Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ - Coggle Diagram
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
การส่งเสริมสุขอนามัย
3.1ความสำคัญของการส่งเสริมสุขอนามัย
การดูแลสุขภาพตนเองเป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติกันมาช้านาน การทำความสะอาดร่างกายตนเองเป็นพฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจในการอยู่รวมกับสังคมได้อย่างมีความสุข
3.2 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
1.อายุความแตกต่างของอายุจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน
เพศความแตกต่างของเพศจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน
ภาวะสุขภาพ เมื่อมีการเจ็บปุวยที่รุนแรงหรือเรื้อรัง หรือเจ็บปวดหรือมีการเจ็บปุวยทางสุขภาพจิต ทำให้ขาดความสนใจ หรือละเลยการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล หรืออาจมีปัญหาสุขภาพ ร่างกายอ่อนเพลีย
4.การศึกษา บุคคลที่มีการศึกษา มักจะศึกษาค้นคว้า และมีความรู้ในการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อม
5.เศรษฐกิจ บุคคลที่มีฐานะดี ย่อมมีโอกาสเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผม ปาก ฟัน และให้เวลากับดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลมากขึ้น
6.อาชีพบุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะมีความรู้
ถิ่นที่อยู่การดำเนินชีวิตภายใต้ถิ่นที่อยู่ที่แตกต่างกัน
8.ภาวะเจ็บปุวยในภาวะการเจ็บปุวย อาจส่งผลในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง
9.สิ่งแวดล้อม ในฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงท ำให้รู้สึกร้อนอบอ้าวบุคคลที่อาศัยอยู่ในที่อากาศร้อนก็จะอาบน้ำ หรือลูบตัวบ่อยครั้ง อากาศร้อนท าให้คนเรามีเหงื่อไคลและกลิ่นตัวที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น
10.ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ และวัฒนธรรมของแต่ละบุคคล
11.ความชอบเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลมาจากครอบครัวโรงเรียน และปลูกฝังจนเป็นอุปนิสัยในการดูแลตนเองด้านความสะอาดร่างกาย
3.3 การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
1.การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด(Early morning care)เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพยาบาลเวรดึก ที่ให้การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด
2.การพยาบาลตอนเช้า (Morning care/A.M care)เป็นหน้าที่ของพยาบาลเวรเช้าที่จะให้การพยาบาลภายหลังผู้ปุวยรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย
3.การพยาบาลตอนบ่ายหรือตอนเย็น (Afternoon care/P.M.care)
4.การพยาบาลตอนก่อนนอน (Evening care/Hour of sleep care/ H.S.care)
5.การพยาบาลเมื่อจำเป็นหรือเมื่อผู้ปุวยต้องการ (As neededcare/P.r.N.care)พยาบาลให้การพยาบาลตามความต้องการของผู้ปุวยตลอด 24ชั่วโมง
3.4 การดูแลความสะอาดร่างกาย
3.4.1 การดูแลความสะอาดของผิวหนัง/การอาบน้ำ(Bathing)
1.การอาบน้ำที่ห้องน้ า(Bathing in bath room/ Shower)
2.การอาบน้ าผู้ป่วยบนเตียงเฉพาะบางส่วน (Partial bath)
3.การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์ (Completebed bath)
จุดประสงค์
