Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
1.ยากลุ่ม Alkylating agents
1.Cyclophoshamide
กลไกการออกฤทธิ์ เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยCYP450 ให้กลายเป็น phosphoramide mustardแทรกเข้าไปในกระบวนการสร้าง DNA ทําให้เซลล์มะเร็งตาย
การนำไปใช้รักษาในคลินิค ใช้รักษามะเร็งรังไข่ เต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
2.Ifosfamide (Holoxan; IFOS)
กลไกการออกฤทธิ์ กลไกเหมือน Cyclophoshamide
การนำไปใช้รักษา ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืง มะเร็งอัณฑะ มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
3.Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าไปเเทรกเชื่อมจับของสาย DNA แบบ crosslinking ส่งผลทําให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวได้และทําให้เซลล์ตาย
การนำไปใช้ ยามาตรฐานในการการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังและมะเร็งต่อมน้ำาเหลืองชนิด follicular
4.Carmustine
กลไกการออกฤทธิ์ หมู่ Alkyl ไปจับกับสาย DNA ส่งผลให้ DNAเซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้ทำให้ตาย
การนำไปใช้ รักษามะเร็งสมอง
5.Dacarbazine (DTIC)
กลไกการออกฤทธิ์ เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยCYP450 ให้กลายเป็นสารที่มีพิษต่อ DNA และ RNA
การนำไปใช้ เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดําใช้ร่วมกับยาAdriamycin, Bleomycin, Vinblastine Dacarbazineในการีักษามะเร็งชนิด Hodgkin's lymphoma และมะเร็งผิวหนัง
6.Cisplatin, carboplatin
กลไกการออกฤทธิ์ เข้าไปเเทรกการเชื่อมจับของสาย DNAทําให้เกิดการยับยั้งกระบวนการDNA replication และDNAtranscriptio
การนำไปใช้ เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดําหรือทางช่องท้องใช้รักษามะเร็งอัณฑะ มะเร็งรังไข มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอด และมะเร็งทางเดินอาหาร
7.Busulfan (Myleran)
กลไกการออกฤทธิ์เข้าไปเเทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ crosslinking ส่งผลทําให้เซลล์มะเร็งสร้างหรือแบ่งตัวได้และทําให้เซลล์ตาย
การนำไปใช้ รักษามะเร็งเลือดขาวบางชนิดและใช้ร่วมกับยาเคมีบําบัดอื่นเช่นcyclophamide ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
8.Mechlorethamine (Mustargen, Mustine)
เข้าไปเเทรกการเชื่อมจับของสาย DNAทําให้เกิดการยับยั)งกระบวนการDNA transcription แตก
การนำไปใช้ เดิมใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำาเหลืองชนิดHodgkin's lymphoma แต่ปัจจุบันใช้ยานี้น้อยลง
2.ยากลุ่ม Antimetabolites/Antineoplastic agents มีฤทธิ1ต้านมะเร็งยับยั้งการทํางานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ DNA
1.Antifolate/Folate antagonist
Methotrexate
กลไกการออกฤทธิ์ เป็นยาต้านโฟเลตที่เปลี่ยน dihydrofolate ไปเป็นtetrahydrofolate ที่เป็น cofactor สําคัญที่นําไปใช้สร้างสารตั้งต้นของDNA, RNA
การนำไปใช้รักษา มะเร็งรก มะเร็งที่ศรีษะเเละคอ มะเร็งเม็ดเลือดขาว
Pemetrexed
กลไกการออกฤทธิ์ เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูก metaboliteให้กลายเป็นสารที่มีฤทธิ1ยับยั้งการสังเคราะห์และสร้างสารตัังต้นของDNA,RNA และโปรตีน
การนำไปใช้ ใช้รักษามะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน
2.Purine analogs: 6-mercaptopurine , 6-thioguanine,Fludarabine
