Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลมารดาทารกในการคลอดปกติ G3P1A1L1 GA 40+1 wks. with labor pain with…

- - - - 1.ไม่สบายเจ็บครรภ์เนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัวที่นานและแรงในระยะ Latent phase
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S : “เจ็บครรภ์ถี่ตั้งแต่ 04.00 น.”
        O : สีหน้าท่าทางเจ็บปวด PS = 6 คะแนน PV(07.45 น.)
        Cx= 2 Cm , Eff = 80% , Station –1, MI, I4’30 “D30
        
        เป้าหมาย : สามารถเผชิญความเจ็บปวดได้ตลอดระยะเวลาของการคลอด
        
        เกณฑ์การประเมิน
        1.เมื่อลูกมีการหดตัวเผชิญความเจ็บปวดได้
        2.สามารถผ่อนคลายความเจ็บปวดได้ด้วยตนเอง
        3.PS < 6 คะแนน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1)ประเมินความเจ็บปวดของผู้คลอดโดยใช้ Pain Scale
        
        2)อธิบายให้ผู้คลอดที่เกี่ยวกับกระบวนการคลอดและแผนการรักษา
        
        3)ดูแลจัดท่านอนที่สุขสบาย
        
        4)วัด V/S ทุก 60 นาที ฟัง FHS
        
        5)แนะนำเทคนิคผ่อนคลายความเจ็บปวดสอนหายใจแบบ (Slow Chest breathing)
        
        6)อยู่ใกล้ชิดและให้กำลังใจ
        
        ผลการประเมิน : เผชิญความเจ็บปวดด้วยตนเองได้ Ps = 5 คะแนน ผ่อนคลายความเจ็บปวด ด้วยตนเอง
      - 2.ไม่สบาย เจ็บครรภ์ เนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัวถี่นานและรุนแรงในระยะ Active phase
        
        ข้อมูลสนับสนุน S : “เจ็บถี่ครรภ์ถี่ขี้น รู้สึกว่าอยากเบ่ง บอกว่าไม่ไหว” O : “สีหน้าที่ทางเจ็บปวด PS = 8 คะแนน Cx=7cm, Eff 80%, MI, station +1, I : 2’30 “D40”
        
        เป้าหมาย : เผชิญความ*เจ็บปวดได้
        
        เกณฑ์การประเมิน : ผ่อนคลายความเจ็บปวดได้เอง PS < 8 คะแนน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1)ประเมินความเจ็บปวดของผู้คลอด
        
        2)อธิบายให้ผู้คลอดเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคลอด
        
        3)ทบทวนวิธีการผ่อนคลาย สอนหายใจแบบ Shallow Chest breathing
        
        4)วัด V/S q ทุก 30 นาที ฟัง FHS
        
        5)ดูแลพักผ่อนในท่าที่สุขสบาย เปลี่ยนท่าบ่อยๆ
        
        ผลการประเมิน มารดาสามารถเผชิญความเจ็บปวดได้ PS = 7 คะแนน สามารถผ่อนคลายความเจ็บปวดได้ด้วยตนเอง
        ทารก
    - - 1 เสี่ยงต่อภาวะ Fetal distress ในระยะ Active phase เนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัวถี่นานและรุนแรงขึ้น
        
        ข้อมูลสนับสนุน O : มารดาหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อมดลูกหดรัดตัว PV 10.45 น. Cx= 7 cm, Eff=80%Station+1, MI, I2’30 “D40”
        
        เป้าหมาย : ทารกไม่เกิดภาวะ Fetal distress
        
        เกณฑ์การประเมิน : 1)FHS อยู่ในช่วงปกติ (120-160 นาที)
        2)Uterine contraction อยู่ในเกณฑ์ปกติ I = 2-3นาที D = 45-60 วินาที
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1)Record Uterine contraction, FHS ทุก 30 นาที
        
