Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิด หลักการ และความส าคัญ ของหลักการพยาบาลข้ามวัฒนธรรม - Coggle Diagram
แนวคิด หลักการ และความส าคัญ ของหลักการพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
culture
มีรากศัพท์มาจากมาจากภาษาละติน "culturaanimi"
ใช้ครั้งแรกโดยMarcus Tullius Cicero นักปรัญชาชาวโรมัน 2 เขาเกิดวันที่3 มกราคมปีที่106 ก่อนคริสตกาล และเสียชีวิตจากากรถูกสังหารวันที่7ธันวาคมปีที่43ก่อนคริสตกาล อายุ 63ปี
แปลว่าการเพาะปลูกและบำรุงให้เจริญงอกงาม (cultivation)
ใช้อธิบายการเจริญงอกงามทางจิตวิญญาณ
ต่อมาในศตวรรษที่17 ค าว่า “Culture” ถูกน ามาใช้เพื่ออธิบายความเจริญงอกงามของปัจเจก โดยเฉพาะในประเด็นการศึกษา
ศตวรรษที่18 และ 19 ค าว่า “Culture” จึงถูกน าไปใช้เพื่อสื่อความหมายถึงผู้คนในลักษณะเป็นกลุ่มคนสังคมหรือเป็นชาติมากขึ้น
สิ่งที่แสดงถึงความเจริญงอกงามของสังคมทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุ
พื้นฐานส าคัญ 6 ประการของวัฒนธรรม
1.วัฒนธรรมเป็ นความคิดร่วมโดยมีค่านิยมทางสังคงเป็ นตัวก าหนดพฤติกรรม
วัฒนธรรมเป็ นสิ่งที่มนุษย์เรียนรู
มีพื้นฐานมาจากการใช้สัญลักษณ
เป็ นองค์รวมของความรู้และภูมิปัญญา
กระบวนการที่มนุษย์นิยามความหมายให้กับชีวิตและสิ่งต่างๆ
เป็นสิ่งที่ไม่อยู่นิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ความสำคัญของวัฒนธรรม
เป็นเครื่องกาหนดความเจริญหรือความเสื่อมของสังค
ทำให้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ค่านิยมของสังคม
มีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน
ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม
ทำให้มีพฤติกรรมเป็นแบบเดียวกัน
ทาให้เข้ากับคนพวกอื่นในสังคมเดียวกันได้
ทาให้มนุษย์มีสภาวะที่ต่างจากสัตว์
วัฒนธรรมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.วัฒนธรรมทางวัตถุ (material culture)
การแต่งกาย
การแสดงพื้นบ้าน
จิตรกรรม
ศิลปกรรม
สถาปัตยกรรม
2.วัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ
ค่านิยม
ความเชื่อ
ความศรัทธาในศาสนา
ปรัชญา
องค์ประกอบของวัฒนธรรม
องค์วัตถุ
จับต้องได้สัญลักษณ์เครื่องหมายภาษา2
องค์การหรือสมาคม
มีโครงสร้าง ระเบียบ ข้อบังคับ
องค์พิธีหรือพิธีการ
งานบวช การแต่งชุดด า มารยาทในสังคม
องค์มติหรือมโนทัศน์
ความคิดความเชื่ออุดมการณ์
ประเภทของความเชื่อ
ความเชื่อในสิ่งปรากฏอยู่จริง
สุริยุปราคา แรงโน้มถ่วงของโลก โลกกลม
ความเชื่อขั้นพื้นฐานของบุคคล
ประสบการณ์ชีวิตแลกเปลี่ยนเรียนรู
คุณค่าทางความเชื่อ ค่านิยมต่อหลักการดำเนินชีวิต
ค่านิยมทางสังคม
ค่านิยมทางสังคมถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่กําหนดพฤติกรรมของสมาชิกสังคมนั้นๆ โดยตรง ทุกสังคมจึงมีระบบค่านิยมของตนเอง ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะที่คนในสังคมนั้นๆ ยึดถือว่ามีคุณค่าร่วมกัน
ครอบครัว
โรงเรียน
สถาบันศาสนา
สังคมวัยรุ่นและกลุ่มเพื่อน
สื่อมวลชน
องค์การของรัฐบาล
ประเภทของความเชื่อ
ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีการดูแลสุขภาพ
6) ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตาย
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตายแบบแพทย์แผนตะวันตก
การดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการตายแบบแพทย์แผนตะวันตก มุ่งเน้นให้ระบบและอวัยวะต่าง ๆ สามารถทํางานต่อไปได้และยืดชีวิตผู้ป่วยให้ยาวนานมากที่สุด ภายใต้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
จะพิจารณาจากการหยุดทํางานของหัวใจและการทํางานของแกนสมอง
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตายแบบพื้นบ้าน
การดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตายแบบพื้นบ้าน จะมุ่งเน้นการตอบสนองทางด้านจิตวิญญาณของผู้ตายและเครือญาติ กล่าวคือ ให้สร้างสมความดีและผลบุญเพื่อการตายอย่างสงบ เกิดความสุขความเจริญในภพหน้า
ความเชื่อเกี่ยวกับความตายแบบพื้นบ้าน มีความเชื่อในเรื่องวิญญาณ กฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดและชาติภพ
5) ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความชรา
ความเชื่อเกี่ยวกับความชราและการดูแลสุขภาพแบบการแพทย์แผนตะวันตก
การดูแลสุขภาพวัยชราแบบการแพทย์แผนตะวันตก ได้แก่ การดูแลด้านโภชนาการ การดูแลด้านฮอร์โมน การดูแลด้านการออกกําลังกาย การดูแลด้านการพักผ่อนนอนหลับ การดูแลด้านอุบัติเหตุ การดูแลด้านจิตใจ
ความเชื่อเกี่ยวกับความชรา กําหนดอายุตั้งแต่ 60 หรือ 65ปีขึ้นไป เป็นเกณฑ์เข้าสู่วัยชรา
การดูแลสุขภาพวัยชราแบบพื้นบ้าน ได้แก่ การใช้สมุนไพร เช่น สมุนไพรตํารับ สมุนไพรเดี่ยว การดูแลอาหาร การดูแลด้านสุขภาพทางเพศ การดูแลสุขภาพโดยพึ่งพิงศาสนา
ความเชื่อเกี่ยวกับความชรา ปัจจัยชี้บ่งถึงความชรา เช่น ภาวะหมดประจําเดือนในเพศหญิง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย และความแปรปรวนของธาตุลม
4) ความเชื่อและการดูแลสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านสถานการณ์ชีวิต
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบพื้นบ้าน
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบแพทย์ตะวันตก
การดูแลสุขภาพแบบการแพทย์ตะวันตกมีหลักการดูแลคล้ายคลึงการแบบพื้นบ้าน คือ มีในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และหลังคลอด โดยมีวัตถุประสงค์ให้มารดาและทารกสมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งผ่านทุกระยะของกระบวนการให้กําเนิดได้อย่างปลอดภัย
ความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่ตัวอ่อนหรือทารกได้ก่อกําเนิดขึ้นภายในมดลูก
ระยะหลังคลอด
การดูแลสุขภาพในระยะหลังคลอด ได้แก่ การอยู่ไฟ การนาบหม้อหรือการทับหม้อเกลือ การประคบสมุนไพร การนวดหลังคลอด การเข้ากระโจมหรือการอบสมุนไพร การอาบสมุนไพร การงดบริโภคอาหารแสลง การบํารุงร่างกาย
ความเชื่อเกี่ยวกับภาวะหลังคลอด ได้แก่ ความเชื่อเรื่องผี ความเชื่อเรื่องกรรม ความเชื่อเรื่องสมดุลธาตุ 4 ความเชื่อเรื่องมลทินของร่างกาย ความเชื่อเรื่องการบํารุงร่างกาย
ระยะคลอดบุตร
การดูแลสุขภาพในระยะคลอดบุตร ได้แก่ การจัดสถานที่และท่าทางในการคลอด การตรวจครรภ์ก่อนคลอด การคลอด การจัดการเกี่ยวกับรก การร่อนกระด้ง
ความเชื่อเกี่ยวกับการคลอดบุตร ได้แก่ เรื่องความเป็นสิริมงคล ท่าทางในการคลอด
ระยะตั้งครรภ์
การดูแลสุขภาพในระยะตั้งครรภ์ จะเกี่ยวกับสุขภาพจิต สุขภาพกาย การดูแลทารกในครรภ์ การฝากครรภ์
ความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ คนโบราณเชื่อว่าการตั้งครรภ์เป็นผลจากความสัมพันธ์ของมนุษย์กับดวงดาวในระบบจักรวาล
3) ความเชื่อแบบการแพทย์แผนตะวันตกและวิธีการดูแลสุขภาพ
วิธีการดูแล
มีการวินิจฉัยหาสาเหตุของความเจ็บป่วย ส่วนผู้ให้การดูแลรักษาในการแพทย์ตะวันตก