ยา 6-mercaptopurine (6-MP)
กลไกการออกฤทธิ์ เป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายเบสเพียวรีน (purineanalog)เป็นยาชนิดแรกที่นํามาใช้รักษามะเร็งเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดจะเปลี่ยนเป็นสารไรโบนิวคลีโอไทด์(ribonucleotide)
การนำไปใช้ เป็นยาเม็ดรับประทานใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL (acute lympholytic leukemia)และ AML (acute myelogenous leukemia) หรือ acutenonlymphocytic leukemia ; ANLL
ยา 6-thioguanine (6-TG)
กลไกลการออกฤทธิ์ คล้ายกับ 6-MP
การนำไปใช้ ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL หรือAML โดยใช้ร่วมกับยา Daunorubicin และ Cytarabine
ยา Fludarabine
กลไกการออกฤทธิ์ เข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNAเกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
การนำไปใช้ เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดําเนื่องจากเป็นพิษต่อทางเดินอาหารมากหากให้โดยการรับประทานใช้รักษา CLL และมะเร็งต่อมน้ำาเหลืองที่ไม่รุนแรง
3.Pyrimidine analogs: 5-fluorouracil (5-ฟลูโอโรยูราซิล),Capectibine, cytarabine, gemcitabine
5-fluorouracil (5-FU
กลไกการออกฤทธิ์ ยับยั้งการทํางานของเอนไซม์ thymidylatesynthase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จําเป็นในการสร้าง DNA และ RNA
การนำไปใช้ ฉีดทางหลอดเลือดดํารักษามะเร็งเต้านมมะเร็งทางเดินอาหารเช่นมะเร็งกระเพาะอาหารมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งลําไส้ใหญ่
2.Capectibine
กลไกลการออกฤทธิ์ คล้ายกับ5-FU
เป็นยาเม็ดรับประทานใช้เพื่อบรรเทาอาการผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้วปัจจุบันนิยมใช้ร่วมกับยา Oxaliplatin[เพื่อรักษาามะเร็งลําไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย
3.Cytarabine
กลไกลการออกฤทธิ์ ยาจะไปเติมหมู่ฟอตเฟตทําให้เกิดการยับยัhงการเชืjอมต่อของสาย DNA
การนําไปใช้ทางคลินิค เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดํานิยมใช้การหยดแบบช้าๆเป็นเวลา 5-7 วันใช้รักษามะเร้งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
4.Gemcitabine
กลไกลการออกฤทธิ์ ยาเข้าสู่เซลล์ยาจะถูกกระตุ้นให้เติมหมู่ฟอตเฟตจะเข้าไปแทรกกระบวนการเชื*อมจับของสาย DNAเกิดการยับยั)งการสร้าง DNAกลไกลการออกฤทธิ์
การนําไปใช้ทางคลินิค ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดําใช้รักษามะเร็งตับอ่อนที
แพร่กระจายไปแล้วมะเร็งปอดมะเร็งรังไข่มะเร็งกระเพาะป;สสาวะมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งที
ศีรษะและคอ
3.ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
1.Dactinomycin or actinomycin D
กลไกการออกฤทธิ๋ สอดแทรกเข้าไปในสาย DNA ยับยั้ง RNApolymerase ทําให้สาย single-strand ของ DNA แตก
การนำไปใช้ เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดําใช้ร่วมกับยาVincritine ในการรักษา Wilms' tumorและมะเร้งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก
2.Doxorubicin (DOX)
กลไกการออกฤทธิ์ ยับยั้ง topoisomerase 2 แทรกไปอยู่ระหว่าง DNAbase pairs ในสาย DNA ปอดกั้นการสังเคราะห์ DNA and RNAและสร้างอนุมูลอิสระซึ่งทําให้สาย DNA แตก
การนำไปใช้
