Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยากินและยาเฉพาะที่ - Coggle Diagram
การบริหารยากินและยาเฉพาะที่
วัตถุประสงค์ของการให้ยา
เพื่อการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
เพื่อการตรวจวิเคราะห์โรค
เพื่อการรักษา
รักษาเฉพาะโรค
ทดแทนสิ่งที่ร่างกายขาด
รักษาตามอาการ
ให้ร่างกายปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ปัจจัยที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา
ภาวะจิตใจ
ภาวะสุขภาพ
กรรมพันธุ์
ทางที่ให้ยา
เพศ
เวลาที่ให้ยา
อายุและน้ำหนักตัว
สิ่งแวดล้อม
ระบบการตวงวัดยา
ระบบเมตริก ถ้าเป็นน้ำหนักส่วนใหญ่ใช้หน่วยเป็น กรัม มิลลิกรัม ลิตร มิลลิลิตร
ระบบมาตราตวงวัดประจำบ้าน ีหน่วยที่ใช้เป็น หยด ช้อนา ช้อนโต๊ะ ถ้วยชา และถ้วยแก้วสามารถเทียบได้กับระบบเมตริก
ระบบอโพทีคาร ถ้าเป็นน้ำหนักส่วนใหญ่ใช้หน่วยเป็นปอนด์ ออนซ์ เกรน
คำย่อและสัญลักษณ์เกี่ยวกับคำสั่งการให้ยา
วิถีทางการให้ยา
เวลาการให้ยา
ความถี่การให้ยา
คำสั่งแพทย์คำนวณขนาดยา
คำสั่งแพทย์
ค ำสั่งที่ต้องให้ทันที(Stat order) เป็นค ำสั่งการให้ยำครั้งเดียวและต้องให้ทันที
ค ำสั่งที่ให้เมื่อจ ำเป็น (prn order) เป็นค ำสั่งที่ก ำหนดไว้ให้ปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยมีอาการบางอย่ำงเกิดขึ้น
คำสั่งใช้ภำยในวันเดียว (Single order of order for one day) เมื่อได้ให้ยาไปแล้วเมื่อครบก็ระงับไปได้เลย
ส่วนประกอบของคำสั่งการรักษา
ขนาดของยา
วิถีทางการให้ยา
ชื่อของยา
เวลาและความถี่ในการให้ยา
วันที่เขียนค ำสั่งกำรรักษา
ลายมือผู้สั่งยา
ชื่อของผู้ป่วย
คำสั่งครั้งเดียวใช้ได้ตลอดไป (Standing order / order for continuous) เป็นคำสั่งที่สั่งครั้งเดียวและใช้ได้ตลอดไปจนกว่ำจะมีคำสั่งระงับ (discontinue)
ลักษณะคำสั่งแพทย์ตามทางวิถีทางการให้ยา
ทางผิวหนัง (skin) ดูดซึมเข้าร่างกายทางผิวหนัง
ยาเปียก (paste)
ยาถูนวด (inunction)
ยาขี้ผึ้ง (ointment)
ยาผงใช้โรย (powder)
ชนิดโลชั่น (lotion)
ทางกล้ามเนื้อ (intramuscular) ดูดซึมเข้าร่างกายทำงระบบไหลเวียนเลือด ชั้นกล้ำมเนื้อ ชนิดของกำรปรุงยาเป็นลักษณะยาที่ละลายในน้ำ(aqueous solution) เท่ำนั้น
ทางเยื่อบุ (mucous)
อมใต้ลิ้น (sublingual)
ละลายในน้ำ (aqueous solution)
ใช้สอด (suppository) ทางช่องคลอด/ทวารหนัก
ใช้หยอด (instillate)
ชนิดเม็ด (tablet)
ใช้ล้าง (irrigate)
ทางชั้นผิวหนัง (intradermal) ยาที่ใช้ฉีดเข้าทางชั้นผิวหนังของผู้ป่วย โดยดูดซึมเข้าร่างกายทางระบบไหลเวียนเลือดที่ชั้นผิวหนัง ชนิดของการปรุงยาเป็นลักษณะยาที่ละลายในน้ำ(Aqueous solution) เท่ำนั้น
