Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์และ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในสตรีที่มารั…
ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์และ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในสตรีที่มารับบริการคลอดบุตรจากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Mizan-Tepi โรงพยาบาลทั่วไป Tepi และโรงพยาบาล Gebretsadik Shawo ทางตะวันตกเฉียงใต้
ของประเทศเอธิโอเปีย
วัตถุประสงค์
เพื่อประเมินความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์และ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในกลุ่มผู้หญิงที่เข้าร่วมบริการคลอดลูกที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Mizan-Tepi โรงพยาบาลทั่วไป Tepi และโรงพยาบาล Gebretsadik Shawo ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเอธิโอเปีย
กลุ่มตัวอย่าง
-
ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์ที่มีความดันโลหิตสูงเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถสื่อสารได้หลังจากการรักษาเต็มรูปแบบ
ในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Mizan Tepi โรงพยาบาลทั่วไปใน Tepi และโรงพยาบาล Gebretsadik Shawo ทางตะวันเฉียงใต้ของประเทศเอธิโอเปียจำนวน 422 คน
ระเบียบวิจัย
วิธีการ
การศึกษาแบบตัดขวางของสถานบริการสุขภาพดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน 2559 ขนาดตัวอย่างทั้งหมด (422) ได้รับการจัดสรรสัดส่วนให้กับโรงพยาบาลสามแห่ง ใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างอย่างเป็นระบบเพื่อเลือกผู้เข้าร่วมการศึกษา ตัวแปรที่มีค่า p น้อยกว่า 0.25 ในการถดถอยโลจิสติกแบบไบนารีถูกป้อนลงในการถดถอยโลจิสติกหลายตัวแปรเพื่อควบคุมการผสม ใช้อัตราต่อรองที่มีช่วงความมั่นใจ 95% ค่า P น้อยกว่า 0.05 ได้รับการพิจารณาว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ
วัสดุและวิธีการ
พื้นที่ศึกษาและระยะเวลา
การศึกษาดำเนินการในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Mizan Tepi โรงพยาบาลทั่วไปในเมือง Tepi และโรงพยาบาล Gebretsadik shawo ที่พบในเขต Benchi Maji, Sheka และ Kefa ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายน 2559
-
-
-
-
-
ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล
รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวการวัดและทบทวนเวชระเบียนของมารดาโดยใช้แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแบบทดสอบโดยผู้รวบรวมข้อมูลที่ผ่านการฝึกอบรม รวบรวมข้อมูลทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อไม่ให้พลาดกรณี อ่านค่าความดันโลหิตขณะที่ผู้หญิงนั่งอยู่ในตำแหน่งตั้งตรงและนอนหงายโดยใช้อุปกรณ์วัดความดันโลหิตแบบปรอทและสำหรับสตรีที่ได้รับการบ่งชี้ว่ามีความดันโลหิตและโปรตีนในปัสสาวะ ณ เวลาที่ทำการวินิจฉัยนำมาจากรูปแบบการส่งต่อในเวลาที่ทำการวินิจฉัยนั้นถูกนำมาจากแบบฟอร์มการอ้างอิง
ผลการวิจัย
ลักษณะทางสังคมและประชากร: ในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งหมด, 155(37.3%) มีอายุระหว่าง 20-24 ปี มากกว่าครึ่ง 236 (56.7%) ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นศาสนาดั้งเดิม และ 403 (96.9%) แต่งงาน ผู้เข้าร่วมเกือบครึ่งมาจากพื้นที่ชนบท 214 คน(51.4%). ระดับการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม 150 คน (36.1%) เข้าเรียนระดับประถมศึกษาส่วนใหญ่ 276 (66.3%) เป็นแม่บ้านและ 230 (55.3) ขนาดของครอบครัวของผู้เข้าร่วมอยู่ระหว่าง 3-4
สรุปผลการวิจัย
จากการศึกษาแบบภาคตัดขวางอื่นๆ การศึกษานี้มีจุดแข็งและจุดอ่อนข้อจำกัด ที่เป็นไปได้อาจเกิดขึ้นจากความพร้อมและความสามารถของผู้หญิงในการให้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองและครอบครัวของพวกเขาอย่างถูกต้อง การระลึกถึงและความลำอียงที่พึงปรารถนาทางสังคมอาจมีการแนะนำในระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากหญิงตั้งครรภ์ที่เรียกตนเอง อย่างไรก็ตามมีการวัดเพื่อลดข้อ จำกัด เหล่านี้โดยใช้คำถาม ข้อจำกัดอื่น ๆ ของการศึกษานี้คือตัวแปรน้อยมีการสังเกตขนาดเล็กซึ่งทำให้ความแม่นยำเป้าหมายต่ำกว่าดังนั้นจึงตีความอย่างระมัดระวัง การรวมโรงพยาบาลทั้งหมดจากสามโซนนั้นเป็นจุดแข็งของการศึกษานี้ ความชุกของความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มารับบริการจัดส่งอยู่ที่ 7,9% ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้หญิงจำนวนมากที่เข้าร่วมบริการจัดส่งที่โรงพยาบาล Mizan Tepi Teaching Gebretsadikshawo และโรงพยาบาล Tepi พัฒนาความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์ ในบรรดาความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์พบว่าภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง มีประวัติครอบครัวของการตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้น, โรคไตเรื้อรัง (โรคไต) และอายุครรภ์เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงที่เกิดการตั้งครรภ์
-
การวินิจฉัย
เกณฑ์ขั้นต้น
- SBP ≥ 140 หรือ DBP ≥ 90 เมื่ออายุครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ขึ้นไป
- Proteinuria ≥ 300 mg/24 hr. หรือ ≥ 1+ dipstick
เกณฑ์ที่ช่วยยืนยัน
- SBP≥160หรือDBP≥110 - Proteinuria ≥ 2 g/24 hr. หรือ ≥ 2+ dipstick
- Serum creatinine ≥ 1.2 mg/dL.