        2)หาสาเหตุของมดลูกหดรัดตัวไม่ดี เช่น Bladder full กระตุ้นให้ void ถ้า void ไม่ได้ให้สวนทิ้ง
        
        3) PV q 2hr
        
        4)แนะนำให้นอนตะแคงซ้ายเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกได้ดีและทารกได้รับ O2 เพียงพอ
        
        ผลการประเมิน : FHS อยู่ในช่วง 110-160 ครั้ง/นาที I 2’30 “D50”
  - - - 1.ส่งเสริมการคลอดในระยะที่ 2 ให้ดําเนินไปตามปกติ
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        O : PV แรกรับ เวลา 10.00 น. Cx. dilate 3 cms. Effacement 80% Ml station 0
        เวลา 11.15 น. Fully dilate ,Eff 100%,Station + 2 , MI ,Interval 2 ' Duration 50" ย้ายคลอด
        
        เป้าหมาย :ให้การคลอดในระยะที่ 2 ดําเนินไปตามปกติ
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        การดําเนินของการคลอดในครรภ์หลัง 30 นาที–1 ชม.
        
        มารดาเบ่งได้ถูกวิธี เบ่งแล้วไม่หน้าแดง ขณะเบ่งไม่ยกสะโพกและเบ่งไม่มีเสียง
        
        ขณะเบ่งมีการเคลื่อนตํ่าของส่วนนํา
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการแลอาการแสดงของผู้คลอดว่าเข้าสู่ระยะที่ 2 ของการคลอด ดังนี้ มีอาการปวดเบ่ง ถุงน้ำทุนหัวแตก มี mucous bloody show บริเวณปากช่องคลอดเพิ่มมากขึ้นตรวจภายในพบปากมดลูกเปิดมด 10 ซม
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและ ฟัง FHS ทุก 5 นาที
        
        3.สอนการเบ่งให้ถูกวิธีแก่ผู้คลอดเมื่อมดลูกมีการหดรัดตัว คือ เมื่อมดลูกหดรัตตัวให้สุดลมหายใจเข้าปอดให้ เต็มที่ แล้วกลั้นหายใจชั่วขณะ อัดกำลังเบ่งลงสู่ก้นข้างล่างเหมือนเบ่งถ่ายให้เต็มที่ ไม่ขยับกันไปมา ยกศีรษะ ขึ้นคางชิดอก ไม่ออกเสียงเพราะจะทำให้แรงเบ่งลดลง การเบ่งควรเบ่งช้าๆ ประมาณ 3-4 ครั้ง ขณะที่มดลูก หดรัดตัว และหยุดเบ่งเมื่อมดลูกคลายตัว
        
        4.ดูแลให้ Syntocinon 10 unit IM
        
        ผลการประเมิน : มารดาเบ่งได้ถูกวิธี เบ่งแล้วไม่หน้าแดง ขณะเบ่งไม่ยกสะโพกและเบ่งไม่มีเสียง ขณะเบ่งมีการเคลื่อนตํ่าของส่วนนํา รวมเวลาในการคลอดระยะที่ 2 13 นาที
      - 2.มีความเจ็บปวดรุนแรงเนื่องจากเจ็บครรภ์คลอดระยะที่ 2
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        O : มารดา G3P1A1L1 GA 40+1 wks O : PV แรกรับ เวลา 10.00 น. Cx. dilate 3 cms. Effacement 80% Ml station 0
        ผู้คลอดสีหน้าท่าทางเจ็บปวดขณะมดลูกมีการหดรัดตัว และบ่นเจ็บเวลา 11.15 น. Fully dilate ,Eff 100%,Station + 2 , MI ,Interval 2 ' Duration 50"
        
