Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กป่วยที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยา, นางสาวสุตาภัทร ประเสริฐศักดิ์…
การพยาบาลเด็กป่วยที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยา
โรคภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency anemia)
สาเหตุ
การสะสมธาตุเหล็กน้อย เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกแฝด
ปัญหาการดูดซึมที่ลำไส้ไม่ดีจากปัญหาท้องร่วงเรื้อรัง
การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอต่อความต้องการ
มีการอักเสบของลำไส้
อาการ
เหนื่อยง่าย
: จากหัวใจต้องทำงานเพิ่มขึ้นในการที่จะหมุนเวียนเม็ดเลือดแดงที่มีน้อยลง
ปวดศรีษะ เฉื่อยชา
ซีด
: ผิวหนัง ฝ่ามือฝ่าเท้า ริมฝีปาก เหงือก เปลือกตา
ชีพจรเร็ว ความดันต่ำ
เบื่ออาหาร
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกาย
สังเกตหาภาวะซีด
สีผิว ฝ่ามือฝ่าเท้า ริมฝีปาก เยื่อยุตา
ซักประวัติ
ประวัติการคลอด
ชนิดของนมและอาหารเสริม
การตั้งครรภ์ของมารดา
Lab
เม็ดเลือดแเงจะมีขนาดเล็ก ติดสีจาง
Serum feritin น้อยกว่า 10 นาโนกรัม/ดล.
การรักษา
การให้เหล็กโดยการกิน: วันละ 3ครั้ง ระหว่างมื้ออาหาร
แก้ไขสาเหตุ: ยาถ่ายพยาธิ
การให้เลือด: ในรายที่ซีดมาก ให้ Packed Red Cell
ภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-P-D (G-6-P-D Deficiency)
ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ
X – linked ส่วนใหญ่พบในเพศชาย
พยาธิสภาพ
G-6-PD หน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความคงทนของเซลล์ ในภาวะที่มีระดับเอ็นไซม์ลดลงหรือมีโครงสร้างผิดปกติ เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่สามารถสร้างเอ็นไซม์ได้ทำให้มีสภาวะที่ไม่คงทน เกิดการแตกทำลายได้ง่าย ทำให้เกิดอาการซีดอย่างเฉียบพลัน มีฮีโมโกลบินในกระแสเลือดเป็นจำนวนมาก ปัสสาวะสีโค๊ก เนื่องจากมีฮีโมโกลบินในปัสสาวะ
อาการ
ซีดลงอย่างรวดเร็ว
ปัสสาวะดำเป็นสีโค๊ก (Hemoglobinuria)
ภาวะไตวาย
ตัวเหลืองภายหลังคลอดในทารกแรกเกิด
ภาวะซีดเรื้อรัง
สาเหตุ
ยา: ยารักษามาลาเรีย ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด
สารเคมี เสื้อผ้าที่อบด้วยลูกเหม็น
อาหาร ถั่วปากอ้าดิบๆ
การติดเชื้อ
การรักษา
หาสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการซีด
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
ให้เลือด ถ้ามีอาการซีดมากๆ
ทารกแรกเกิดที่มีอาการตัวเหลือง รักษาด้วยPhototherapy
โรคภาวะโลหิตจางจากไขกระดูกไม่ทำงาน (Aplastic Amemia)
RBC WBC Plt. น้อยลง
สาเหตุ
ผิดปกติแต่กำเนิด
ผิดปกติเกิดขึ้นภายหลัง
ไม่ทราบสาเหตุ
ทำลายของเนื้อเยื่อ stem cell ในไขกระดูก
การได้รับยา: ยาเคมีบำบัด,Chloramphenical,ยาแก้ปวด,ยากันชัก
การได้รับสารเคมีบ่อย: ยาฆ่าแมลง ทินเนอร์
ภายหลังการติดเชื่อ: ไวรัสตับอักเสบ
ภายหลังได้รับรังสีการรักษาในขนาดสูง
พยาธิสภาพ
ได้รับสารเคมี ยา เชื้อจุลชีพ รังสีรักษา และภาวะผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน
ทำลาย stem cell
stem cell ลดลง การเจริญเติบโตของ stem cell เสีย
เม็ดเลือดทั้ง 3 ชนิดลดลง
การวินิจฉัย
การเจาะไขกระดูก
การตรวจนับเม็ดเลือดทั้งสามชนิด
อาการ
Low Plt.