- เกล็ดเลือด < 100,000
- ค่า LDH เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดขนาดเล็ก
- ค่า ALT หรือ AST เพิ่มขึ้น
- ปวดศีรษะ มีอาการทางสมองหรือการมองเห็นผิดปกติ
- เจ็บที่ลิ้นปี่
-
-
Chronic hypertension
- SBP ≥ 140 หรือ DBP ≥ 90 ที่ตรวจพบก่อนการตั้งครรภ์หรือให้การวินิจฉัยก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ในราย ที่ไม่ได้เป็น gestational trophoblastic disease
- ความดันโลหิตสูงที่ให้การวินิจฉัยหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์และยังคงสูงอยู่หลังคลอดเกิน 12 สัปดาห์
-
อาการและอาการแสดง
- ความดันโลหิตสูงที่พบหลังจากไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์เป็นภาวะความดันโลหิตสูงโดยไม่มีโปรตีนในปัสสาวะหรือภาวะบวมผิดปกติเกิดขึ้นชั่วคราวในครึ่งหลังของการตั้งครรภ์หรือภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดโดยไม่มีอาการ preeclampsia หรือความดันโลหิตสูงอยู่ก่อน ภาวะนี้มักวินิจฉัยได้ในช่วงหลังคลอดแล้วระดับความดันโลหิตจะลดลงสู่ปกติประมาณ 1 วันหลังคลอด
- preeclampsia เป็นภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการมีโปรตีนในปัสสาวะและ / หรือภาวะบวมที่ผิดปกติหรือมีอาการครบทั้ง 3 อย่างซึ่งความรุนแรงของภาวะนี้แบ่งได้เป็น 2 ระดับคือ
-
- Eclampsia เป็นภาวะที่รุนแรงที่สุดของการมีความดันโลหิตสูงในหญิงมีครรภ์พบไข่ขาวในปัสสาวะและ / หรือภาวะบวมผิดปกติโดยร่วมกับอาการชักโดยมีอาการนำมาก่อนเช่น ปวดศีรษะ ตามัวหรือจุกแน่นลิ้นปี
การดูแลรักษา
1.การป้องกันไม่ให้เกิดความดันโลหิตสูงมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถปฏิบัติได้โดยการพักผ่อน การรับประทานอาหาร การรับประทานยาตามแผนการักษา และมีแบบแผนการดำเนินชีวิต ที่เหมาะสม
1.1 สตรีตั้งครรภ์ควรมีการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
1.2 การรับประทานอาหารเพื่อป้องกนภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
1.3 การรับประทานยาตามแผนการรักษา
1.4 แบบแผนการดำเนินชีวิตเพื่อเป็นการป้องกันในกลุ่มที่ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ เช่น การไม่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่
2.การเฝ้าระวังเพื่อลดความรุนแรงที่เกิดจากการมีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์โดยการปฏิบัติดังต่อไปนี้
-
-
-
3.การดูแลตนเองทางด้านจิตใจเมื่อมีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดไม่รุนแรงขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นทำให้สตรีตั้งครรภ์รู้สึกคลุมเครือ ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสภาวะที่ตนเองเป็นอยู่เพราะไม่เข้าใจหรือรู้สึกได้ต่อการที่มีความดันโลหิตสูง หรือมีโปรตีนในปัสสาวะจนกว่าจะแสดงอาการหรือผลกระทบ เช่น ปรากฏอาการบวม และจำเป็นต้องได้รับการรักษาจึงจะทำให้เข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้สตรีตั้งครรภ์จึงควรที่จะเรียนรู้วิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การใช้เทคนิคการหายใจ การฟังเพลง การผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อนาไปใช้ในการดูแลตนเอง
ผลต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดา
- เลือดออกในสมองอาจเสียชีวิตได้
- ไตวายเฉียบพลันน้ำคั่งในปอด
- การแข็งตัวของเลือดผิดปกติทำให้เลือดออกง่าย แต่หยุดยากตกเลือดก่อนและหลังคลอดได้ง่าย
- อาจเกิดภาวะตาบอดชั่วคราวจะดีขึ้นภายใน 10-14 วันหลังคลอด