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดําใช้รักษาทะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมะเร็งของพลาสมาเซลล์มะเร็งเต้านมมะเร็งเยื่อบุโพรงมดูกมะเร็งรังไข่มะเร็งไทรอยด์และมะเร็งปอด
3.Bleomycin
กลไกการออกฤทธิ์ ทําให้เกิดการตกสลายของ DNAและสอดแทรกในสาย DNA ยามีผลต่อเซลล์ระยะ G2
มะเร็งอัณฑะ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
4.Mitomycin
กลไกการออกฤทธิ์ ถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylatingagents ที่มีฤทธิ์1แรงมากทําให้เกิดสะพานในสาย DNAมีผยับยั้งการสังเคราะห์ DNA
ใช้รักษามะเร็งปากมกลูกมะเร็งปอดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งลําไส้ใหญ่โดยอาจใช้ร่วมกับ 5-FU,cisplatin หรือ doxorubicin แต่ปัจจุบันนิยมใช้น้อยลง
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
4.ยากลุ่มสารสกัดจาดพืชธรรมชาติ (Naturai and semi-synthetic products)
4.1. Vinca alkaloids
1 Vincristin (VCR): Oncovin ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดacute lymphocytic leukemia
2 vinblastine (VLB) Velban ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้ง 2 ชนิดมะเร็งลูกอัณฑะและมะเร็งเต้านม
3 vinorelbine มะเร็งเต้านม
4.2.ยากลุ่ม taxanes
กลไกลการออกฤทธิ์ของกลุ่มยา taxanes ยับยั้งการสลายของสายmicrotubules ทําให้การแบ่งเซลล์ไมโตซิสไม่สมบูรณ์
นำไปใช้
มะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งศรีษะเเละคอ
5.ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
5.1.ยากลุ่มสเตียรอยด์(Glucocorticoids)
การนําไปใช้รักษาทางคลินิค รักษมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เเละเม็ดเลือดขาว
ผลข้างเคียง มีโอกาสติดเชื)อง่ายกลูโคสในเลือดสูงโรคกระดูกพรุนโรคแผลในกระเพาะอาหารและลําไส้
5.2.ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (antiestrogens)
การนําไปใช้รักษาในคลินิค
Tamoxifen ตัวเลือกแรกในการนํามาใช้รักษามะเร็งเต้านม
Toremifeneใช้ในการรักษามะเร็งเต้านมและ,Raloxifeneใช้ป้องกันการเกิดมะเร็งในกระดูกพรุน
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบคลื่นไส้อาเจียน
มีเลือดประจําเดือนผิดปกติ
5.3 ยาออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมน (anti androgens)ได้แก่ Gosreelin,Leuprolide, Abarelix
การนำไปใช้
ยาGosreelin เป็นยาที่ใช้ฝังในกล้ามเนื้อส่วนยา Leuprolideเป็นยาฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
ยา Abarelixเป(นยาฉีดเข้ากล้ามเนื)อบรรเทาอาการของคนเป(นมะเร้งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบ
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
5.4 ยาฮอร์โมนโปรเจสติน(Progestins) Megestrol acetate,Megace เป็น progesterone สังเคราะห์
การนําไปใช้ในรักษาในคลินิค รักษามะเร็งเยื่อบุบมดลุกมะเร็งเต้านม
ผลข้างเคียง progestinsเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
6.ยามะเร็งมุ่งเป/า (Targeted gene therapy)
6.1 ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal antibodies)ออกฤทธิ์โดยจับกับโมเลกุลกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์
1.Trastuzumab (Herceptin)
ภาวะหัวใจล้มเหลว
2.Rituximab (Rituxan)
ความดันเลือดต่ำ
3.Cetuximab(Erbutux)
ห่ยใจลำบาก
4.Alemtuzumab (Campath)
กดไขกระดูก
6.2 ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (Small molecules) ยับยั)งเอนไซม์ไคเนส
1.Imatinib (Gleevec)
