอุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สอง ตา แหน่งละหน่ึงคน
มาตรา ๑๕(๑)
คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกกิตติมศกัดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ ปรึกษาได้ ทั้งนี้ จา นวนกรรมการที่ปรึกษาตอ้งไม่เกินหน่ึงในสี่ของคณะกรรมการ ให้กรรมการที่ปรึกษาดา รงตา แหน่งตามวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
มาตรา ๑๗ การเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา ๑๔ การแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๕ และการเลือกกรรมการเพื่อดา รงตา แหน่งต่างๆ ตามมาตรา ๑๖ ให้เป็นไปตามขอ้บงัคบัสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๘
กรรมการนอกจากปลดักระทรวงสาธารณสุขและกรรมการที่ปรึกษาตอ้งมีคุณสมบตัิ ดงัต่อไปนี้
(๑) เป็นผูป้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
(๒) ไม่เคยถูกสั่งพกัใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๓) ไม่เคยเป็นบุคคลลม้ละลาย
มาตรา ๒๑
ในกรณีตา แหน่งกรรมการซ่ึงไดร้ับเลือกตั้งว่างลงไม่เกินก ึ่งหน่ึงของจา นวนกรรมการ ดงักล่าวทั้งหมดก่อนครบวาระให้คณะกรรมการเลือกสมาชิกสามญัผูม้ีคุณสมบตัิตามมาตรา ๑๘ เป็น กรรมการแทนภายในสามสิบวนันับแต่วนัที่ตา แหน่งกรรมการนั้นว่างล
มาตรา ๒๐
นอกจากการพน้จากตา แหน่งตามวาระ กรรมการซ่ึงได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้ง พน้จากตา แหน่ง เมื่อ (๑) สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓ (๒) ขาดคุณสมบตัิตามมาตรา ๑๘ (๓) ลาออก
มาตรา ๒๒
ให้คณะกรรมการมีอา นาจหนา้ที่ดงัต่อไปนี้
(๑) บริหารกิจการสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามวตัถุประสงคท์ี่ก าหนดตามมาตรา ๗
(๒) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น เพื่อทา กิจการหรือพิจารณาเรื่องต่างๆ อนัอยู่ในขอบเขตแห่งวตัถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
(๓) ออกขอ้บงัคบัสภาการพยาบาลว่าด้วย
มาตรา ๒๓
นายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึง อุปนายกสภาการ พยาบาลคนท่ีสอง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพนัธ์ และเหรัญญิก
หมวด ๔
การดาเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๖ มติของที่ประชุมคณะกรรมการในเรื่องต่อไปนี้ ตอ้งไดร้ับความเห็นชอบจากสภานายก พิเศษก่อน จึงจะดา เนินการตามมตินั้นได้
(๑) การออกขอ้บงัคบั
(๒) การก าหนดงบประมาณของสภาการพยาบาล
(๓) การให้สมาชิกสามัญพน้จากสมาชิกภาพตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม
(๔) การวินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา ๔๑ วรรคสาม (๔) และ (๕)
มาตรา ๒๕ สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะ กรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยงัคณะกรรมการในเรื่องใดๆ ก็ได้
มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการตอ้งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ยกว่าก ึ่งหน่ึงของจา นวน กรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองคป์ระชุม มติของที่ประชุมให้ถือเสียงขา้งมาก กรรมการคนหน่ึงมีเสียงหน่ึงเสียง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหน่ึงเสียงเป็นเสียงชี้ขาด
หมวด ๕
การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๔
เมื่อสภาการพยาบาลไดร้ับเรื่องการกล่าวหา หรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๓๓ หรือในกรณีที่คณะกรรมการมีมติว่ามีพฤติการณ์อนัสมควรให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ของผปู้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ผใู้ดให้เลขาธิการ เสนอเรื่องดงักล่าวต่อประธานอนุกรรมการจริยธรรมโดยไม่ชกัชา้
มาตรา ๓๕
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามญัประกอบ ดว้ยประธานคนหน่ึง และอนุกรรมการมีจา นวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีหนา้ที่แสวงหาขอ้เท็จจริงใน เรื่องที่ไดร้ับตามมาตรา ๓๔ แลว้ทา รายงานพร้อมทั้งความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
มาตรา ๓๓
บุคคลผซู้่ึงไดร้ับความเสียหายเพราะผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มี สิทธิกล่าวหาผูก้่อให้เกิดความเสียหายนั้น โดยทา เรื่องยื่นต่อสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๖
เมื่อคณะกรรมการไดร้ับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมแลว้ ให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดงักล่าว
มาตรา ๓๒
ผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตอ้งรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามที่ได้ก าหนดไวใ้นขอ้บงัคบัสภาการ พยาบาล
มาตรา ๓๗
ใหค้ณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามญั ประกอบ ดว้ยประธานคนหน่ึง และอนุกรรมการมีจา นวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีหนา้ที่สอบสวน สรุปผลการ สอบสวนและเสนอสา นวนการสอบสวน พร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อวินิจฉยัชี้ขาด
