Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพ ตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม, image -…
หลักการดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพ
ตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม
นิกาย
นิกายซุนนี่(Sunni)
ใช้หมวกสีขาวเป็นสัญลักษณ์
ผู้นับถือมากที่สุดประมาณ700ล้านคน
แปลว่า มรรคาหรือจารีต
นิกายชีอะฮ์(Shiah)
ผู้นับถือ12-20%
แปลว่า ผู้ปฏิบัติตาม สาวก
แยกออกมาจากชุนนี
หลักการดำเนินชีวิต
หลักการอันเป็นข้อบังคับสำหรับมุสลิมทุกคน
จะต้องรู้และต้องประพฤติ เริ่มตั้งแต่3ขวบขึ้นไป
หลักปฏิบัติหน้าที่ในศาสนา(อิบาดะห์)
หลักคุณธรรม(อิห์ชาน)
หลักศรัทธา ความเชื่อในศาสนา
ทุกคนต้องเรียนรูหลักการของศาสนาอิสลาม ไม่มีข้อยกเว้นเป้นหน้าที่พึงปฏิบัติ
หลักศรัทธา
1.ศรัทธาในพระเจ้าเป็นฐาน
ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในพระเจ้า คือ พระอัลลอฮ์
2.ศรัทธาในมลาอิกะฮ์
บ่าวผู้สัตย์ซื่อของพระอัลลอฮ์
3.ศรัทธาในบรรดาศาสนทูต/ศาสดา258ท่านที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์อัลกุรอาน
4.ศรัทธาในพระคัมภีร์อัลกุรอานและคัมภีร์อื่นๆ
5.ศรัทธาในวันกียามะฮ์ /วันคืนชีพ
มนุษย์ทุกคนรอวันตัดสินชำระความ
6.ศรัทธาในการลิขิตขององค์พระผุ้เป็นเจ้า
หลักปฏิบัติหน้าที่ในศาสนา เรียก อิบาดะห์
3.การถือศีลอด
ฝึกฝนให้ตัวเองมีจิตผูกพัน ยำเกรงต่อพระเจ้า
การอดอาหารในช่วงเวลาที่กำหนด
ทำให้ร่างกายละลายไขมันส่วนเกินที่สะสมเอาไว้
เพิ่มพูนภูมิต้านทานแก่ร่างกาย
รับประทานอาหารได้2มื้อ
มื้อดึกถึงก่อนฟ้ารุ่งสาง
มื้อค่ำตอนเมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า
ประหยัดอาหารของโลกและสิ่งฟุ่มเฟื่อนต่างๆ
ชาวมุสลิมปฏิบัติในเดือน
รอมฎอน
ตลอด1เดือน
ยกเว้นผู้ป่วย มีประจำเดือน สตรีตั้งครรภ์
งด
การกินการดื่ม
มีเพศสัมพันธ์
ใช้วัตถุภายนอกเข้าไปในอวัยวะภายใน
แสดงอารมณ์ร้ายๆและความผิดต่างๆ
4.
