Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กจนถึงวัยรุ่นที่มีปัญหา ทางโลหิตวิทยาและนีโอพลาสมา - Coggle…
การพยาบาลเด็กจนถึงวัยรุ่นที่มีปัญหา
ทางโลหิตวิทยาและนีโอพลาสมา
ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยา
ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
ชนิด
. กลุ่มอาการรุนแรงปานกลาง
โฮโมซัยกัส เบต้า-ธาลัสซีเมียและเบต้า-ธาลัสซีเมีย/ฮีโมโกลบินอี แรกเกิดปกติ จะเริ่มมีอาการตั้งแต่ภายในขวบปีแรก
กลุ่มอาการรุนแรงน้อย
ฮีโมโกลบินเอ็ช ผู้ป่วยจะมีอาการน้อย เช่น
ซีด และเหลืองเล็กน้อย หากมีไข้หรือติดเชื้อผู้ป่วยจะซีดลง
กลุ่มอาการรุนแรงมาก
ฮีโมโกลบินบาร์ทโฮดรอพส์ ฟิทัลลิสเป็นชนิดที่รุนแรงที่สุด ส่วนใหญ่เสียชีวิตในครรภ์มารดา
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติในการสังเคราะห์โกลบิน ทำให้การสร้างฮีโมโกลบินลดลงโดยที่สูตรโครงสร้างของฮีโมโกลบินยังเป็นปกติ ทำให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้น
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
ประวัติการซีดเรื้อรัง ประวัติครอบครัว
การตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจนับจำนวนและดูลักษณะของเลือดเลือดแดง มักพบว่ามีปริมาณต่ำทุกตัว นอกจากนั้นมักพบเม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็กและติดสีจาง มีรูปร่างแตกต่างกัน
ความหมาย
โรคซีด ชนิดที่มีความผิดปกติของการสร้างฮีโมโกลบิน ทำให้ RBC มีลักษณะผิดปกติและแตกง่าย (hemolytic anemia) ทำให้ซีด เหลือง ตับม้ามโต
การรักษา
การให้เลือด
การให้ยาขับธาตุเหล็ก
การรักษาทั่วไป
การผ่าตัดม้าม (Splenectomy)
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
การให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ทำให้เกิด Acute anemia
ภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากภาวะเหล็กเกิน
โรคเกล็ดเลือดต่ำ (ITP)
ความหมาย
ภาวะที่มีเกล็ดเลือดน้อยกว่า 100,000 เซลล์/ไมโครลิตร ระดับเกล็ดเลือดต่ำกว่า 20,000 เซลล์/ไมโครลิตร ถือว่ามี
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำรุนแรง และอาจเกิดการมีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องได้รับบาดเจ็บ (spontaneous bleeding)
สาเหตุ
เกล็ดเลือดถูกทำลายมากกว่าปกติ
เกล็ดเลือดถูกใช้ไปมากกว่าปกติ
การสร้างเกล็ดเลือดลดลง เนื่องจากโรคของไขกระดูกเอง
อาการและอาการแสดง
เลือดกำเดาไหล
เลือดออกในเยื่อบุต่างๆ
จุดจ้ำเลือดที่ผิวหนัง ทั้งที่เป็นจุดเล็กๆ (petechiae) และเป็นจ้ำเลือด (ecchymosis)
ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตับม้าม ต่อมน้ำเหลืองไม่โตแต่อาจตรวจพบอาการซีด
ถ้าภาวะเลือดออกเกิดขึ้นช้าๆ และไม่รุนแรง
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
อาการและความผิดปกติที่ควรซักถาม ได้แก่ การมีเลือดออกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น จุด จ้ำเลือดตามลำตัว แขนขา
การตรวจร่างกาย
เช่น มีเลือดกำเดาไหล
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
