Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents), นายศราวุฒิ เป็งมูล 6201210255…
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
1. กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurin inhibitors)
1.1 Cyclosporin A (CSA)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ป้องกันและรักษา acute graft rejection (การปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งเอนไซม์ calcineurin ส่งผลยับยั้งการสร้างและการหลั่ง IL-2 จาก T cell (ที่จะไปกระตุ้นการแบ่งตัวของ T-cell และกลายเป็น cytotoxic T lymphocytes; CTL) ส่งผลให้ lymphocyte activation ลดลง
ผลข้างเคียง
พิษต่อไต (nephrotoxicity) ขึ้นกับขนาดยาที่ให้และระดับยาในเลือดพิษต่อระบบประสาท (neurotoxicity) เช่นแขนขาซาสัน (tremor) อาจทำให้ความดันโลหิตสูงน้ำตาลในเลือดสูงไขมันในเลือดสูงการทำงานของตับผิดปกติเหงือกบวม (gum hyperplasia) และขนดก (hirsutism)
1.2 Tacrolimus (FK506)
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์เหมือนกับ cyclosporin แต่เป็นยาใหม่กว่า Cyclosporin และฤทธิ์แรงกว่า Cyclosporin 100
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้แทน Cyclosporin ในการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ (organ transplantation)
ผลข้างเคียง
คล้ายกับ Cyclosporin แต่ยาไม่ทำให้เหงือกหนาและขนดกยามีพิษต่อระบประสาทซึ่งพบได้บ่อยกว่า Cyclosporin เช่น ปวดศีรษะ สั่น (tremor)
2. กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic agents)
2.1 Azathioprine (Imuran)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสร้าง DNA, RNA และโปรตีนส่วน active metabolite คือ 6 thioinosinic acid มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ต่าง ๆ ในการสร้างสารพิวรีนมีผลยับยั้งการสร้าง DNA และยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ร่วมกับยากลุ่ม Corticosteroids และ Cyclosporin ในการรักษาแบบ triple therapy เพื่อป้องกัน acute graft rejection (การปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน) จากการปลูกถ่ายไตหรือตับหรือใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเองหลายชนิดเช่นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่รุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น SLE โรคโลหิตจางชนิด autoimmune anemia และภาวะเลือดออกง่ายชนิด idiopathic thrombocytopenia purpura
ผลข้างเคียง
กดการทำงานของไขกระดูกเกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำบ่อยกว่าโลหิตจางหรือเกร็ดเลือดต่ำเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากขึ้นคลื่นไส้อาเจียนเกิดพิษต่อตับ (hepatotoxicity)
2.2 Mycophenolate mofetil (MMF)
กลไกการออกฤทธิ์
เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น mycophenolic acid (MPA) มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ inosine monophosphate dehydrogenase (เอนไซม์นี้เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์พิวรีน) ส่งผลยับยั้งการสร้าง DNA, RNA และโปรตีนยามีผลยับยั้งการแบ่งตัวของ B และ Tilymphocytes
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
Cellcept มีผลข้างเคียงที่ต่ำกว่า Azathioprine ที่พบบ่อย ได้แก่ กดไขกระดูกทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อนอกจากนั้นยังรบกวนระบบทางเดินอาหารเช่นท้องร่วงอาเจียน
ผลข้างเคียง
ใช้ป้องกันและรักษา acute graft rejection (การปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน) ในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะร่วมกับยาตัวอื่นแทน Azathioprine Mycophenolate
2.3 Sirolimus หรือ Everolimus
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไปยับยั้งการทำงานของ mammalian target of rapamycin; mTOR (ซึ่งเป็นเอนไซม์ kinase ที่สำคัญต่อการออกฤทธิ์ของ IL-2) ยับยั้งการเจริญและแบ่งตัวของ T cell และยับยั้งการตอบสนองของ T cell ต่อ (Sirolimus ไม่ได้ยับยั้งการสร้าง IL-2 เหมือน Cyclosporin tacrolimus)