ความเจ็บป่วยเกิดจากจิตใจ
ความเจ็บป่วยเกิดจากสิ่งแวดล้อมหรืออุบัติเหตุ
ความเจ็บป่วยเกิดจากพฤติกรรม
ความเจ็บป่วยเกิดจากพันธุกรรม
การเจ็บป่วยเกิดจากเชื้อโรค
2) ความเชื่อแบบพื้นบ้านและวิธีการดูแลสุขภาพ
วิธีการดูแล
การทําพิธีตั้งขันข้าวหรือการตั้งคายซึ่งเป็นการไหว้ครูเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการรักษา
ความเจ็บป่วยที่เกิดจาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความเจ็บป่วยที่เกิดจากการขาดสมดุลธาตุ
1) ความเชื่อแบบอํานาจเหนือธรรมชาติและวิธีการดูแลสุขภาพ
วีธีการดูแล
ส่วนใหญ่ใช้การประกอบพิธีกรรมเป็นหลัก ครอบคลุมตั้งแต่การ
วินิจฉัยหาสาเหตุและกระบวนการในการรักษา
ความเจ็บป่วยเกิดจากเวทมนต์และคุณไสย ความเจ็บป่วยที่เกิดจากขวัญ
ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรค โดยมีความเชื่อที่ว่า ความเจ็บป่วยเกิดจากการกระทําของผี
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อ
1.ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา ได้แก่ การรับรู้ และการเรียนรู้
2 ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ การขัดเกลาทางสังคม การควบคุมทางสังคม การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม
3.ปัจจัยทางด้านบุคคล ได้แก่ ศาสนา อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพและการแสวงหาการรักษาของประชาชนในภูมิภาคต่างๆของโลก
แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพ หมายถึง ความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพที่เชื่อมโยงตั้งแต่การดูแลสุขภาพตัวเอง การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน ไปจนถึงการดูแลสุขภาพที่อาศัยความรู้วิทยาการหรือเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่
ครอบคลุมการดูแบสุขภาพทั้ง 4 มิติ
• ส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
• ป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือพิการ
• ดูแลรักษาสุขภาพเมื่ออยู่ในภาวะเจ็บป่วยเป็นโรค
• ฟื้นฟูสุขภาพให้เข้าสู่ภาวะปกติ
ประเภทของวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ
การบริโภคอาหารปรุงสุก การคว่ํากะลาหรือใส่ทรายอะเบทเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยุงลาย การรับวัคซีนภูมิคุ้มกันโรค
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการป้องกันโรค
หมายถึง การรับรู้ของบุคคลที่มีต่อความผิดปกติของร่างกาย
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรักษาโรค ในแต่ละสังคมต่างมีระบบการดูแลสุขภาพที่มีความเชื่อมโยงกัน 3 ประเภท ได้แก่ ระบบการดูแลสุขภาพภาคประชาชน แบบพื้นบ้าน และแบบวิชาชีพ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น การดูแลการพักฟื้นของผู้ป่วยจากคนในครอบครัว การงดบริโภคอาหารแสลง การออกกําลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ส่งเสริมสุขภาพ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่ได้ให้ประโยชน์
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่แน่ว่าให้คุณหรือโทษ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ให้โทษ
แนวทางการดูแลสุขภาพที่เกิดขึ้นเป็นวัฒนธรรมของการดูแลสุขภาพของประชาชน
ระบบการดูแลสุขภาพภาควิชาชีพ
ระบบการดูแลสุขภาพภาคพื้นบ้าน
ระบบการดูแลสุขภาพภาคประชาชน