พบว่า เกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ แต่เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวปกติ
การรักษา
ส่วนใหญ่โรคหายได้เอง 70-80 % ภายในเวลา 1-2 เดือน และจะไม่กลับเป็นซ้ำอีก บางรายที่ไม่หาย หรือมีเลือดออกใต้ผิวหนังหลายแห่ง หรือมีจุดเลือดออกในปากควรให้กิน prednisolone เพื่อให้ผนังของหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น ในรายที่เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นก็ค่อยๆ ลดขนาดของยาลงจนหยุดยา
ภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD (G-6-PD Deficiency)
สาเหตุ
สารเคมี เสื้อผ้าที่อบด้วยลูกเหม็น
อาหาร ถั่วปากอ้าดิบๆ
การติดเชื้อ: ไทฟอยด์ ปอดอักเสบ ตับอักเสบ ไข้หวัด มาลาเรีย
ยา
ยารักษามาลาเรีย ยาปฏิชีวนะ เช่น chloramphenical
ยาแก้ปวด เช่น aspirin, paracetamal
ความหมาย
ภาวะพร่องเอ็นไซม์ G-6-PD ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้นกว่าปกติ ทำให้เกิดการแตกของเม็ดเลือดแดงอย่างเฉียบพลัน ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ X – linked ส่วนใหญ่พบในเพศชาย
พยาธิสภาพ
ภาวะที่มีระดับเอ็นไซม์ลดลงหรือมีโครงสร้างที่ผิดปกติ เซลล์อื่นๆ ซึ่งมีนิวเคลียสจะสร้างเอ็นไซม์ขึ้นมาใหม่ แต่เซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งไม่มีนิวเคลียสจะไม่สามารถสร้างเอ็นไซม์ได้ทำให้เม็ดเลือดแดงมีสภาวะที่ไม่คงทน เนื่องจากฮีโมโกลบินเกิดการเสื่อมสภาพ ตกตะกอนเป็น Heinz bodies ทำให้เม็ดเลือดแดงเสียความยืดหยุ่น เกิดการแตกทำลายได้ง่าย ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการซีดอย่างเฉียบพลัน มีฮีโมโกลบินในกระแสเลือดเป็นจำนวนมาก
อาการและอาการแสดง
ปัสสาวะดำเป็นสีโค๊ก (Hemoglobinuria)
ภาวะไตวาย เนื่องจากมีกรดยูริกเพิ่มจำนวนขึ้นไปอุดหลอดเลือดฝอยในไต
ซีดลงอย่างรวดเร็ว
ตัวเหลืองภายหลังคลอดในทารกแรกเกิดที่มีภาวะพร่องเอ็นไซม์ G-6-P-D
ภาวะซีดเรื้อรัง
การรักษา
หาสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการซีด ได้แก่ ชนิดของยาหรือสารเคมีที่ได้รับก่อนเกิดอาการ
การรักษาภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะไตวาย
ให้เลือด ถ้ามีอาการซีดมากๆ
ทารกแรกเกิดที่มีอาการตัวเหลือง รักษาด้วยPhototherapy
โรคไขกระดูกฝ่อ (Aplastic anemia)
พยาธิสภาพ
การได้รับสารเคมี ยา หรือเชื้อจุลชีพบางชนิด รวมทั้งการได้รับรังสีรักษา ทำให้มีการทำลายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) มีผลทำให้จำนวนเซลล์ต้นกำเนิดลดลง ทำให้เม็ดเลือดทั้งสามชนิดลดลง
อาการและอาการแสดง
Low Platelet
มีจุดจ้ำเลือดตามลำตัวและแขนขา เลือดออก
ตามไรฟันและเลือดกำเดา
Low RBC
ซีด เหนื่อยง่าย ชีพจรเบาเร็ว และถ้ามีการเสียเลือดร่วมด้วย ทำให้มี
อาการซีดรุนแรงเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
Low WBC
ติดเชื้อง่าย มีไข้ เป็นแผลในปาก
สาเหตุ
ความผิดปกติแต่กำเนิด (Congenital)
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายหลัง
การได้รับยาบางชนิด ได้แก่ ยาเคมีบำบัด, Chloramphenical, ยาแก้ปวด, ยากันชัก
การได้รับสารเคมีบ่อยๆ ซึ่งเป็นพิษต่อระบบเลือด
เกิดภายหลังการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบ
ไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic)
เกิดภายหลังการได้รับรังสีการรักษาในขนาดสูง
การวินิจฉัย
การเจาะไขกระดูก
จะพบว่ามีเซลล์ไขกระดูกน้อยกว่าปกติ
การตรวจนับเม็ดเลือดทั้งสามชนิด
จะพบเม็ดเลือดทั้งสามชนิดมีจำนวนลดลง
ความหมาย
เป็นภาวะที่มี RBC, WBC, Plt. น้อยลงหรือไม่มี เนื่องจากมีความผิดปกติ
ในไขกระดูก
การรักษา
การรักษาด้วยฮอร์โมน
ในผู้ป่วยเด็กที่มีอาการไม่รุนแรงมาก
การรักษาด้วยยากดระบบ Immune
ในผู้ป่วยเด็กภาวะโลหิตจางจากไขกระดูกไม่ทำงานที่มีผลต่อการตรวจวินิจฉัยยืนยันว่าไขกระดูกไม่ทำงานจากปฏิกิริยาทางอิมมูน
การรักษาตามอาการ
เป็นการรักษาประคับประคองตามอาการ ได้แก่
การรักษาด้วยการให้เลือด เมื่อผู้ป่วยมีอาการซีดรุนแรง
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
ในผู้ป่วยเด็กที่ไขกระดูกไม่ทำงานขั้นรุนแรง คือ ซีด
เลือดออก และติดเชื้อรุนแรง ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
Hemophilia
พยาธิสภาพ
จากการขาดองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือดทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างไฟบรินได้ เลือดจึงไหลผ่านบริเวณหลอดเลือดที่ฉีกขาด ทำให้มีเลือดไหลออกนอกหลอดเลือดตลอดเวลา
หากเป็นการเสียเลือดภายในร่างกาย จะต้องใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการของการเสียเลือด ยกเว้นการมีเลือดออกในข้อหรือในอวัยวะที่สำคัญ เช่น สมอง ซึ่งผู้ป่วยเด็กจะแสดงอาการได้เร็ว
การดูแล
ให้ FFP(ในกรณีขาดแฟคเตอร์ 9,11) หรือ Cryoprecipitate (ขาดแฟคเตอร์ 8)
ห้ามเลือดและลดการมีเลือดออก ในวันแรกประคบด้วยความเย็นเพื่อให้เลือดหยุด วันต่อมาประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อให้ลิ่มเลือดละลายเร็วขึ้น
ถ้าเลือดออกในข้อให้ใช้ผ้ายืดพันไว้และให้พักข้อนิ่งๆ
เมื่อเลือดหยุดออกเริ่มให้เคลื่อนไหวเพื่อป้องกันข้อติด
สาเหตุ
ฮีโมฟีเลีย B
(Christmas disease) พร่องแฟคเตอร์ 9
ฮีโมฟีเลีย C
พร่องแฟคเตอร์ 11
ฮีโมฟีเลีย A
(Classical Hemophilia) พร่องแฟคเตอร์ 8
พบได้บ่อยที่สุด
คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง
การป้องกันอุบัติเหตุ การจัดสิ่งแวดล้อม การเล่น
การสวมเสื้อผ้า เฉพาะในเด็กและวัยรุ่นโรคนี้
มีบัตรประจำตัวติดตัวเด็กตลอดเวลา ชื่อระบุ โรคที่เป็น
ดูแลสุขภาพฟันไม่ให้ฟันผุ หลีกเลี่ยง การใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง
หลีกเลี่ยงกีฬาที่กระทบกระแทก
ไม่ให้ผู้ป่วยอ้วน หรือ น้ำหนักมากเกินไป
ป้องกันภาวะท้องผูก ให้อาหารอ่อน ย่อยง่าย
อาการและอาการแสดง
มีเลือดออกง่าย หยุดยาก พบจ้ำเขียวตามตัว แขนขา อาจพบจ้ำใหญ่หรือก้อนนูน หลังจากฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ พบเลือดออกมากหลังฟันหลุดหรือถอนฟัน
ความหมาย
เลือดออกง่ายหยุดยาก ถ่ายทอดทางพันธุกรรม X – linked recessive จากการขาดปัจจัยในการแข็งตัวของเลือด มีลักษณะเฉพาะคือ
เลือดออกในข้อ (hemarthrosis)
โดยเฉพาะข้อเข่า ข้อเท้า ข้อศอก
ซีดจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency anemia)