รักษามะเร็งลำไส้
2.Dastinib (Sprycel)
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
3.Nilotinib (Tasigna)
มะเร็งที่ดื้อต่อยา
7.ยากลุ่มอื่น (Other anticancern agents)
7.1 Asparaginase
กลไกการออกฤทธิ์ ยาจะไปเร่งปฏิกิริยา hydrolysis ทําให้เซลล์มะเร็งขาดสารจําเป็นทําให้ไม่สามารถสร้างและสังเคาระห์ตัวเองได้
ผลข้างเตียงอาจจะแพ้รุนแรง
7.2 mitotane
กลไกการออกฤทธิ์ รบกวนการทํางานของไมโตครอยเดียทําให้ฝ่อ
การใช้ใช้รักษามะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก
ยาภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
1.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurininhibitors)
1.1 Cyclosporin A (CsA)
กลไกลยับยั้งเอนไซม์ calcineurin ส่งผลยับยั้งการสนร้างและหลั่ง IL-2จากT cell ส่งผลให้ T lymphocytenactivation ลดลง
ใช้ป้องกันเเละรักษาในผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายหัวใจตับและปอด
ผลข้างเคียง
มีพิษต่อไต พิษต่อระบบประสาท
1.2 Tacrolimus (FK506
กลไกลออกฤทธิ์เหมือน Cyclosporin
การนําไปใช้รักษาผู้ป่วยที่ไดรับการปลุกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียงคล้ายกับ cyclosporin
2.กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic agents)
2.1Azathuoprine (Imuran)
กลไก ยับยั้งการสร้าง DNA RNA
การนําไปใช้รักษาจากการปลุกถ่ายไตหรือตับหรือรักษาโรคภูมิแพ้ตนเอง
2.2 Mycophenolate mofetil (MMF): Cellcep
กลไกลยามีผลยับยั)งการแบ่งเซล์ของ B และ T lymphocyte
การนำไปใช้ ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียงกดไขกระดูกท้องร่วงอาเจียนตับอ่อนอักเสบต่อตา
2.3 Sirolimus or Everolimus
กลไก ยับยั้งการเจริญเเละเเบ่งตัวของ Tcell
การนำไปใช้ ใช้ป้องกันการรักษการปฏิเสธปลูกถ่ายอวัยวะเฉียบพลัน
2.4 Leflunomide
กลไกลยับยั้งการสังเคราะห์ pyrimidine ต้านการเจริญของเซลล์
การนําไปใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียงพิษต่อตับพิษต่อไตกดไจกระดูก
ยาภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
3.กลุ่มอดีโนคอร์ติคอยด์ (Adrenocortocoids)
กลไกการออกฤทธอ์นิวเคลียสไปยับยั)งการสร้าง mRNA ของดปรตีนหลายชนิด
รักษาโรคภูมแพ้ตัวเองในการปลุกถ่ายไขกระดูก
4.กลุ่มสารยับยั้ง (Cytokines inhibitors)
4.1 Anti-IL-2 receptor antibody
ทำให้เกิดการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะเฉียบพลัน
นําไปใช้รักษาโดยการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน
ผลข้างเคียงอาจพบการแพ้ยาได้
4.2 Anti-CD
กลไกลยับยั)งการกระตุ้น T cell ทําให้ลดลงในกระแสเลือด
การนําไปใช้รักษาผุ้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
ผลข้างเคียงไข้หนาวสั่นปวดกล้ามเนื้อติดเชื้อง่า
4.3 Anti-TNF-a antibody
กลไกลกระตุ้นการเคลื่อนตัวของเม็ดเลือดขาว
รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
4.4 Anti-TNF-a antibod
กลไกลยาที่ไปปิดกั้นการจับของ IgE and Fc receptorส่งผลให้การหลั่งสารที่เกิดการแพ้
นําไปใช้รักษาโรคหอบหือที่เกิดจากภูมิแพ้
ผลข้างเคียงเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น ปวดหัว
4.5 Anti-lymphocyte globuli
กดภูมิคุ้มกันทำให้Tcellลดลงอย่างมาก
การนําไปใช้รักษาการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียงมักมีไข้หนาวสั่นเม็ดเลือดขาวต่ำเกล้ดเลือดต่ำมีตุ่มตามผิวหนังและปวดข้อ