มาตรา ๓๑
ผขู้อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตตอ้งเป็นสมาชิกสามญัแห่งสภาการพยาบาลและ มีคุณสมบัติอื่นตามที่ก าหนดไวใ้นข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๘
ในการปฏิบตัิหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจริยธรรมและของคณะอนุกรรมการ สอบสวนตามพระราชบญัญตัินี้ ให้อนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนเป็นเจา้พนกังานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มีอา นาจเรียกบุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคา และมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใดๆ ส่ง เอกสารหรือวตัถุ เพื่อประโยชน์แก่การดา เนินงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว
มาตรา ๓๐
ผมู้ีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผปู้ระกอบวชิาชีพตามมาตรา ๒๙
มาตรา ๒๙
การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท คือ ผปู้ระกอบวชิาชีพ การพยาบาล ผปู้ระกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์และผปู้ระกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ผปู้ระกอบวชิาชีพในแต่ละประเภทตามวรรคหน่ึงใหแ้บ่งเป็นสองชั้น คือ ชั้นหน่ึง และชั้นสอง (๔)ใบอนุญาตทุกประเภทใหม้ีอายหุา้ปีนบัแต่วนัที่ออกใบอนุญาต
มาตรา ๓๙
ใหป้ระธานอนุกรรมการสอบสวนแจง้ขอ้กล่าวหา หรือขอ้กล่าวโทษพร้อมทั้งส่ง สา เนาเรื่องที่กล่าวหา หรือกล่าวโทษ ให้ผถูู้กกล่าวหาหรือผูถู้กกล่าวโทษไม่น้อยกว่าสิบห้าวนัก่อนวนัเริ่ม ทา การสอบสวน
มาตรา ๒๘ (๓)
การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกหนังสือ อนุมตัิหรือวุฒิบตัรเกี่ยวกับความรู้หรือความชา นาญเฉพาะทาง และหนงัสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้เป็นไปตามขอ้บงัคบัสภาการพยาบาล
มาตรา ๔๑
เมื่อคณะกรรมการไดร้ับส านวนการสอบสวน และความเห็นของคณะอนุกรรมการ สอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสา นวนการสอบสวนและความเห็นดังกล่าว คณะกรรมการอาจใหค้ณะอนุกรรมการสอบสวนทา การสอบสวนเพิ่มเติมก่อนวนิิจฉยัชี้ขาดก็ได ้
มาตรา ๒๗
ห้ามมิให้ผใู้ดซ่ึงมิไดเ้ป็นผปู้ระกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิไดเ้ป็นผปู้ระกอบ วิชาชีพการผดุงครรภ์ หรือมิไดเ้ป็นผปู้ระกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กระทา การพยาบาล หรือการผดุงครรภ์ หรือแสดงดว้ยวิธีใด ๆ ให้ผอู้ื่นเขา้ใจว่าตนเป็นผูม้ีสิทธิประกอบวิชาชีพดงักล่าว โดย มิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เวน้แต่ในกรณีอย่างใดอย่างหน่ึง
มาตรา ๔๒
ให้เลขาธิการแจง้คา สั่งสภาการพยาบาลตามมาตรา ๔๑ ไปยงัผถูู้กกล่าวหาหรือผู้ ถูกกล่าวโทษเพ่ือทราบโดยไม่ชกัช้าและให้บนัทึกขอ้ความตามคา สั่งนั้นไวใ้นทะเบียนผูป้ระกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ดว้ย
มาตรา ๔๐
เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนทา การสอบสวนเสร็จสิ้นแลว้ให้เสนอสา นวนการ สอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้าเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา ๔๔
ผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซ่ึงอยู่ในระหว่างถูกสั่งพกัใช้ใบอนุญาต ผูใ้ดกระทา การฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ และถูกลงโทษจา คุกตาม มาตรา ๔๖ โดยคา พิพากษาถึงที่สุด ให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผูน้ั้นตั้งแต่วนัที่ศาลมี คา พิพากษาถึงที่สุด
มาตรา ๔๕
ผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซ่ึงถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกไดเ้มื่อพน้สองปีนบัแต่วนัที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ถ้าคณะกรรมการได้พิจารณาคา ขอรับใบอนุญาตและปฏิเสธการออกใบอนุญาตผูน้ั้นจะยื่นคา ขอรับ ใบอนุญาตได้อีกต่อเมื่อสิ้นระยะเวลาหน่ึงปีนับแต่วันที่คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต ถา้คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาตเป็นครั้งท่ีสองแลว้ ผูน้ั้นเป็นอันหมดสิทธิขอรับใบอนุญาตอีก ต่อไป
หมวด ๕ ทวิ (๑)
พนักงานเจ้าหน้าท่ี
มาตรา ๔๕ ตรี
ในการปฏิบตัิหนา้ที่ พนกังานเจา้หนา้ที่ตอ้งแสดงบตัรประจา ตวัพนกังานเจา้ หน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวขอ้ง บตัรประจา ตวัพนักงานเจา้หน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที่ก าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๕ จัตวา
ในการปฏิบตัิหนา้ที่ ให้พนกังานเจา้หน้าที่เป็นเจา้พนกังานตามประมวล กฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ ทวิ