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ป้องกันการเกิด acute graft rejection (การปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน) โดยให้ร่วมกับ cyclosporine และ corticosteroids
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูกทำให้เกร็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) และเม็ดเลือดขาวต่ำ (leukemia) ทำให้ติดเชื้อง่ายซีดหากใช้ยา Sirolimus ร่วมกับ Cyclosporine จะทำให้พิษต่อไตของ Cyclosporine สูงขึ้นไขมันในเลือดสูงรุนแรงขึ้นภาวะโพแทสเซียมต่ำในเลือด (hypokalemia)
2.4 Leflunomide
ผลข้างเคียง
พิษต่อตับพิษต่อไตไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคตับและโรคไตนอกจากนั้นยังมีพิษต่อทารกในครรภ์ด้วยกดไขกระดูกทำให้เกร็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) และเม็ดเลือดขาวต่ำ (Leukemia) ทำให้ติดเชื้อง่าย
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไปยับยั้งการสังเคราะห์ pyrinidine ส่งผลให้การสังเคราะห์และการสร้าง DNA และ RNA ถูกยับยั้งจึงทำให้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านการเจริญเติบโตของเซลล์ก
3. กลุ่มอดรีโนคอร์ติคอยด์ (Adrenocorticoids)
ยากลุ่มนี้เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ใช้ในระยะยาว
ได้แก่ Prednisolone, Prednisone, Betamethasone, Dexamethasone และ Methyprednisolone
กลไกการออกฤทธิ์
การออกฤทธิ์ยาจะไปควบคุมการทำงานขของ gene โดยจับกับ steroid receptor ภายในเซลล์ได้เป็น drug-receptor Complex ไปออกฤทธิ์ที่นิวเคลียสโดยไปยับยั้งการสร้าง mRNA ของโปรตีนหลายชนิดรวมทั้ง cytokine ชนิดต่าง ๆ ยาสามารถออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันได้หลายวิธีเช่นกดการทำงานของเซลล์ macrophage, T และ B lymphocyte ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ lymphocyte ยับยั้งการสร้าง cytokine หลายชนิดทำให้จำนวน lymphocyte ในกระแสเลือดลดลงได้ทันที
ทำให้เซลล์ lymphocyte เคลื่อนย้ายออกจากกระแสเลือดมีผลต่อการเคลื่อนย้าย T cell มากกว่า B cell ฤทธิ์ลดการอักเสบ
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ในด้านการกดภูมคุ้มกันหากใช้ในขนาดสูง (high dose) สามารถนำไปใช้กดอาการแสดงของโรคภูมิคุ้มกัน (autoimmune disorders) เช่นโรคภูมิแพ้ตนเอง (severe systemic lupus erythematosus; SLE) ใช้ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันชนิดอื่น ๆ เพื่อป้องกันและรักษาการต้านเนื้อเยื่อจากการปลูกถ่ายอวัยวะ (transplant rejection)
ผลข้างเคียง
โดยความรุนแรงของผลข้างเคียงขึ้นกับขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาเพื่อลดผลข้างเคียงควรให้ยา corticosteroids ร่วมกับยาอื่นเช่น cyclosporine จะช่วยลดขนาดการให้ยากลุ่ม corticosteroids ได้การใช้ยา Corticosteroids เป็นระยะเวลานานมีผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายหลายระบบ
4. กลุ่มสารยับยั้ง Cytokines (Cytokines inhibitors)
4.1 Anti-IL-2 receptor antibody
ตัวอย่างยา
Dactizumab (ดาคลิซูแมบ) และ Basiliximab (บาซิลิซิแมบ)
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์ยับยั้งการกระตุ้น lymphocyte ด้วย IL-2 ที่เป็น pathway สำคัญในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายที่ทำให้เกิดการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ในผู้ป่วยที่มีการปลูกถ่ายไตเพื่อเป็นการป้องกันการเกิด acute graft rejection หรือการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลันโดยให้ร่วมกับยา cyclosporine corticosteroids ในผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายไต
ผลข้างเคียง
อาจพบอาการแพ้ยาได้ (hypersensitivity reaction)
4.5 Anti-lymphocyte globulin (ATG) and Antilymphocyte globulin (ALG): Lymphoglobulin, Thymoglobulin
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษาภาวะปฏิเสธการปลูกถ่ายไตแบบเฉียบพลัน (acute renal transplant rejection) ในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตนิยมใช้ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันอื่น ๆ และใช้รักษาโรคใจกระดูกฝ่อ (aplastic anemia)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาออกฤทธิ์โดยจับกับโมเลกุลบนพื้นผิว T cell ทำให้ลดการแบ่งตัวยับยั้งการกระตุ้นและเกิดการทำลาย T cell ยาออกฤทธิ์แรงกดภูมิคุ้มกันแบบ cell-mediated immune response ทำให้จำนวน Icell ลดลงอย่างมาก
