Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

HEENT - Coggle Diagram

- - - - 1.มีอาการอย่างน้อย 5 ครั้ง
      - 2.อาการปวดศีรษะ เป็นนาน 4-72hr
      - 3.ปวดข้างเดียว ปวดแบบตุบๆ เป็นมากขึ้นพยายามเลี่ยงการเดิน หรือขึ้นบันได
      - คลื่นไส้อาเจียน ไม่ชอบที่มีแสงหรือเสียงดัง
  - - - 1.มีอาการอย่างน้อย 2 ครั้ง
      - 2).อาการที่หายได้เอง 1.การมองเห็น 2.ความรู้สึก 3.การพูดหรือใช้ภาษา 4.การเคลื่อนไหว 5.แกนสมอง 6.จอประสาท
    - - ทางสายตา : เห็นภาพซิกแซก
      - ทางความรู้สึก : ยุบยิบคล้ายเข็มแทง
  - - - 1.มีอาการอย่างน้อย 10 ครั้ง
      - 2.อาการเป็น 30 นาที ถึง 7 วัน
      - 3.มีอาการอย่างน้อย 2 ข้อ คือ 1.ปวด 2 ข้าง 2.ปวดแบบถูกกดหรือแน่นๆ 3.ปวดรุนแรงน้อยถึงปานกลาง
      - 4.ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนน หรือไม่ชอบแสงสว่างหรือเสียงดัง
- - - - อาการ เหนื่อง่าย ใจสั่น มือสั่น กินจุแต่ผอมลง เหงื่อออกมาก ขี้ร้อน หงุดหงิด นอนไม่หลับ อ่อนเเพลีย ปจด.ลดลง
      - การรักษา
        
        1.ให้ยาเสริมฮอร์โมนไทรอยด์
        
        2.ให้ยาต้านการอักเสบและเฝ้าระวังความผิดปกติ
        
        3.ผ่าตัดต่อมไทรอยด์
        
        4.เฝ้าดูอาการและตรวจชิ้นเนื้อ
  - - - ให้สารไอโอดีนในอาหารหรือน้ำดื่ม
      - ให้ไอโอดีนวิตามินรวม
      - รับประทานอาหารที่มีไอโอดีน
      - คอพอกจากสาเหตุอื่นให้ปรึกษาแพทย์
  - - - การให้คำแนะนำ เลี่ยงสิ่งที่แพ้
    - - คำแนะนำ = มาจากเชื้อไวรัส ไม่แนะนำให้ abo ให้ยารักษาตามอาการ
    - - ให้ก้มหน้าลงมากๆ หายใจทางปาก ใช้มือบีบหรือกดปิกจมูก 5-10 นาที ถ้าเลือดไหลไม่หยุดให้เอาก๊อสอุดจมูกเล๋ดๆ ชุบ NSS 1:1000 อุดให้แน่น 2-3 hr แล้วเอาออก
- - - - ชนิดแผลเปื่อยและมีคราบหนอง ควรใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำต้มสุกให้สะอาด แล้วประคบด้วยน้ำอุ่นและป้ายตาด้วยยาที่มี abo 3-4 ครั้ง รับประทาน cloxacillin ยา erythromycin 5-7 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์
      - ชนิดเกร็ดรังแค ไม่มีแผลเปื่อย มีเพียงเกร็ดสีขาวของรังแค ให้ทำความสะอาดเช่นเดียวกัน ใช้แชมพูรักษารังแค
  - - - 1.ถ้าน้ำตาไหลมากกว่าปกติ ให้แนะนำปรึกษาแพทย์ ถ้าท่อน้ำตาอุดตัน ต้องล้างท่อน้ำตา หรือสอนให้แม่เด็กนวดบริเวณหัวตา
      - 2.กรณีถุงน้ำตาอักเสบ ให้ประคบอุ่นและยาแก้ปวด paracetamol และ และยาป้ายตาหรือยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ
  - - - 1.ตาแดง หนังตาบวม ขี้ตาวีเหลืองหรือสีเขียว คือ เยื่อตาขาวอักเสบจากแบคทีเรีย
      - 2.ตาแดง หนังตาบวม คันตา คิดถึง เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส
      - 3.ปวดตา หนังตาบวมแดงอาจมีตุ่มขนาดเล็กเป็นขาวเหลือง กดเจ็บ กุ้งยิง
      - 4.ปวดตา เคืองตา หนังตาบวม มีขอบแผล หนังตาอักเสบ
      - 5.ปวดตา น้ำตาไหลมาก มีตุ่มนูนแดงที่หัวตากดมีหนองไหลออกมา ถุงน้ำตาอักเสบ
      - 6.เคืองตา น้ำตาไหล มีแผ่นเนื้อสีเหลืองสามเหลี่ยมบริเวณหัวตา คือ โรคต้อเนื้อ
      - 7.ปวดลูกตา ปวดศีรษะข้างหนึ่งเฉียบพลันรุนแรง ตาพร่ามัว เห็นแสงสีรุ้ง ต้อหินชนิดเฉียบพลัน
      - 8.ปวดตา ตามัว มองเห็นแคบลง กระจกตาขุ่น กดเปลือกตาข้างที่ปวดจะแข็งกว่าข้างที่ไม่ปวด ต้อหินชนิดเรื้อรัง
      - 9.ตามัว มองชัดในเวลากลางคืนชัดกว่ากลางวัน ต้อกระจก
- - - - ฟื้นฟูทำ vastibular rehabilitation
  - - - รักษาตามอาการ แนะนำให้งดของเค็ม
- - - - ลูกตาผิดปกติเพราะมีช่องลูกตาหน้าแคบและตื้น จึงมีมุมระบายน้ำเลี้ยงลูกตาแคบกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อม่านตาหดตัวหรือขยายตัว เวลาอารมณ์โกรธ ต้อหินชนิดเฉียบพลัน (acute angle-closure glaucoma)
      - ถ้าปล่อยให้เรื้อรัง จะทำให้ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ม่านตาขยาย คือ ต้อหินเรื้อรัง ควรให้ยา atropine
      - 3.กลุ่มคนที่สูงอายุ ภาวะที่แก้วตาหรือเลนส์ตามีลักษณะขุ่นขาวโปร่งเหมือนกระจก ทำให้การมองเห็นมัวทีละน้อย ทึบแสง และลดแสงผ่านเข้าสู่ลูกตาไปภาพรวม คือ ต้อกระจก (Cataract)