ให้พนกังานเจา้หนา้ที่มีอา นาจเขา้ไปในสถานที่ต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบใบ อนุญาต คน้หรือยึดเอกสารหลกัฐาน หรือสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลกัฐานในการพิจารณาหรือดา เนิน คดี ระหว่างเวลาพระอาทิตยข์ึ้นถึงพระอาทิตยต์กหรือเวลาที่ทา การของสถานท่ีดงักล่าว
มาตรา ๔๕ เบญจ
ในการปฏิบตัิหนา้ที่ของพนกังานเจา้หนา้ที่ ให้ผรู้ับผิดชอบหรือปฏิบตัิหนา้ที่ ในสถานที่ตามมาตรา ๔๕ ทวิ อา นวยความสะดวกในการปฏิบตัิงานของพนักงานเจา้หน้าที่
หมวด ๖
บทกา หนดโทษ
มาตรา ๔๘
ผใู้ดไม่มาใหถ้้อยคา หรือไม่ส่งเอกสารหรือวตัถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจง้ใหส้่งตาม มาตรา ๓๘ ตอ้งระวางโทษจา คุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงพนับาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ
มาตรา ๔๗
ผูใ้ดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสาม ตอ้งระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงพนับาท
มาตรา ๔๘ ทวิ(๑)
ผใู้ดไม่อา นวยความสะดวกแก่พนกังานเจา้หนา้ที่ตามความในมาตรา ๔๕ เบญจ ตอ้งระวางโทษจา คุกไม่เกินหน่ึงเดือนหรือปรับไม่เกินหน่ึงพนับาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ
มาตรา ๔๖
ผใู้ดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๔๓ ตอ้งระวางโทษจา คุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล*
มาตรา ๔๙
ผใู้ดไดข้ึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผปู้ระกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบนัในสาขา การพยาบาล สาขาการผดุงครรภ ์ หรือสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ ์ ตามกฎหมายว่าดว้ยการควบคุม การประกอบโรคศิลปะอยู่แล้วในวนัที่พระราชบญัญตัินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ถือว่าผูน้ั้น เป็นสมาชิกสามญัของสภาการพยาบาลตามพระราชบญัญตัินี้
มาตรา ๕๐
ผใู้ดไดข้ึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผปู้ระกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบนั ในสาขา การพยาบาล สาขาการผดุงครรภ์ หรือสาขาการพยาบาลและผดุงครรภ์ ตามกฎหมายว่าดว้ยการควบคุม การประกอบโรคศิลปะ และใบอนุญาตนั้นยงัคงใชไ้ดใ้นวนัที่พระราชบญัญตัินี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ถือว่าผนู้ั้นไดข้ึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผปู้ระกอบวิชาชีพในประเภทและชั้นแลว้แต่กรณี ตาม พระราชบญัญตัินี้
มาตรา ๕๑
ในระยะเริ่มแรกที่ยงัมิไดเ้ลือกตั้งสมาชิกสามญัของสภาการพยาบาลเป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการประกอบดว้ยปลดักระทรวงสาธารณสุขเป็นนายกสภาการพยาบาล และผูซ้่ึงไดร้ับ แต่งตั้งมาตรา ๑๔ เป็นกรรมการ การแต่งตั้งดงักล่าวจะตอ้งกระทา ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวนันับ แต่วนัที่พระราชบญัญตัินี้ใช้บงัคบั
มาตรา ๕๒
ในระหว่างที่ยังมิไดอ้อกระเบียบหรือขอ้บงัคบัเพื่อปฏิบตัิการตามพระราชบญัญตัินี้ ให้นา กฎกระทรวง ระเบียบหรือประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าดว้ยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะใน ส่วนที่เกี่ยวกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์มาใช้บงัคบัโดยอนุโลม แต่ทั้งนี้ตอ้งไม่เกินหน่ึงปีนบั แต่วนัที่พระราชบญัญตัินี้ใชบ้งัคบั
บทที่ 4.2 ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบอาชีพ
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวชิ าชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔ “การเจ็บป่วยวิกฤต” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึง แกชี วี ติ หรือพิการได้
หมวด ๒
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง ให้กระทําการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล หรือ เมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล หรือ เมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ส่วนที่ ๒ การทําหัตถการ
ข้อ ๘
๘.๑ การทําแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผล การตัดไหม การผ่าฝีในตําแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสําคัญของร่างกาย การถอดเล็บ และการจี้หูดหรือจี้ตาปลา
๘.๒ การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตําแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสําคัญ ของร่างกายออก โดยฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
๘.๓ การล้างตา
ข้อ ๙ กระทําการพยาบาลโดยการทําหัตถการ ต่อไปนี้ จะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนดและได้รับใบรับรอง จากสภาการพยาบาล
ส่วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
หมวด ๓
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๑๘ จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
4.3ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากดั และเงื่อนไขในการประกอบวิชาชพี การพยาบาลและการผดงุครรภ์ฉบับที่๒)