ผลข้างเคียง
มักมีไข้หนาวสั่นภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำเกล็ดเลือดต่ำเป็นตุ่มตามผิวหนังและปวดข้อเกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้สูง
4.3 Anti-TNF-a antibody
ตัวอย่างยา
ได้แก่ Adalimumab , Infliximab , Golimumab และ Certoizumab pegol
กลไกการออกฤทธิ์
เป็น antibodies ที่จับกับ TNF-d ซึ่งเป็น cytoine ที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบเช่น L-1, IL-6 และกระตุ้นการเคลื่อนตัวของเม็ดเลือดขาว
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ร่วมกับยา Methothexate ให้ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อกลุ่มยา DMARDS นอกจากนั้นยังใช้รักษา Crohn's disease
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูกทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายเช่นวัณโรคหรือการติดเชื้อทางเดินหายใจพบปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีดยาเช่นผื่นแดงคันปวดหรือบวม
4.2 Anti-CD2
ตัวอย่างยา
Alefacept (อะเลฟาเซบ)
ผลข้างเคียง
อาจพบอาการไข้หนาวสั่นปวดกล้ามเนื้อ ติดเชื้อได้ง่าย (cytokine release Syndrome) และห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วย HIV
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาออกฤทธิ์โดยจับกับ CD2 บนพื้นผิว T cell ทำให้ลดการแบ่งตัวยับยั้งการกระตุ้นและเกิดการทำลาย T cell และทำให้จำนวน T cell ในกระแสเลือดลดลง
4.4 Anti-lgE mAbs
ผลข้างเคียง
อาจเกิด anaphylactic reaction หลังจากได้รับยา 2 ชั่วโมงเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นและอาจเหนี่ยวนำทำให้เกิดมะเร็งได้อาจพบอาการปวดศีรษะหรือปวดบริเวณที่ฉีดยา
ตัวอย่างยา
ได้แก่ Omalizumab
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักโรคหอบหืดที่เกิดจากภูมิแพ้ (allergic asthma)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจะไปปิดกั้นการจับของ lgE กับ Fc receptor ส่งผลให้ลดการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการแพ้แบบ hypersensitivity ชนิดที่ 1 นอกจากนั้นยายังทำให้นะดับ IgE ในเลือดเพิ่มสูงขึ้นแม้ว่าจะหยุดยาไป
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันโดยรวม
ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาครั้งแรกพยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวโดยการให้ความรู้และคำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับเหตุผลของการให้ยากดภูมิคุ้มกัน
ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษาให้ยาโดยยึดหลัก TR ประเมินผลข้างเคียงความเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับยาแต่ละชนิด
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการห้องปฏิบัติการเช่น CBC, BUN, creatinine, electrolyte, LFT ผลตรวจวัดระดับยาในเลือด
กรณีที่ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะแนะนำผู้ป่วยถึงความจำเป็นในการรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง
แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
ระหว่างที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่มีข้อควรระวังในการรับวัคซีนบางชนิด
ยากลุ่มนี้มีผลทำให้ทารกพิการ แต่กำเนิด (teratogenic effects) ระหว่างที่รับประทานยาต้องคุมกำเนิด
แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ
ยาบางชนิดเช่น azthioprine ทำให้เกิดแผลในปากแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลสุขภาพปากและฟัน
กรณีที่ผู้ป่วยกินยาอยู่ที่บ้านแนะนำให้รับประทานยาตรงตามเวลาและขนาดที่แพทย์กำหนดอย่างต่อเนื่องไม่ควรเพิ่ม / ลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง
ยากดภูมิคุ้มกันหลาย ๆ ชนิดมีผลกดการกระทำงานของไขกระดูกอาจทำให้มีโลหิตจางเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำได้หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
นายศราวุฒิ เป็งมูล 6201210255 เลขที่ 11 Section B วิชา พบ.201