Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยาต้านมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
ยาต้านมะเร็ง
1.Cell cycle-specific drugs (CCS) ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ที่อยู่ในระยะใดระยะหนึ่ง ไม่มีผลต่อเซลล์ในระยะอื่น ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วหรือมรการแบ่งตัวอย่างต่อเนื่อง
2.Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS) ออกฤทธิ์ได้ทุกระยะ ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของก้อนมะเร็งทั้งต่ำและสูง
4.ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ
1 ยากลุ่ม Vinca alkaloids
1.2 Vinblastine (VLB): Velban®
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งลูกอัณฑะ มะเร็งเต้านม
1.3 Vinorelbine: Navelbine®
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษาnon-small cell lung cancerและมะเร็งเต้านม
1.1 Vincristine (VCR): Oncovin®
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด acute lymphocytic leukemia
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Vinca alkaloids
1.ชาตามปลายมือปลายเท้า กล้ามเนื้อฝ่อลีบ
VinblastineและVinorelbineกดไขกระดูกมากกว่าVincristine
2 ยากลุ่ม taxanes
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับβ-tubulin ยับยั้งการสลายของสายmicrotubules
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายและดื้อต่อยา
ผลข้างเคียงของยากลุ่ม taxanes
1.กดไขกระดูก
2.ภาวะน้ำคั่งในร่างกาย
5.ยากลุ่มฮอร์โมน
2.ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ผลข้างเคียงจากยาฮอร์โมนเอสโตรเจน
1.ร้อนวูบวาบ
2.มีเลือดประจำเดือนผิดปกติ
3.ยาออกฤทธิ์ด้านฮอร์โมน androgen
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านมในระยะแพร่กระจาย
ผลข้างเคียงของยาออกฤทธิ์ด้านฮอร์โมน androgen
1.ร้อนวูบวาบ
2.เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
1.ยากลุ่มสเตอรอยด์
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ผลข้างเคียงของยากลุ่มสเตอรอยด์
1.มีโอกาสติดเชื้อง่าย
2.โรคกระดูกพรุน
4.ยาฮอร์โมนโปรเจสติน
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งของไต
ผลข้างเคียงของยาฮอร์โมนโปรเจสติน
1.อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
3.ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
2.Doxorubicin (DOX)
กลไกการออกฤทธิ์
สร้างอนุมูลอิสระซึ่งทำให้สายDNAแตก
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
3.Bleomycin
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับธาตุเหล็ก เกิดการแตกของสายDNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งอัณฑะ
1.Dactinomycin หรือ actinomycin D
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก
กลไกการออกฤทธิ์
สอดแทรกเข้าไปในสายDNAทำให้สายsingle-strandของDNAแตก
4.Mitomycin
กลไกการออกฤทธิ์
ยาถูกเปลี่ยนแปลงเป็นสารalkylating agentsทำให้เกิดสะพานในสายDNAมีผลยับยั้งการสังเคราะห์DNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลำไส้ใหญ่
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Anticancer antibiotics
2.ยา Bleomycin มีพิษต่อปอด
3.ยา Mitomycin เกิดความเป็นพิษต่อไต มีการกดไขกระดูกอย่ารุนแรง
1.ยา Doxorubicin มีพิษต่อหัวใจ
6.ยามะเร็งมุ่งเป้า
1.ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี
1.2 Rituximab (Rituxan®)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไปจับกับCD20
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B cell lymphoma
ผลข้างเคียงจาก Rituximab (Rituxan®)
1.เกิดinfusion reaction อันตรายถึงชีวิต
2.กดไขกระดูก
1.3 Cetuximab (Erbitux®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
มะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ และมะเร็งลำไส้ส่วนล่าง
ผลข้างเคียงจากยา Cetuximab (Erbitux®)
1.ในครั้งแรกอาจทำให้ความดันต่ำและหายใจลำบาก
กลไกการออกฤทธิ์
จับที่(EGFR)ทำให้ไม่สามารถรับสัญญาณที่จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
1.1 Trastuzumab (Herceptin®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว
ผลข้างเคียงของ Trastuzumab (Herceptin®)
1.ภาวะหัวใจล้มเหลว
