Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 3 ยารักษาโรคมะเร็ง - Coggle Diagram

- - - - ออกฤทธิ์ต่อ cancer cell ในทุกระยะของ cell cycle (จัดอยู่ในกลุ่ม CCNS drugs) มีการยับยั้งการสร้างDNAของcellมะเร็ง ทำให้cellมะเร็งแบ่งตัวไม่ได้ จนทำให้cellตาย
    - - ยาถูกเปลี่ยนโดย CYP450 เป็น Phosphoramide
        mustard
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง : รังไข่, เต้านม, เม็ดเลือดขาวทุกชนิด,
        ต่อมน้ำเหลือง
        
        กดภูมิคุ้มกัน : ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ หรือ autoimmune
        diseases
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        คล้ายกับ Cyclophosphamide
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง : ต่อมน้ำเหลือง, อัณฑะ, มะเร็ง
        เนื้อเยื่ออ่อน
    - - Clinical use
        
        เป็นยามาตรฐานในการรักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLL
        และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด follicular
      - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        แทรกการเชื่อมจับสาย DNA ของ cancer cell แบบ cross-linking
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        เกิด หมู่ alkyl ไปจับกับสายของ DNA ของ cancer cell DNA (cancer cell) : Strand break
      - Clinical use
        
        มะเร็งสมอง
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        ยาถูกเปลี่ยนโดย CYP450 เป[นสารที่มีพิษต่อการสร้าง DNA, RNA
        ของ cancer cell
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง มะเร็งผิวหนัง
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        แทรกการเชื่อมจับสาย DNA ของ cancer cell
        
        ยับยั้ง DNA replication และ DNA transcription ของ cancer cell
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง : อัณฑะ, รังไข่, กระเพาะปัสสาวะ, ปอด,
        ทางเดินอาหาร
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        คล้ายกับ Cisplatin
      - Clinical use
        
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML , ให้ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
    - - กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        
        คล้ายกับ Cisplatin
      - Clinical use
        
        Clinical use
        
        เดิม รักษารักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s lymphoma
        
        ปัจจุบัน ใช้น้อยลง, เปลี่ยนไปใช้ cyclophosphamide และยาอื่น ๆ แทน
    - - ไต
        
        cyclophosphamide และ ifosfamide
        ทำให้เลือดออกในกระเพาะปัสสาวะได้
      - หัวใจ
        
        เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพิษต่อหัวใจ
      - ระบบประสาท
        
        พบในยา Ifosfamide สูง
        กว่ายาชนิดอื่น จะทำอารมณ์แปรปรวน
      - ผิวหนัง
        
        ผิวหนังมีสีคล้ำ (ขาหนีบ, เอว, รักแร้)
      - ระบบทางเดินอาหาร
        
        ผลต่อ mucosal cells ของทางเดินอาหาร
        
        ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน
      - ผม
        
        ผมร่วง (อาการจะหาย เมื่อหยุดยา)
      - การทำงานของกระดูก
        
        Bone marrow
        
        suppression, leucopenia, anemia,
        
        thrombocytopenia
      - เล็บ
        
        มีรอยดำ (พบในยาcyclophosphamide)
- - - - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง : มะเร็งรก, ศีรษะและคอ, ปอด
    - - Clinical use
        
        รักษามะเร็ง ปอดและตับอ่อน
  - - - Clinical use
        
        รักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL, AML, ANLL
    - - Clinical use
        
        รักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL, AML (ใช้ร่วมกับยา Daunorubicin และ Cytarabine)
    - - Clinical use
        
        รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLL, มะเร็งตBอมน้ำเหลืองที่ไมBรุนแรง
  - - - Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
    - - Clinical use
        
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
    - - Clinical use
        
        ฉีดทาง IV ใช้รักษากลุ่มมะเร็ง : เต้านม, กระเพาะอาหาร, ตับอ่อน, ลำไส้ใหญ่
    - - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง : ตับอ่อนที่แพร่กระจาย, ปอด, รังไข่, กระเพาะปัสสาวะ,
        กระเพาะอาหาร, ศีรษะและคอ
- - - - Herceptin®
    - - Erbitux®
    - - Rituxan®
    - - Campath®
    - - Gleevec®
    - - Sprycel®
    - - Tasigna®
- - - - มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL ใน
        เด็ก (ใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone)
    - - ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง จนเสียชีวิตได้
  - - - มะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenocortical carcinoma)
    - - Depression, Dizziness, Skin rash
      - คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, อุจจาระร่วง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง
    - - ทำให้ไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตชั้นนอกฝ่อลง
      - ลดการสร้าง cortisol