1.กำจัดสิ่งสกปรก ที่สะสมบนผิวหนังและส่งเสริมความมั่นใจในตนเอง
2.ให้ผู้ปุวยรู้สึกสบาย สดชื่นและผ่อนคลาย
3.ประเมินการเคลื่อนไหวของร่างกายและส่งเสริมการออกกำลังกายของข้อต่าง ๆ
4.สังเกตความผิดปกติของผิวหนัง
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและป้องกันแผลกดทับ
การนวดหลัง(Back rub or back massage)
1.จัดท่าให้ผู้ปุวยสุขสบาย
2.ไม่นวดบริเวณที่มีการอักเสบ มีแผล กระดูกหัก ผู้ปุวยโรคหัวใจภาวะมีไข้
3.ไม่นวดแรงเกินไปจนผู้ปุวยเจ็บ
นวดเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ใช้เวลานวดประมาณ 5-10 นาที
3.4.2การดูแลความสะอาดปากและฟัน
วัตถุประสงค์
1.ปากและฟันสะอาด มีความชุ่มชื่น
2.กำจัดกลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่น ปูองกันฟันผุ
3.ลดการอักเสบของเหงือก กระพุ้งแก้ม
4.สังเกตฟัน เหงือก กระพุ้งแก้มลิ้น มีแผล หรือการติดเชื้อ
หลักการทำความสะอาดปากและฟัน
1.แปรงฟันทุกซี่ ทุกด้าน นาน 5นาที เพื่อขจัดคราบหินปูน และเศษอาหารในเวลาเช้า หลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
2.ผู้ป่วยที่มีปัญหาในช่องปาก มีแผล ปากแห้ง ไม่สามารถรับประทานอาหารและน้ำทางปากได้ ต้องทำความสะอาดปากและฟันให้ทุก2ชั่วโมง
3.ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว พยาบาลต้องทำความสะอาดปากและฟันให้เป็นพิเศษ สำลีที่ใช้เช็ดทำความสะอาดต้องเปลี่ยนบ่อย
3.4.3การดูแลความสะอาดของเล็บ
จุดประสงค์
1.ให้เล็บสะอาด และสุขสบาย
2.ป้องกันการเกิดเล็บขบ
วิธีการปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
2.ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ปุวย
3.คลี่ผ้าเช็ดตัวรองอ่างน้ า แช่มือ หรือเท้าสักครู่เพื่อให้เล็บและขี้เล็บอ่อนตัว ช่วยให้ตัดเล็บและแคะสิ่งสกปรกที่เล็บออกได้ง่ายขึ้น
4.ใช้ผ้าเช็ดตัวถูสบู่พอกขัดตามซอกเล็บ
5.ยกอ่างน้ำออก เช็ดมือหรือเท้าให้แห้ง
6.ปูกระดาษรอง ตัดเล็บให้ปลายเล็บตรงและข้างไม่โค้ง
7.ใช้ตะไบถูเล็บให้ขอบเล็บเรียบ
8.เปลี่ยนน้ำล้างมือหรือล้างเท้าอีกครั้งหนึ่ง เช็ดให้แห้ง
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
3.1.4การดูแลความสะอาดของตา
จุดประสงค์
1.กำจัดขี้ตา ทำให้ดวงตาสะอาด
2.ความสุขสบายของผู้ป่วย
3.ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ปุวย
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ปุวยทราบ
2.ยกของใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย
3.จัดให้ผู้ป่วยนอนนอนตะแคงด้านที่ต้องการทำความสะอาด
4.ใส่ถุงมือสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
5.ใช้สำลีชุบ 0.9%NSS พอหมาด เช็ดจากหัวตาไปหางตา
6.พลิกตัวผู้ปุวยตะแคงด้านตรงข้าม และทำความสะอาดตาอีกข้างหนึ่งด้วย
7.สังเกตลักษณะและจำนวนของขี้ตา รวมทั้งสภาพของตาว่าบวม แดง หรือไม่
เก็บของใช้ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
3.4.5การดูแลทำความสะอาดของหู
จุดประสงค์
1.กำจัดสิ่งสกปรกภายในช่องหู
2.ทำความสะอาดใบหูและหลังใบหู
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
2.ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงของผู้ป่วยจัดวางให้สะดวกในการใช้
3.จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงาย เอียงศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อจัดท่าที่เหมาะสม
