Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม - Coggle Diagram
การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม
นิกายซุนนี (Sunni)
ซุนนี แปลว่า มรรคา หรือจารีต เป็นนิกายของศาสนาอิสลามที่นับถือคัมภีร์เล่มหนึ่งชื่อ ”ซุมนา เป็นคัมภีร์อรรถกถาของคัมภีร์อัลกุรอาน
ผู้นับถือคัมภีร์นี้เป็นผู้ที่เคร่งครัด
พวกออร์ธอดอกซ์ของอิสลาม และไม่ชอบให้ใครมาเปลี่ยนแปลงคำสอนที่มีอยู่เดิมในคัมภีร์ เพราะป้องกันการคลาดเคลื่อนในหลักคำสอนแท้จริง
ส่วนมากมีอยู่ในประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกา และชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับความตายของมุสลิม
เป็นภาวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทุกกคนต้องเผชิญและยอมรับเพราะเป็นความประสงค์ของพระอัลเลาะฮ์
ชีวิตมนุษย์มาจากพระองค์ประทานมาให้สุดท้ายต้องกลับไปหาองค์
อิสลามไม่ให้มนุษย์ฆ่าตัวตาย แต่ทุกคนต้องรำลึกถึงความตายอยู่ตลิดเวลา
ภาวะไกล้ตายเป็นภาวะที่มุสสลิมต้องการอยู่ใกล้พระอัลเลาะห์มากที่สุด และเป็นการดูแลให้ผู้ป่วยลดความทุกข์ทรมาน
พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้ให้มนุษย์เกิดและให้มนุษย์ตาย
พระเจ้าเป็นผู้ทรงกำหนดอายุขัยของมนุษย์
ความตายเป็นข่าวดีและสบายใจสำหรับผู้ศรัทธา
การอุทิศศพ เมื่อผู้ตายสั่งเสียมอบร่างกายศพหรือบริจาคอวัยวะ
1) ผู้สั่งเสียต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบ คือ บรรลุนิติภาวะมี สติสัมปชัญญะจริงจัง และยินยอมในการบริจาคอวัยวะ
2) คําสั่งเสียบริจาคนั้นต้องเป็นลายลักษณ์อักษร
3) จุดประสงค์ในการถ่ายอวัยวะนั้นเพราะความจําเป็นทางการแพทย์
4) จุดประสงค์ต้องไม่ใช่เพื่อการค้า แสวงหากําไร แลกเปลี่ยนหรือเพื่อให้ ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษ
5) อวัยวะที่ผู้สั่งเสียได้แสดงเจตนาบริจาคนั้น ต้องไม่ใช่ส่วนที่ค้านกับ หลักการและคําสอน
6) คาดการณ์ได้ว่าการผ่าตัดถ่ายอวัยวะจากผู้ตายที่ได้สั่งเสียไว้ไปสู่ผู้ที่ยังมี ชีวิต จะต้องประสบผลค่อนข้างสูง
7) ดําเนินการตามคําสั่งเสียได้ก็เมื่อผู้สั่งเสียตายเท่านั้น
อิสลามกับความตาย
ทุกชีวิตต้องได้ลิ้มรสความตาย
ความตายมิได้เป็นการสิ้นสุดหรือเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต หากแต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของการที่มนุษย์จะก้าวไปสู่ชีวิตที่แท้จริงอันเป็นนิรันดร
การจัดการศพตามวิถีอิสลาม
ให้นำศพมาอาบน้ำชำระสิ่งสกปรกที่ติดอยู่รีดท้อง เพื่อให้สิ่งสกปรกภายในเคลื่อนที่ออกมา แล้วรดน้ำให้สะอาดทั้งตัว
นำศพมาวางบนผ้าขาวซึ่งปูไว้ 3 ชั้น นำมือทั้งสองไว้ที่ระดับอกให้มือขวาทับบนมือซ้ายแล้วห่อด้วยผ้าขาว 3 ชั้น
นำศพไปบรรจุในหีบศพถ้าหากอยู่ในที่กันดาร ไม่ใช้หีบศพก็ได้แต่ให้ทำหลุมเพื่อเตรียมฝัง
ฝังในหลุมลึก คาดคะเนพอไม่ให้กลิ่นขึ้น หรือสัตว์ป่าคุ้ยเขี่ยขึ้นมาได้
เมื่อฝังในที่ใดแล้ว ห้ามขุดศพนั้นขึ้นมาไม่ว่าประการใด
หากจำเป็นต้องรักษาศพ ให้รักษาไว้ไม่ให้กลิ่นเหม็น ถ้าปล่อยให้มีกลิ่นเหม็นทางศาสนาถือว่าเป็นการบาป
ข้อแนะนำในการไปเยี่ยมเคราพศพผู้นับถือศาสนาอิสลาม
กรณีศพอยู่ที่บ้าน
นําศพมาอาบน้ําชําระสิ่งสกปรก รดน้ําให้สะอาดทั้งตัว
นําศพมาวางบนผ้าข้าวซึ่งปูไว้ ๓ ชั้น หรือนําศพบรรจุใน หีบศพ
ผู้ไปเยี่ยมเคารพศพ ควรไปแสดงไว้อาลัยกับญาติที่มีชีวิตอยู่ เป็นการให้เกียรติแก่เจ้าภาพ
ทําความเคารพศพ โดยกล่าวคําไว้อาลัยได้ (ไม่นิยมนําพวง หรีดไปวาง)
มอบเงินซองให้เจ้าภาพ
กรณีศพอยู่ที่มัสยิดหรือสุเหร่า
ผู้ร่วมพิธีจะรอเคารพศพก่อนพิธีละหมาด
ผู้ร่วมพิธีมุ่งไปแสดงความเสียใจกับญาติ
พิธีฝังจะเป็นพิธีของญาติ ๆ
มอบเงินซองให้เจ้าภาพ
พิธีศพ
เมื่อมี “มัยยิสหรือมัยยัต” (คนตาย) ขึ้นในหมู่บ้าน เป็นหน้าที่ของมุสลิมที่จะต้อง ไปเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือโดยไม่ต้องรอรับคํา เชิญหรือการ์ดเชิญ
ให้แต่งกายธรรมดาไม่ต้องแต่งชุดดํา เพราะไม่มีการไว้ทุกข์ และการไปบ้านผู้ตาย จะต้องไม่ไปเป็นภาระแก่เจ้าของบ้านโดยไป รับประทานอาหารหรือแม้แต่น้ํา
ให้รีบไปส่งผู้ตายหรือศพยังสุสาน และให้รีบละหมาด(บทสวดสําหรับผู้เสียชีวิต/คนตาย)
ก่อนนําไปฝังจะต้องนําไปยังมัสยิดเพื่อละหมาด ให้ผู้ตายและอวยพรขอพรให้แก่ผู้ตาย
เมื่อเสร็จจากการละหมาดแล้ว จึงนําผู้ตายไปฝังยังหลุมที่ขุดเตรียมไว้ในท่านอน
ต้องจัดการฝังให้เรียบร้อยภายใน 24 ชั่วโมง
ฝังเสร็จจะกลบดินหลุมฝังให้นูนขึ้นมา และปักไม้ธรรมดา ไว้ที่บูชาที่หลุมฝังศพอย่างเด็ดขาด