เลือดออกตามไรฟัน
เลือดกำเดา
มีจุดจ้ำเลือดตามตัว
เลือดออกในทางเดินอาหาร ทำให้อาเจียนและถ่ายเป็นเลือด
Low RBC
ซีด เหนื่อยง่าย ชีพจรเบาเร็ว
Low WBC
ติดเชื้อง่าย
มีไข้
เป็นแผลในปาก
การักษา
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
ใช้ในผู้ป่วยเด็กที่ไขกระดูกไม่ทำงานขั้นรุนแรง
ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
เปลี่ยนถ่ายไขกระดูกจากพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน
การรักษาด้วยยากดระบบ Immune
การตรวจวินิจฉัยยืนยันว่าไขกระดูกไม่ทำงานจากปฎิกิริยาทางอิมมูน ยากดระบบอิมมูน ได้แก่ ALG,ATG หรือ Cyclosporin
การักษาด้วยฮอร์โมน
ฮอร์โมน Androgen
กระตุ้นร่างกาย
หลั่ง Erythropoietin
กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
การรักษาตามอาการ
ให้เลือด เมื่อผู้ป่วยมีอาการซีดรุนแรง หรือเลือดออกในอวัยวะต่างๆ
รักษาภาวะติดเชื้อ
โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
สาเหตุ
ความผิดปกติในการสังเคราะห์โกลบิน ทำให้การสร้างฮีโมโกลบินลดลง ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้น เกิดปัญหาซีดเรื้อรังตั้งแต่กำเนิด
ชนิดของโรค
กลุ่มอาการรุนแรงมาก
:ฮีโมโกลบินบาร์ทโฮ
ดรอพส์ ฟิทัสลิส ส่วนใหญ่เสียชีวิตในครรภ์มารดา
กลุ่มอาการรุนแรงปานกลาง
:โฮโมซัยกัส เบต้า-ธาลัสซีเมียและเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี แรกเกิดปกติ จะเริ่มมีอาการตั้งแต่ภายในขวบปีแรก คือ ซีด อ่อนเพลีย ตาเหลือง ท้องป่อง ตับม้ามโต กระดูกใบหน้าเปลี่ยน โหนกแก้มสูง ดั้งจมูกแบน ฟันยื่น ตัวเตี้ยแคระแกรน ผิวคล้ำ เจริญเติบโตไม่สมอายุ
กลุ่มอาการรุนแรงน้อย
ได้แก่ ฮีโมโกลบินเอ็ช ผู้ป่วยจะมีอาการน้อย เช่น ซีด และเหลืองเล็กน้อย หากมีไข้หรือติดเชื้อผู้ป่วยจะซีดลง
การรักษา
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก ซึ่งเป็นการรักษา โรคธาลัสซีเมียให้หายได้ ซึ่งจะช่วยให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ปกติในตัวผู้ป่วยได้
การให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์
การให้เลือด เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
การผ่าตัดม้าม (Splenectomy) การผ่าตัดจะทำในกรณีที่ม้ามโตมากจนทำให้เกิดอาการอึดอัด หรือมีภาวะม้ามทำงานมากกว่าปกติ (Hypersplenism)
การให้ยาขับธาตุเหล็ก เพื่อป้องกันและลดภาวะเหล็กเกินในเลือด
การรักษาทั่วไป อธิบายให้ผู้ป่วยและผู้ปกครองเข้าใจเกี่ยวกับโรค การถ่ายทอดทางพันธุกรรม การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก
ภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากภาวะเหล็กเกิน
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการซีดเรื้อรัง ประวัติครอบครัว
การตรวจร่างกาย
Lab
การตรวจนับจำนวนและดูลักษณะของเลือดเลือดแดง ได้แก่ Hematocrit, Hemaglobin, Mean corpuscular volume ซึ่งมักพบว่ามีปริมาณต่ำทุกตัว นอกจากนั้นมักพบเม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็กและติดสีจาง มีรูปร่างแตกต่างกัน
การถ่ายทอดพันธุกรรม
พาหะ+พาหะ=บุตร 25% ปกติ 50% พาหะ 25% เป็นโรค
โรค+พาหะ=บุตร 50% พาหะ 50% เป็นโรค
พาหะ+ปกติ=บุตร 50% ปกติ 50% พาหะ
ฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
ถ่ายทอดทางพันธุกรรม X – linked recessive จากการขาดปัจจัยในการแข็งตัวของเลือด
สาเหตุ
ฮีโมฟีเลีย A (Classical Hemophilia) พร่องแฟคเตอร์ 8
ฮีโมฟีเลีย B (Christmas disease) พร่องแฟคเตอร์ 9
ฮีโมฟีเลีย C พร่องแฟคเตอร์ 11 อาการไม่รุนแรงมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ autosomal recessive
พยาธิสภาพ
ขาดองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือดทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างไฟบรินได้ เลือดจึงไหลผ่านบริเวณหลอดเลือดที่ฉีกขาด ทำให้มีเลือดไหลออกนอกหลอดเลือดตลอดเวลา