การบริจาคศาสนทานซะกาต
วัตถุประสงค์
เพื่อปลูกฝังให้มุสลิมทั้งหลายเป็นผู้มีจิตใจเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในสังคมด้วยวิธีการสงเคราะห์
เพื่อชำระจิตใจของผู้บริจาคให้บริสุทธิ์
เป็นการจ่ายภาษีทางศาสนาแก่คนยากจน
ผู้มีสิทธิรับซะกาต 8 ประเภท
ผู้ขัดสน (คนยากจน แม่หม้าย เด็กกำพร้า)
ผู้เข็ญใจ(พิการ)
ผู้เข้าอิสลามแล้วถูกญาติมิตรตัดขาด
ผุ้มีหนี้สินล้นตัว(ไม่ใช่หนีสิ้นเพราะประพฤติมิชอบ)
ผู้พลัดถิ่น(ไม่สามรถกลับสู่ภูมิลำเนาเดิม)
ทาสหรือเชลย
เจ้าหน้าที่ดูแลกองทุนซะกาต
สังคมในวิถีของพระอัลลอฮ์
2.การละหมาด หรือ สวด(นามซหรือนมัสการ)
5เวลา
เวลาเย็น
เวลาพลบค่ำ
เวลากลางวัน
เวลากลางคืน
เวลาย่ำรุ่ง
5.การประกอบพิธีฮัจญ์
สำหรับ
ชาวมุสลิมผุ้มีฐานะดี
สุขภาพดี
บรรลุศาสนภาพ
อายุ
ผู้ชาย 15ปี
ผู้หญิง 19ปี
การประกอบพิธี
เดินทางไปณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย
ใชชีวิตหนึ่งมุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียอย่างน้อย1ครั้ง
แต่งกายเหมือนกันโดยผ้าขาว2ชิ้น
อยู่ในความสำรวม ความนอบน้อมต่อพระเจ้า
เป็นการไปเพื่อทดสอบความศรัทธาและความเข้มแข็งอดทน
1.การปฏิญาณตนเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม
หลักคุณะรรม(อิห์ซาน)
เกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรมที่มุสลิมต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ฮาลาล (Halal)
การกระทำที่อนุญาต
ฮารอม(Harom)
การกระทำที่ต้องห้าม
การแต่งกาย การปกปิดส่วนควรสงวงของร่างกาย
ชาย
ให้ปิดระหว่างสะดือกับหัวเข่า
หญิง
ให้ปิดทั้งร่าง ยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือ
ปิดศีรษะที่สวมใส่ เรียก ฮิญาบ
พิธีสุหนัต
เด็กชายอายุ2-10ปีจะได้รับพิธีนี้
มีการเชิญญาติพี่น้องอย่างน้อย2-3คนเป็นสักขีพยาน
มีการสวมพวงมาลัยให้เด็กก่อนแล้วจึงผ่าหรือตัด เสร็จแล้วก็ให้ของขวัญกับเด็ก
การตัดหนังหุ้มปลายองคชาติซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่และสิ่งควรสรรเสริญ
ปัจจุบัน เมื่อไปคลอดที่โรงพยาบาลแพทย์ทำคลอดทารกเพศชายตัดหนังอุ้มปลายองคชาตของทารกเป็นการทำพิธีเลยก็ได้
พิธีศพ
เมื่อมีคนเสียชีวิต มุสลิมในหมู่บ้ายจะไปเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือ
แต่งกายธรรมดา ไม่แต่งชุดดำ
ให้รีบไปส่งผู้ตายยังสุสานและรีบละหมาด
ก่อนนำไปฝัง นำไปมัสยิดเพื่อละหมาดและอวยพรให้แก่ผู้ตาย
เมื่อละหมาดเสร็จแล้ว จึงนำผู้ตาบไปยังหลุดที่ขุดไว้ เตรียมไว้ในท่านอน
ต้องจัดการฝันให้เรียบร้อยภานใน24ชั่วโมง
ฝังเสร็จจะกลบดินหลุมฝังให้นูนขึ้น และปักไม้ธรรมดาไว้ที่หลุม
จะไม่มีการโบกปูน/ทำให้ถาวรเพื่อการไปเคารพบูชาที่หลุมศพเด็ดขาด
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพโดยทั่วไป
ห้ามทำแท้ง
การขลิบอวัยวะเพศชายเป็นเรื่องแนะนำให้ปฏิบัติ
การช่วยให้ฆ่าตัวตาย/การุนฆาตเป็นเรื่องต้องห้าม
การช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายในการใส่เครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยมีสภาวะเป็นผักเป็นเรื่องที่ไม่สนับสนุนให้ทำ
การผ่าศพชันสูตรเป็นเรื่องต้องห้าม ยกเว้นเป็นข้อบังคับของกฎหมาย
