Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

มาตรฐานการตรวจสอบภายใน - Coggle Diagram

- - - - CAE ทบทวนกฎบัตรเป็นระยะ นำเสนอต่อ CEO และ BODs อนุมัติ
    - - กฎบัตร กำนดสถานภาพของ Internal Audit Unit (IAU)
      - ลักษณะความสัมพันธ์ในการรายงานตามหน้าที่ของ CAE กับ Board
      - กำหนดอำนาจในการเข้าถึงบันทึก บุคลากร และทรัพย์สินที่จักต้องได้ เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตรวจสอบ
      - กำหนดขอบเขตของกิจกรรมการตรวจสอบภายใน
  - - - ความเป็นอิสระ หมายถึง อิสระจากอุปสรรคต่อความสามารถของหน่วยงาน ปราศจากอคติ CAE ต้องสามารถเข้าถึง CEO และ Board โดยตรงและไม่มีข้อแม้ ผ่านรายงานแบบควบคู่ (Dual Reporting)
      - ความเที่ยงธรรม หมายถึ ทัศนคติที่ไม่มีความลำเอียงอยู่ภายในจิตใจ IA ปฏิบัติงานในลักษณะที่เชื่อมั่นในผลงานของตน ไม่มีการลดหย่อยผ่อนผันในด้านคุณภาพ ไม่ยอมให้ดุลพินิจของตนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้อื่นสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อความเที่ยงธรรมต้องได้รับการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล ระดับหน้าที่ และระดับองค์กร
    - - CAE ต้องรายงานต่อระดับขั้นภายในองค์กรที่สูงพอจะทำให้ IAU สามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วง และยืนยันความเป็นอิสระของ IAU ต่อ Board อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
      - ตีความ
        
        จะมีประสิทธิผลเมื่อ CAE รายงานหน้าที่ต่อ Board การที่ Board เป็นผู้
        
        อนุมัติกฎบัตร
        
        อนุัติแผนงานตรวจสอบภายในตามความเสี่ยง
        
        อนุมัติแผนงบประมาณและการใช้ทรัพยากรของงานตรวจสอบภายใน
        
        รับการสื่อสารจาก CAE เกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของ IAU เปรียบเทียบกับแผนงาน และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
        
        ตัดสินใจอนุมัติการแต่งตั้ง และโยกย้าย CAE
        
        อนุมัติค่าตอบแทนของ CAE
        
        สอบถามฝ่ายบริหาร และ CAE เพื่อให้ลงความเห็นว่ามีการกำหนดขอบเขตการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสมหรือมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรหรือไม่
      - 1110.A1 - IAU ต้องปราศากการแทรกแซงใดๆ ทั้งขอบเขต การปฏิบัติงาน การสื่อสาร CAE ต้องเปิดเผยถึงการแทรกแซงต่อ Board และหารือถึงผลกระทบที่อาจเกิด
      - 1111 - การมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับคณะกรรมการ
        
        CAE ต้องสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับ Board
      - 1112 - บทบาาทของ CAE ที่นอกเหนือจากการตรวจสอบภายใน
        
        จะต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อจำกัดการเสื่อมเสียความเป็นอิสระหรือความเที่ยงธรรม
        
        ตีความ
        
        CAE อาจได้รับการร้องขอให้มีบทบาทหรือรับภาระหน้าที่เเพิ่มเติม นอกเหนือจาก IA เช่น การกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือกิจกรรมการบริหารความเสี่่ยง อาจทำให้ความเป็นอิสระของ IAU หรือความเที่ยงธรรมของ IA เสื่อมลงได้
    - - IA ต้องมีทัศนคติที่เป็นกลาง ไม่มีอคติ และหลีกเลี่ยงในเรื่องของความขัดแย้งทางผลประโยชน์
      - ตีความ
        
        ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หมายถึง สถานการณ์ที่ IA ต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ในทางอาชีพและผลประโยชน์ส่วนตัว ที่ขัดกัน อาจเกิดความยุ่งยาก
    - - หากเกิดการเสื่อมเสีย ต้องเปิดเผยให้แก่ผู้ที่เหมาะสมทราบ
      - ตีความ
        
        การเสื่อมเสีย หมายรวมถึง ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ส่วนตัว การจำกัดขอบเขต ข้อห้ามในการเข้าถึงข้อมูล บุคลากร และทรัพย์สิน และข้อจำกัดทางทรัพยากร เช่น การจัดสรรงบประมาณให้ เป็นต้น
        
        การกำหนดว่าผู้ใด สมควรเป็นผู้รับทราบรายละเอียดของการเสื่อมเสีย ขึ้นอยู่กับความคาดหวังที่มีต่อภาระหน้าที่ของ IAU และ CAE ต่อ CEO และ Board ตามที่กำหนดไว้ในกฎบัตร รวมถึงลักษณะของความเสื่อมเสียนั้นด้วย
      - 1130.A1 - IA ต้องละเว้นการประเมินงานที่ตนเองเคยรับผิดชอบก่อน ถือว่าความเที่ยงธรรม จะเสื่อมลง หาก IA ให้ความเชื่อมั่นงานที่ตนรับผิดชอบในปีที่ผ่านมา
      - 1130.A2 - งานให้ความเชื่อมั่นต่อหน้าที่งานต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ CAE ต้องได้รับการตรวจตรา โดยกลุ่มคนที่อยู่นอก IAU
      - 1130.A3 - IAU อาจให้ความเชื่่อมั่นต่องานที่เคยให้บริการให้คำปรึกษาก่อนหน้านั้น หากการให้คำปรึกษานั้นไม่ได้ทำให้ความเที่ยงธรรมเสื่อมเสียได้
      - 1130.C1 - IA อาจให้บริการด้านการให้คำปรึกษาในงานที่ตนเองเคยรับผิดชอบมาก่อนได้
      - 1130.C2 - หาก IA มีแนวโน้มที่ความเป็นอิสระหรือความเที่ยงธรรม อาจเสื่อมเสียได้จากบริการให้คำปรึกษา ก็ต้องเปิดเผยให้ผู้รับบริการทราบก่อนยอมรับทำงานให้
  - - - IA ต้องมีความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย IAU ต้องมีหรือได้รับความรู้ ทักษะ ความสามารถในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของหน่วยงานนั้น
      - ตีความ
        