- ตับแตก, หัวใจล้มเหลว
- บาดเจ็บจากการชักเช่นกัดลิ้น, ตกเตียง
- อาจต้องยุติการตั้งครรภ์โดยไม่คำนึงถึงอายุครรภ์ถ้าโรคมีความรุนแรงมากจนเป็นอันตรายต่อมารดา
ผลต่อทารก
- แท้ง, ทารกเสียชีวิตในครรภ์และแรกเกิด
- คลอดก่อนกำหนดจากรกลอกตัวก่อนกำหนดและการยุติการตั้งครรภ์เพื่อการรักษา
- เจริญเติบโตช้าในครรภ์จากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอทำให้แรกเกิดน้ำหนักน้อยไม่แข็งแรง
-
คำจำกัดความ
- เกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นในขณะตั้งครรภ์ทำให้หลอดเลือดตีบตัวมากกว่าปกติและมีน้ำรั่วซึมออกมาจากหลอดเลือดส่งผลให้แรงดันในหลอดเลือดสูงและมีอาการบวม ผลของหลอดเลือดที่ตีบแคบทำให้หลอดทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลงรวมทั้งทารกในครรภ์ด้วย
- ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Gestational hypertension) คือ ภาวะความดันโลหิตสูงที่ตรวจพบในช่วงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป โดยไม่พบภาวะ proteinuria ร่วมด้วย และความดันโลหิตมักกลับสู่ระดับปกติภายใน 12 สัปดาห์หลังคลอด - ความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่มี systolic blood pressure (SBP) ≥ 140 mmHg หรือ diastolic blood pressure (DBP) ≥ 90 mmHg(1)
- ภาวะโปรตีนรั่วในปัสสาวะ หรือ proteinuria คือ ภาวะที่มี urine protein ≥ 300 mg ในปัสสาวะที่เก็บต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง หรือ urine protein creatinine index (UPCI) ≥ 0.3 หรือ urine dipstick ≥ 1+(1, 2) แต่ urine dipstick จะใช้เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถตรวจด้วย urine protein 24 hr หรือ UPCI ได้
- อายุ (age) จากการศึกษาหลายการศึกษาพบว่าอายุที่น้อยกว่า 20 ปี และอายุที่มากกว่า 35 ปี มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์
- ตั้งครรภ์ครั้งแรก (primigravida) เป็นปัจจัยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงชนิด รุนแรง
3.มีประวัติเป็นความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์มาก่อน (previous preeclampsia) โดย พบว่าสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน
จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการ เกิดภาวะความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์ครั้งต่อมามากกว่า 7 เท่า ของสตรีตั้งครรภ์ที่ไม่มี ภาวะความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน
4.มีประวัติเป็นความดันโลหิตสูงในครอบครัว (family history of preeclampsia) พบว่าสตรี ตั้งครรภ์ที่มีประวัติความดันโลหิตสูงในครอบครัวมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิต สูงชนิดรุนแรง ประมาณ 15 เท่า ของสตรีตั้งครรภ์ที่ไม่มีประวัติความดันโลหิตสูงในรอบครัว
5.ตั้งครรภ์แฝด (multiple pregnancy) การตั้งครรภ์แฝดเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะความดันโลหิตสูงมากขึ้น ประมาณ 3 เท่าของการตั้งครรภ์โดยทั่วไป
-
-
8.ดัชนีมวลกาย (body mass index) พบว่าสตรีตั้งครรภ์ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กิโลกรัม ต่อตารางเมตรมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่า 4 เท่าของสตรีตั้งครรภ์ ที่มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
9.มีประวัติเป็นโรคทางอายุรกรรมบางอย่างมาก่อน (pre-existing medical conditions) ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต หรือโรค autoimmune