การบริหารยา

ระบบการตวงวัดยา

ระบบอโพทีคารี

ระบบเมตริก

ระบบมาตรตวงวัดประจำบ้าน

20 grain (gr.) = 1scruple

3 scruple = 1 dram (z)

8 dram (z) = 1 ounce (oz)

12 ounce (oz) = 1 pound

1 ลิตร= 1000มิลิลิตร(ซี.ซี.)

1กิโลกรัม =1000กรัม

1 กรัม = 1000มิลลิกรัม

1 มิลิกรัม = 1000ไมโครกรัม

1 กรัม = 1มิลลิลิตร(ซี.ซี)

คำย่อและสัญลักษณ์เกี่ยวกับคำสั่งการให้ยา

1) ความถี่การให้ยา

OD omni die วันละ 1ครั้ง

bid bis in die วันละ 2ครั้ง

tid te rin die วันละ 3ครั้ง

qid quar ter in die วันละ 4ครั้ง

q 6 hrs quaque6 hora ทุก6ชั่วโมง

2) วิถีทางการให้ยา

o รับประทานทางปาก

IM เข้ํากล้ํามเนื้อ

SC เข้ําใต้ผิวหนัง

IV เข้ําหลอดเลือดดำ

ID เข้ําระหว่ํางชั้นผิวหนัง

3) เวลาการให้ยา

h.s. hora somni ก่อนนอน

p.r.n. pro re nata เมื่อจำเป็น

stat statim ทันทีทันใด

คำสั่งแพทย์ และการคำนวณยา

  1. Standingorder/ Orderfor continous

สั่งครั้งเดียวใช้ได้ตลอดไป เป็นคำสั่งที่สั่งครั้งเดียวและใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะมีคำสั่งระงับ (Discontinue)

2.Single order/ orderfor oneday

สั่งใช้ภายในวันเดียวเมื่อได้ให้ยาไปแล้ว เมื่อครบ1 วันก็ระงับไปได้เลย

3.Stat order

สั่งที่ต้องปฏิบัติทันที เป็นคๆสั่งการให้ยาครั้งเดียวและต้องให้ทันที

  1. PRN order

สั่งที่ให้เมื่อจำเป็น เป็นคำสั่งที่กำหนดไว้ให้ปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยมีอาการบางอย่างเกิดขึ้น เช่น มีไข้ ปวดแผล ชัก

ส่วนประกอบของคำสั่งแพทย์ (order)

ชื่อผู้ป่วย

วัน เวลา ที่สั่งยา

ชื่อยา

ขนาด/ความเข้มข้นของยา

เวลา ความถี่ในการให้ยา

ทางที่ให้ยา

ลายมือชื่อของแพทย์ที่สั่งยา

วิถีทางการให้ยา (Route)

ทางปาก (oral) ดูดซึมทางระบบเดินอาหารลำไส้

ใช้อม-lozenge

ชนิดเม็ด tablet

ชนิดแคปซูลcapsule

ชนิดน้ำ syrup,mixture,elixir,emulsion

ทางสูดดม(inhalation) ดูดซึมทางระบบทางเดินหายใจ

ใช้พ่น

ชนิดสเปรย์sprayinhalation

ทางเยื่อบุ(mucous) ดูดซึมทางระบบไหลเวียนเลือด

ใช้สอดช่องคลอด suppository

ใช้เหน็บทวารหนัก suppository

ใช้หยอด (instillate) aqueous solution

ใช้อมใต้ลิ้น (sublingual) tablet

ใช้ล้าง (irrigate)solution

ทางผิวหนัง (skin) ดูดซึมทางผิวหนัง

ใช้ทา lotion, ointment, paste

ใช้ทาถูนวด(inunction) liniment

ใช้โรยผิวหนัง powder

ใช้ทำลายเชื้อ incture, alcohol

ทางกล้ามเนื้อ (Perintramuscular)

ยาที่ใช้ฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อของผู้ป่วย

ทางชั้นผิวหนัง (Per intradermal)

ยาที่ใช้ฉีดเข้าทางชั้นผิวหนังของผู้ป่วย โดยดูดซึมเข้าร่างกายทางระบบไหลเวียนเลือดที่ชั้นผิวหนัง