ข้อ ๑. ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๒. ขเอบังคับน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓. ผูเประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นหน่ึง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล ให้กระทําการพยาบาล การคัดกรองผู้ป่วย การเจ็บป่วยทางตาฉุกเฉิน หรือการเจ็บป่วยวิกฤต และการฟื้นฟูสมรรถภาพการมองเห็น
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ ชั้นหนึ่ง ท่ีผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาท่ีสภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นย เมื่อปรากฏ ตรวจพบ หรือ เห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มข้ึน มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน หรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการ บําบัดรักษา เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์บําบัดรักษา เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามท่ีสภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๘ เขียนบนั ทึกรายงานเก่ียวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการและการเจ็บป่วย โรค และการให้การรักษาโรคหรือการให้บริการตามความเป็น จริงและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐา
4.4
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยข้อจากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓)
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
(๑) การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
(๒) การวางแผนบาบัดหรือรักษาโรค
(๓) การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
(๔) การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล (Clinical Nursing Practice Guideline (CNPG)) หรือเป็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม (Clinical Practice Guideline (CPG)) และ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลไม่เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์หรือวินิจฉัย เว้นแต่กรณีการให้บริการแก่ผู้รับบริการ รายที่ตนเองเป็นผู้ดูแลในลักษณะการตรวจ ณ จุดดูแลผู้รับบริการ (Point of care testing) ได้แก่ การตรวจระดับน้าตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
ข้อ ๕ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดดาส่วนปลาย
ข้อ ๖ การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ตามแผนการรักษา ให้จัดเก็บจากสายสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้เปิดไว้แล้ว
5.5 ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลวาด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต้วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ยอมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมาย ของบ้านเมือง
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรอื ลัทธิการเมือง
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกร้อง สินจ้างรางวัลพิเศษนอกเหนือจากค่าบริการที่ควรได้รับตามปกติ
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาล หรือ การผดุงครรภเพื่อผลประโยชนของตน
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นคำตอบแทนเนื่องจาก การรับหรือส่งผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการเพื่อรับบริการทางการพยาบาลหรือการผดุงครรภ
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจาก การบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชนของตน
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย และ ความส้ินเปลืองของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ ทางการแพทย์อันไม่เปิดเผยสวนประกอบ
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้นเองไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็น โดยไม่สุจริตในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการ ซึ่งตนทราบมา เนื่องจากการประกอบวิชาชีพเว้นแต่ด้วยความยินยอมของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ หรือเมื่อต้องปฏิบัติ ตามกฎหมายหรือตามหน้าที่
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอรองและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่ ในเหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล หรือในการปฏิบัติหน้าที่การงานของกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องคการบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องคการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือสภากาชาดไทย
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ใช่หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ การประกอบวิชาชีพด้านการแพทยหรือการสาธารณสุขหรือการประกอบโรคศิลปะ โดยผิดกฎหมาย
สวนที่ ๒ การปฏิบัติตอผูรวมวิชาชีพ
นางสาว จันจิรา ผ่านดาวเทียม 6001210880 เลขที่ 37 B