การรรักษา
แก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุ เช่น การให้ยาถ่ายพยาธิ
การให้เลือด รายที่มีภาวะซีดมาก หรือมีอาการแสดงของภาวะหัวใจวาย โดยให้เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Packed red cell)
การให้เหล็กโดยการกิน (Ferrous sulfate) ให้วันละ 3 ครั้ง ระหว่างมื้ออาหาร ถ้าให้เหล็กไปพร้อมกับอาหาร หรือให้ร่วมกับนมจะขัดขวางการดูดซึม ทำให้การดูดซึมลดลง
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
สังเกตและหาสาเหตุภาวะซีด ได้แก่ สีผิว ฝ่ามือฝ่าเท้า ริมฝีปาก เยื่อบุตา
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กจะมีขนาดเล็ก ติดสีจาง serum feritin น้อยกว่า 10 นาโนกรัม/ดล.
ค่าMCV,MCS,MCSC ต่ำกว่าปกติ
การซักประวัติ
การตั้งครรภ์ของมารดา ประวัติการคลอด ชนิดของนมและอาหารเสริม
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะ เฉื่อยชา
ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ
เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ท้องผูกหรือท้องเสีย
เหนื่อยง่ายเนื่องจากหัวใจต้องทำงานเพิ่มขึ้นในการที่จะ
หมุนเวียนเม็ดเลือดแดงที่มีน้อยลงให้นำออกซิเจนไปยังเซลล์ให้เพียงพอ
ซีด: สีผิวหนัง ฝ่ามือฝ่าเท้า ริมฝีปาก เหงือก เปลือกตา
ความหมาย
พบบ่อยในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี มักเกิดจากการได้รับอาหารที่มีธาตุเหล็กน้อย ปัญหาการดูดซึมที่ลำไส้ไม่ดีจากท้องร่วงเรื้อรัง หรือมีการอักเสบของลำไส้
Acquired Prothrombin Complex Deficiency (APCD)
พยาธิสภาพ
เมื่อร่างกายขาด โปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์ ทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดหยุดชะงักในระยะของการสร้างโปรทรอมบินและทรอมบิน ทำให้การสร้างไฟบริน เพื่อช่วยในการอุดรอยฉีกขาดของหลอดเลือดหยุดชะงักไปด้วย จึงเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในสมอง
อาการและอาการแสดง
มีจ้ำเขียวตามตัว หรือเลือดหยุดยาก
อาการตับโต ในผู้ป่วยเด็กบางราย
อาการซีด
มีเลือดออกในสมอง ทางเดินอาหาร ผิวหนัง อาการมักเกิดอย่างเฉียบพลัน โดยไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ นำมาก่อน ทารกมักมีอาการซีด ซึม ไม่ดูดนม ชัก หรือมีกระหม่อมหน้าโป่งตึง
สาเหตุ
เกิดจากการขาดวิตามิน เค ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างโปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์
การรักษา
ให้วิตามินเค 2-5 มิลลิกรัม เข้าทางหลอดเลือดดำ เป็นเวลา 1- 3 วัน
ให้ Fresh Frozen Plasma ถ้าผู้ป่วยมีอาการเลือดออกรุนแรง เพื่อเป็นการเพิ่มโปรทรอมบิน คอมเพล็กซ์
ให้เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Packed Red Cell) ถ้าซีดมาก
ความหมาย
ภาวะเลือดออกผิดปกติในทารกขวบปีแรก เนื่องจากขาดองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือดตัวที่ 2 7 9 และ10 (Prothrombin Complex) โดยส่วนใหญ่จะมีอาการเลือดออกในสมอง พบมากที่สุดในช่วงอายุ 1-2 เดือน
ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหานีโอพลาสมา
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Hodgkin’s disease)
ชนิด
Hodgkin’s Lymphoma
(Hodgkin’s Disease, HL)
เกิดจาก B cells ที่ผิดปกติ
Lymphoma(non-Hodgkins’s Lymphoma หรือ NHLs)
เกิดจาก B หรือ T cells และ สามารถแยกจากกันได้โดยตัวชี้บ่งทางพันธุกรรม
พยาธิสภาพ
เกิดจากการที่เซลล์ในต่อมน้ำเหลืองที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในร่างกาย มีการแบ่งตัวผิดปกติ จนเกิดเป็นก้อน ตำแหน่งที่พบบ่อย คือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ (Cervical lymph node)
สาเหตุ
ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส การได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นระยะเวลานานๆ
อาการและอาการแสดง
ตับม้ามโต
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ต่อมน้ำเหลืองโต
ความหมาย
กลุ่มโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ในต่อมน้ำเหลืองผิดปกติ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาของอวัยวะในระบบน้ำเหลือง โดยทั่วไปพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก
ระยะของโรค
Stage II
เป็นต่อมน้ำเหลืองหลายกลุ่ม แต่ยังอยู่ด้านเดียวกันของกระบังลม
Stage III
เป็นต่อมน้ำเหลืองทั้งสองข้างของกระบังลม หรือเป็นที่ต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆ อีก 1 แห่ง
Stage I
เป็นที่ต่อมน้ำเหลืองต่อมเดียวหรือกลุ่มเดียว หรือเป็นเพียงแห่งเดียว ยกเว้นตับ ปอด ไขกระดูก
Stage IV
เป็นที่อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย ทั้งในต่อมน้ำเหลือง และนอกต่อมน้ำเหลือง เช่น ตับ ปอด ไขกระดูก ระบบประสาทส่วนกลาง
การรักษา
ผสมผสานระหว่างเคมีบำบัด รังสีรักษา และการปลูกถ่ายไขกระดูก
ยาเคมีบำบัดที่ได้ผลดี: Cyclophosphamide, Vincristine, เพรดนิโซโลน
มะเร็งที่ไต (Wilm’s tumor)
อาการและอาการแสดง
คลำพบก้อนในท้อง
เบื่ออาหาร ปัสสาวะเป็นเลือด และมีอาการซีด
ความดันโลหิตสูง
การรักษา
ผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออก
รังสีรักษา ที่บริเวณตำแหน่งของโรค
ให้เคมีบำบัด
ห้ามคลำท้อง
ความหมาย
ภาวะเนื้อไต มีการเจริญเติบโตผิดปกติ กลายเป็นก้อนเนื้องอกภายในเนื้อไต
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันในเด็ก (Acute leukemia)
สาเหตุ
ยา
พันธุกรรม
รังสี
ติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
เลือดออก
ซีด
ไข้
ปวดข้อหรือปวดกระดูก
ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลืองโต
มีก้อนที่คอหรือท้อง
ชนิด
Acute Myeloid Leukemia – AML
เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวชนิดมัยอิลอยด์ พบได้บ่อยกว่าชนิดลิมฟอยด์
Acute Lymphoblastic Leukemia – ALL
เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวชนิดลิมฟอยด์ อาจพบภาวะต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยได้ มักการตอบสนองต่อการรักษาดีกว่า
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC:
พบ Hct ต่ำ, เกร็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวมักสูงเป็นหมื่นหรือแสนตัวต่อลบ.มม.
