Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยากิน และยาเฉพาะที่ - Coggle Diagram
การบริหารยากิน
และยาเฉพาะที่
วัตถุประสงค์ของการให้ยา
เพื่อป้องกันโรคและ
ส่งเสริมสุขภาพ
ฉีดวัดซีนบีซีจี เพื่อป้องกันวัณโรค
ให้วิตามินเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
เพื่อการตรวจวิเคราะห์โรค
ให้กลืนแป้งเบเรี่ยม ซัลเฟต
เอ็กซเรย์
เพื่อรักษา
ทดแทนที่ร่างกายขาด
ให้ร่างกายทำงานตามปกติ เช่น
หัวใจเต้นเร็วเกินไป
รักษาเฉพาะโรค เช่นยาฆ่าเชื้อในผู้ป่วยติดเชื้อ
รักษาตามอาการ เช่น อาการปวด ให้ยาบรรเทาอาการปวด
คำสั่งแพทย์
คำนวนขนาดยา
คำสั่งแพทย์
คำสั่งที่ให้เมื่อจำเป็น
ส่วนประกอบของ
คำสั่งการรักษา
ขนาดของยา วิถีทางการให้ยา
เวลาและความถี่ในการใช้ยา เซ็นผู้สั่งยา
ชื่อของผู้ป่วย วันที่เขียน
คำสั่งการรักษา ชื่อของยา
คำสั่งที่ต้องให้ทันที
คำสั่งแพทย์ภายในวันเดียว
คำนวณยา
ความเข้มของยา (ในแต่ละส่วน) = ความเข้มข้นของยาที่มีหารปริมาณที่มี
คำสั่งครั้งเดียวใช้ตลอดไป
ความคลาดเคลื่อน
ในการบริหารยา
ความคลาดเคลื่อนในการคัดลอก
คำสั่งยา ( Transcribing erroe)
ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์
ที่เภสัชกรรม
ที่หอผู้ป่วย
ความคลาดเคลื่อน
ในการจ่ายยา
(Dispensing error)
ที่จ่ายยาไม่ถูกต้องตามที่ระบุในคำสั่งให้ยา
เช่น ผิดชนิดยา รูปแบบยา ความแรงยาขนาดยา
ความคลาดเคลื่อนในกระบวนการจ่ายยาของกลุ่มเภสัชกรรม
ความคลาดเคลื่อนในการใช้ยา(Prescription error)
ผิดความถี่ คือ เขียนใบสั่งยา
วิธีรับประทานผิดสั่งยาที่มีประวัติการแพ้
สั่งยาผิดชนิดผิดวิถีทางคือ สั่งใช้ยาผิดวิถีทาง ทำให้ใช้ยาไม่ถูกวิธี
สั่งยาผิดขนาด คือ แพทย์สั่งใช้ยาที่มีขนาดมากเกินไป
ความคลาดเคลื่อน
ในการบริหารยา
(Administartion erroe)
การให้ยาผิดชนิด การให้ยาผิดเวลา การให้ยาผิดวิถี
การให้ยาซึ่งผู้สั่งให้ยาไม่ได้สั่ง การให้ยาผู้ป่วยผิดคน
การให้ยาไม่ครบ การให้ยาผิดขนาด
การให้นาผิดเทคนิค
สมรรถนะของพยาบาลใน
การใช้ยาอย่างเหมาะสม
สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการใช้ยาได้อย่างเพียงพอ
สามารถติดตามผลการรักษา และรายงานผลข้างเคียง
บริหารยาตามการสั่งใช้ยาได้อย่างถูกต้อง
สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัยต่อผู้ป่วย
สามารถสื่อสารเพื่อให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในการใช้ยา
ร่วมพิจารณาการเลือกใช้ยาได้อย่างเหมาะสมตามความจำเป็น
สามารถประเมินปัญหาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา
กระบวนการพยาบาลในการ
บริหารยาทางปากและยาเฉพาะที่
การวางแผน
การพยาบาล
สามารถรับยาได้จนครบ
การวางแผนการพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยา
ไม่เกิดอาการสำลัก
การปฏิบัติการพยาบาล ปฏิบัติตามแผลที่วางไว้
การวินิจฉัย
การพยาบาล
เสี่ยงต่อการสำลักเนื่องจาก
ขาดความรู้เกียวกับยาเนื่องจาก
การกลืนบกพร่อง เนื่องจาก
การประเมินผล
สามารถบอกการปฏิบัติตัวขณะได้รับยาได้ถูกต้อง
สามารถอธิบายวัตถุประสงค์ของการให้ยาได้ถูกต้อง
หลังจากได้รับยา 30 นาที ไม่มีอาการแพ้ยา
การประเมิน
สภาพ
ประเมินผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ประวัติการแพ้ยา
ประเมินดูว่าผู้ป่วยมีข้อห้ามในการใช้ยาทางปากหรือไม่
คำย่อและสัญลักษณ์เกี่ยวกับคำสั่งการให้ยา
วิถีทางการใด้ยา
ID เข้าชั้นระหว่างผิวหนัง
subling อมใต้ลิ้น
V เข้าทางหลอดเลือดดำ
Inhal ทางสูดดม
SC เข้าชั้นใต้ผิวหนัง
Nebul พ่นให้สูดดม
M เข้ากล้ามเนื้อ
Supp เหน็บ/สอด
instill หยอด
O รับประทานทางปาก
เวลาการให้ยา
h.s. ก่อนนอน
p.r.n. เมื่อจำเป็น
p.c. หลังอาหาร
stat ทันทีทางใด
a.c. ก่อนอาหาร
ความถี่
การให้ยา
tid วันละ 3 ครั้ง
qid วันละ 4 ครั้ง
bid วันละ 2 ครั้ง
q 6 hrs ทุก 6 ชั่วโมง
OD วันละ 1 ครั้ง
บทบาทพยาบาล
ในการให้ยาผู้ป่วย
การจัดยาให้ระมัดระวังในการจัดยา
เวรบ่าย พยาบาลจะตรวจสอบรายการในใบ MAR กับคำสั่งแพทย์ให้ตรงกัน
เมื่อมีคำสั่งใหม่ หัวหน้าเวร ลงคำสั่งในใบ MAR ทุกครั้ง
กรณีผู้ป่วย NPO ให้มีป้าย NPO เพื่อผ่าตัดหรือเจาะเลือดเช้า
กรณีคำสั่งสารน้ำ+ยา B co 2 ml เขียนห้วยปากกาเมจิก ตัวอักษรใหญ่บนป้าสติ๊กเกอร์
เมื่อผู้ป่วยเข้ามานอนรักษาในครั้งแรก
พยาบาลตรวจสอบยาให้ตรงกับคำสั่งแพทย์
การจัดยาจะจัดตามหน้าชองยาหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
มีผู้จัด-ผู้ตรวจสอบ คนละคนกันตรวจสอบซ้ำก่อนให้ยา
การแจกยาไล่แจกยาตามเตียงพร้อม
เซ็นชื่อทุกครั้งหลังให้ยา
รูปแบบการบริหารยา
Right route (ถูกวิธีทาง) ให้ยาถูกทาง
Right technique (ถูกเทคนิค)
Right time (ถูกเวลา) การให้ยาถูกหรือตรงเวลา
Right documentation (ถูกการบันทึก)
Right dose(ถูกขนาด) การให้ยาถูกขนาด
Right to refuse คือการตรวจสอบให้แน่ใจ
ว่าได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยในการจัดยา
Right History and assessment
คือการซักประวัติ
Right Drug-Drug Interaction and Evaluation
คือการที่ต้องให้ยาร่วมกัน
Right (ถูกยา) คือการให้ยาถูกชนิด
Right to Edocation and Information คือก่อนที่พยาบาลจะให้ยาผู้ป่วยทุกครั้งต้องแจ้งชื่อยา ทางมี่ให้ยา ผลการรักษา ผลข้างเคียง
Right patient/client (ถูกคน)
คือ การให้ยาถูกคน
การให้ยาทางปาก
และยาเฉพาะที่
การให้ยา
ทางปาก
อุปกรณ์ในการ
ให้ยาทางปาก