ทางชั้นผิวหนัง (intradermal)

ยาที่ใช้ฉีดเข้าที่ใต้ผิวหนังของผู้ป่วยโดยดูดซึมเข้าระบบไหลเวียนเลือดที่ชั้นใต้ผิวหนัง

ทางหลอดเลือดดำ (Per intravenous)

ยาที่ใช้ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำของผู้ป่วย โดยเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดโดยตรง

รูปแบบการบริหารยา

กฎ Six Rights

หลักประกันความถูกต้องเพื่อสร้างความมั่นใจว่า กระบวนการให้ความปลอดภัย

ต่อมาเพิ่มเป็ น Seven Rights Ten Rights

Rightpatient/client (ถูกคน/ถูกตัวผู้ป่วย)

ให้ยาแก่ผู้ป่วยถูกคน

ให้ยาผู้ป่วยตามที่แพทย์สั่ง

การสั่งจ่ายยาให้ถูกชื่อผู้ป่วย

Rightdrug/ medication(ถูกชนิดยา)

อ่านชื่อยาในใบ MARทุกครั้ง

Rightdose (ถูกขนาดยา)

การให้ยาถูกขนาดถูกความเข้มข้น

คำนวณยาถูกต้อง

ไม่ให้ยาซ ้า/ ยาที่แพทย์สั่งให้หยุด

Righttime (ถูกเวลา)

ให้ยาถูกเวลา/ ตรงเวลา

ไม่ลืมให้ยาและให้เมื่อนึกได้

ไม่หยดยาเร็ว/ นานกว่าที่แพทย์สั่ง

Rightroute (ถูกวิถีทาง)

ให้ยาถูกวิถีทาง

ยาไม่ผิดช่องทาง

ยาถูกข้าง

Righttechnique (ถูกเทคนิค)

ให้ยาถูกตามวิธีการ

เทคนิคการเตรียมยา

การผสมยาถูกเทคนิค

Rightdocumentation (บันทึกเอกสารถูกต้อง)

การบันทึกการให้ยาที่ถูกต้อง

บันทึกการลงลายมือชื่อผู้ให้ยา วัน เวลาที่ให้ยา ชื่อยาที่ให้ ปริมาณที่ให้ ทางที่ให้ยา

RightHistory and assessment(การตรวจสอบประวัติการแพ้ยาและทำการประเมินถูกต้อง)

Right Drug-Drug Interaction and Evaluation (การตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างกันของยาและการประเมินถูกต้อง )

หลักสำคัญในการให้ยา

ยาทางปากใช้หลักสะอาดฉีดยาใช้หลักAseptic technique

ตรวจสอบOder ก่อนให้ยาทุกครั้ง

ทราบวัตถุประสงค์การวินิจฉัยโรคผลของยาฤทธิ์ข้างเคียงของยา

ตรวจสอบประวัติการแพ้ยา

ตรวจสอบวันหมดอายุของยา

ไม่ควรเตรียมยาค้างไว้

ไม่ให้ยาที่ฉลากลบเลือนไม่ชัดเจน

ตรวจสอบผู้ป่วยก่อนให้ยาโดยการถามชื่อและนามสกุลก่อนทุกครั้ง

บทบาทของพยบาลในการให้ยาผู้ป่วย

ตรวจสอบยาให้ตรงกับคำสั่งแพทย์

ซักประวัติการแพ้ยา

ลงคำสั่งในใบลงยาทุกครั้ง

ระมัดระวังในการจัดยา

ตรวจสอบรายการยาMRA

จัดยาตามหน้าซอง

เช็คชื่อผู้ป่วยทุกครั้งก่อนให้ยา

ยีดหลัก7Rอย่างเคร่งครัด

สมรรถนะพยาบาลการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล

ประเมิณผู้ป่วยว่ามีอาการใดเกียวข้องกับยา

ร่วมพิจารณาในการใช้ยาว่ายาตัวใดเหมาะสม

ใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ป่วย

บริหารตาตามคำสั่งได้ถูกต้อง

มีข้อมูลการใช้ยา

ติดตามผลและรายงานผลข้างเคียง

ใช้ยาโดยไม่เกิดผลกระทบกับผู้ป่วย