        ความเชี่ยวชาญ หมายรวมถึง ความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับ IA ในการปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ในทางวิชาชีพอย่างมีประสิทธิผล
        
        ครอบคลุมถึง การคำนึงถึงกิจกรรมต่างๆ ในปัจจุบัน แนวโน้ม รวมทั้งประเด็นที่เกิดขึ้นใหม่ๆ เพื่อสามารถให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะที่ตรงประเด็นได้ IA ควรแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญโดยการได้รับวุฒิบัติทางวิชาชีพและมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่น CIA หรืออื่นที่เป็นสากล
      - 1210.A1- CAE ต้องขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ หาก IA ขาดความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่นที่จำเป็น ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดของงาน
      - 1210.A2 - IA ต้องมีความรู้เพียงพอที่จะประเมินความเสี่ยงของการเกิดทุจริต แต่ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าผู้มีหน้าที่โดยตรงในการตรวจจับและสอบสวนทุจริต
      - 1210.A3 - IA ต้องมีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงและการควบคุมหลักของ IT รวมทั้งเทคนิคด้วย IT อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้เทียบเท่ากับ IA ที่รับผิดชอบงานตรวจสอบ IT โดยตรง
      - 1210.C1 - CAE ต้องปฏิเสธงานให้คำปรึกษา หรือแสวงหาคำแนะนำและความช่วยเหลือที่ดีพอ ในกรณี IA ขาดความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่น ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดของงาน
    - - IA ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และใช้ทักษะเยี่ยง IA ที่มีความรู้ความสามารถและความสุขุมรอบคอบอย่างพอเหมาะพอควร
      - ไม่ได้หมายถึง การกระทำที่ปราศจากข้อผิดพลาดใดๆ เลย
      - 1220.A1 - IA ต้องใช้ความระมัดระวังในทางวิชาชีพโดยคำนึงดังนี้
        
        ขอบเขตของงานที่ตรวจสอบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงานที่ได้รับมอบหมาย
        
        ความซับซ้อน ความมีนัยสำคัญ หรือความสำคัญที่เกี่ยวข้อง ของประเด็นต่างๆ ที่ได้นำกระบวนการให้ความเชื่อมั่นไปใช้ประเมิน
        
        ความเพียงพอและความมีประสิทธิผลของกระบวนการ G R C
        
        ความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาด การทุจริต หรือการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ อย่างมีนัยสำคัญ
        
        ต้นทุนของการให้ความเชื่อมั่นเทียบกับประโยชน์ที่อาจจะได้รับ
      - 1220.A2 - การใช้ความระมัดระวังในทางวิชาชีพอย่างเหมาะสมนั้น IA ต้องพิจารณาการใช้วิธีการตรวจสอบโดยอาศัยเทคโนโลยีและเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ เข้ามาช่วยในการตรวจสอบ
      - 1220.A3 - IA ต้องตื่นตัวต่อความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ การปฏิบัติงาน และทรัพยากร แค่วิธีการให้ความเชื่อมั่นอย่างเดียวไม่สามารถจะรับประกันได้ว่าจะสามารถระบุถึงความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญได้ทั้งหมด แม้ว่าจะใช้ความระมัดระวังในการประกอบอาชีพตามสมควรแล้วก็ตาม
      - 1220.C1 - IA ต้องใช้ความระมัดระวังในทางวิชาชีพอย่างเหมาะสมในการให้คำปรึกษา โดยคำนึงถึง
        
        ความต้องการและความคาดหวังของ ผู้รับบริการ รวมถึงลักษณะของงาน ช่วงเวลาการปฏิบัติงาน และการสื่อสารผลการปฎิบัติงาน
        
        ความซับซ้อนของงานที่เกี่ยวข้อง และขอบเขตของงานที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมาย
        
        ต้นทุนของงานการให้คำปรึกษาเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่อาจจะได้รับ
    - - IA ต้องเพิ่มพูน ความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่นๆ ของตน โดยการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
  - - - โครงการฯ ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยในการประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรฐานของ IAU รวมทั้งการประเมินว่า IA ได้ประยุกต์ใช้ประมวลจรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน
      - โครงการดังกล่าวยังประเมินความมีประสิทธิภาพและประสิทธผลของ IAU รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการปรับปรุงงานให้ดีขึ้น
      - CAE ควรส่งเสริมให้ Board เข้ามากำกับดูแลโครงการฯ
    - - ต้องมีการประเมินทั้งภายในและภายนอก
      - 1311 - การประเมินภายในองค์กร
        
        ประกอบด้วย
        
        การติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของ IAU ในระหว่างที่งานดำเนินไป
        
        การประเมินตนเองเป็นระยะ หรือประเมินโดยบุคคลอื่นภายในองค์กร โดยบุคคลเหล่านั้นมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติงานตรวจสอบบภายในอย่างเพียงพอ
        
        ตีความ
        
        การติดตามประเมินผลในขณะที่งานดำเนินไป เป็นส่วนที่ผนวกเข้าไปในการควบคุมดูแลงานประจำวัน สอบทาน และวัดผล IAU
        
