Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
Cancer เกิดจาก
ความผิดปกติของรหัสสารพันธุกรรม
Cancer cell แบ่งตัวตลอดเวลา
การเติบโตของ cancer cell
จํานวน cancer cell มากกว่าปกติ
กลายเป็น
Metastasis
Malignant tumor
Cancer cell ขาดกลไกการหยุดแบ่งตัว
วัฏจักรเซลล์ (Cell cycle)
S phase
Cell สร้างและสังเคราะห์ DNA ที่ เหมือนกัน อีก 1 ชุด
G2 phase
Cell สร้างองค์ประกอบต่าง ๆ และแบ่งเป็น 2 เซลล์
G1 phase
ระยะการแบ่งตัว cell เริ่มสร้าง โปรตีน กับ เอนไซม์ เพื่อใช้สร้าง
DNA และ RNA
M phase
Cell แบ่งตัวแบบ mitosis
แยกโครโมโซมออกเป็น 2 Cell (มีองค์ประกอบเหมือนกัน+ขนาด เท่ากัน)
G0 phase
ระยะพัก cell แบ่งตัวสมบูรณ์แล้ว หากได้สัญญาณการแบ่งตัว ก็จะ
เปลี่ยนเข้าสู่G1 phase
กลไกการออกฤทธิ์Antineoplastic drugs..
ยาต้านมะเร็ง
ส่งผลเฉพาะกับ cancer cell ที่กําลังอยู่ในช่วงแบ่งตัว (Reproducing)
การรักษาด้วยยาใช้ยาหลายชนิดรBวมกัน
เพื่อ... ยับยั้งการเจริญของcancercell ภาวะแทรกซ้อน/ผลข้างเคียงยา
ประเภทยาแบ่งตามการออกฤทธิ์ในcellcycle
Cell cycle-specific drugs (CCS)
ออกฤทธิ์ต่อ cancer cell ในระยะใดระยะหนึ่ง
ไม่มีผลต่อ cancer cell ระยะอื่น
ได้ผลดีในมะเร็งท่ีแบ่งตัวรวดเร็วต่อเนื่อง
Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS)
ออกฤทธิ์ได้กับ cancer cell ทุกระยะ
ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของ
ก้อนนมะเร็ง ทั้งในระดับตำ่และสูง
ยาต้านโรคมะเร็ง
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
ยากลุ่ม อื่น ๆ (Enzyme and adrenolytic)
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ (Natural and semi-synthetic products)
ยากลุ่ม Antimetabolites
ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
1.ยากลุ่ม Alkylating agents
ระดับชลซึ่งป็นสเหตุของการจริญเติโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและให้ส่งผลต่อเชลล์ปกติน้อยที่สุด
ผลข้างเคียงจึงแรงน้อยกว่าการักษาด้วย chemothepy
การรักษารูปแบบนี้นำมาใช้ในการรักษา
โรคมะเร็งหลายชนิดเช่น มะเร็งปอด มะเร็งดับ มะเร็งไต มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็ง
ศีรษะและลำคอ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
ยากลุ่ม Alkylating agents
Cyclophosphamide, Ifosfamide, Chlorambucil, Carmustine, Dacarbazine, CisplatinBusulfan, Mechlorethamine
ยากลุ่ม Antimetabolites/Antineoplastic agents
Methotrexate, Pemetrexed, 6-mercaptopurine, 6-thioguanine, Fludarabine5-fluorouracil, Capectibine, Cytarabine, Gemcitabine
ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
Dactinomycin, Doxorubicin, Bleomycin, Mitomycin C
ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
ยากลุ่ม อื่น ๆ (Other anticancer agents)
ยากลุ่มนี้สามารถออกฤทธิ์ต่อเชลล์ในทุกระยะของวงจรเซลล์
Cyclophosphamide
กลไกการออกฤทธิ์: เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย CYP450 กลายเป็น phosphoramide mustard แทรกเข้าไปในขบวนการสร้าง DNA แบบ cross-
การนำไปใช้รักษาในคลินิก: ยามีทั้งรูปแบบฉีดและยารับประทาน ใช้รักษามะเร็ง
Ifosfamide (Holoxan; IFOS)
กลไกการออกฤทธิ์: กลไกเหมือน Cyclophosphamide
การนำไปใช้รักษาในคลินิกะ ยมีทั้งรูปแบบฉีดและยารับประทาน ใช้
รักษามะต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเร็งอัณฑะ
Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์: เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross-