ถาดหรือรถใส่ยา แบบบันทึกการให้ยา
ถ้วยยา หรือSyringe น้ำเปล่า หรือน้ำส้ม
หรือน้ำหวาน (หากไม่มีข้อห้าม)
ข้อควรปฏิบัติใน
การให้ยาทางปาก
ยาชนิดผงให้ใช้ช้อนตวงปาดแล้วเทใส่แก้วยา
ยาจิบแก้ไอควรให้ภายหลังรับประทานยาเม็ด
การให้ยาเม็ดในเวลาเดียวกัน สามารถรวมกันได้
ยาลดกรดในกระเพาะอาหารควรให้อันดับสุดท้ายเพื่อช่วยลดอาการระคายเคือง
ยาที่ระคายเคืองทางเดินอาหาร
ให้กินหลังอาหารหรือนม
ยาอมใต้ลิ้น เช่น ไนโตรกลีนเซอลีน
การพยาบาลเพื่อ
ให้ยาได้ถูกหลักการ
ดูชื่อยาขนาด เวลาที่ให้ในMAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
เตรียมยาให้ตรงกับ MAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
ดูเบอร์เตียง ชื่อ นามสกุล ผู้ป่วยใน MAR ให้ตรงกัน
อ่านฉลากยาให้ตรงกับMAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
ดูวันหมดอายุของยา
เทยา หรือรินยาให้ตรงตามจำนวนของยาใน MAR
ยาเฉพาะที่
การให้
ยาทางหู
ยาที่ใช้เป็นยาน้ำ ออกฤทธิ์เฉพาะเยื่อบุในช่องหู
มักเป็นยาชาหรือยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่
เป็นการหยอดยาเข้าไปในช่องหูชั้นนอก
การหยอดยา
ทางจมูก
ให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้น และพยาบาลยกปีกจมูก
ผู้ป่วยข้างที่จำหยอดยาขึ้นเบาๆ
แล้วหยอดยาผ่านทางรู
จมูกห่างประมาณ 1-2 นิ้ว
จากนั้นให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าเดิมประมาณ 2-10นาที
เพื่อป้องกันยาไหลย้อนออกมา
การให้ยาทางตา
เนื่องจากดวงตาเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางมาก ติดเชื้อง่าย
การให้ยาบริเวณตาจึงต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นสำคัญ
ยาที่ใช้กับตามีทั้งยาหยอดตา ป้ายตาและยาล้างตา
การเหน็บยา
เป็นการให้ยาที่มีลักษณะเม็ด
เข้าทางเยื่อบุตามอวัยวะ
การสูดดม (Inhalation)
เป็นการให้ยาในรูปของก๊าซ ไอระเหย หรือละออง
สามารถให้โดยการพ่นยาเข้าสู่ทางเดินหายใจ
ปัจจัยที่มีผลต่อ
การออกฤทธิ์ของยา
ภาวะสุขภาพ ทางที่ให้ยา เวลาที่ให้ยา สิ่่งแวดล้อม
อายุและน้ำหนักตัว เพศ กรรมพันธุ์ ภาวะทางจิต
ระบบการตวงยา
ระบบเมตริก
1 กิโลกรัม = 1000กรัม
1 กรัม = 1000มิลลิกรัม
1 ลิตร = 1000มิลิลิตร (ซี.ซี)
1 มิลลิกรัม = 1000 ไมโครกรัม
1 กรัม= 1 มิลลิลิตร (ซี.ซี)
ระบบมาตราตวง
วัดประจำบ้าน
1 ช้อนชา = 5 มิลลิลิตร
1 ช้อนหวาน = 8 มิลลิลิตร
15 หยด =1 มิลลิลิตร (ซี.ซี.)
1 ช้อนโต๊ะ = 15 มิลลิลิตร
1 ถ้วยชา = 180 มิลลิลิตร
1 ถ้วยแก้ว = 240 มิลลิลิตร
ระบบอโพทีคารี
3 สครูเปิล (scruple) = แดรม(Dram)
8 แดรม(Dram) = 1 ออนซ์ (ounce)
20 เกรน (grain) = สครูเปิล (scruple)
12 ออนซ์ (ounce) = 1 ปอนด์ (pound)