ทางสูดดม (inhalation) ดูดซึมทางระบบทางเดินหายใจ
ชนิดสเปรย์ (spray)
พ่นทางสายให้ออกซิเจน (nebulae)
ทางหลอดเลือดดำ (intravenous) ยาที่ใช้ฉีดเข้าทางหลอดเลือดด ำของผู้ป่วยโดยเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดโดยตรง ชนิดของการปรุงยาเป็นลักษณะยาที่ละลายในน้ ำ (aqueous solution) เท่ำนั้น
ทางปาก (oral) ชนิดของการปรุงยา
อีลิกเซอร์ (elixir)
อีมัลชั่น (emulsion)
ยาน้ำเชื่อม (syrup)
ยาผง (powder)
ยาแคปซูล (capsule)
ยาน้ำผสม (mixture)
ยาเม็ด (tablet)
ยาอม (lozenge)
ทางใต้ผิวหนัง (subcutaneous / hypodermal) ยาที่ใช้ฉีดเข้าที่ใต้ผิวหนังของผู้ป่วยโดยดูดซึมเข้าระบบไหลเวียนเลือดที่ชั้นใต้ผิวหนัง ชนิดของการปรุงยาเป็นลักษณะสารละลาย (Aqueous solution) เท่ำนั้น
คำนวณขนาดยา
ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยา
ความคลาดเคลื่อนในการคัดลอกคำสั่งใช้ยา (Transcribing error)
ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ หมายถึง เจ้าหน้าที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่คัดกรองการลงข้อมูลยาในคอมพิวเตอร์ไม่ครอบคลุม หรือคัดกรองข้อมูลผิดพลาด
ที่เภสัชกรรม หมายถึง เจ้าหน้าที่ห้องยา/เภสัชกร อ่านคำสั่งแพทย์ ไม่ถูกต้อง
ที่หอผู้ป่วย หมายถึง พยาบาลลอกคำสั่งแพทย์หรืออ่านคำสั่งแพทย์ไม่ถูกต้อง
ความคลาดเคลื่อนในก า รจ่ายย า (Dispensing Error) คือ ความคลาดเคลื่อน ในกระบวนการจ่ายยาของกลุ่มงานเภสัชกรรม ที่จ่ายยาไม่ถูกต้องตำมที่ระบุในคำสั่งใช้ยา
ความคลาดเคลื่อนในการสั่งใช้ยา (Prescription error)
ผิดความถี่
ผิดวิถีทาง
สั่งยาที่มีประวัติแพ้
ลายมือไม่ชัดเจน
สั่งยาผิดชนิด
สั่งยาผิดขนาด
ความคลาดเคลื ่อนในการบริหารยา (Administration error)
การให้ยาผิดวิถีทาง (Wrong-route error)
การให้ยาผิดเวลา (Wrong-time error)
การให้ยาผิดขนาด (Wrong-dose or Wrong-strength error)
การให้ยามากกว่าจำนวนครั้งที่สั่ง (Extra-dose error)
การให้ยาผู้ป่วยผิดคน (Wrong patient)
การให้ ยาใน อัต ร าเร็ ว ที่ ผิ ด (Wrong rate of administration error)
การให้ยาซึ่งผู้สั่งใช้ยาไม่ได้สั่ง (Unordered or unauthorized drug)
การให้ยาผิดเทคนิค (Wrong technique error)
การให้ยาผิดชนิด (Wrong drug error)
การให้ยาผิดรูปแบบยา (Wrong dosage-form error)
การให้ยาไม่ครบ (Omission error)
รูปแบบการบริหารยา
Right technique (ถูกเทคนิค) คือการให้ยาถูกตามวิธีการ ใช้เทคนิคที่เหมาะสม
Right documentation (ถูกการบันทึก) คือกำรบันทึกการให้ยาที่ถูกต้อง
Right route (ถูกวิถีทาง) คือการให้ยาถูกทาง