        ถการติตามประเมินผลในขณะที่งานดำเนินไปนั้นได้ถูกผนวกเข้าไปในนโยบายและแนวปฏิบัติที่ใช้เป็นประจำในการบริหารจัดการ IAU และใช้กระบวนการเครื่่องมือ และข้อมูลที่พิจารณาแล้ว ว่าจำเป็ต่อการประเมินผลการปฏิบัติงานว่า สอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐาน
        
        การประเมินเป็นระยะๆ คือ การประเมินการปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐานวิชาชีพตรวจสอบภายในเป็นระยะ
        
        ความรู้ในวิธีการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในที่เพียงพอ หมายถึง ผู้ประเมินอย่างน้อยต้องเข้าใจในองค์ประกอบทั้งหมด ของ IPPF
      - 1312 - การประเมินจากภายนอกองค์กร
        
        ต้องมีประเมินจากภายนอกอย่างน้อยทุก 5 ปี โดยผู้ประเมินหรือทีมผู้ประเมินอิสระจากภายนอองค์กรที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
        
        CAE ต้องหารือกับ Board ดังนี้
        
        รูปแบบและความถี่ของการประเมินจากภายนอก
        
        คุณสมบัติและความเป็นอิสระของผู้ประเมินหรือทีมผู้ประเมินจากภายนอก ตลอดจนความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้
        
        ตีความ
        
        การประเมินจากภายนอกอย่างเต็มรูปแบบให้การรับรองความถูกต้อง ผู้ประเมินจากภายนอกต้องลงความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐาน ผู้ประเมินจากภายนอกอาจให้ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานหรือกลยุทธ์ก็ได้
        
        จะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถใน 2 ด้าน คือ การปฏิบัติงานวิชาชีพตรวจสอบภายใน และกระบวนการประเมินจากภายนอกองค์กร โดยความสามารถแสดงให้เห็นได้จาก การผสมผสานระหว่างประสบการณ์ทำงานจริงและการเรียนรู้ทางทฤษฏี
        
        ไม่จำเป็นว่าสมาชิกแต่ละคนของทีมต้องมีความสามารถครบถ้วนทุกด้าน แต่เป็นทีมประเมินทั้งคณะที่ควรมีคุณสมบัติเหมาะสม โดย CAE จะเป็นผู้ใช้วิจารณญานในทางวิชาชีพ ประเมินความสามารถเพียงพอที่จะถือได้ว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่
        
        ผู้ประเมินหรือคณะผู้ประเมินที่เป็นอิสระ หมายถึง การไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใดๆ
        
        CAE ควรส่งเสริมให้ Board เข้ามากำกับดูแลการประเมินจากภายนอก เพื่อลด COI ได้รับทราบมาหรือที่อาจเกิดขึ้นได้
    - - CAE ต้องสื่อสารผลของโครงการฯ ต่อ Board และ Board ต้องเปิดเผย ดังนี้
        
        ขอบเขตและความถึ่การประเมินทั้งภายในและภายนอก
        
        คุณสมบัติและความอิสระของผู้ประเมิน รวมถึง COI
        
        ข้อสรุปของผู้ประเมิน
        
        แผนการดำเนินการแก้ไข
      - ตีความ
        
        รูปแบบ เนื้อหาและความถี่ของการสื่อสารโครงการฯ เกิดจากการหารือร่วมกับ Board และ Board และจากพิจารณาถึงภาระหน้าที่ของ IAU และ CAE ตามที่กำหนดในกฎบัตร เพื่อแสดงความสอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐาน
        
        เมื่อการประเมินเสร็จสิ้นลง จะต้องสื่อสารผลการประเมินทันที และต้องสื่อสารผลการประเมินในระหว่างที่งานดำเนินไปอย่างน้อยปีละครั้ง
      - 1321 - การใช้ข้อความ "สอดคล้องกับมาตรฐานสากลสำหรับการปฏิบัติงานวิชาชีพการตรวจสอบภายใน"
        
        การระบุข้อความ จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีผลการประเมินของโครงการฯ มาสนับสนุนเท่านั้น
        
        ตีความ
        
        IAU ปฏิบัติสอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณ และมาตรา เมื่อหน่วยงานนั้น บรรลุผลตามที่ระบุไว้ในประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐานแล้วเท่านั้น
        
        ผลของโครงการฯ ได้แก่ ผลของการประเมินจากภายในและภายนอกองค์กร
        
        AU ทุกหน่วยงานต้องมีผลการประเมินเป็นภายในองค์กร และ IAU ที่จัดตั้งมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ต้องมีผลการประเมนจากภายนอกด้วย
      - 1322 - การเปิดเผยเกี่ยวกับการปฏิบัติไม่สอดคล้อง
        
        เมื่อปฏิบัติไม่สอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณ หรือมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อขอบเขตหรือการปฏิบัติงานของ IAU โดยรวม CAE ต้องเปิดเผยถึงการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องและผลกระทบต่อ CEO และ Board
- - - - มีประสิทธิผลต่อเมื่อ
        
        IAU บรรลุวัตถุประสงค์และภาระหน้าที่ที่มีอยู่ในกฎบัตร
        
        IAU ปฏิบัติสอดคล้องกับมาตรฐาน
        
        บุคลากรแต่ละคนใน IAU ปฏิบัติสอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณและมาตรฐาน
        