หลังคลอดจะมีการขอรกเอาไปฝังต้องแจ้งให้ทราบหากมีข้อกำจัดไม่สามารถให้นำรกไปได้
การให้บริการทางการแพทย์และพยาบาล
จำกัดการสบตาไม่จ้องผู้ป่วยมากเกินไป
ผู้หญิงมุสลิมจะใส่เสื้อผ้าที่มีการปกคลุมร่างกาย
หากต้องการตรวจ
ควรมีเสื้อคลุมที่ยาวสามารถปกปิดร่างกายได้
หากไม่สามารถจัดหาได้
ควรจะอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้าตนเองได้
ห้ามการได้รับบริการสุขภาพจากเพศตรงข้าม
ผู้บริการควรเป็นเพศเดียวกับผู้ป่วย
หากมีความจำเป็นต้องให้บริการจากผู้รักษาเพศตรงข้าม
แพทย์ชายควรให้สามีของผุ้ป่วยเข้าไปด้วย
การดูแลเรื่องอาหาร
อาหารฮาลาล ไม่มีหมูและแอลกอฮอล์
ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร
จะใช้มือขวาในการจับอาหารและเครื่องดื่มในการรับประทาน
การดูแลทางจิตวิญญาณ
จัดสถานที่ละหมาด
มีสถานที่ล้างเท้าก่่อนททำพิธี/จัดทำอ่างน้ำสำหรับอาบเพื่อททำการสวดทางศาสนา
การสวดทำวันละ5ครั้ง
สวดจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
ควรเอาสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาอื่นออกจากห้องผู้ป่วย
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
เป้าหมายในการดูแล
บูรณาการมิติทางสังคม จิตใจ จิตวิญญาณ
สนับสนุนและช่วยเหลือญาติ
ยอมรับเรื่องการมีชีวิตและการตายตามบริบทของศาสนาและวัฒนธรรม
การทำงานเป็นทีมเพื่อดูแลผุ้ป่วยและญาติอย่างมีคุณภาพ
ลดความเจ้บปวดและอาการไม่สบายต่างๆ
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของ
ชาวมุสลิม
1.มุสลิมต้องยอมรับการเจ็บป่วย
เป็นสิ่งที่พระอัลลอฮ์กำหนดมาให้และต้องแสวงวิธีรักษา
2.ผู้ป้วยต้องอดทนต่อการเจ็บป่วย
เจ็บปวดย่อมได้รับการลดบาปและได้กุศล
3.ผู้ป่วยต้องเอามือตนเองวางบนส่วนที่เจ็บ แล้วให้การละหมาด
4.การขอพรจากพระอัลลอฮ์พร้อมมกับจับมือผู้ป่วยหรือสัมผัส
5.การส่งเสริมให้กำลังใจ ตักเตือนให้เขาระลึกถึงความอดทน อบอุ่น และเชื่อมั่นว่าจะหาย
6.ต้องไม่ตั้งข้อรังเกียจผู้ป่วยและไม่แสดงท่าทีรังเกียจ ญาติต้องมีการดูแลอย่าใกล้ชิด ไม่ทอดทิ้ง
การอุทิศเมื่อผู้ตายบริจาคอวัยวะ
2.คำสั่งเสียบริจาคนั้นต้องเป็นลายลักษณ์อักษร
3.จุดประสงค์ในการถ่ายอวัยวะนั้นเพราะความจำเป้นทางการแพทย์
1.ผู้สั่งเสียต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบ
4.จุดประสงค์ต้องไม่ใช่เพื่อการค้า แสวงหากำไร
5.อวัยวะที่เจตนาบริจาคนั้นต้องไม่ใช่ส่วนที่ค้านกับหลักการและคำสั่งสอน
6.คาดการณ์ได้ว่าการผ่าตัดถ่ายอวัยวะจากผู้ตายที่ได้สั่งเสียไว้ไปสุ่ผู้ที่ยังมีชีวิต จะต้องประสบผลค่อนข้างสูง
ดำเนินการตามคำสั่งเสียได้ก็เมื่อผู้สั่ง้สียตายเท่านั้น
ความเชื่อเกี่ยวกับความตาย
ภาวะที่เลี่ยงไม่ได้ต้องเผชิญเป็นความประสงค์ของพระอัลเลาะฮ์
ชีวิตมากจากพระองค์สุดท้ายต้องกลับไปหาพระองค์
อิสลาามไม่ให้ฆ่าตัวตาย
ภาวะใกล้ตาย มุสลิมต้องการอยู่ใกล้พระอัลเลาะฮ์มากที่สุด
พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้ให้มนุษย์ตาย
พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทรงกำหนดอายุขัย
มนุษย์ไม่สามารถรับผู้ว่าที่ใดและเมื่อใดเขาจะตาย
มนุษย์ต้องระลึกถึงความตายให้มาก
ตวามตายเป็นความดีและสบายใจสำหรับผุ้ศรัทธา