        เป้าหมาย : ผู้คลอดสามารถเผชิญความเจ็บปวดได้
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        1.ผู้คลอดควบคุมการหายใจและเบ่งได้อย่งถูกวิธีขณะมดลูกมีการหดรัดตัว ส่วนนำของทารกมีการเคลื่อนต่ำลงขณะเบ่ง
        2.ผู้คลอดให้ความร่วมมือ ไม่คลอดและไม่ดิ้นไปมา
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และฟัง FHS ทุก 5 นาที พร้อมทั้งประเมินความเจ็บปวดจากการหดรัดตัวของมดลูกและความสามารถในการควบคุมความเจ็บปวดของผู้คลอด
        
        ให้คำแนะนำและดูแลให้ผู้คลอดหายใจและเบ่งอย่างถูกวิธีขณะที่มดลูกหดรัดตัว
        
        แจ้งให้ผู้คลอดทราบถึงความก้าวหน้าของการคลอด รวมทั้งแผนการช่วยเหลือการคลอด พร้อมทั้งให้กำลังใจในการเบ่งคลอด
        
        พูดปลอบโยนและแสดงความเห็นใจในความเจ็บปวดที่ผู้คลอดกำลังเผชิญ
        
        ผลการประเมิน : เมื่อมดลูกมีการหดรัดตัวผู้คลอดสามารถใช้เทคนิคการหายใจและเบ่งคลอดได้อย่าง ถูกวิธี ผู้คลอดให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือการคลอด ไม่ร้องไม่ดิ้นไปมา ทารกมีการเคลื่อนต่ำลง คลอดเวลา 11.38 น.
    - - ทารกเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากการทำงานของปอดและกลไกการขับ สารคัดหลั่งยังไม่สมบูรณ์
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        Fetal Heart Sound อยู่ระหว่าง 120-160 /min
        
        ทารกมีทางเดินหายใจโล่งไม่มี secretion อุดกั้นทางเดินหายใจ
        
        อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 40 60 ครั้ง/นาที
        
        Line Cyanosis APGAR score 8- 10 คะแนน Activity ดี
        
        ฟังปอดทารกไม่มีเสียง secretion ทั้ง 2 ข้าง
        
        เป้าหมาย : ทารกไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินสภาพทารกในครรภ์ และฟัง FHS ทุก 5 นาที
        
        เมื่อศีรษะทารกคลอดออกมา ตรวจดูบริเวณลำคอว่ามีสายรกพันคอทารกหรือไม่
        
        ให้ผู้ทำคลอดรีบ Suction ด้วยลูกสูบยาง ตูดน้ำคล้ำในปากและจมูกออกจน Clear
        
        ประเมิน Apgar score นาทีที่ 1.5,10 หลังทารกคลอดโดยประเมินจากลักษณะสีผิว ชีพจร สีหน้าจากการ กระตุ้นการเคลื่อนไหวและการหายใจ
        
        นำทารกมาวางที่ Radiant Warmer จัดท่าโดยให้ทารกนอนศีรษะตำประมาณ 15-20 องศา และตะแคงหน้า ไปด้านใตด้านหนึ่ง suction ดูดเมือกและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกอีกครั้งโดยลูกสูบยางแดง
        
        ข้อมูลสนับสนุน O: ทารกคลอดปกติ วันที่ 11 มีนาคม 2563 เวลา 11.38 น. มี secretion ในปากและจมูก นาทีที่ 1 ของการ คลอดทารกเขียวตามปลายมือปลายเท้า APGAR นาทีที่ 1 เท่ากับ 9 คะแนน
        
        ผลการประเมิน :ทารกมีทางเดินหายใจโล่ง ฟังปอด Clear ไม่มี secretion อัตราการหายใจ 44 ครั้ง/นาที PR = 130 ครั้ง/นาที ไม่มีภาวะ Cyanosis Apgar score 9-10-10
  - - - 1.ส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอดในระยะที่ 3 ให้ดำเนินไปตามปกติ
        