lnking
การนำไปใช้รักษาในคลินิก: เป็นยามาตรฐานในการรักษา มะเร็งเม็ด
Carmustine
กลไกการออกฤทธิ์: ทำให้เกิด หมู่ Aky) ไปจับกับสายของ DNA ส่งผลให้ DNA ทำให้เชลล์มะเร็ง
การนำไปใช้รักษาในคลินิก: รักษามะเร็งสมอง
Dacarbazine (DTIC)
กลไกการออกฤทธิ์: เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย YP450 ให้กลายเป็นสารที่มีพิษ
การนำไปใช้รักษาในคลินิก: เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ใช้ร่วมกับยา Adriamycin, Bleomycin
Cisplatin, Carboplatin
การนำไปใช้รักษาในคลินิก: เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าทางช่องท้อง ใช้
กระบวนการ DNA replication และ DNA transcription
กลไกการออกฤทธิ์: เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross-linking ส่งผลทำให้
Busulfan (Myleran)
เชลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวได้ และทำให้เซลล์ตาย
Mechlorethamine (Mustargen, Mustine)
กลไกการออกฤทธิ์: เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA ทำให้เกิดสาย DNA
แตก และยับยั้งกระบวนการ DNA transcription
Mitomycin
กลไกลการออกฤทธิ์:ยาถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylating agentsที่มีฤทธิ์แรงมาก ทำให้เกิดสะพานในสาย DNA
การนำไปใช้ทางคลีนิค
ใช้รักษามะเร็งปากมดลูก,มะเร็งปอด,มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ,มะเร็งลำไส้ใหญ่
ผลข้างเคียงยากลุ่มAnticancer antibiotics
ยาdoxorubicin มีพิษต่อหัวใจ cardio toxicity มีผลทัังพิษเฉียบพลันและเรื้อรัง ทำให้เกิด Arrhythmia และ CHF
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ
ยากลุ่มvinca alkaloids
เป็นสารสกัดจากพืชได้แก่ vincristine
Vinblastine
Vinorelbine
กลไกลการออกฤทธิ์ของยากลุ่ม vina alkaloids
ยาจะไปจับกับโปรตีนtubulinทำให้ยับยั้งการประกอบ microtubulesยับยั้งการประกอบตัวของmictotic spindle
Vincristine(VCR):oncovin
การนำไปใช้ทางคลีนิค:ใช้รักษายามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดacute lymphocytic leukemia มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
Vinblastine(VLB):velban
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
ยากลุ่มสเตียรอยด์(Glucocorticoids) :
Prednisolone (เพรดนิโซโลน), Prednisone และ Hydrocortisone
ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (antiestrogens) :
Tamoxifen (ทาม็อกซิเฟน), Toremifene (โทเรมิฟีน), Raloxifene (แรลล็อกซิฟีน)
ยาต้านฮอร์โมน androgen (anti androgens)
Goserelin (โกเซอรีลีน), Leuprolide (ลิวโพรไลด์, Abarelix (อะบาเรลลิกซ์)
ยาฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestins)
Megestrol acetate (มีเจสทรอล, Megace ) เป็น progesterone สังเคราะห์
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
Glucocorticoids : Prednisolone, Prednisone, Hydrocortisone
Clinical use :
รักษากลุ่มมะเร็ง:ต่อมน้ําเหลืองชนิดHodgkin’s
Non-hodgkin lymphoma, เม็ดเลือดขาวชนิด ALL
ผลข้างเคียง
มีโอกาสติดเชื้อง่าย
กลูโคสในเลือดสูง (hyperglycemia)
กระดูกพรุน (osteoporosis)
แผลในกระเพาะอาหารและลําไส้
Antiestrogens : Tamoxifen, Toremifene, Raloxifene
Clinical use : ใช้รักษา
Tamoxifen:ตัวเลือกแรกใช้รักษามะเร็งเต้านม
Toremifene:มะเร็งเต้านม
Raloxifene:ป้องกันการเกิดมะเร็งกระดูกพรุน
ผลข้างเคียง
มีเลือดประจําเดือนผิดปกติ