Right to refuse คือกำรตรวจสอบให้แน่ใจว่ำได้รับควำมยินยอมจำกผู้ป่วยในกำรจัดกำรยำผู้ป่วยมีสิทธิที่จะปฏิเสธกำรใช้ยำหำกเขำมีควำมสำมำรถในกำรท ำเช่นนั้นถ้ำผู้ป่วยไม่ยอมรับก็เป็นสิทธิของ ผู้ป่วย แต่กำรปฏิเสธนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐำนข้อเท็จจริงว่ำไม่เป็นอันตรำยต่อผู้ป่วย และบันทึกกำรปฏิเสธกำรรับยำของผู้ป่วย
Right time (ถูกเวลา) คือการให้ยาถูกหรือตรงเวลา ความถี่ตามคำสั่งการให้ยา
Right History and assessment คือการซักประวัติและการประเมินอาการก่อน-หลังให้ยา
Right dose (ถูกขนาด)ให้ยาถูกขนาด คำนวณยา การให้ยา
ขาดหรือเกินจากขนาดที่แพทย์สั่ง จะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับยาไม่ครบตามแผนการรักษาเป็นความคาด เคลื่อนที่พบบ่อย
Right Drug-Drug Interaction and Evaluation คือการที่จะต้องให้ยาร่วมกัน
Right drug (ถูกยา) คือการให้ยาถูกชนิด
ครั้งแรก ก่อนหยิบภาชนะใส่ยาออกจากที่เก็บ
ครั้งที่สอง ก่อนเอายาออกจากภาชนะใส่ยา
ครั้งที่สาม ก่อนเก็บภาชนะใส่ยาเข้าที่หรือก่อนทิ้งภาชนะใส่ยา
Right to Education and Information คือก่อนที่พยาบาลจะให้ยาผู้ป่วยทุกครั้งต้องแจ้งชื่อยาที่จะให้ ทำงที่จะให้ยำ ผลกำรรักษำ ผลข้างเคียงของยาที่อาจจะเกิด และอาการที่ต้องเฝ้าระวังก่อน
การให้ยาทุกครั้ง
Right patient/client (ถูกคน)ให้ยาถูกคน เช็คชื่อผู้ป่วยทุกครั้งก่อนให้ยาหรือก่อนฉีดยาเทียบกับใบ Medication administration record ให้ถามผู้ป่วยว่า “คุณชื่ออะไรคะ”ตรวจที่ป้ายชื่อข้อมือ
หลักสำคัญในการให้ยา
ไม่ให้ยาที่ฉลากมีการลบเลือนไม่ชัดเจน ไม่ควรเทยากลับไปในขวด
เดิมอีก
ตรวจสอบผู้ป่วยก่อนให้ยาโดยการถามชื่อและนามสกุลก่อนทุกครั้ง
ไม่ควรเตรียมยาค้างไว้ผู้เตรียมยาและผู้ให้ยาควรเป็นคน
เดียวกันเพื่อป้องกันความผิดพลาด
บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงวัตถุประสงค์ของการให้ยาและผลข้างเคียง
ตรวจสอบวันหมดอายุของยา
ให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อหน้าพยาบาล
ตรวจสอบประวัติการแพ้ยาเขียนป้ายติดที่แผ่นรายงานการรักษาอย่างชัดเจน
ลงบันทึกการให้ยาหลังจากให้ยาทันที
ก่อนให้ยาต้องทราบวัตถุประสงค์การให้ยา กำรวินิจฉัยโรค ผลของยาที่ต้องการให้เกิดและฤทธิ์ข้างเคียงของยา
มีการประเมินประสิทธิภาพของยาที่ให้
ตรวจสอบค ำสั่งแพทย์ก่อนให้ยาทุกครั้ง
สังเกตอาการก่อนและหลังการให้ยา
การให้ยาทางปากใช้หลักสะอาด และการฉีดยาใช้หลัก aseptic technique
ในกรณีที่ให้ยาผิดต้องรีบรายงานให้พยาบาลหัวหน้าเวรรับทราบเพื่อหาทางแก้ไข
การให้ยาทางปากและยาเฉพาะที่
