Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยากินและยาเฉพาะที่ - Coggle Diagram
การบริหารยากินและยาเฉพาะที่
วัตถุประสงค์ของการให้ยา
1.2 เพื่อการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
1.ฉีดวัคซีนบีซีจีเพื่อป้องกันวัณโรค
2.ให้วิตำมินเพื่อ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง
1.3 เพื่อการตรวจวิเคราะห์โรค
1.ให้กลืนแป้งเบเรี่ยม ซัลเฟต
2.เอ็กซเรย์เพื่อตรวจดูสภาพของ กระเพาะอาหาร
1.1 เพื่อการรักษา
ทดแทนสิ่งที่ร่างกายขาด
ให้ร่างกายปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
รักษาเฉพาะโรค
รักษาตามการ
คำย่อและสัญลักษณ์เกี่ยวกับคำสั่งการให้ยา
2.วิถีทางการให้ยา
3.เวลาการให้ยา
2.ความถี่การให้ยา
ปัจจัยที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา
4.ภาวะจิตใจ
5.ภาวะสุขภาพ
กรรมพันธุ์
ทางที่ให้ยา
เพศ
7 เวลาที่ให้ยา
อายุและน้ำหนักตัว
8.สิ่งแวดล้อม
ระบบการตวงวัดยา
ระบบเมตริก ถ้ำเป็นน้ำหนักส่วนใหญ่ใช้หน่วยเป็น กรัม มิลลิกรัม ลิตร มิลลิลิตร
3 .ระบบมาตราตวงวัดประจำบ้ำน
1 ระบบอโพทีคารี ถ้าเป็นน้ำหนักส่วนใหญ่ใช้หน่วยเป็นปอนด์ ออนซ์ เกรน ที่พบบ่อย
สมรรถนะของพยาบาลในการใช้ยาอย่างสมเหตุผล
3.สามารถสื่อสารเพื่อให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในการใช้ยา
บริหารยาตามการสั่งใช้ยาได้อย่างถูกต้อง
สามารถร่วมพิจารณาการเลือกใช้ยาได้อย่ำงเหมาะสมตามความจำเป็น
สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการใช้ยาได้อย่างเพียงพอ
สามารถประเมินปัญหาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยำ
สามารถติดตามผลการรักษา และรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาได้
7.สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัยทั้งต่อผู้ป่วย และไม่เกิดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
สามารถใช้ยาได้อย่ำงเหมาะสม ตามความรู้ความสามารถทางวิชาชีพ และเป็นไปตามหลักเวชจริยศาสตร์
สามารถพัฒนาความรู้ความสามารถในการใช้ยา ได้อย่างต่อเนื่อง
สามารถทำงานร่วมกับบุคลากรอื่นแบบสหวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล
กระบวนการพยาบาลในการบริหารยาทางปากและยาเฉพาะที่
การวางแผนการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาล
การวินิจฉัยการพยาบาล
การประเมินผล
การประเมินสภาพ
การให้ยาทางปากและยาเฉพาะที่
7.1 การให้ยาทางปาก
ยาชนิดผงให้ใช้ช้อนตวงปาดแล้วเทใส่แก้วยา
ยาจิบแก้ไอควรให้ภายหลังรับประทานยา
การให้ยาเม็ดในเวลาเดียวกัน
ยาลดกรดในกระเพาะอาหารควรให้อันดับสุดท้าย
ยาที่ระคายเคืองทางเดินอาหารให้กินหลังอาหารหรือนม
ยาอมใต้ลิ้น
7.2 การให้ยาเฉพาะที่
การสูดดม (Inhalation)
2.การให้ยาทางตา
การให้ยาทางหู
การหยอดยาจมูก
การเหน็บยา
วิธีการเหน็บยาทางทวารหนัก
วิธีการเหน็บยาทางช่องคลอด
รูปแบบการบริหารยา
ต้องยึดหลักดังนี้
Right technique (ถูกเทคนิค)
Right documentation (ถูกการบันทึก)