เจาะไขกระดูก
ความหมาย
กลุ่มของโรคที่มีความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวที่มีการสร้างเม็ดเลือดขาวทั้งในรูปของตัวอ่อนและตัวแก่ออกมามากมายและควบคุมไม่ได้ ทำให้มีจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนแทรกอยู่ในไขกระดูกและอวัยวะต่างๆ
การรักษา
การแก้ไขภาวะซีด ภาวะติดเชื้อ
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
การให้เคมีบำบัด
มะเร็งที่เซลล์ประสาท (Neuroblastoma)
อาการและอาการแสดง
ตาโปน(ถ้ามีการแพร่กระจายของมะเร็ง)
เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง ซีด อ่อนเพลีย ปวดกระดูก
ท้องโตหรือคลำก้อนได้ในท้อง
การวินิจฉัย
การเจาะไขกระดูก
อาจพบเซลล์มะเร็ง
การตรวจเลือด
อาจพบภาวะซีด เกล็ดเลือดต่ำ หากมีการกระจายของโรคเข้าไปในไขกระดูก
Ultrasound, CT abdomen
พยาธิสภาพ
เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ประสาทอ่อน (neural crest) ซึ่งมีทั่วไปในร่างกาย แต่มักพบที่บริเวณต่อมหมวกไตชั้นเมดัลลา (adrenal medulla) จึงทำให้มีอาการท้องโตหรือคลำก้อนได้ในท้อง ตำแหน่งอื่นๆ ที่อาจพบก้อน ได้แก่ แนวเส้นประสาทซิมพาเธติค เช่น ในช่องอก ช่องไขสันหลัง คอ หลังลูกตา
การรักษา
การผ่าตัด
การให้รังสีรักษา หลังผ่าตัด
การให้ยาเคมีบัดบัด
การปลูกถ่ายไขกระดูก
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่พบมากในวัยเด็ก และมีรายงานพบว่ามีผู้ป่วยหลายคนในครอบครัวเดียวกัน จึงมีข้อสันนิษฐานว่าอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
การรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหานีโอพลาสมา
รังสีรักษา
รังสีรักษาเป็นการรักษาโดยใช้รังสีเข้าไปทำลายก้อนหรือเซลล์มะเร็ง ซึ่งจะทำให้เซลล์บริเวณนั้นตายไป ทำให้ก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็กลงหรือช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่หลังผ่าตัด
S/Eของรังสีรักษา
ผลข้างเคียงที่เกิดทันที (Acute effect)
ได้แก่ เซลล์เยื่อบุผิวหนัง เยื่อบุช่องปาก ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูกเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น แต่อาการข้างเคียงชนิดนี้จะดีขึ้นหลังจากหยุดการให้รังสีรักษา
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นภายหลัง (Late effect) ได้แก่ การเกิดพังผืด เกิดรูระหว่างอวัยวะสองชนิดที่อยู่ใกล้กัน
การผ่าตัด
เป็นการรักษาโดยการตัดก้อนมะเร็ง เหมาะกับกรณีที่มะเร็งอยู่ในระยะเริ่มแรก ก้อนมีขนาดไม่ใหญ่มาก และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญ การผ่าตัดจึงไม่สามารถทำได้ทุกราย ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ขนาดของก้อนมะเร็ง ตำแหน่งและชนิดของมะเร็ง โรคมะเร็งที่รักษาโดยการผ่าตัด ได้แก่ เนื้องอกสมองชนิดเมดัลโลบลาสโตมา (Medulloblastoma) มะเร็งของเซลล์ประสาท (Neuroblastoma)
การให้ยาเคมีบำบัด
S/E ของยาเคมีบำบัด
ท้องผูก
การกดไขกระดูก
ปากอักเสบ/แผลในปาก
ผมร่วง
เบื่ออาหาร
อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
คลื่นไส้อาเจียน