        ข้อมูลสนับสนุน O : ทารกคลอดเวลา 11.38 น.มีการรอกตัวของรกครบ 3 sign คือ uterine sign , cord sind ,valva sign สายสะดือคลายเกลียว เหี่ยวลง เคลื่อนต่ำลง คลำชีพจรที่สายสะดือไม่ได้ มดลูกกลมแข็ง เอียงไปทางด้านขวา โกยสายสะดือไม่เคลื่อนตาม
        
        เป้าหมาย : เพื่อให้การคลอดในระยะที่ 3 เป็นไปตามปกติ
        
        เกณฑ์การประเมิน :
        
        Blood loss ไม่เกิน 500 CC
        
        รกคลอด complete ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
        
        ผลการประเมิน : Blood loss ประมาน 200 CC รกคลอดใช้เวลาประมาน 17 นาที
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมิน sign การรอกตัวของรก
        
        Uterine sing มดลูกจะกลมแข็ง ค่อยไปทางด้านขวา
        
        Cord sign สายสะดือจะเหี่ยว คลำชีพจรสายสะดือไม่ได้ สายสะดือเคลื่อนต่ำลงมาจากตำแหน่งเดิมประมาณ 6-8 cm
        
        vulva sign อาจพบเลือดไหลออกจากช่องคลอด ประมาณ 50-100 ml
        
        2.ทำคลอดรกด้วยวิธี Modified crede’maneuver อย่างถูกวิธี
        
        3.หลังคลอดรก ดูแลคลึงมดลูก พร้อมกับการไล่ก้อนเลือดในโพรงมดลูกออกให้หมด
        
        4.ตรวจรกและเยื่อหุ้มรกอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามีเศษรกค้างหรือไม่ โดยตรวจดังนี้
        
        ตรวจสายสะดือและตำแหน่งสายสะดือ
        
        ลักษณะของนกจะกลมแบนหรืออาจเป็นรูปรี รกปกติจะกว้างประมาณ 15-20 cm. หนาประมาน 2-3 cm. นั้าหนักประมาน 1/5หรือ 1/6 ของน้ำหนักตัวเด็ก
        
        ดูลักษณะรูปร่างทั่วไป และความผิดปกติของรกด้านลูก โดยยกสายสะดือขึ้นเยื่อหุ้มเด็กจะถ่วงลงข้างล่าง
        
        ตรวจรกด้านแม่ ดู cotyledon ดู infraction ดู marginal sinus รอบขอบรก
        
        วัดสัญญาณชีพหลังรกคลอดแล้วทุก 15 นาที 4 ครั้ง 30 นาที 2 ครั้ง และทุก.1 ชั่วโมง โดยเฉพาะความดันโลหิต
    - - 1.ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกหลังคลอดทันที (Sensitive period)
        
        ข้อมูลสนับสนุน O : มารดาหลังคลอด Normal delivery
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        1.Early bonding ภายใน 30 นาที
        2.มารดาและทารกสามารถ Eye contact ,skin to skin และสามารถดูแลบุตรได้
        
        เป้าหมาย : มารดามีสัมพนธภาพที่ดีกับทารก
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.จัดให้ทารกและมารดาได้ใกล้ชิดในระยะ sensitive peroid 30-60 นาที โดยวางทารกไว้หน้าอกมารดา
        
        กระตุ้นให้ทารกดูดนมมารดาหลังคลอด
        
        ผลการประเมิน : ทารกและมารดาได้รับการส่งเสริมสัมพันธภาพ Eye contact, skin to skin
  - - - 1. เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมีแผลในโพรงมดลูกข้อมูลสนับสนุน
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        O: มีการตัดฝีเย็บแบบ RML episiotomy Total blood loss 200 cc มารดามีสีหน้าท่าทางเหนื่อยอ่อนเพลีย
        
        เป้าหมาย
        
        ป้องกันการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
        
        ผู้คลอดไม่เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        แผลฝีเย็บติดดีไม่มี Bleed ซึมไม่บวมไม่มี Hematoma
        