Right route (ถูกวิถีทาง)
Right to refuse
Right time (ถูกเวลา)
การให้ยาช่วงใดก็ได
2 .การให้ยาหลังอำหำรเป้าหมาย
การให้ยาก่อนอาหาร
4 .การให้แบบกำหนดเวลาหรือให้เฉพาะกับอาหารที่เฉพาะ
Right History and assessment
Right dose (ถูกขนาด)
Right Drug-Drug Interaction and Evaluation
Right drug (ถูกยา)
Right to Education and Information
Right patient/client (ถูกคน)
หลักสำคัญในการให้ยา
การให้ยาทางปากใช้หลักสะอาด
ตรวจสอบคำสั่งแพทย์ก่อนให้ยาทุกครั้ง
ก่อนให้ยาต้องทราบวัตถุประสงค์การให้ยา
ตรวจสอบประวัติการแพ้ยาจำกตัวผู้ป่วย
ตรวจสอบวันหมดอายุของยาปกติแล้วยาเม็ดจะมีอายุอยู่ได้ 5 ปี
ไม่ควรเตรียมยาค้างไว้
ไม่ให้ยาที่ฉลากมีการลบเลือนไม่ชัดเจน
ตรวจสอบผู้ป่วยก่อนให้ยาโดยการถามชื่อและนามสกุลก่อนทุกครั้ง
บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงวัตถุประสงค์ของการให้ยา
ต้องให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อหน้าพยาบาลเพื่อป้องกันผู้ป่วยไม่ได้รับยา
ลงบันทึกการให้ยาหลังจากให้ยาทันที
มีการประเมินประสิทธิภาพของยาที่ให้
สังเกตอาการก่อนและหลังการให้ยา
ในกรณีที่ให้ยาผิดต้องรีบรายงานให้พยาบาลหัวหน้าเวรรับทราบเพื่อหาทางแก้ไข
ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยา
ความคลาดเคลื่อนในการคัดลอกคำสั่งใช้ยา
ความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา
1 .ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา
ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยา
บทบาทพยาบาลในการให้ยาผู้ป่วย
กรณีผู้ป่วยที่ NPO ให้มีป้าย NPO และเขียนระบุว่า NPO
กรณีคำสั่งสารน้ำ+ยา
เวรบ่าย พยาบาลจะตรวจสอบรายการยาในใบ MAR กับคำสั่งแพทย์ให้ตรงกัน
การจัดยาจะจัดตามหน้าชองยาหลังจากตรวจสอบความถูกต้อง
การจัดยาให้ระมัดระวังในการจัดยาเนื่องจากความผิดพลาดด้านบุคคลโดยเฉพำะยาน้ำ
มีผู้จัด-ผู้ตรวจสอบ
เมื่อมีคำสั่งใหม่ หัวหน้าเวร ลงคำสั่งในใบ MAR ทุกครั้ง
การแจกยาไล่แจกยาตามเตียงพร้อมเซ็นชื่อทุกครั้งหลังให้ยา
การซักประวัติ
ให้ยึดหลัก 6R ตำมที่กล่าวมาข้ำงต้น
เมื่อผู้ป่วยเข้ามานอนรักษาในครั้งแรก
คำสั่งแพทย์ คำนวณขนาดยา
คำสั่งแพทย์
2 .คำสั่งใช้ภำยในวันเดียว
3 .คำสั่งที่ต้องให้ทันที
1 .คำสั่งครั้งเดียวใช้ได้ตลอดไ
คำสั่งที่ให้เมื่อจำเป็น
2 .คำนวณขนาดยา
การคำนวณยาเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาตามแผนการรักษา
ส่วนประกอบของคำสั่งการรักษา
ชื่อของผู้ป่วย
2.วันที่เขียนคำสั่งกำรรักษำ
ชื่อของยา
4.ขนาดของยา
5) วิถีทำงการให้ยา
6.เวลาและความถี่ในการให้ยา
ลายมือผู้สั่งยา
ลักษณะคำสั่งแพทย์ตามทางวิถีทางการให้ยา
1.ทางปาก (oral
2.ทางสูดดม (inhalation)
3.ทางเยื่อบุ (mucous)
4.ทางผิวหนัง (skin)
5.ทางกล้ามเนื้อ (intramuscular)
6.ทางชั้นผิวหนัง (intradermal)
7) ทางหลอดเลือดดำ (intravenous)
8) ทางใต้ผิวหนัง (subcutaneous / hypodermal)