2.คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ(HER-2)
1.4 Alemtuzumab (Campath®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดB-cell
ผลข้างเคียงจากยา Alemtuzumab (Campath®)
1.อาจทำให้เกิดinfusion reaction
2.กดไขกระดูก
กลไกการออกฤทธิ์
ไปจับกับCD52
2.ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (Small molecules)
2.2 Dasatinib (Sprycel®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวและรักษามะเร็งที่ดื้อต่อยาImatinibได้
2.3 Nilotinib (Tasigna®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษา Chronic myeloid leukemia
2.1.Imatinib (Gleevec®)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษา gastrointestinal stromal tumor
ปฏิกิริยาระหว่างยา
1.ยับยั้งเอนไซม์CYP450
2.ลดการทำลายและขับยาImatinibทำให้ระดับยาImatinibในกระแสเลือดสูงขึ้น เกิดพิษจากยาได้
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Small molecules
1.มีของเหลวคั่งในร่างกาย
2.พิษต่อตับ
3.เกล็ดเลือดต่ำ
4.กดไขกระดูก
5.หัวใจเต้นผิดจังหวะ
2.ยากลุ่มAntimetabolites/Antineoplastic agents
2.Purine analogs
2.1 ยา6-mercaptopurine (6-MP)
การนำไปรักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดALLและAML
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าสู่กระแสเลือดจะถูกเปลี่ยนเป็นสารไรโบนิวคลีโอไทด์ ไม่สามารถสร้างและสังเคราะห์DNA RNAได้
2.2 ยา6-thioguanine (6-TG)
กลไกการออกฤทธิ์
คล้ายกับ6-MP
การนำไปรักษาในคลินิก
รักษาCLLและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่รุนแรง
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Purine analogs
1.กดไขกระดูก
2.แผลในปาก บรรเทาด้วยการอมน้ำแข็ง
3.Pyrimidine analogs
3.2. capectibine
กลไกการออกฤทธิ์
คล้ายกับ 5-FU
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
บรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว
3.3.Cytarabine
กลไกการออกฤทธิ์
เติมหมู่ฟอตเฟตไปยับยั้งการเชื่อมต่อสายของสายDNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดAML
3.1. 5-fluorouracil (5-FU)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์thymidylate synthase
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินอาหาร
3.4. Gemcitabine
กลไกการออกฤทธิ์
ยากระตุ้นให้มีการเติมหมู่ฟอตเฟตเกิดการยับยั้งการสร้างDNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจายไปแล้ว มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งที่ศีรษะและคอ
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Pyrimidine analogs
2.คลื่นไส้ อาเจียน พะอืดพะอม อาการท้องเสีย
3.ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
1.กดการทำงานของไขกระดูก
1.Antifolate/Folate antagonist
1.1 Methotrexatd (MTX)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งเอนไซม์dihydrofolate reductase (DHFR)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็ง เช่นมะเร็งรก มะเร็งที่ศีรษะและคอ มะเร็งปอด
1.2 Pemetreved
กลไกการออกฤทธิ์
ถูกmetaboliteยังยั้งการสังเคราะห์และสร้างตั้งจ้นของDNA RNA และโปรตีน
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน
ผลข้างเคียงของยากลุ่ม Antifolate/Folate antagonist
จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง ติดเชื้อมากขึ้น
ผิวหนังจะถูกแสงแดดเผาได้ง่าย
ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารเมื่อได้รับยาในขนาดสูง
7.ยากลุ่มอื่นๆ
1.Asparaginase
การนำไปใช้รักษาทางคลินิก
ใช้รักษาALLในเด็ก
ผลข้างเคียงจากยา Asparaginase
1.เกิดตับอ่อนอักเสบ พิษต่อตับ
กลไกการออกฤทธิ์
เร่งปฏิกิริยาhydrolysisทำให้เซลล์มะเร็งขาดสารจำเป็น
2.Mitorane
การนำไปใช้รักษาทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก
ผลข้างเคียงจากยา Mitorane
1.เกิดอาการซึมเศร้า
2.รบกวนทางเดินอาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียน
กลไกการออกฤทธิ์
รบกวนการทำงานของไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตชั้นนอก ลดการสร้างcortisol
1.)ยากลุ่มAlkylating agents ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ในทุกระยะของวงจรเซลล์
4.Carmustine