การให้ยาทางปาก หมายถึง กำรให้ยาที่สามารถรับประทานทางปากได้ ซึ่งอาจเป็นชนิดยาเม็ดยาแคปซูล ยาผง หรือยาน้ำ นับว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และปลอดภัยที่สุด
การเตรียมยาตามขั้นตอน
ดูเบอร์เตียง ถามชื่อ -สกุลผู้ป่วยให้ตรงกับใบ MAR ของผู้ป่วยแต่ละรายตรวจดูป้ายชื่อที่ข้อมือ
แจกยาให้ผู้ป่วยรับประทำนภายในเวลาที่กำหนด
ให้ผู้ป่วยรับประทานยาตรงตามเวลาในใบ MAR
ประเมินสัญญาณชีพผู้ป่วยก่อนให้ยา
ดูชื่อ ขนาดยาให้ตรงกับใบ MAR อีกครั้งก่อนเก็บยาเข้าที่
ให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อหน้าพยาบาล
ยาน้ำ ให้หันป้ายยาหรือฉลากยาเข้าหาฝ่ามือ
สังเกตการเปลี่ยนแปลงหลังรับประทานยาเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ยาชนิด Multidose ค่อยๆ เทยาจากซองยาหรือขวดที่บรรจุยาหรือ Foil โดยที่ไม่ให้มือสัมผัสยา เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากมือปนเปื้อน
บันทึกในแผนการพยาบาลและในใบ MAR ทุกครั้งหลังให้ยา
ยาชนิด Unit dose (ยาที่จัดมาเป็นแบบวันต่อวัน) หยิบยาใส่ถ้วยยาจำนวนตามที่แพทย์สั่ง
การพยาบาลเพื่อให้ยาได้ถูกหลักการ
เตรียมยาให้ตรงกับ MAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
อ่านฉลากยำให้ตรงกับ MAR ของผู้ป่วยแต่ละราย ดูวันที่หมดอายุของยา
ดูชื่อยา ขนาดยา เวลาที่ให้ใน MAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
เทยา หรือรินยำให้ได้ตรงตามจ ำนวนกับขนาดของยาใน MAR ของผู้ป่วยแต่ละราย
ดูเบอร์เตียง ชื่อ นามสกุล ผู้ป่วยใน MAR ให้ตรงกัน
อุปกรณ์ในการให้ยาทางปาก
น้ ำเปล่ำ หรือ น้ ำส้ม หรือน้ ำหวานแทนน้ ำ
ถาดหรือรถใส่ยา
ถ้วยยา หรือ Syringe
แบบบันทึกการให้ยา
ข้อควรปฏิบัติในการให้ยาทางปาก
ยาชนิดผงให้ใช้ช้อนตวงปำดแล้วเทใส่แก้วยา
ยาจิบแก้ไอควรให้ภายหลังรับประทานยาเม็ด
การให้ยาเม็ดในเวลาเดียวกัน
ยาลดกรดในกระเพาะอาหารควรให้อันดับสุดท้าย
ยาที่ระคายเคืองทางเดินอาหารให้กินหลังอาหารหรือนม
ยาอมใต้ลิ้น ควรให้หลังจากรับประทานยาทุกชนิด
แล้ว
การให้ยาเฉพาะที่
การให้ยาทางหู(Ear instillation) เป็นกำรหยอดยาเข้าไปในช่องหูชั้นนอก ยาที่ใช้เป็นยาน้ำ ออกฤทธิ์เฉพาะเยื่อบุในช่องหู มักเป็นยาชาหรือยาฆ่ำเชื้อโรคเฉพาะที่
การหยอดยาจมูก (Nose instillation) ให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้น และพยาบาลยกปีกจมูกผู้ป่วยข้างที่จะหยอดยาขึ้นเบาๆ แล้วหยดยาผ่านทางรูจมูกห่างประมาณ 1-2 นิ้ว
การให้ยาทางตา (Eye instillation) กำรใช้ยาบริเวณตาจึงต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นสำคัญ ยาที่ใช้กับตามีทั้งยาหยอดตา ป้ายตาและยาล้างตา
