Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง - Coggle Diagram
อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชการที่2
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพื่อใช้ในการแสดงละครใน และ ละครนอก
เพื่อรักษาจารีตประเพณีของราชสำนัก ศิลปะการร่ายรำ ความสนุกสนาน
3.รักษาไว้เป็นมรดกของชาติ และเพื่องป้องกันการสูญหาย
คุณค่าการประพันธ์
ด้านวรรณศิลป์
ลีลาในการแต่งคำประพันธ์
1.เสาวรจณี เช่าตอนกล่าวชมความงามการแต่งกายของกะหลัดตะปาตี
2.นารีปราโมทย์ เช่นตอนอิเหนาโลมนางจินตะหราก่อนจะไปทำศึกที่เมืองดาหา
3.พิโรธวาทัง เช่นตอนที่ท้างกระหมังกุหมึงโกรธที่ท้าวดาหาไม่ยอมยกนางบุษบาให้ลูกของตน
4.สัสลาปังคพิสัย เช่าตอนระตูปาหยังและระตูปะหมังมีอารมณ์โศกเศร้าเมื่อไปดูศพของพระเชษฐา
เสียงเสนาะในการแต่งคำประพันธ์
สัมผัสอักษร แว่วเสียงสำเนียงบุหรงร้อง ว่าเสียงสามนิ่มน้องเสน่หา
การเลือกสรรถ้อยคำ การใช้คำราชาศัพท์ การใช้ภาษา ชวา
สัมผัสสระ เช่น ความกลวควงมรักสลักทรวง ให้เป็นห่วงหลังกังวลหน้า
ด้านสังคม
ค่านิยม
1.การสมรสในวงส์เดียวกัน
2.การทำศึกชิงนาง
3.การเลี้ยงดูลูกสาวให้เป็นกุลสตรี
4.ควมเคารพให้ผู้ใหญ่
5.การมีเมตตาของกษัตริย์
วิถีชีวิตและวัฒนธรรม
1.เมื่อเกิดสงครมชาวบ้านมักนำสมบัติไปฝังดิน
2.การกินหมาก
3.การต้แนรับแขกเมือง
4.การสู่ขอ
1.เรื่องฤกษ์ยาม
2.เรื่องบุญกรรม
3.การแต่งตัวตามวันมงคล
4.พิธีกรรม พิธีเบิกโขนลทวาร พิธีฟันไม้ข่มนาม
ลักษณะการประพันธ์
ละครใน มีรูปแบบที่เป็นระเบียบแบบแผน สุภาพ
เป็กลอนบทละคร โดยมีการบังคับเหมือนกลอน4สุภาพ แต่ละวรรคมักขึ้นด้วย "เมื่อนั้น" "บัดนั้น" "มาจะกล่าวไป"
ความเป็นมา
เป็นวรรณคดีโบราณ แต่งโดยชาวชวา เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์
โดยที่พระองค์ทรงเป็นนักรพ มีพระราชธิดา 1 พระองค์ และพระราชโอรส 2 พระองค์ เมื่อพระราชธิดาออพนวช ได้แบ่งอาณาจักรเป็น2ส่วน คือกุเรปัน แะดาหา
ต่อมาท้าวกุเรปันได้มีพระราชโอรส ชื่อ อิเหนา และท้างดาหาได้มีพระราชธิดา ชื่อ บุษบา โดยจะให้ทั้ง2สมรสกันเพื่อจะทำให้อาณาจักรรวมเป็นหนึ่งกันอีกครั้ง
ต่อมาในสมัยรัตนโกสสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้พระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่ทั้งหมด
อิเหนาได้ถูกนำเข้ามาในไทย โดยที่เจ้าฟ้ากุณฑลแลพเจ้าฟ้ามงกุฎได้ฟันนิทานอิเหนามาจากนางกำนัลชาวมาลยูทีได้มาจากเมืองปัตตานี
ตัวละครที่สำคัญ
นางบุษบา
เป็นคนที่อยู่ในโอวาทของบิดามรดา
ท้าวกระหมังกุหนิง
เป็นกษัตริย์เมืองกระหมังกุหนิง
ใจเด็ด แต่ประมาท รักลูกยิ่งชีวิต
ท้างดาหา
พระอนุชาของท้างกุเรปัน
รักษาคำพูด หยิ่งในศักดิ์ศรี ใจร้อน
วิหยาสะกำ
เอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง ใจร้อนทำให้ตายก่อนวัยอันควร เป็นชายงาม
ท้าวกุเรปัน
เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่
เป็นคนถือยศศักดิ์ ไม่เกรงใจใคร
อิเหนา
โอรสของท้าวกุเรปัน
เจ้าชู้ แต่มีความเป็นชายกล้าหาญอย่างนักรพ รอบคอบ มองการณ์ไกล
ด้านเนื้อหา
กลวิธีในการแต่ง
ภาพพจน์
โดยใช้ อุปมาโวหารการเปรียบเทียบ
และอธิพจน์โวหารการกล่าวเกินจริง
จินตภาพ ให้ผู้อ่านสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
การเล่นคำทำให้เกิดความไพเราะ
ความรู้และความคิด
1.ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม
2.สภาพของการศึกสงครามในสมัยอดีต
โครงเรื่อง
ฉาก เนื่องเรื่องซึ่งเป็นเรื่องของชวาแต่ได้มีการสอดแทรวัฒนธรรมของไทยไว้อย่างมีศิลปะ
ปมขัดแแย้ง เป็นเรื่องที่าจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงและสมเหตุสมผล
แนวคิดของเรื่อง แสดงให้เห็นถึงความรักที่พ่อมีต่อลูก
ความสุนทรียของงานประพันธ์
การเลือกใช้ถ้อยคำดีเด่นและไพเราะกินใจ
๑. การใช้คำอุปมาอุปไมย เป็นการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่ง
๒. การใช้สัญลักษณ์
๓. การกล่าวเกินความจริง
๔.การใช้ถ้อยคำคมคายดีเด่น
การสะท้อนสังคมและวัฒนธรรมไทย
๑.ประเพณีการใช้บน
๒. ประเพณีการแต่งตัว
๓.ประเพณีการเสด็จของเจ้านาย
กลอนบทละครที่บรรยายและพรรณนาความ
๑. บรรยายบุคลิกภาพของตัวละคร
๒. การบรรยายลักษณะของศาลเทพารักษ์
๓. การพรรณนาธรรมชาติ
การแสดงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษ
สภาพชีวิตของนางสนมกำนัลในราชสำนัก