Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วย 10 การป้องกันภาวะเสี่ยงและอุบัติเหตุที่พบบ่อย - Coggle Diagram
หน่วย 10 การป้องกันภาวะเสี่ยงและอุบัติเหตุที่พบบ่อย
การหกล้ม
การเปลี่ยนท่าโดยไม่ตั้งใจ เป็นผลให้ร่างกายทรุดหรือลงนอนกับพื้น อาจเกิดจากอาการหน้ามืดเป็นลม ขาอ่อนแรง การสะดุด เกี่ยวดึง ลื่นไถล เป็นต้น
อุบัติการณ์การหกล้มในผู้สูงอายุ
พบว่าการหกล้มร้อยละ 50-67 เป็นการหกล้มที่เกิดขึ้นในบ้าน ผู้สูงอายุเพศหญิงจะมีอัตราการหกล้มสูงกว่าผู้สูงอายุเพศชาย
สาเหตุการหกล้ม
ความบกพร่องของการมองเห็น
การลดลงของความชัดเจนและการรับรู้ความลึกตื้น
การลดลงของลานสายตาทำให้ผู้สูงอายุมองไม่เห็นถึงคน หรือวัตถุที่เคลื่อนเข้าใกล้
รูม่านตาขนาดเล็กลง ทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถรับภาพได้ดีในเวลาแสงสลัว
ความเสื่อมต่อการเห็นภาพสีทำให้เกิดปัญหาในการรับรู็ภาพของพื้น
ความบกพร่องของการทรงตัว
ในวัยสูงอายุมีกลไกการทำงานที่ควบคุมการทรงตัวของอวัยวะต่างๆลดลง
ผู้สูงอายุบางรายมีปัญหาการทำงานของอวัยวะหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวผิดปกติ เกิดอาการบ้านหมุน (Vertigo) นำไปสู่การหกล้มได้
ความบกพร่องของการเดิน
ผู้สูงอายุจะมีความแข็งแรงและความสามารถในการประสานงานของกล้ามเนื้อลดลง มีการเสื่อมของข้อต่อและเอ็นรอบข้อ
ไม่สามารถยกเท้าได้สูงเท่ากับที่เคยทำได้ มีการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวของสะโพกทำให้สะดุดเมื่อเดินบนพื้นที่ขุรขระหรือมีระดับต่างกัน
ความผิดปกติของหัวใจหรือหลอดเลือด
หลอดเลือดตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง
ความดันโลหิตต่ำส่งผลให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นลมและหกล้มได้
ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่าหรือหลังรับประทานอาหาร ทำให้หน้ามืดและเวียนศีรษะ
การรับความรู้สึกของระบบประสาทและสมองผิดปกติ
สมองเสื่อม เนื้อสมองตาย โรคหลอดเลือดสมองและพาร์กินสัน ทำให้ระบบการควบคุมจากสมองส่วนกลางผิดปกติ ส่งผลให้การทำงานที่ประสานกันของอวัยวะและระบบในการทรงตัวสูญเสียไป ทำให้เกิดการหกล้มได้
การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ
ความไม่มั่นคงบริเวณข้อสะโพก ข้อเข่าหรือข้อเท้า
ข้อเสื่อม การอักเสบของข้อ
การอ่อนแรงหรือลีบตัวของกล้ามเนื้อ การอักเสบ ของกล้ามเนื้อ
ความผิดปกติของเท้า ลักษณะเท้าผิดปกติมีการหนาตัวของผิวหนังที่ฝ่าเท้าทำให้เกิดตาปลา
ความผิดปกติของสมดุลกรดด่าง เกลือแร่ในร่างกาย
ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเชื้อ มักมีสมดุลของกรดด่าง เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้เกิดอาการซึมหรือสับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ได้รับยาหลายชนิด
ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาเกิดพิษข้างเคียงของยา
ผู้สูงอายุที่ได้รับยามากกว่า 4 ชนิด ทำให้อัตราเสี่ยงของการหกล้มเพิ่มขึ้น
ยาที่ทำให้ผู้สูงอายุหกล้ม: ยานอนหลับ ยาระงับประสาท ยาขยายหลอดเลือด ยาขับปัสสาวะ ยาบำบัดทางจิต
ยาบำบัดทางจิต
ภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุ
ผลกระทบของการหกล้ม
นำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ หมดสติ กระทบกระเทือนต่อสมอง กระดูกหัก บริเวณข้อสะโพก ข้อมือ
ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือรับการผ่าตัดและฝึกเดินใหม่ ก่อให้เกิดภาวะพึ่งพาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างป่วยหรือผ่าตัด เช่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แผลกดทับ ปอดบวม
ผลกระทบทางด้านจิตใจ เกิดความอาย วิตกกังวล กลัวการหกล้ม มีภาวะซึมเศร้า หมดความมั่นใจในตนเอง ทำให้ลดกิจกรรมการเข้าสังคม เก็บตัว
การที่ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวจะส่งผลให้สูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ข้อยึดติด ไม่มั่นใจในการเดิน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การรักษาผ่าตัดได้รับยา ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัว
การป้องกันการหกล้ม
จัดสิ่งแวดล้อมให้มีทางเดินมีความสว่างเพียงพอ ไม่ควรเป็นแสงจ้าและจัดวางกระจกหลีกเลี่ยงไม่ไห้แสงสะท้อนเข้าตา
พื้นทางเดินควรเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง ไม่ลื่น ทำเครื่องหมายบริเวณที่มีความต่างระดับ ไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง พื้นแห้ง กระเบื้องปูพื้น หรือพรมใช้สีที่เหมาะสมไม่ทำให้เกิดตาลาย
พื้นห้องน้ำมีการปูพื้นกันลื่น ติดตั้งราวยึดจับบริเวณที่นั่งขับถ่ายหรือที่อาบน้ำ ใช้ที่นั่งขับถ่ายชนิดนั่งได้ ประตูห้องน้ำควรเป็นแบบเปิดออกด้านนอก และที่ล็อคควรเปิดออกจากภายนอกได้
เก้าอี้มีความสูงขนาดวางเท้าได้พอดี ความกว้างของเก้าอี้มีขนาดพอที่ผู้สูงอายุนั่งได้สบาย มีฐานเก้าอี้มั่นคง ไม่ควรเป็นเก้าอี้แบบล้อเลื่อน
เตียงนอนควรมีความสูงระดับที่ผู้สูงอายุขึ้นหรือลุกออกจากเตียงได้สะดวก
ชั้นวางของควรมีความสูงระดับที่สามารถหยิบจับสิ่งของได้สะดวก
เสื้อผ้ามีขนาดพอดีกับร่างกายไม่มีส่วนที่รุงรังอาจก่อให้เกิดการสะดุดหกล้ม
รองเท้ามีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับเท้าส้นรองเท้าควรใช้ระดับต่ำ รูปทรงกว้าง
อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนไหวควรมีความแข็งแรง ล้อเข็นควรมีที่ล็อคล้อ ขนาดน้ำหนักและความสูงของอุปกรณ์ มีขนาดพอเหมาะ
การปฎิบัติตนของผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการลื่นล้ม
ออกกำลังกายที่ช่วยทำให้สมดุลการทรงตัวของร่างกายดี ได้แก่ รำมวยจีน โยคะ
รับประทานยาตามขนาดที่แพทย์สั่ง สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด ใจสั่น งุนงง
ในการเดิน เคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่า ไม่ควรรีบร้อนขณะเดินให้ตามองพื้นและไม่ควรถือของสองมือในเวลาเดียวกัน
หลีกเลี่ยงการแหงนหน้า เพราะอาจทำให้หน้ามืด การเหลียวซ้ายและขวา หมุนศีรษะควรทำอย่างช้าๆ
เตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินที่จำเป็นให้อยู่ในที่ๆสามารถมองเห็น/ ใช้อุปกรณ์ เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
การบาดเจ็บ
สาเหตุของการบาดเจ็บ
ไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย
พื้นลื่น พื้นไม่เรียบ
สภาพร่างกายไม่พร้อม มีโรคเรื้อรัง ร่างกายอ่อนเพลีย
สภาพจิตใจไม่พร้อม มีความเครียด ความกังวล
ลักษณะการบาดเจ็บที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
ศีรษะถูกกระแทกทำให้สมองถูกกระทบกระเทือน :
โดยการปฐมพยาบาลคือจัดให้ผู้ป่วยนอนหงายราบคลายเสื้อผ้าและสิ่งที่รัดร่างกายให้หลวม