กำรเหน็บยำ เป็นกำรให้ยำที่มีลักษณะเป็นเม็ด เข้ำทำงเยื่อบุตำมอวัยวะต่าง ๆเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เฉพาะที่
การสูดดม (Inhalation)สามารถให้โดยการพ่นยาเข้าสู่ทางเดินหายใจ เพื่อให้ยาไปสู่บริเวณที่ต้องการให้ยาออกฤทธิ์ ยาออกฤทธิ์แบบเฉพาะที่หรือแบบทั่วร่างกาย
. สมรรถนะของพยาบาลในการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Competencies of nurses for Rational
Drug Use)
สำมำรถให้ข้อมูลที่จ ำเป็นต่อกำรใช้ยำได้อย่ำงเพียงพอ (Provide information)
สำมำรถติดตำมผลกำรรักษำ และรำยงำนผลข้ำงเคียงที่อำจเกิดขึ้นจำกกำรใช้ยำได้(Monitor and review)
บริหำรยำตำมกำรสั่งใช้ยำได้อย่ำงถูกต้อง
สำมำรถใช้ยำได้อย่ำงปลอดภัยทั้งต่อผู้ป่วย และไม่เกิดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม (Prescribe safely)
สำมำรถสื่อสำรเพื่อให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในกำรใช้ยำ โดยพิจำรณำจำกข้อมูลทำงเลือกที่ถูกต้องเหมำะสมกับบริบทและเคำรพในมุมมองของผู้ป่วย (Reach a shared decision)
สำมำรถใช้ยำได้อย่ำงเหมำะสม ตำมควำมรู้ควำมสำมำรถทำงวิชำชีพ และเป็นไปตำมหลักเวชจริยศำสตร์ (Prescribe professionally)
สามารถร่วมพิจารณาการเลือกใช้ยาได้อย่างเหมาะสมตามความจ ำเป็น (Consider the options)
ใช้ความรู้ด้านเภสัชศาสตร์ของยาที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง
พิจำรณำโรคร่วม ยำที่ใช้อยู่ กำรแพ้ยำ ข้อห้ำมกำรใช้ยำ และคุณภำพชีวิตที่อำจส่งผลกระทบต่อกำรเลือกใช้ยำ
ประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาและไม่ใช้ยา
ค ำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกำรใช้ยำของผู้ป่วย
พิจารณาข้อมูลที่สำคัญของผู้ป่วยเพื่อประกอบการปรับขนาดยา หยุดการให้ยาหรือเปลี่ยนยา
พัฒนำควำมรู้ให้เป็นปัจจุบัน ใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
พิจารณาข้อมูลที่สำคัญของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับก่รเลือกใช้ยาหรือการรักษาแบบไม่ใช้ยาในการรักษาและการส่งเสริมสุขภาพ
เข้ำใจเรื่องเชื้อดื้อยำ และแนวทำงกำรป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยำ (antimicrobial stewardship measures)
สำมำรถพัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรใช้ยำ ได้อย่ำงต่อเนื่อง (Improve prescribing practice)
สามารถประเมินปัญหาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา หรือมีความจ ำเป็นต้องใช้ยาในการรักษา(Assess the patient)
ประเมินอาการที่ดีขึ้นหรือเลวลง
ติดตามความร่วมมือในการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
