Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ปัญหาทางโลหิตวิทยา - Coggle Diagram

- - - - ไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic)
      - การได้รับยาบางชนิด ได้แก่ ยาเคมีบำบัด, Chloramphenical, ยาแก้ปวด, ยากันชัก
      - การได้รับสารเคมีบ่อยๆซึ่งเป็นพิษต่อระบบเลือด เช่น ยาฆ่าแมลง ทินเนอร์
      - เกิดภายหลังการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบ
      - เกิดภายหลังการได้รับรังสีการรักษาใน ขนาดสูง
  - - - เลือดออกในอวัยวะต่างๆมีจุดจ้ำเลือดตามลำตัวและแขนขาเลือดออกตามไรฟันและเลือดกำเดาเลือดออกในทางเดินอาหาร ทำให้มีอาการอาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด
    - - ซีด เหนื่อยง่าย ชีพจรเบาเร็ว และถ้ามีการเสียเลือดร่วมด้วย ทำให้มี
        อาการซีดรุนแรงเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
    - - ติดเชื้อง่าย มีไข้ เป็นแผลในปาก
  - - - ใช้ในผู้ป่วยเด็กที่ไขกระดูกไม่ทำงานขั้นรุนแรง คือ ซีด เลือดออก และติดเชื้อรุนแรง
      - ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
    - - ใช้ในผู้ป่วยเด็กที่มีอาการไม่รุนแรงมาก
      - Androgenจะกระตุ้นให้ร่างกายมีการหลั่ง Erythropoietinซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
    - - Antilymphocyte Globulin (ALG), Antithymocyte Globulin (ATG) หรือ Cyclosporin
      - ใช้ในผู้ป่วยเด็กภาวะโลหิตจางจากไขกระดูกไม่ทำงานที่มีผลต่อการตรวจวินิจฉัยยืนยันว่าไขกระดูกไม่ทำงานจากปฏิกิริยาทางอิมมูน
    - - รักษาประคับประคองตามอาการ ได้แก่ การรักษาด้วยการให้เลือดเมื่อผู้ป่วยมีอาการซีด รุนแรงหรือมีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ การรักษาภาวะติดเชื้อ
- - - - ได้แก่ ฮีโมโกลบินบาร์ทโฮดรอพส์ ฟิทัลลิสเป็นชนิดที่รุนแรงที่สุด ส่วนใหญ่เสียชีวิตในครรภ์มารดา หรือภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังคลอด
      - ทารกมีลักษณะบวมน้ำทั้งตัว คลอดลำบาก ซีด ตับม้ามโต มีรกขนาดใหญ่
    - - โฮโมซัยกัส เบต้า-ธาลัสซีเมียและเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอีแรกเกิดปกติจะเริ่มมีอาการตั้งแต่ ภายในขวบปีแรกหรือหลังจากนั้น
      - ซีด อ่อนเพลีย ตาเหลือง ท้องป่อง ตับม้ามโต กระดูก
        ใบหน้าเปลี่ยน โหนกแก้มสูง ดั้งจมูกแบน ฟันยื่น ตัวเตี้ยแคระแกรน ผิวคล้ำเจริญเติบโตไม่สมอายุ
    - - ฮีโมโกลบินเอ็ช ผู้ป่วยจะมีอาการน้อย
      - ซีด และเหลืองเล็กน้อย หากมีไข้หรือติดเชื้อผู้ป่วยจะซีดลง
  - - - อธิบายให้ผู้ป่วยและผู้ปกครองเข้าใจเกี่ยวกับโรค
        การถ่ายทอดทางพันธุกรรม การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
      - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
        และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ระวังการติดเชื้อ
    - - เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
    - - เพื่อป้องกันและลดภาวะเหล็กเกินในเลือด
    - - รักษา โรคธาลัสซีเมียให้หายได้ ซึ่งจะช่วยให้
        มีการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ปกติในตัวผู้ป่วยได้
      - ทำในกรณีที่ม้ามโตมากจนทำให้เกิดอาการ
        อึดอัด หรือมีภาวะม้ามทำงานมากกว่าปกติ (Hypersplenism
- - - - พร่องแฟคเตอร์ 8 พบได้บ่อยที่สุด ประมาณ 80-85 % ของโรคฮีโมฟีเลีย
    - - พร่องแฟคเตอร์ 9 พบได้ประมาณ 10-15 % ของโรคฮีโมฟีเลีย
    - - พร่องแฟคเตอร์ 11 พบได้ประมาณ 5 % ของฮีโมฟีเลียอาการไม่รุนแรงมีการถ่ายทอดทาง พันธุกรรมแบบ autosomal recessive
  - - - เลือดออกในข้อ (hemarthrosis) โดยเฉพาะข้อเข่า ข้อเท้า ข้อศอก
- - - - ให้วันละ 3 ครั้ง ระหว่างมื้ออาหาร ถ้าให้เหล็กไปพร้อมกับอาหาร หรือให้ร่วมกับนมจะขัดขวางการดูดซึม ทำให้การดูดซึมลดลง
    - - เช่น การให้ยาถ่ายพยาธิ
    - - รายที่มีภาวะซีดมาก หรือมีอาการแสดงของภาวะหัวใจวาย โดยให้เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Packed red cell)