เนื้อเยื่อฟกช้ำ มีเลือดออกใต้ผิวหนังมองเห็นเป็นจ้ำเลือดสีแดงคล้ำ : การปฐมพยาบาลโดยใช้ความเย็นประคบ พันผ้า หรือยกบริเวณที่บาดเจ็บให้สูงหลัง 24 ชั่วโมงให้ประคบร้อน
แผลถลอก :
การปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือดและใช้ผ้าสะอาดปิดแผลไว้
ข้อเคล็ดหรือแพลง : การพยาบาลโดยประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก พันผ้าไว้และงดการเคลื่อนไหวหลัง 24 ชั่วโมงให้ใช้ครีมนวดทาหรือประคบด้วยน้ำอุ่น
ข้อเคลื่อนหรือหลุด : การพยาบาลโดยยึดด้วยผ้าหรือวัสดุอื่น ใช้ความเย็นประคบให้รับประทานยาแก้ปวดและรีบนำส่งแพทย์
กระดูกหัก : การปฐมพยาบาลโดยประคบเย็นและเข้าเฝือกชั่วคราว และรีบนำส่งแพทย์
ตะคริว : การพยาบาลโดยใช้ความร้อนประคบและนวดกล้ามเนื้อให้คลายตัว
กล้ามเนื้อฉีก : การพยาบาลโดยให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าพักกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้นานที่สุด ใช้ความเย็นประคบภายใน 24 ชั่วโมงแรก ใช้ผ้ายืดพันไว้จากนั้นประคบด้วยน้ำอุ่น
การป้องกันการบาดเจ็บ
ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหรือออกแรงเบ่งมาก เช่น ยกน้ำหนัก
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก เช่น การกระโดด การเดินขึ้นลงบันไดที่สูงมากๆ การนั่งยองๆ การสะบัดแขนหรือขาแรงๆ
ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องใช้ความเร็วสูงหรือเปลี่ยนทิศทางเพราะจะหกล้มได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการแข่งขัน
ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ออกกำลังหรือเคลื่อนไหว ไม่ควรเน้นส่วนหนึ่งส่วนใดมากเกินไปเพราะจะทำให้บาดเจ็บได้
ไม่ควรออกกำลังกายบนพื้นที่ลาดชัน ลื่น ไม่เรียบ เป็นหลุม เป็นบ่อ ใกล้ถนน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยมาก เจ็บกล้ามเนื้อ ควรหยุดออกกำลังกาย
การทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง
เกิดจาก สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลง การแข่งขันความเครียด ความกดดันในชีวิต ครอบครัวมีขนาดเล็กลง
การย้ายถิ่นเพื่อหางานทำของลูกหลาน
อุบัติการณ์การทารุณกรรมและถูกทอดทิ้งในผู้สูงอายุ
ถูกกระทำรุนแรงทางร่างกาย เช่น การทำร้าย ทุบตี กักขัง
กระทำความรุนแรงในด้านจิตใจ เช่น พูดก้าวร้าว ไม่ให้ความเคารพ
ส่วนใหญ่เป็นการกระทำจากคนในครอบครัว
ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับที่ติดสุรา ยาเสพติดและผู้สูงอายุที่ยากจนถือเป็นผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกกระทำรุนแรง
การละเลยเพิกเฉยต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพา
การเอาเปรียบฉกฉวยประโยชน์จากทรัพย์สินของผู้สูงอายุ
ลูกหลานวัยหนุ่มสาวไปขายแรงงานในต่างจังหวัด ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งให้เฝ้าบ้าน เลี้ยงหลาน
เบี้ยยังชีพไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต้องพึ่งพาลูกหลาน อาศัยวัด
สาเหตุของการทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง
สภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้สูงอายุมีลูกน้อยลง
เข้าสู่ภาวะพึ่งพา มีการเจ็บป่วยเรื้อรัง การจะให้ลูกมาดูแลเป็นเรื่องลำบากเพราะลูกต้องทำงาน
การป้องกันการทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง
หากพบปัญหาผู้สูงถูกทารุณกรรมและถูกทอดทิ้งให้ติดต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของจังหวัด