Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยาฉีด - Coggle Diagram
การบริหารยาฉีด
วิธีการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
เตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติม
สำหรับการผสมยาฉีด
ถาด ผ้ารองถาดยา อับสำลี
กระปุก forceps card ยา
ซักถามประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วย
อ่านและตรวจสอบรายละเอียดบนขวดยาหรือหลอดยาเกี่ยวกับชื่อยา
ศึกษาเกี่ยวกับขนาด ฤทธิ์ข้างเคียง วิธีละลายยาในกรณีเป็นยาผง
คำนวณปริมาณยาฉีดที่ผู้ป่วยควรได้รับอย่างถูกต้อง
ดูแลบริเวณสำหรับเตรียมยาให้สะอาด แห้ง มีแสงสว่างเพียงพอ
ตรวจดูความพร้อมของเครื่องมือเครื่องใช้
ล้างมือให้สะอาด เช็ดมือ
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุหลอด (Ampule)
ทำความสะอาดรอบคอหลอดยา
และใบเลื่อยด้วยสำลีชุบalcohol70%
เลื่อยรอบคอหลอดยาพอเป็นรอย
คลี่สำลีชุบ alcohol รองหลังคอหลอดยา
ถ้ามียาค้างอยู่เหนือคอหลอดยาต้องไล่ยาลงไปอยู่ส่วนใต้คอหลอดยา
ถ้าหลอดยามีแถบสีที่คอหลอดยาไม่
จำเป็นต้องเลื่อยคอหลอดยา
เช็ดรอบคอหลอดยาด้วยสำลีชุบ alcohol
คลี่สำลีชุบalcoholหรือ gauze ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรค
หุ้มรอบบริเวณคอหลอดยา
เพื่อป้องกันหลอดยาที่หักปลายแล้วบาดนิ้วมือ
ทำการหักหลอดยา วางหลอดยที่หักปลายแล้วใน
บริเวณที่ไม่ถูกปนเปื้อน
ฉีกซองกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่นพอประมาณ
ถอดปลอกเข็มออก จับหลอดยาด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ถือกระบอกฉีดยาด้วยมือข้างที่ถนัด สอดเข็มเข้าหลอดยา
ระวังมิให้เข็มสัมผัสกับด้านนอกและปากหลอดยา
เอียงหลอดยาให้ปลายตัดเข็มจุ่มในน้ำยา
ดูดยาตามจำนวนที่ต้องการ
ตรวจสอบชื่อยาบนหลอดยาอีกครั้งหนึ่งก่อนทิ้งหลอดยา
เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
ถ้าเตรียมยาสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคนหรือหลายชนิดพร้อมกัน ควรวางกระบอกฉีดยาที่เตรียมยาแล้วบนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุขวด (Vial)
เขย่าขวดยาเบา ๆ ให้ยาเข้ากัน
ทำความสะอาดจุกขวดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยวิธีหมุนจากจุดที่แทงเข็มวนออกด้านนอกจนถึงคอขวดยา
ถ้ามีแผ่นโลหะปิดอยู่บนจุกยางให้ดึงออกแล้วทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
ฉีกซองห่อกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่นพอประมาณ
ถอดปลอกเข็มออก ดูดอากาศเข้ากระบอกฉีดยาเท่าปริมาณยาที่ต้องการ
คว่ำขวดยาลง โดยให้นิ้วดันลูกสูบอยู่ ปรับให้ปลายตัดเข็มอยู่ในน้ำยา
ค่อย ๆ ปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก น้ำยาจากขวดจะไหลเข้ามาในกระบอกฉีดยา
เมื่อได้ยาครบตามปริมาณที่ต้องการ ถอนเข็มและกระบอกฉีดยาออกจากจุกขวดยา
ตรวจสอบชื่อยาบนขวดยาอีกครั้งหนึ่ง
เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
แทงเข็มเข้าจุกยางใช้นิ้วหัวแม่มือดันลูกสูบให้อากาศเข้าขวดยาจนหมด
หกเตรียมยาสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคน หรือหลายชนิดพร้อมกัน
ควรกระบอกฉีดยา (ที่เตรียมยาแล้ว) บนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง และแนบการ์ดยาไว้เพื่อป้องกันการนำยาผิดชนิดไปฉีดให้ผู้ป่วย
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาผงบรรจุขวด (วิธีละลายยา)
ตรวจดูตัวทำละลาย (น้ำกลั่นหรือน้ำเกลือ) ว่ามีฝุ่นผงหรือไม่ โดยคว่ำขวดยกส่องดู หากมีฝุ่นผง ไม่ควรนำมาใช้
ทำความสะอาดจุกขวดตัวทำละลาย และจุกขวดยาด้วยสำลีชุบalcohol70% จนถึงคอขวด ปล่อยให้ alcohol แห้ง
ดูดตัวทำละลายตามปริมาณที่ต้องการ ด้วยวิธีเดียวกับการเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุขวด
ได้ตัวทำละลายแล้วให้ฉีดตัวทำละลายเข้าในขวดยาผง โดยแทงเข็มเข้าจุกขวดยาแล้วดันลูกสูบ
ให้ตัวทำละลายเข้าไปในขวดยาจนหมด
ปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก
เขย่าขวดให้ตัวทำละลายละลายผงจนหมดเป็นเนื้เดียวกัน
ทำความสะอาดจุกขวดยาอีกครั้งด้วยสำลีชุบalcoholปล่อยให้ alcohol แห้ง
ใช้กระบอกฉีดยาพร้อมเข็มชุดเดิม ดูดยาออกจากขวดตามปริมาณที่ต้องการ
ถอนเข็ม และกระบอกฉีดยาออกจากขวดยา
นำปลอกเข็มที่ถอดออกมาสวมครอบเข็มไว
หากยาที่ละลายแล้วใช้ไม่หมด และมีอายุที่จะเก็บไว้ใช้ได้ให้เขียนฉลากติดขวดไว้
ความเข้มข้นของยา วัน เดือน ปีที่ละลาย ผู้ละลาย
เก็บยาไว้ในที่ที่เหมาะสมตามสลากยาที่
แนบมากับยา
กระบวนการพยาบาลในการบริหารยาฉีด
การประเมินสุภาพ
พยาบาลควรมีการประเมินผู้ป่วยก่อนให้ยา
การซักประวัติการได้รับยา การแพ้ยา โรคประจำตัว
การประเมินอาการก่อนและหลังการได้รับยา
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดภาวะเลือดออกง่าย/หยุดยาก เนื่องจากมีประวัติ/รอยโรค
มีโอกาสเกิดการแพ้ยาจากอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
วางแผนการพยาบาล
บริหารยาตามแผนการรักษาของแพทย์
การให้ยาต้องคำนึงถึงหลัก 6Rs (10 Rs)
ปฏิบัติการพยาบาล
ในขั้นการเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมยาฉีด และการฉีดยาตามวิถีทางต่างๆ ตามแผนการพยาบาลที่วางไว้
การประเมินผล
ควรมีการประเมินผู้ป่วยภายหลังจากได้รับยาทุกครั้ง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ตำแหน่งและวิธีการฉีดยาบริเวณต่างๆ
ขั้นเตรียมการก่อนฉีดยา
ตรวจความพร้อมของเครื่องใช้
ถามชื่อ – สกุลของผู้ป่วย รวมถึงประวัติการแพ้ยา
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ
เลือกบริเวณสำหรับฉีดยา ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาในบริเวณที่มีการอักเสบ ช้ำบวม เป็นแผลมีก้อนแข็ง หรือเป็นอัมพาต
จัดท่าและเสื้อผ้าผู้ป่วย เปิดบริเวณที่จะฉีดยาให้กว้างพอ หากเป็นบริเวณที่ไม่ควรเปิดเผยควรปิดประตูหรือกั้นม่าน
ล้างมือให้สะอำด สวมถุงมือ
การฉีดยาเข้าชั้นผิวหนัง (Intradermal injection)
เป็นการฉีดยาเข้าในชั้น
dermis (ชั้นหนังแท้)
เกิดผลเฉพาะที่
การวินิจฉัยโรค
ทดสอบยาหรือสารต่างๆ ยาหรือสารต่างๆ
วิธีการฉีดยา
ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยาจนหมดก่อนฉีดยา
ผิวหนังให้ตึง
แทงเข็มทำมุม 5-15 องศา กับผิวหนัง
หงายปลายตัดเข็มขึ้น และแทงเข้าไป
เพียงให้ปลายตัดเข็มเลยเข้าไปในผิวหนังเล็กน้อย
ไม่ต้องทดสอบว่าปลายตัดเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
สังเกตบริเวณที่ฉีดจะมีตุ่มนูนขึ้นมำ ถ้าไม่มีตุ่มนูน แสดงว่าฉีดลึกเข้ำไปในชั้นใต้ผิวหนัง
ไม่ต้องคลึงบริเวณที่ฉีดยา
ใช้ปากกาลูกลื่นหมึกสีน้ำเงินหรือดำเขียนรอบรอยนูนที่เกิดจากการฉีดยาและบอกผู้ป่วยไม่ให้ลบรอยหมึกที่เขียนไว้ จนกว่าจะอ่านผลเรียบร้อยแล้ว
การฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous injection)
ตำแหน่งสำหรับฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
บริเวณต้นแขนส่วนกลางด้านนอก
บริเวณส่วนกลางของหน้าขา
บริเวณหน้าท้องที่อยู่ระหว่างแนวใต้ช้ายโครงกับแนวของ anterior superior iliac spine ยกเว้นบริเวณรอบสะดือ 1 นิ้ว เพราะมี pain receptor มาก
บริเวณสะบัก
ทำผิวหนังให้ตึงก่อนแทงเข็ม หรือการใช้นิ้วมือจับรวบเนื้อเยื่อบริเวณที่จะฉีดเข้าหากัน
แต่วิธีหลังนี้จะไม่ใช้ในการฉีด heparin
การแทงเข็มถ้าใช้เข็มยาว 5/8 นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 45 องศา ถ้าใช้เข็มยาว ½ นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 90 องศา
การฉีด heparin ไม่ต้องทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
การฉีด heparin และ insulin ห้ามคลึงบริเวณที่ฉีดยาแล้ว
การฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
การหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน
(Deltoid muscle)
อยู่ต่ำกว่าขอบล่างของ acromion process 2 นิ้ว
เป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมาก
ควรฉีดบริเวณส่วนกลางของกล้ามเนื้อ
ซึ่งมีขอบเขตเป็นรูปสามเหลี่ยม
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อสะโพก
(Glutens muscle)
แบ่งสะโพกออกเป็น 3 ส่วน
ใช้ landmark 2 แห่ง
anterior superior iliac spine
coccyx
ลากเส้นสมมุติระหว่าง 2 จุด
เส้นสมมุติออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน
แบ่งสะโพกออกเป็น 4 ส่วน
ด้านบน มีขอบเขตตามแนวของ iliac crest
ด้านล่าง มีขอบเขตตำมแนวของก้นย้อย (glutealfold)
ด้านใน (medial) มีขอบเขตตามแนวแบ่งครึ่งจากกระดูก Coccyx ขึ้นไปตามแนวแบ่งครึ่งของกระดูก sacrum
ด้านนอก (lateral) มีขอบเขตตามแนวด้านข้างของต้นขาและสะโพก
ลากเส้นจาก posterior superior iliac spine ไปยังปุ่มกระดูกต้นขา (greater trochanter of the femur)
เส้นนี้จะขนานกับ sciatic never ตำแหน่งที่ฉีด
ส่วนบนด้านนอกของเส้น
ต่ำจากขอบกระดูกเชิงกราน 2-3 นิ้วฟุต
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ Vastus lateralis (กล้ามเนื้อหน้าขา)
แบ่งหน้าขาตามความยาว (จาก greater trochanter ไปยัง lateral femoral condyle)
ออกเป็น 3ส่วน ส่วนกลางเป็นส่วนที่เหมำะสมสำหรับฉีดยา
วิธีการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยหมุนออก จากจุดที่จะแทงเข็มให้เป็นวงกว้างประมาณ 2-3 นิ้ว ปล่อยให้ alcoholแห้ง
ถอดปลายเข็มออก จับกระบอกฉีดยาตั้งขึ้น ไล่อากาศ
ถือกระบอกฉีดยาด้วยมือข้างถนัด ส่วนมือข้างไม่ถนัดทำผิวหนังบริเวณฉีดยาให้ตึง โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กางออกขณะกดลงบนผิวหนัง
แทงเข็มด้วยความเร็วและมั่นคง แทงเข็มทำมุม 90 องศา
ยึดหัวเข็มและกระบอกฉีดยาให้มั่นคง (ไม่โยกไปมา และไม่เลื่อนขึ้นลง) ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด และใช้มือข้างถนัดดึงลูกสูบขึ้นเล็กน้อย
เพื่อทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่ ถ้าไม่มีเลือดเข้ามาในกระบอกฉีดยา ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างถนัดดันลูกสูบเดินยาช้ำ ๆ
ถ้ามีเลือดเข้ามาในกระบอกฉีดให้ยกเลิกการฉีดยานั้น และเตรียมยาฉีดใหม่
เมื่อยาหมดให้ใช้สำลีกดตำแหน่งแทงเข็ม
ขณะที่ถอนเข็มออกด้วยความรวดเร็ว
คลึงบริเวณฉีดยาเบา ๆ เพื่อช่วยให้ยาดูดซึมได้เร็วขึ้นและลดอาการเจ็บปวดได้ ด้วย (ยกเว้นยาที่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก)
ปลดเข็มออกจากกระบอกฉีดยา แยกเข็มฉีดยาทิ้งในชามรูปไต หรือภาชนะ สำหรับทิ้งเข็มโดยเฉพาะเพื่อนำเข็มไปทำลายต่อไป
จัดเสื้อผ้าผู้ป่วยให้เรียบร้อย และจัดให้อยู่ในท่าที่สบาย (ถ้ำเป็นผู้ป่วยนอก ควรให้ผู้ป่วยพักเพื่อสังเกตอาการประมาณ 15 นาที)
ล้างมือให้สะอาด
การบรรเทาความเจ็บปวดจากการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
เลือกเข็มเบอร์เล็กที่สุดที่เหมาะสมกับชนิดของยาและตำแหน่งที่จะฉีดยา
เข็มที่ใช้ฉีดยาจะต้องไม่มียาเคลือบอยู่ภายนอก เพราะยาจะระคายเคืองเนื้อเยื่อที่เข็มแทงผ่าน ทำให้ผู้ป่วยปวดและมีอันตรายต่อเนื้อเยื่อได้
ใช้ Z-track technique ในการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ จะทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อยลงกว่าวิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อแบบดั้งเดิม
จัดท่าให้ผู้ป่วยผ่อนคลายที่สุด จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและไม่สุขสบายลงได้
อย่าฉีดยาบริเวณที่เนื้อเยื่อแข็งตัวหรือกดเจ็บ
แทงเข็มและดึงเข็มออกจากเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว ในทิศทางเดียวกัน
จับกระบอกฉีดยาให้อยู่กับที่ขณะฉีด
เดินยาช้ำๆ เพื่อให้ยากระจายไปรอบๆ เนื้อเยื่อได้ดี กดบริเวณที่ฉีดเบาๆ หลังฉีดยา ยกเว้นมีข้อห้าม
การคำนวณขนาดยา
2 ขั้นตอน
ขั้นตอนการเตรียมยา
ขั้นตอนการฉีดยา
วิธีการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
อุปกรณ์สำหรับการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
ยาฉีด (Medication)
ยาที่บรรจุในหลอดจะเป็นยำน้ำซึ่งใช้ฉีดครั้งเดียว (single dose)
ใช้ไม่หมดต้องทิ้ง
หลอดยาถูกหักแล้วจะไม่สามารถรักษาให้อยู่ในสภาพปราศจากเชื้อได้
หลอดยาที่มีวงสีรอบคอหลอดยา แสดงว่าหลอดยานั้นจะหักได้ง่ายไม่ต้องใช้เลื่อย
ยาที่บรรจุในขวดจะมีทั้งชนิดที่เป็นผงและยาน้ำ
single dose และ multiple dose
ยาที่เป็นผงจะมีความคงตัวต่ำ
จุกขวดจะเป็นยาง
มีแผ่นโลหะยึดรอบริมของขอบจุกยางไว้กันปากขวด
ส่วนกลางของจุกยางจะบางเพื่อให้ง่ายต่อการแทง
บนหลอดยาหรือขวดยา
ชื่อยา ปริมาณยา
วิถีทางให้ยา
วันหมดอายุของยา
ยาฉีดบางชนิดที่เป็นผง
บอกชื่อ
ปริมาณของตัวทาละลายยาไว
กระบอกฉีดยา (Syringe)
มีหลายขนาดตั้งแต่ 0.5-50 ml
กระบอก (barrel)
มีปลาย (tip) ที่มีขนาดสวมได้พอดีกับหัวเข็มฉีดยา
ลูกสูบ (plunger)
เข็มฉีดยา
เป็นชนิดใช้ครั้งเดียว (disposable)
ส่วนมากทำจาก stainless steel
ประกอบด้วย 3 ส่วน
หัวเข็ม (hub)
ตัวเข็ม (shaft)
ปลายเข็ม (bevel or slanted tip)
ปลายเข็มและตัวเข็มจะมีปลอกพลำสติกครอบไว้
หัวเข็มสามารถจับต้องได้
ตัวเข็มและปลายเข็มจับต้องไม่ได้
การเลือกเข็มฉีดยา
พิจารณาจากความลาดเอียง
หรือความยาวของปลายปาด
ความยาวของตัวเข็มฉีดยา
เบอร์เข็ม มีตั้งแต่เบอร์ 18 ถึง 28
เบอร์เข็มใหญ่ ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลาง
ของตัวเข็มจะเล็ก
เบอร์เข็มเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจะใหญ่ขึ้น
เกณฑ์การเลือกกระบอกฉีดยา
ทางที่ให้ยาเข้าสู่ร่างกาย (route of administration)
ฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อใช้
เข็มยาวกว่าฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง และชั้นผิวหนัง
ความหนืดของยา (viscosity of the solution)
ปริมาณของยาที่จะฉีด
ขนาดรูปร่างของผู้ป่วย
ชนิดของยา
ฉีดยาอินซูลิน ต้องใช้กระบอกฉีดยาสำหรับฉีดอินซูลินโดยเฉพาะ