        มีเลือดออกทางช่องคลอดชุมผ้าอนามัยไม่เกิน 1 ผืน / ชั่วโมง (50 cc./ ชั่วโมง) ใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
        
        มดลูกมีการหดรัดตัวดีคือมีลักษณะกลมแข็งและและมีขนาดเล็กลงไม่มี Bladder full
        
        V / S ชัดเจนดีอยู่ในเกณฑ์ปกติ T = 36.5-37.4 CP = 60-100 ครั้ง / นาที R = 16-24 ครั้ง / นาที BP = 90-60 / 140.90 mmHg
        
        ไม่มีอาการกระสับกระส่ายใจสั่นตัวเย็นหน้ามืดและเหงื่อออกมาก
        
        เปลือกตาไม่ซีด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมิน sign ข􏰂องภา􏰁ะ shock ข􏰂องผู้คล􏰂อดโดย􏰀สังเกตจากลัก􏰆ษณะสีหน้าซึ่งจะซีดเ􏰃หลื􏰂องตั􏰁วเย็น ระดับค􏰁วามรู้สึกตั􏰁วลดลง
        
        3.Observe การ􏰃ดรัดตั􏰁ข􏰂งมดลูกและ􏰁วัดระดับย􏰂ดมดลูกซึ่งปกติค􏰁วรอยู่เ􏰃หนือเหน่าไม่เกิน 6 นิ้􏰁ว พบ􏰁ปากมดลูก􏰃ดรัดตั􏰁วไม่ดี แนะนํามารดาใ􏰃ห้คลึงมดลูกด้ว􏰁ยตนเ􏰂อง
        
        4.ดูแล observe ภา􏰅ะ bladder full ถ้าพบกระตุ้นใ􏰂ห้ผู้คล􏰀อดปัสสา􏰅วะ
        
        5.ใ􏰂ห้ข้อ􏰀มูลเกี่ย􏰅วกับลัก􏰁ษณะและปริมาณข􏰀องนํ้าคา􏰅วปลาปกติใ􏰂ห้ผู้คล􏰀อดทราบเพื่􏰀อให้ผู้คล􏰀อด􏰃สามารถ เข้าใจและ􏰃สามารถรายงานค􏰅วามผิดปกติได้อย่างทันท่วงที
        
        􏰀สังเกตปริมาณข􏰂องเลื􏰂อดที่􏰂􏰂ออกจากช่อ􏰂งคล􏰂ดและบันทึกปริมาณเลื􏰂ดที่􏰂􏰂ออกใน 1 ชม.แรก > 100 มล. 􏰂อาจมีการตกเลื􏰂อด􏰃หลังคล􏰂อด
        
        2.ประเมิน􏰀ภาพเนื้􏰂อเยื่􏰂อที่ฉีกขาดบริเ􏰁ณแผลฝีเย็บและบริเ􏰁วณข้างเคียง􏰁ว่ามีการบ􏰁วมแดงมี Bleed ซึม 􏰃หรื􏰂อไม่ห􏰃ากพบ􏰁ว่าบริเ􏰁ณแผลฝีเย็บมี Bleed ซึม􏰂อาจแ􏰀สดงถึงแผลแยกมี Hematoma
        
        ผลการประเมิน
        มารดา 2 ชม.􏰂หลังคล􏰀อด มดลูกกลมแข็ง ระดับ􏰃สะดื􏰀อ ไม่มี Bleed ซึม ไม่มี Hematoma มดลูกหัดรัดตัวดี ไม่ Bladder full เลือดชุ่มผ้าอนามัยเล็กน้อย ประมาณ 15 CC V/S ชัดเจนดี BT 37.2 C,RR = 20 /min,PR = 84 / min,
        BP = 103/63 mmHg
      - 2.ไม่สุขสบายเนื่องจากปวดมดลูกและเจ็บแผลฝีเย็บ
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S : ผู้คลอดบอกว่า “ปวดฝีเย็บเล็กน้อย”
        O : Pain score = 4 คะแนน ตัดฝีเย็บช่วยคลอดแบบ RML Episiotomy
        