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับสายDNA เกิดDNA strand break
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งสมอง
5.Dacarbazine (DTIC)
กลไกการออกฤทธิ์
ถูกเปลี่ยนแปลงโดยCYP450ให้กลายเป็นสารที่มีพิษต่อการสร้างDNA RNAของเซลล์มะเร็ง
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ในการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดHodkin’s lymphomaและมะเร็งผิวหนัง
3.Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์
จับสายDNAแบบCross-linking เซลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวได้
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็กเลือดขาวชนิดเรื้อรังและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดfollicular
6.Cisplatin, Carboplatin
กลไกการออกฤทธิ์
เชื่อมจับสายDNAยับยั้งการบวนการDNA replicationและDNA transcription
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
มะเร็งอัณฑะ มะเร็งไข่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอด มะเร็งทางเดินอาหาร
2.Ifosfamide (Holoxan;IFOS)
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกเหมือน Cyclophophamide
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งอัณฑะและมะเร็งของเนื้อเยื่ออ่อน
7.Busufan (Myleran)
กลไกการออกฤทธิ์
จับสายDNAแบบcross-linking
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น
1Cyclophophamide
กลไกการออกฤทธิ์
ถูกเปลี่ยนแปลงโดยCYP450ให้กลายเป็นphosphoramide mustard
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองหลายชนิดในเด็ก
8.Mechlorethamine (Mustargen, Mustine)
กลไกการออกฤทธิ์
จับสายDNAยับยั้งกระบวนการDNA transcription
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดHodkin’s lymphoma
ผลข้างเคียงจากยากลุ่ม Alkylating agents
2.แผลในปาก เบื่ออาหารในผู้ป่วยเกือบทุกราย
3.เกิดพิษต่อหัวใจ เลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ
1.เม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดแดงต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมะเร็งโดยรวม
3.ประเมินผลข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีบำบัดที่พบบ่อย
4.กรณีที่ได้รับยาชนิดฉีด กรณีที่อยากเคมีบำบัดรั่วซึมออกนอกเส้นเลือด หยุดยาทันทีพยายามดูดยาออกให้มากที่สุดถอดเข็มออก
2.ประเมินภาวะสุขภาพของผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยา
5.ถ้าผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเหลวเย็น
1.ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาครั้งแรก พยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยการ ให้ความรู้และคำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับเหตุผลของการให้ยาเคมีบำบัดภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากยาเคมีบำบัด แผนและขั้นตอนในการให้ยาเคมีบำบัด
ุ6.แนะนำผลข้างเคียงที่อาจพบเช่นผมร่วง
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
2.กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์
2.2.Mycophenolate mofetil (MMF):Cellcept®
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ป้องกันacute graft rejection
ผลข้างเคียงของยาMycophenolate mofetil (MMF):Cellcept®
ผลข้างเคียงที่พบน้อย ตับอ่อนอักเสบ พิษต่อตา ปวดกล้ามเนื้อ
กลไกการออกฤทธิ์ที่มีฤทธิ์
ยับยั้งเอนไซม์ionsine monophosphate dehydrogenaseส่งผลยับยั้งการสร้างDNA RNAและโปรตีน
2.3.SirolimusหรือEverolimus
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ป้องกันการเกิดacute graft rejection
ผลข้างเคียงของยา
กดไขกระดูก
ภาวะโพแทสเซียมต่ำในเลือด
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไปยับยั้งการทำงานของmTOR
2.1.Azathioprine (Imuran®)
การนำไปใช้ในคลินิก
ป้องกันacute graft rejectionจากการปลูกถ่ายไตและตับ
ใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเองหลายชนิด
ผลข้างเคียงของยา Azathioprine (Imuran®)
เกิดพิษต่อตับ
ตัวเหลือง ตาเหลือง ผมร่วง
กดการทำงานของไขกระดูก
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสร้าง DNA RNAและโปรตีนส่วนactive metabolite
2.4Leflunomide
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียงของยา
พิษต่อตับพิษต่อไต
กดไขกระดูกทำให้เกร็ดเลือดต่ำ
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสังเคราะห์pyrimidine การสร้างDNA RNAถูกยับยั้ง
3.กลุ่มอะดีโนคอร์ติคอยด์
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ในด้านการกดภูมิคุ้มกันสามารถนำไปใช้กดอาการแสดงของโรคภูมิคุ้มกัน เช่นโรคแพ้ภูมิตนเอง
ผลข้างเคียงของยา
การใช้corticosteroidsเป็นระยะเวลานานมีผลต่อระบบต่างๆของร่างกายหลายระบบเช่นหน้ากลมคล้ายรูปพระจันทร์ ติดเชื้อง่าย ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ภาวะร่างกายเป็นกรด กล้ามเนื้อฝ่อ
การออกฤทธิ์
ยาจะไปควบคุมการทำงานของgene ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์lymphocyteยับยั้งการสร้างcytokine
1.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน
1.1Cyclosporin A (CsA)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ป้องกันและรักษาacute graft rejection
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้งเอนไซม์calcineurinส่งผลยับยั้งการสร้าง และการหลั่งIL-2จากT cell
ผลข้างเคียงจากยา
พิษต่อระบบประสาท
การทำงานของตับผิดปกติ
พิษต่อไต
ยามีฤทธิ์กดไขกระดูก
1.2Tacrolimus (FK506®)
กลไกลการออกฤทธิ์ยา
ออกฤทธิ์เหมือนกับ Cyclosporin
การนำไปใช้ในคลินิก
รักษาผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียงจากยา Tacrolimus (FK506®)
ยามีพิษต่อระบบประสาท
4.กลุ่มสารยับยั้งCytokines (Cytokines inhibitors)
4.3Anti-TNF-α antibody
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียงของยา Anti-TNF-α antibody
กดไขกระดูก
ผื่นแดง คัน ปวดหรือบวม
ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน
กลไกลการออกฤทธิ์
เป็นantibodiesที่จับกับTNF-α
4.4Anti-IgE mAbs
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษาโรคหอบหืดที่เกิดจากภูมิแพ้
ผลข้างเคียงและความเป็นพิษ
อาจเกิดanaphylactic reactionหลังจากได้รับยา 2 ชั่วโมง
เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่ม
อาจพบอาการปวดศีรษะหรือปวดบริเวณที่ฉีดยา
กลไกลการออกฤทธิ์
ไปปิดกั้นการจับของIgEกับFc receptorทำให้เกิดอาการแพ้
4.2Anti-CD2
การออกฤทธิ์
ยาออกฤทธิ์โดยจับกับCD2
การนำไปใช้รักษาในคลินิกใช้รักษาผู้ป่วย
โรคสะเก็ดเงิน
ผลข้างเคียงและความเป็นพิษ
ไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ ติดเชื้อง่าย
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยHIV
4.5 Anti-lymphocyte globulin (ATG) Antilymphocyte globulin (ALG) :lymphoglobulin,Thymoglobulin
การนำไปใช้ในคลินิก
ใช้รักษา acute graft rejectionการปลูกถ่ายไต ใช้รักษาใครกระดูกฝ่อ
ผลข้างเคียงของยา
ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
เกร็ดเลือดต่ำ
เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้สูง
กลไกลการออกฤทธิ์
ยาออกฤทธิ์โดยจับกับโมเลกุลบนพื้นผิวT cellยับยั้งการกระตุ้นและเกิดการทำลายT cell
4.1Anti-IL-2 receptor antibody
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ในผู้ป่วยที่มีการปลูกถ่ายไต
ผลข้างเคียงและความเป็นพิษ
อาจพบอาการแพ้ยาได้
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์ยับยั้งการกระตุ้น lymphocyte
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันโดยรวม
4.กรณีที่ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ แนะนำผู้ป่วยถึงความจำเป็นในการรับประทานยากดภูมิกันอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตเพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะที่ปลูกถ่าย
5.ยากดภูมิคุ้มกันหลายหลายชนิดมีผลกดการทำงานของไขกระดูกอาจทำให้มีโลหิตจาง
3.ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
6.แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ซื้อยารับประทานเอง
2.ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา
7.ระหว่างที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่มีข้อควรระวังในการรับวัคซีนบางชนิด
1.ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาครั้งแรก พยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวโดยการให้ คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับเหตุผลของการให้ยากดภูมิคุ้มกัน
8.ยากลุ่มนี้มีผลทำให้ทารกพิการแต่กำเนิด