        IAU ได้คำนึงถึงแนวโน้ม และประเด็นใหม่ๆ ที่สามารถส่งผลระทบต่อองค์กรได้
      - IAU จะเพิ่มมูลค่าให้แก่องค์กร (และผู้มีส่วนได้เสีย) ต่อเมื่อ IAU คำนึงถึง กลยุทธ์ วัตถุประสงค์ และความเสี่ยง รวมทั้งส่งเสริม G R C และให้ความเชื่อมั่นอย่างเที่ยงธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้
    - - CAE ต้องจัดทำแผน โดยอาศัยความเสี่ยงเป็นพื้นฐาน เพื่อกำหนดลำดับความสำคัญของงานต่างๆ ของ IAU โดยสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร
      - ตีความ
        
        การพัฒนาแผนการตรวจสอบ โดยอาศัยความเสี่ยงเป็นพื้นฐาน CAE จะหารือกับ CEO และ Board และทำความเข้าใจในกลยุทธ์องค์กร วัตถุประสงค์ ในทางธุรกิจที่สำคัญ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการบริหารความเสี่ยง
        
        CAE ต้องสอบทานและปรับแก้แผนตามความจำเป็น เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ความเสี่ยง การปฏิบัติงาน โครงการ ระบบ และวิธีการควบคุมต่างๆ ขององค์กร
      - 2010.A1 แผนการปฏิบัติงานต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการประเมินความเสี่ยงที่จัดทำเป็นเอกสาร โดยต้องจัดทำอย่างน้อยปีละครั้ง และต้องนำข้อมูลจาก CEO และ Board พิจารณาในกระบวนการทำแผนนี้ด้วย
      - 2010.A2 - CAE ต้องระบุและคำนึงถึงความคาดหวังของ CEO Board และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ที่มีต่อความเห็นของการตรวจสอบภายในและข้อสรุปอื่นๆ
      - 2010.C1 - CAE ควรพิจารณารับงานให้คำปรึกษาที่เสนอมา โดยคำนึงถึงแนวโน้มที่งานนั้นจะสามารถทำให้เกิดการปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง เพิ่มคุณค่าและปรับปรุงกรปฏิบัติงานขององค์กร รวมทั้งบรรจุงานที่ได้ยอมรับมาแล้วไว้ในแผนด้วย
    - - CAE ต้องสื่อสารแผนงานของ IAU และทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ และการเปลี่ยนแปลงระหว่างกาลที่มีนัยสำคัญต่อ CAE และ Board เพื่อการสอบทานและอนุมัติ CAE ต้องสื่อสารถึงผลกระทบที่เกิดจา่ข้อจำกัดในทางทรัพยากรที่มีต่อแผนงาน
    - - CAE ต้องมั่นใจว่า ทรัพยากรสำหรับงานตรวจสอบมีความเหมาะสมเพียงพอและถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิผลเพื่อให้บรรลุตามแผนงานที่ได้รับอนุมัติมาได้
      - ตีความ
        
        ความเหมาะสม > การผสมผสานระหว่างความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านต่างๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติตามแผนงาน
        
        ความเพียงพอ > ปริมาณของทรัพยากรที่จำเป็นต่อการบรรลุแผนงานทรัพยากรจะถูกนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล ก็ต่อเมื่อมีการนำไปใช้ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความสำเร็จตามแผนงานที่ได้รับอนุมัติได้สูงสุด
    - - CAE ต้องกำหนดนโยบายและวิธีการปฏิบัติงานเพื่อเป็นแนวทางสำหรับ IAU
      - ตีความ
        
        รูปแบบและเนื้อหาของนโยบายและวิธีการปฏิบัติงานขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างของ IAU รวมทั้งความซับซ้อนของงาน
    - - CAE ควรแลกเปลี่ยนข้อมูลประสานงาน และพิจารณาใช้ผลงานของผู้ให้บริการด้านการให้ความเชื่อมั่นและให้คำปรึกษาจากภายในและภายนอกองค์กรรายอื่นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความครอบคลุมอย่างเหมาะสม และเพื่อให้การปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกันน้อยที่สุด
      - ตีความ
        
        การใช้ผลงานของบุคคลอื่น ควรกำหนดกระบวนการที่สอดคล้องกันในการกำหนดพื้นฐานของการใช้ผลงานของผู้อื่น และ CAE ควรคำนึงถึงความสามารถความเที่ยงธรรม และการใช้ความระมัดระวังในการประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม
        
        CAE ควรมีความเข้าใจอย่างชัดเจนในขอบเขตวัตถุประสงค์ รวมทั้งผลของงานที่บุคคลอื่นให้บริการด้วย
        
        เมื่อใดที่ได้ใช้ผลงานของผู้อื่น CAE ยังคงต้องมีหน้าที่และรับผิดชอบต่อการทำให้เกิดความมั่นใจ ว่าผลงานนั้นสามารถสนับสนุนข้อสรุปและความเห็นของ IAU ได้อย่างพอเพียง
    - - CAE ต้องรายงานต่อ CEO และ Board เป็นระยะๆ เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ อำนาจหน้าที่ การปฏิบัติงานตามแผนงาน รวมทั้งการปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณและมาตรฐาน
      - รายงานต้องระบุถึงประเด็น R และ C ที่มีนัยสำคัญ รวมถึงความเสี่ยงจากการทุจริต และ G และเรื่องอื่นๆ ที่ CEO และ Board จำเป็นต้องให้ความสนใจ
      - ตีความ
        
        ความถึ่และเนื้อหาของการรายงาน เป็ผลมาจากการหารือและตกลงร่วมกันระหว่าง CAE CEO Board ขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูลที่กำลังสื่อสาร ความเร่งด่วน
        
        การรายงานต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับ
        
        กฎบัตร
        
        ความเป็นอิสระของ IAU
        
        แผนการตรวจสอบและความคืบหน้าเมื่อเทียบกับแผน
        
        ความต้องการในทรัพยากรต่างๆ
        
        การปฏิบัติที่สอดคล้องกับประมวลจรรยาบรรณและมาตรฐาน
        
        การตอบสนองต่อความเสี่ยงโดยผู้บริหาร ซึ่ง CAE เห็นว่าองค์กรอาจยอมรับไม่ได้
    - - Contact ทำหน้าที่เป็น IAU ต้องทำให้องค์กรตระหนักว่า องค์กรยังมีภาระหน้าที่ดำรงไว้ซึ่ง IAU ทีมีประสิทธิผล
      - ตีความ
        
        ภาระหน้าที่ขององค์กร แสดงผ่านโครงการฯ ซึ่งประเมินความสอดคล้องของการปฏิบัติตามประมวลจรรยาบรรณ และมาตรฐาน
  - - - IAU ต้องประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อปรับปรุง G เพื่อ
        
        การตัดสินใจทางกลยุทธ์และการปฏิบัติงาน
        
        การกำกับดูแลกระบวนการบริหารความเสี่ยงและการควบคุม
        
        การเสริมสร้างความมีจริยธรรมและคุณค่าที่เหมาะสมภายในองค์กร
        
        การทำให้เชื่อมั่นได้ในเรื่องการบริหารผลการปฏิบัติงานขององค์กรและความรับผิดชอบในผลของงานที่มีประสิทธิผล
        
        การสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับ R และ C ไปยังส่วนงานต่างๆ ที่เหมาะสมภายในองค์กร
        
        การประสานกิจกรรมและสื่อสารข้อมูลระหว่าง Board CPA IA ผู้ให้ความเชื่อมั่นอื่นๆ และผู้บริหารขององค์กร
      - 2110.A1 - IAU ต้องประเมินการออกแบบ การนำไปปฏิบัติและความมีประสิทธิผลของกิจกรรม โครงการ และวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมขององค์กร
      - 2110.A2 - IAU ต้องประเมินว่า G ด้าน IT ขององค์กรสนับสนุนกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ขององค์กรหรือไม่
    - - IAU ต้องประเมินความมีประสิทธิผลและมีส่วนช่วยในการปรับปรุงกระบวนการบริหารความเสี่ยง
      - ตีความ
        
        การตัดสินว่า R มีประสิทธิผลหรือไม่ เป็นดุลพินิจที่เป็นผลมาจากการประเมินของ IA ว่า
        
        วัตถุุประสงค์ขององค์กรสนับสนุนและเป็นไปในทิศทางเดียวกับพันธกิจขององค์กร
        
        มีการระบุและประเมินความเสี่ยงที่มีนัยคัญ
        
        มีการเลือใช้วิธีการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้
        
        ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและสื่อสารภายในองค์กรในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้พนักงาน ผู้บริหาร และ Board ปฏิบัติภาระหน้าที่ได้
        
        มีการติดตามประเมินผลกระบวนการบริหารความเสี่ยงโดยผ่านกิจกรรมทางการบริหารที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือโดยการประเมินแยกต่างหาก หรือทั้ง 2 แบบร่วมกัน
      - 2120.A1 - IAU ต้องประเมินความเสี่ยงที่่เกี่ยวกับ G การดำเนินงาน และระบบสารสนเทศขององค์กร ในประเด็นดังนี้
        
        1 การบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ขององค์กร
        
        2 ความเชื่อถือได้และความถูกต้อง ของสารสนเทศทางการเงินและการปฏิบัติงาน
        
        3 ความมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานและโครงการต่างๆ
        
        4 ความปลอดภัยของสินทรัพย์
        
        5 การปฏิบัติตาม กม. ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย วิธีการปฏิบัติงาน และสัญญาต่างๆ
      - 2120.A2 - IAU ต้องประเมินความเป็นไปได้ของการเกิดทุจริต และองค์กรจัดการกับความเสี่ยงจากการทุจริตอย่างไร
      - 2120.C1 - ระหว่างปฏิบัติงานการให้คำปรึกษา IA ต้องระบุความเสี่ยงที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมาย และต้องตื่นตัวต่อการมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญ
      - 2120.C2 - IA ต้องผนวกเอาความรู้ในเรื่องของความเสี่ยงที่ได้มาจากการให้บริการให้คำปรึกษาไปใช้ในการประเมินกระบวนการบริหารความเสี่ยงขององค์กร
      - 2120.C3 - การให้ความช่วยเหลือฝ่ายบริหารในการจัดให้มีหรือปรับปรุงกระบวนการบริหารความเสี่ยง IA ต้องละเว้นการที่จะเข้าไปรับหน้าที่ของทางฝ่ายบริหารโดยเข้าไปจัดการกับความเสี่ยงเสียเอง
    - - IAU ต้องช่วยให้องค์กรคงไว้ซึ่งวิธีการควบคุมที่มีประสิทธิผล โดยการส่งเสริมการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
      - 2130.A1 - IAU ต้องทำการประเมินความเพียงพอและประสิทธิผลของวิธีการควบคุม ในการตอบสนองต่อความเสี่ยง G การปฏิบัติงาน และ IT
        
        1 การบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ขององค์กร
        
        2 ความเชื่อถือได้และความถูกต้อง ของสารสนเทศทางการเงินและการปฏิบัติงาน
        
        3 ความมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานและโครงการต่างๆ
        
        4 ความปลอดภัยของสินทรัพย์
        
        5 การปฏิบัติตาม กม. ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย วิธีการปฏิบัติงาน และสัญญา
      - 2130.C1 - IA ต้องผนวกเอาความรู้ในเรื่องของการควบคุมที่ได้มาจากการให้บริการให้คำปรึกษาไปใช้ในการประเมินกระบวนการควบคุมขององค์กร
  - - - คำนึงถึง
        