        เป้าหมาย มารดาหลังคลอดได้รับความสุขสบายขึ้น
        อาการปวดแผลฝีเย็บลดลง
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        1.มารดาหลังคลอดมีสีหน้าท่าทางสดชื่นขึ้น
        
        2.มารดาหลังคลอดบ่นปวดแผลลดลงสามารถพักผ่อนได้
        
        3.แผลฝีเย็บติดกันดีไม่มี bleed ซึม ไม่มี Hematoma
        
        4.PS = 0-3 คะแนน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินสภาพความเจ็บปวดระดับความเจ็บปวดโดยการสังเกตสีหน้าท่าทางพฤติกรรมพูดคุยซักถามและตรวจร่างกายประเมิน pain Score
        
        ดูแลให้นอนในท่าที่สุขสบายเช่นนอนในท่าตะแคงซ้ายหรือนอนศีรษะสูง
        
        แนะนำการลดการดึงรั้งของแผลเช่นการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
        
        ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวลรวดเร็วและให้กำลังใจมารดาหลังคลอด
        
        แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเสียดสีฝีเย็บการกดทับแผลฝีเย็บและเนื้อเยื่อข้างเดียวและให้ผู้ป่วยนอนพักนิ่ง ๆ
        
        สังเกตและบันทึกบริเวณที่ปวดลักษณะความรุนแรงและความถี่
        
        ดูแลให้ได้รับยา Paracetamol 500 mg 1 tab oral prn for pain ตามแผนการรักษา
        
        ผลการประเมิน: มารดาหลังคลอดมีสีหน้าท่าทางสดชื่นขึ้นสามารถพักผ่อนได้แผลฝีเย็บติดกันดีไม่มี bleeding ไม่มี hematoma Pain score 2 คะแนน
      - 3. เหนื่อยอ่อนเพลียเนื่องจากสูญเสียเลือดสารน้ำและพลังงานในการคลอด
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S: มารดาบอกว่า“ รู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลียและวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย”
        O: มารดาสีหน้าท่าทางเหนื่อยอ่อนเพลียหลังคลอดนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง Blood loss 200 ml
        
        เป้าหมายการพยาบาล
        
        บรรเทาอาการเหนื่อยอ่อนเพลียผู้คลอดไม่เกิดภาวะขาดน้ำ
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ผู้คลอดไม่มี sign ของภาวะขาดน้ำมีสีหน้าสดชื่นขึ้นริมฝีปากมีความชุ่มชื้น
        
        ผู้คลอดรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้
        
        สามารถปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
        
        V / S ชัดเจนดีอยู่ในเกณฑ์ปกติ T = 36.5-37.4 C
        P = 60-100 ครั้ง / นาที R = 16-24 ครั้ง / นาที BP = 90-60 / 140-90 mmHg
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินอาการขาดสารน้ำและสารอาหารคือผิวหนังแห้งริมฝีปากแห้งน้ำลายเหนียวอ่อนเพลียปัสสาวะออกน้อยตาลึกโปความดันโลหิตต่ำ
        
        ดูแลให้ผู้คลอดได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
        
        ดูแลผู้คลอดให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอโดยเน้นให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กอาหารที่มีแคลเซียมสูงคืออาหารพวกเนื้อนมไข่ผักผลไม้ต่างๆ
        