การดูแล
ถ้าเลือดออกในข้อให้ใช้ผ้ายืดพันไว้และให้พักข้อนิ่งๆ ป้องกันและหลีกเลี่ยงการทำให้เลือดออก / สังเกตอาการทางระบบประสาท
เมื่อเลือดหยุดออกเริ่มให้เคลื่อนไหวเพื่อป้องกันข้อติด
ห้ามเลือดและลดการมีเลือดออก ในวันแรกประคบด้วยความเย็นเพื่อให้เลือดหยุด วันต่อมาประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อให้ลิ่มเลือดละลายเร็วขึ้น
ให้ FFP หรือ Cryoprecipitate
คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการดูแลเด็กโรค Hemophilia
มีบัตรประจำตัวติดตัวเด็กตลอดเวลา ชื่อระบุ โรคที่เป็น
การป้องกันอุบัติเหตุ การจัดสิ่งแวดล้อม การเล่น การสวมเสื้อผ้า
การพาเด็กมารับ Vaccine ใช้เข็มเล็กสุด กดนาน 5-10 นาที
ดูแลสุขภาพฟันไม่ให้ฟันผุ หลีกเลี่ยง การใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง
หลีกเลี่ยงกีฬาที่กระทบกระแทก
ไม่ให้ผู้ป่วยอ้วน หรือ น้ำหนักมากเกินไป
ป้องกันภาวะท้องผูก ให้อาหารอ่อน ย่อยง่าย
โรคภาวะเกล็ดเลือดต่ำโดยไม่ทราบสาเหตุ
(Indiopathic Thrombocytopenic purpura: ITP)
สาเหตุ
การสร้างเกล็ดเลือดลดลง เนื่องจากโรคของไขกระดูกเอง
เกล็ดเลือดถูกทำลายมากกว่าปกติ
เกล็ดเลือดถูกใช้ไปมากกว่าปกติ
พยาธิสภาพ
มี Platelet antibody บนผิวของเกล็ดเลือด ซึ่งทำให้เกล็ดเลือดถูกทำลายอย่างรวดเร็ว โดย macrophage ที่ม้าม ทำให้ระดับเกล็ดเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และเกิดภาวะเลือดออกในอวัยวะต่างๆ
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
อาการและความผิดปกติที่ควรซักถาม ได้แก่ การมีเลือดออกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น จุด จ้ำเลือดตามลำตัว แขนขา
การตรวจร่างกาย
เช่น มีเลือดกำเดาไหล
Lab
พบว่า เกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ แต่เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวปกติ
อาการ
จุดจ้ำเลือดที่ผิวหนัง
เลือดกำเดาไหล
เลือดออกในเยื่อบุต่างๆ
ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลืองไม่โตแต่อาจตรวจพบอาการซีด ถ้าภาวะเลือดออกเกิดขึ้นช้าๆ และไม่รุนแรง
การรักษา
ส่วนใหญ่โรคหายได้เอง 70-80 % ภายในเวลา 1-2 เดือน และจะไม่กลับเป็นซ้ำอีก บางรายที่ไม่หาย หรือมีเลือดออกใต้ผิวหนังหลายแห่ง หรือมีจุดเลือดออกในปากควรให้กิน prednisolone เพื่อให้ผนังของหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น
โรคเลือดออกจากการมี Prothrombin ต่ำ (Acquired Prothrombim Complex Deficiency Syndrome : APCD)
สาเหตุ
ทารกแรกเกิดมีวิตามินเค ในเลือดน้อยมาก
ทารกไม่ได้รับวิตามินเค เมื่อแรกเกิด
การได้รับอาหารเสริมที่ไม่ถูกต้อง
พยาธิสภาพ
โปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์ คือ องค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือดตัวที่ 2, 7, 9,10 ซึ่งสร้างโดยตับ โดยมีวิตามิน เค ทำให้เกิดการสร้างโปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์ ที่เป็น active form เมื่อร่างกายขาด ทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดหยุดชะงักในระยะของการสร้างโปรทรอมบินและทรอมบิน ทำให้การสร้างไฟบริน เพื่อช่วยในการอุดรอยฉีกขาดของหลอดเลือดหยุดชะงัก
การรักษา
ให้วิตามินเค 2-5 มิลลิกรัม เข้าทางหลอดเลือดดำ เป็นเวลา 1- 3 วัน
ให้ Fresh Frozen Plasma ถ้าผู้ป่วยมีอาการเลือดออกรุนแรง เพื่อเป็นการเพิ่มโปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์
ให้ Packed Red Cell ถ้าซีดมาก
อาการ
เลือดออกในสมอง ทางเดินอาหาร ผิวหนัง อาการมักเกิดอย่างเฉียบพลัน ทารกมักมีอาการซีด ซึม ไม่ดูดนม ชัก หรือมีกระหม่อมหน้าโป่งตึง
อาการซีด
มีจ้ำเขียวตามตัว หรือเลือดหยุดยาก
อาการตับโต ในผู้ป่วยเด็กบางราย
ในรายที่ไม่เสียชีวิตจากการมีเลือดในสมอง อาจมีอาการพิการทางสมองในระยะต่อมา
นางสาวสุตาภัทร ประเสริฐศักดิ์ รหัส 611001055 เลขที่ 55