        กลยุทธ์และวัตถุประสงค์ของกิจกรรมที่กำลังจะสอบทานและวิธีการที่จะใช้ในการควบคุมการดำเนินงานของกิจกรรมนั้น
        
        ความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อ วัตถุประสงค์ ทรัพยากร และการดำเนินงานของกิจกรรมนั้น หนทา่งที่จะใช้ในการจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดความเสี่ยง ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
        
        ความเพียงพอและความมีประสิทธิผผลของ G R C เมื่อเปรียบเทียบกับกรอบ (Framework) หรือต้นแบบ (Model) ที่เกี่ยวข้อง
        
        โอกาสที่จะปรับปรุง G R C สำหรับกิจกรรมนั้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
      - 2201.A1 - การวางแผนการปฏิบัติงานสำหรับกลุ่มบุคคลภายนอกองค์กร IA ต้องทำความเข้าใจกับผู้รับบริการเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับ วัตถุประสงค์ ขอบเขต ภาระหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ความคาดหวังอื่นๆ รวมทั้งข้อจำกัดในการเผยแพร่ผลงาน และการเข้าถึงเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ได้รับมอบหมาย
      - 2201.C1 - ในงานให้คำปรึกษา IA ต้องทำความเข้าใใจกับผู้รับบริการกับวัตถุประสงค์ ขอบเขต ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ความคาดหวังอื่นๆ ของผู้รับบริการ กรณีเป็นงานสำคัญ ต้องบันทึกความเข้าใจไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
    - - 2210.A1 - IA ต้องทำการประเมินเบื้องต้นถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับกิจกรรมที่ตรวจสอบวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมายให้เห็นผลจากการประเมินนี้
      - 2210.A2 - ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาด การทุจริต การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ
      - 2210.A3 - เกณฑ์ที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการประเมิน G R C IA ต้องมั่นใจในขอบเขตที่ฝ่ายบริหาร/Bord ใช้ในการกำหนดเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อตัดสินได้ว่ามีการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว หากเกณฑ์ไม่เหมาะสม IA ต้องระบุเกณฑ์การประเมินที่เหมาะสมด้วยการหารือกับฝ่ายบริหาร/Board
        
        ตีความ
        
        ประเภทเกณฑ์ต่างๆ
        
        เกณฑ์ภายใน (นโยบาย คู่มือปฏิบัติงาน)
        
        เกณฑ์ภายนอก (กม. ระเบียบข้อบังคับทางการ)
        
        เกณฑ์ซึ่่งเป็นวิธีปฏิบัติชั้นนำ (แนวทางอุตสาหกรรมและในทางวิชาชีพ)
      - 2210.C1 - วัตถุประสงค์ของงานให้คำปรึกษาต้องระบุถึง G R C โดยอยู่ภายในขอบเขตที่ได้ตกลงไว้กับผู้รับบริการ
      - 2210.C2 - วัตถุประสงค์ของงานให้คำปรึกษาต้องสอดคล้องกับคุณค่า กลยุทธ์ และวัตถุประสงค์ขององค์กร
    - - ต้องเพียงพอที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมายได้
      - 2220.A1 - ต้องรวมถึงการคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ระบบงาน การบันทึกข้อมูล บุคลากร และทรัพย์สินที่จับต้องได้ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ในความดูแลของกลุ่มบุคคลที่สาม
      - 2220.A2 - หากมีโอกาสในการให้บริการให้คำปรึกษาที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงานให้ความเชื่อมั่น IA ควรทำความเข้าใจกับผู้บริการเป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ ขอบเขต ภาระหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และความคาดหวังอื่นๆ ของผู้รับบริการ รวมทั้งการสื่อสารผลของการปฏิบัติงานให้คำปรึกษา ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวกับงานการให้คำปรึกษา
      - 2220.C1 - งานให้คำปรึกษา IA ต้องมั่นใจว่าได้กหนดขอบเขตของงานที่ได้รับมอบหมายไว้เพียงพอที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตกลงไว้ หาก IA ได้กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับขอบเขตขึ้นมาในะหว่างการปฏิบัติงาน จะต้องมีการพูดคุยถึงเงื่อนไขเหล่านี้กับผู้รับบริการว่าจะยังคงต้องการให้ปฏิบัติงานต่อไปหรือไม่
      - 2220.C2 - ในระหว่างการปฏิบัติงานให้คำปรึกษา IA ต้องกล่าวถึงวิธีการควบคุมให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมาย และต้องตื่นตัวต่อประเด็นการควบคุมที่มีนัยสำคัญ
    - - IA ต้องกำหนดทรัพยากรให้เหมาะสมและเพียงพอ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมย โดยอาศัยการประเมินลักษณะและความซับซ้อนของงานที่ได้รับมอบหมายแต่ละงาน ข้อจำกัดเรื่องเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่
      - ตีความ
        
        เหมาะสม > ส่วนผสมของความรู้ ทักษะ ความสามารถอื่นๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน
        
        เพียงพอ > ปริมาณทรัพยากรที่จำเป็นในการปฏิบัติงานให้สำเร็จโดยใช้ความระมัดระวังในทางวิชาชีพอย่างเหมาะสม
    - - IA ต้องสร้างและจัดทำเอกสารแนวการปฏิบัติงาน ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้รับมอบหมายได้
      - 2240.A1 - ต้องรวมถึงวิธีการที่ใช้ในการระบุ วิเคราะห์ ประเมิน และบันทึกข้อมูลในระหว่างการปฏิบัติงาน แนวทางการปฏิบัติงานต้องได้รับการอนุมัติก่อนนำไปใช้ปฏิบัติ และหากมีการเปลี่ยนแปลง ต้องได้รับการอนุมัติโดยทันที
      - 2240.C1 - การให้คำปรึกษาอาจมีรูปแบบและเนื้อหาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของการปฏิบัติงาน
  - - - IA ต้องระบุข้อมูลที่เพียงพอ น่าเชื่อถือ มีความเกี่ยวข้อง เป็นประโยชน์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่ได้รับมอบหมายได้
      - ตีความ
        