        ดูแล Hygiene care และ Unit care
        
        ดูแลช่วยเหลือผู้คลอดในการทำกิจกรรมต่างๆหรือเคลื่อนไหวร่างกาย
        
        ผลการประเมิน มารดาไม่มี sign ของภาวะขาดน้ำมีสีหน้าท่าทางสดชื่นผิวหนังและริมฝีปากชุมชื่นได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอรับประทานอาหารและน้ำหวานได้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ Vital signs ชัดเจนดีอยู่ในช่วง BT 37.2 C,RR = 20 /min,PR = 84 / min,
        BP = 103/63 mmHg
      - 4. ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกหลังคลอด
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        O: มารดาหลังคลอด Normal Labor ทารกเพศชายเกิดวันที่ 11 มีนาคม 2563 เวลา 15.45 น. น้ำหนัก 3,010 กรัม
        
        เป้าหมาย
        
        มารดามีสัมพันธภาพที่ดีกับทารก
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        มารดาหลังคลอดสามารถบอกถึงบทบาทการเป็นมารดาได้
        
        มารดาหลังคลอดสามารถดูแลบุตรได้ตามคำแนะนำ
        
        Early bonding ภายใน 30 นาที
        
        มารดาและทารกสามารถ Eye Contact, Skin to skin
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        จัดให้มารดาและทารกได้อยู่ได้อยู่ใกล้ชิดกันโดยเปิดโอกาสให้มารดาได้สัมผัสกับบุตรโดยวางบุตรไว้หน้าอกมารดาภายในระยะ 30-40 นาทีแรกหลังคลอดรวมทั้งการประสานสายตากัน
        
        ดูแลให้ทารกได้รับนมมารดาในระยะ 2 ชม. หลังคลอด
        
        ดูแลให้มารดาหลังคลอดในการให้นมบุตรที่ถูกต้องตามหลัก 3 ด. ได้แก่ -ดูดเร็วคือดูดหลังคลอดภายใน 30-45 นาที-ดูดบ่อยคือดูดทุก 2-3 ชม. นับจากดูดเสร็จครั้งก่อน-ดูดถูกวิธีคือให้ลูกดูดลานนมได้ลึกพอที่จะไม่ให้เจ็บหัวนมจึงกระตุ้นการสร้างน้ำนมได้ดี
        
        ผลการประเมิน มารดาและทารกได้ใกล้ชิดสัมผัสกันภายใน 30 นาทีแรกคลอดมารดาสามารถบอกถึงบทบาทการเป็นมารดาได้และส่งเสริมสัมพันธภาพโดยการให้นมบุตรตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
    - - 1. เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Hypothermia เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายของทารกยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        o : ทารกแรกเกิดน้ำหนัก 3,010 กรัม
        BT แรกเกิด: 36.3 ° C
        
        เป้าหมาย: ป้องกันการเกิดภาวะ Hypothermia
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ทารก active ดี
        
        ไม่มีภาวะ Cyanosis
        
        BT 36.5-37.4 ° C
        
        ร่างกายทารกแห้งและอบอุ่น
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ทารกแรกคลอดรีบเช็ดตัวให้แห้ง
        
        ประเมินภาวะ Hypothermia เช่นตัวเย็นอาการหนาวสั่นตัวสั่นริมฝีปากปลายมือปลายเท้าเขียว
        
        ห่อตัวทารกด้วยผ้าที่แห้งหนาและอุ่นโดยห่อแบบ Mummy restain แล้วนำทารกวางไว้ใต้ Radiant warmer พร้อมทั้งสวพร้อมทั้งสวมหมาหมวกถุงมือและถุงเท้าให้เรียบร้อย
        
        ก่อนให้การพยาบาลทุกครั้งล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งไม่ใช้มือที่เปียกชื้นหรือเย็นสัมผัสตัวทารก
        
        ผลการประเมิน: ทารกแรกเกิดผิวหนังบริเวณปลายมือปลายเท้าเขียวลำตัวแดงดีหลังจากเช็ดคราบเลือดน้ำคร่ำและไขที่ตัวทารกให้แห้งหลัง keep warm ใต้ radiant warmer ทำให้ร่างกายของทารกแห้งดีอุณหภูมิ 36.9 ° c APGAR 9-10-10 :