Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ฟ้อง - Coggle Diagram
ฟ้อง
โจทก์
พนักงานอัยการ
ผู้มีอำนาจฟ้อง
ผู้เสียหายในคดีอาญา
พนักงานอัยการหรือผู้เสียหายเมื่อเป็นโจทก์ร่วมกัน
182คำพิพากษาและคำสั่งศาล
ศาลต้องอ่านคำพิพากษาโดยเปิดเผยต่อหน้า
คู่ความ
จำเลย
2 (3 )บัญญัติว่าจำเลยหมายถึงบุคคลที่ถูกฟ้องยังศาลแล้วโดยก็หาว่าได้กระทำความผิด
ไม่แจ้งกำหนดแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษให้ทนายจำเลย
ไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษที่มีเหตุสุดวิสัยทำให้ทนายจำเลยไม่ยื่นอุทธร ฎีกา ตามกำหนด
ทนายจำเลยไม่ใช่จำเลย
โจทก์
บทบัญญัติดังกล่าวไม่ประสงค์จะให้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย
แต่หากจำเลยหลบหนีไม่สามารถนำตัวมาฟังคำพิพากษาได้ก็อนุญาตให้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้หากพ้นกำหนดเวลา 1 เดือนนับแต่วันออกหมายจับ
โดยไม่จำต้องแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาครั้งต่อไปให้จำเลยนั้นทราบ
วันดังกล่าวจะมิได้เป็นวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้
การนำส่งหมายบังคับให้จำเลยมาฟังคำพิพากษาไม่ชอบ
ศาลออกหมายจับและการพิพากษาลับหลังจำเลยไม่ได้
มื่อสารอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยตามกฎหมายต้องถือได้ว่าอ่านคำพิพากษานั้นโดยชอบ
การที่ศาลอ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟังอีกครั้ง
ไม่มีผลทำให้ยืดอายุฎีกา
เพื่อให้จำเลยได้ทราบคำพิพากษาตามที่จำเลยต้องการเท่านั้น
หลังวันอ่านคำพิพากษาข้างต้น 5 เดือนก็
ไม่มีเหตุสงสัยว่าจำเลยจงใจไม่มาฟังศาลให้ศาลรอการอ่านไว้จนกว่าจำเลยจะมาศาล
ถ้าเป็นความผิดของโจทย์ที่ไม่มาจะอ่านโดยโจทก์ไม่อยู่ก็ได้
คำพิพากษาที่อ่านแล้วย่อมมี
ผลนับตั้งแต่วันที่ศาลได้อ่านโดยเปิดเผยเป็นต้นไป
ตามปวิอ
188
อ่านให้จำเลยแต่ละคนฟังวันไหน
ผลพิพากษาวันนั้น
ถือว่าเป็นที่สุดตั้งแต่วันที่ได้อ่านเป็นต้นไป
ปวิแพ่งมาตรา 147 ใช้บังคับเท่าที่พอจะใช้บังคับได้ตามปวิอาญามาตรา 15
มาตรา 147 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า
คำพิพากษา หรือคำสั่งใดๆซึ่งตามกฎหมายจะอุทธรณ์หรือฎีกาหรือคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้นั้นให้ถือว่าเป็นที่สุดตั้งแต่วันที่ได้อ่านเป็นต้นไป
ถูกฟ้อง
จำเลย
ผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลว่าได้กระทำผิด