        ข้อมูลที่เพียงพอคือสิ่งที่เป็นความจริง มีความเพียงพอ สามารถโน้มน้าวบุคคลที่สุขุมรอบคอบให้เห็นตรงกับ IA
        
        ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ คือ ข้อมูลที่หามาได้ดีที่สุด จาการใช้เทคนิคการตรวจสอบที่เหมาะสม
        
        ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จะสนับสนุนข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่ได้จากการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การตรวจสอบ ข้อมูลเป็นประโยชน์จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้
    - - IA ต้องลงความเห็นและสรุปผลการปฏิบัติงาน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์และการประเมินที่เหมาะสม
    - - IA ต้องจัดทำและรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอ เชื่อถือได้ เกี่ยวข้อง และมีประโยชน์ เพื่อสนับสนุนผลการตรวจสอบและข้อสรุปจากการปฏิบัติงาน
      - 2330.A1 - CAE ต้องควบคุมการเข้าถึงบันทึกข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงาน CAE ต้องขออนุมัติจาก CEO หรือที่ปรึกษา กม. ก่อนที่จะส่งข้อมูลไปใ้ห้บุคคลภายนอก ตามความเหมาะสม
      - 2330.A2 - CAE ต้องกำหนดข้อกำหนดในการเก็บรักษาข้อมุลจากการปฏิบัติงาน ไม่ว่าบันทึกข้อมูลจะถูกเก็บรักษาอยู่ในสื่อรูปแบบใด็กตาม จะต้องสอดคล้องกับแนวทางขององค์กรและทางการที่เกี่ยวข้องกัน
      - 2330.C1 - CAE ต้องกำหนดนโยบายในการเก็บและรักษาบันทึกข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงานให้คำปรึกษา รวมทั้งการเผยแพร่ต่อบุคคลภายในและภายนอกองค์กร นโยบายเหล่านี้ต้องสอดคล้องกับแนวทางขององค์กรและทางการที่เกี่ยวข้องกัน
    - - ต้องมีการควบคุมและดูแลการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงาน คุณภาพของงานเชื่อถือได้ และพนักงานได้รับการพัฒนา
      - ตีความ
        
        ขอบเขตการควบคุมดูแลที่จำเป็นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ IA และความซับซ้อนของงานที่ได้รับมอบหมาย
        
        CAE มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นงานที่ปฏิบัติโดย หรือปฏิบัติเพื่อ IAU แต่อาจมอบหมายให้พนักงนใน IAU ที่่มีประสบการณืเหมาะสมเป็นผู้ทำการสอบทาน โดยต้องมีการจัดทำและจัดเก็บหลักฐานในการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานที่เหมาะสม
  - - - การสื่อสารต้องรวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขต และผลของงานที่ได้รับมอบหมาย
      - 2410.A1 - การสื่อสารผลการปฏิบัติงานชุดสุดท้าย ต้องมีข้อสรุปและเสนอแนะที่ใช้การได้ หรือแแผนดำเนินการแก้ไข บางกรณี IA ควรให้ความเห็นด้วยตามความเหมาะสม คำนึงถึงความคาดหวังของ CEO Board และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องสนับสนุนด้วยข้อมูลที่เพียงพอ เชื่อถือได้ มีความเกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์
        
        ตีความ
        
        ความเห็น อาจเป็นการจัดอันดับ การสรุปประเด็น หรือการบรรยายถึงผลของงาน งานที่ได้รับมอบหมายนั้น อาจเกี่ยวข้องกับวิธีการควบคุมที่มีอยู่ในกระบวนการเฉพาะบางกระบวนการ ความเสี่ยง หรือหน่วยธุรกิจ ดังนั้น ในการจัดทำความเห็นจำเป็นต้องคำนึงถึงผลของงานและความมีนัยสำคัญ
      - 2410.A2 - IA ควรแสดงการยอมรับการปฏิบัติงานซึ่งเป็นที่น่าพอใจไว้ในการสื่อสารผลการปฏิบัติงานด้วย
      - 2410.A3 - ในการเผยแพร่ผลการตรวจสอบต่อบุคคลภายนอกองค์กร ต้องระบุข้อจำกัดในการเผยแพร่และกานำผลการตรวจสอบไปใช้ต่อไว้ด้วย
      - 2410.C1 - การสื่อสารถึงความคืบหน้าและผลของงานให้คำปรึกษาอาจมีรูปแบบและเนื้อหาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะงานแต่ละงานและความต้องการของผู้รับบริการ
    - - การสื่อสารผลการปฏิบัติงานต้องมีความถูกต้อง เที่ยงธรรม ชัดเจน กระชับ สร้างสรรค์ ครบถ้วน และในเวลาที่เหมาะสม
      - ตีความ
        
        ถูกต้อง > ต้องปราศจากข้อผิดพลาด และการบิดเบือน และยึดตามข้อเท็จจริง
        
        เที่ยงธรรม > ต้องยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ และเป็นผลมาจากการประเมินข้อเท็จจริงและสถานการณ์แวดล้อมทั้งหมดด้วยใจที่เป็นธรรมและสมดุล
        
        ชัดเจน > การสื่อสารที่เข้าใจง่าย และเป็นเหตุเป็นผล หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เทคนิคที่ไม่จำเป็น รวมทั้งให้ข้อมูลที่สำคัญและเกี่ยวข้องไว้อย่างครบถ้วน
        