ใช้ระยะยาว เสี่ยงเกิด
ร้อนวูบวาบ, คลื่นไส้, อาเจียน
ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
การออกฤทธ์ิของยา : ยับยั้ง Molecular signaling ที่ไปกระตุ้น cell มะเร็ง ให้เพิ่มจํานวนและเจริญเติบโต
ประเภทของยา
Targeted Therapy
ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal antibodies)
จับกับโมเลกุลเป้าหมาย
ภายนอกเซลล์ / บนผิวเซลล์
ยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวหรือเจริญเติบโต
ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (Small molecules)
เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้
จับกับโมเลกุลเป้าหมาย
ภายในเซลล์ + บนผิวเซลล์
ยากลุ่มอื่น ๆ (Other anticancer agents)
Asparaginase
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
Cancer cell ไม่สามารถสร่้าง/แบ่งตัวได้
Cancer cell ขาดสารท่ีใช้แบ่งตัวและเติบโต
ยาเร่งปฏิกิริยา hydrolysis
Clinical use
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL ใน เด็ก (ใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone)
ผลข้างเคียง
ปฏิกิริยาแพRรุนแรงจนเสียชีวิตได้มีอาการ เช่น ตับอ่อนอักเสบ, เกิดพิษต่อตับ, ชัก และ โคม่า
Mitotane
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ลดการสร้าง cortisol
ทําให้ไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตช้ันนอกฝ่อลง
Clinical use
มะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenocortical carcinoma)
ผลข้างเคียง
คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, อุจจาระร่วง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ยากดภูมิคุ้มกัน
กลุ่มยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurin inhibitors)
Tacrolimus (FK506®)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา : คล้ายกับ Cyclosporin
Clinical use
ใช้แทน Cyclosporin ในการรักษาผู้ป่วยที่ได7รับ organ transplantation
เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย และลดขนาดของยา corticosteroids ที่ใช้ร่วมด้วยได้
ผลข้างเคียง
คล้ายกับCyclosporinแต่ไม่ทําให้เหงือกบวมและขนดก
พิษต่อระบบประสาทพบบ่อยกว่าCyclosporinเช่นปวดศีรษะสั่นนอนไม่หลับและชัก
อาจพบผมร่วงได้
กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลลK (Cytotoxic agents)
Azathioprine (Imuran®)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา:ยับยั้งการสร้างDNA,RNAและโปรตีน
Clinicaluse:
Acutegraftrejectionจากการปลูกถ่ายไตและตับแบบtripletherapy (ใช้ร่วมกับ corticosteroids และ cyclosporin)
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก ทําให้เม็ดเลือดขาวหรือเกร็ดเลือดตพา
กลุ่มอดรีโนคอร์ติคอยดH (Adrenocorticoids)
Clinical use : - ใช้กดอาการแสดงของโรคภูมิคุ้มกัน เช่น SLE
ผลขuางเคียง: - ขึ้นกับขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาเพื่อลดผลข้างเคียง ควรใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น cyclosporine
กลุ่มสารยับยั้ง Cytokines (Cytokines inhibitors)
จับกับโมเลกุล บนผิว T cell
ยับยั้งการแบ่งตัวของ T cell และเกิดการทําลาย T cell
กดภูมิคุ้มกันแบบ cell-mediated immune response
T cell
ในเลือดลดลง
การแบ่งตัวสร้าง Cancer cell ลดลง
Clinical use
รักษาโรคไขกระดูกฝ่อ
ผลข้างเคียง
ภาวะเม็ดเลือดขาวตพาเกล็ดเลือดตำ่
เป็นตุ่มตามผิวหนัง
ปวดข้อ
เสี่ยงติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
ไข้ หนาวส่ัน