ประเมินอาการข้างเคียงจากการใช้ยา
การส่งต่อ
การประเมินประวัติโรคประจำตัว ประวัติการใช้ยา และประวัติการแพ้ยา/แพ้อาหาร
สำมำรถท ำงำนร่วมกับบุคลำกรอื่นแบบสหวิชำชีพ เพื่อส่งเสริมให้เกิดกำรใช้ยำอย่ำงสมเหตุผล(Prescribe as part of a team)
บทบาทพยาบาลในการให้ยาผู้ป่วย
กรณีผู้ป่วยที่ NPO ให้มีป้าย NPO และเขียนระบุว่ำ NPO เพื่อผ่าตัดหรือเจาะเลือดเช้า ให้อธิบายและแนะน ำผู้ป่วยและญาติทุกครั้ง
กรณีคำสั่งสารน้ำ+ยำ B co 2 ml ให้เขียนคำว่า +ยำ B co 2 ml ด้วยปากกาเมจิก
เวรบ่าย พยาบาลจะตรวจสอบรายการยาในใบ MAR กับคำสั่งแพทย์ให้ตรงกัน และดูยาในช่องลิ้นชักยาอีกครั้ง
. การจัดยาจะจัดตามหน้าชองยาหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
การจัดยาให้ระมัดระวังในการจัดยาเนื่องจากความผิดพลาดด้านบุคคลโดยเฉพาะยาน้ำ
มีผู้จัด-ผู้ตรวจสอบ คนละคนกันตรวจสอบช้ ำก่อนให้ยา ให้ตรวจสอบ 100% เช็คดูตามใบMAR ทุกครั้ง
เมื่อมีคำสั่งใหม่ หัวหน้าเวร ลงคำสั่งในใบ MAR ทุกครั้ง
การแจกยาไล่แจกยาตามเตียงพร้อมเซ็นชื่อทุกครั้งหลังให้ยาและให้พยาบาลตรวจดูยาในลิ้นชักของผู้ป่วยทุกเตียงจนเป็นนิสัยและดูผู้ป่วยประจ ำเตียงว่ามีหรือไม
การซักประวัติจะถามเรื่องการแพ้ยาทุกครั้งดูสติ๊กเกอร์สีแสดงแพ้ยาที่ติดอยู่ขอบ OPD cardและดูรายละเอียดใน OPD card ร่วมด้วยทุกครั้ง
ให้ยึดหลัก 6R ตำมที่กล่าวมาข้างต้น
. เมื่อผู้ป่วยเข้ามานอนรักษาในครั้งแรก พยาบาลตรวจสอบยาให้ตรงกับคำสั่งแพทย์พร้อมกับเช็คยาและจำนวนให้ตรงตามฉลากยา
กระบวนการพยาบาลในการบริหารยาทางปากและยาเฉพาะที่
การวางแผนการพยาบาล
ไม่มีอำกำรไม่พึงประสงค
ไม่มีอำกำรแพ้ยำ
ผลของยำมีประสิทธิภำพ
ดูแลให้ได้รับยำ………….ตำมแผนกำรรักษำ
ช่วยให้ได้รับประทำนยำ…………..ให้ครบตำมแผนกำรรักษำ
สำมำรถรับยำได้จนครบ
ไม่เกิดอำกำรส ำลัก
การปฏิบัติการพยาบาล เป็นกำรปฏิบัติกำรให้ยำตำมแผนที่วำงไว้ไปปฏิบัติ โดยยึดหลักควำมถูกต้อง 7 ประกำร
การวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อกำรส ำลักเนื่องจำก…………………..
ขำดควำมรู้เกี่ยวกับยำเนื่องจำก……………………
กำรกลืนบกพร่อง เนื่องจำก …………………..
การประเมินผล
สำมำรถบอกกำรปฏิบัติตัวขณะได้รับยำได้ถูกต้อง
สำมำรถอธิบำยวัตถุประสงค์ของกำรให้ยำได้ถูกต้อง
หลังจำกได้รับยำ 30 นำที ไม่มีอำกำรแพ้ยำ
.การประเมินสภาพ
ประเมินผลกำรตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร เพื่อดูหน้ำที่กำรท ำงำนของ ตับ ไต
กำรได้รับสำรน้ ำเพียงพอหรือไม
ประวัติกำรแพ้ยำ
ควำมรู้ควำมเข้ำใจเรื่องยำที่ได้รับ
ประเมินดูว่ำผู้ป่วยมีข้อห้ำมในกำรให้ยำทำงปำกหรือไม
กำรปฏิบัติตัวในกำรได้รับยำ