        กระชับ > การสื่อสารที่ตรงประเด็น และหลีกเลี่งการพร่ำพรรณนาที่ไม่จำเป็น ลงรายละเอียดมากเกินไป ใช้คำซ้ำซากและฟุ่มเฟือย
        
        สร้างสรรค์ > ต้องสร้างประโยชน์ให้กับผู้รับบริการและองค์กร อันนำไปสู่การปรับปรุงในส่วนที่จำเป็น
        
        ครบถ้วน สมบูรณ์ > ข้อมูลที่มีนัยสำคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ข้อสังเกตต่างๆ ที่สนับสนุนข้อเสนอแนะและข้อสรุป
        
        เวลาที่เหมาะสม > การสื่อสารที่ถูกกาละเทศะ เหมาะสมตามความมีนัยสำคัญของประเด็น โดยเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารดำเนินการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
    - - มีข้อผิดพลาดหรือมีการตกหล่นไปในประเด็นที่มีนัยสำคัญ CAE ควรสื่อสารที่แก้ไขให้ถูกต้องแล้วไปยังกลุ่มคนที่เคยได้รับรายงานแล้วทุกราย
    - - เฉพาะในกรณีที่มีผลของโครงการประกันคุณภาพและปรับปรุงงานมาสนับสนุนเท่านั้น
    - - กรณีที่ไม่สอดคล้องตามประมวลจรรยาบรรณ หรือมาตรฐาน มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในการสื่อสารถึงผลการปฏิบัติงานต้องเปิดเผย ดังนี้
        
        หลักการหรือหลักความประพฤติในประมวลจรรยาบรรณ หรือมาตรฐาน ข้อใดบ้างที่ไม่สามารถปฏิบัติให้สอดคล้องได้ครบถ้วน
        
        เหตุผลที่ปฏิบัติไม่สอดคล้องตามมาตรฐาน
        
        ผลกระทบจากการที่ปฏิบัติไม่สอดคล้องตามมาตรฐาน ที่มีต่องานและผลการปฏิบัติงานที่ได้สื่อสารไปแล้ว
    - - CAE ต้องสื่อสารผลการปฏิบัติงานไปยังกลุ่มบุคคลที่เหมาะสม
      - ตีความ
        
        CAE มีหน้าที่สอบทาน และอนุมัติการสื่อสารชุดสุดท้าย ก่อนนำออกเผยแพร่ รวมทั้งกำหนดผู้ที่จะได้รับรายงาน และวิธีการเผยแพร่รายงาน ถึงแม้ CAE มอบหมายหน้าที่ให้แก่บุคคลอื่น ก็คงมีหน้าที่รับผิดชอบโดยรวมอยู่
      - 2440.A1 - CAE มีหน้าที่ในการสื่อสารผลการตรวจสอบชุดสุดท้ายต่อผู้เกี่ยวข้องที่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าผลการตรวจสอบนั้น จะได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม
      - 2440.A2 - หากไม่มีข้อกำหนดในทางกฎหมายไว้เป็นอย่างอื่นแล้ว ก่อนการเสนอผลการตรวจสอบแก่บุคคลภายนอก CAE ต้อง
        
        ประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อองค์กร
        
        ปรึกษากับ CEO หรือที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย ตามความเหมาะสม
        
        ควบคุมการเผยแพร่ผลการตรวจสอบโดยระบุข้อจำกัด ในการใช้ผลการตรวจสอบ
      - 2440.C1 - CAE เป็นผู้รับผิดชอบในการสื่อสารผลการให้บริการให้คำปรึกษาชุดสุดท้ายให้แก่ผู้รับบริการ
      - 2440.C2 - ระหว่างการให้คำปรึกษา อาจมีการพบประเด็นเกี่ยวกับ G R C หากประเด็นอื่นๆ มีนัยสำคัญต่อองค์กร ผู้ตรวจสอบต้องรายงานให้ CEO และ Board
    - - คำนึงถึงกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ และความเสี่ยงขององค์กร รวมถึงความคาดหวังของ CEO Board และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ทั้งนี้ ความเห็นโดยรวมต้องสนับสนุนด้วยข้อมูลที่เพียงพอ น่าเชื่อถือ มีความเกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์
      - ตีความ
        
        การสื่อสารรายงานถึง
        
        ขอบเขตการปฏิบัติงาน รวมถึงระยะเวลาที่ครอบคลุมในการให้ความเห็น
        
        ข้อจำกัดในขอบเขต
        
        การพิจารณาโครงการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการใช้ผลงานของผู้ปฏิบัติงาน/ที่ปรึกษาอื่น
        
        บทสรุปย่อของข้อมูลที่สนับสนุนความเห็นโดยรวมนั้น
        
        กรอบความเสี่ยงหรือการควบคุม หรือเกณฑ์อื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานการให้ความเห็นโดยรวม
        
        ความเห็นโดยรวม ดุลพินิจ หรือข้อยุติที่ได้
        
        ทั้งนี้ ต้องระบุสาเหตของความเห็นที่แสดงถึงความไม่น่าพึงพอใจในภาพรวมไว้ด้วย
  - - - การระบุถึงความเสี่ยงที่ยอมรับโดยผู้บริหารนั้น อาจสังเกตโดยผ่านการปฏิบัติงานการให้ความเชื่อมั่นหรือการให้คำปรึกษา การเฝ้าติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการ โดยผู้บริหารซึ่งเป็นผลจากการตรวจสอบครั้งก่อน หรือโดยวิถีทางอื่นๆ ทั้งนี้ การหาข้อยุติเกี่ยวกับความเสี่ยงไม่ใช่หน้าที่ของ CAE