4.สวมถุงมือและmask
ใช้สำลีชุบ0.9%NSSหรือน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดในช่องหู ใบหู และหลังใบหู แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดจนแห้ง
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
3.4.6การดูแลทำความสะอาดของจมูก
จุดประสงค์
1.กำจัดสิ่งขับถ่ายและสิ่งสกปรกภายในจมูก
2.ป้องกันสารคัดหลั่งแห้งยึดขนจมูกกับสายที่คาไว้
3.ป้องกันการเกิดแผลกดทับที่ด้านในรูจมูกจากสายที่คาไว้เครื่องใช้
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ปุวยทราบวัตถุประสงค์
2.ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงของผู้ป่วยจัดวางให้สะดวกในการใช้
3.จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงาย ศีรษะสูง
4.สวมถุงมือและmask
5.ใช้สำลีชุบเบนซินเช็ดคราบพลาสเตอร์ออก และเช็ดส่วนที่เป็นยางเหนียวของพลาสเตอร์บนผิวหนังออกให้หมด
6.ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำหรือ0.9% NSS บีบพอหมาด เช็ดในรูจมูกเบาโดยรอบ
7.ถ้ามีสายที่คาในรูจมูก ใช้ผ้าก๊อซเช็ดสายที่คาในจมูกส่วนที่อยู่นอกจมูก รวมทั้งบริเวณจมูกให้สะอาดและแห้ง
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
3.4.7การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
วัตถุประสงค์
1.ขจัดความสกปรกและสารที่ใส่บนผม และหนังศีรษะเพื่อการตรวจรักษา
2.ความสุขสบายและสดชื่นของผู้ปุวย
3.ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ป่วยและรู้สึกมีความมั่นใจ
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
2.วางของใช้บนรถเข็นสระผมเคลื่อนที่
3.จัดผู้ป่วยนอนหงายทแยงมุมกับเตียง
4.รองผ้าเช็ดตัววางบนผ้าม้วนกลม
5.เลื่อนรถสระผมฯ เทียบกับขอบเตียงวางศีรษะผู้ป่วยบนผ้าผืนที่ม้วนรองใต้คอ จัดชายผ้ายางให้ลงในอ่างล้างผม
6.ใช้หวีหรือแปรงสางผมให้ทั่ว
ใช้สำลีชุบน้ำบีบให้หมาดใส่หูข้างละก้อน ป้องกันน้ำเข้าหู
8.ใช้แก้วน้ำตักน้ำราดผมพอเปียก เทแชมพูใส่มือถูกัน ชโลมแชมพูให้ทั่วศีรษะ
9.ใช้แก้วน้ำตักน้ำราดผมให้ทั่ว
รวบปลายผมบิดให้หมาด เอาสำลีออกจากหู และคลี่ผ้าปิดตาทำเป็นสามเหลี่ยมโดยเอาสายผ้าแต่ละข้างเช็ดใบหู
ปลดผ้ายางออกจากคอผู้ป่วย
ใช้เครื่องเป่าผม เป่าผมให้แห้ง
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
3.4.8การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายและหญิง
วิธีปฏิบัติ
1.แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
ยกเครื่องใช้ไปที่เตีย
ล้างมือให้สะอาด สวมถุงมือและmask และใช้ผ้าปิดตาผู้ป่วย
4.จัดผู้ป่วยให้นอนหงาย
5.ให้ผู้ป่วยยกก้น สอดหม้อนอนด้านแบบเข้าใต้ตะโพก
วางภาชนะใส่ขยะหรือกระโถนไว้ใกล้หม้อนอน
เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง มาที่เตียงให้ครบถ้วน
8.ใช้ forceps ใน setหยิบสำลีออกจากชามกลมวางบนผ้าห่อ 4ก้อนวางforcepsบนผ้าห่อ
9.เทน้ำสบู่ หรือสบู่เหลวบนสำลีในชามกลมพอประมาณ
ใช้มือข้างซ้ายจับองคชาต(penis )แล้วค่อยรูดหนังหุ้มปลายก้อนที่ 1 เช็ดบริเวณglans penis รูเปิดท่อปัสสาะก้อนที่ 2 เช็ดรอบ องคชาติ ก้อนที่ 3 เช็ดลูกอัณทะ
11.เท0.9% NSS หรือน้ำอุ่น บนสำลีในชามพอประมาณเช็ดก้อนที่ 4, 5 และ 6 เช็ดเหมือน ก้อนที่ 1-3ด้วย ส่วนก้อนที่ 7 ใช้เช็ดสะอาดให้เรียบร้อย
เลื่อนbed panออก คลุมด้วยbed pad และเลื่อนผ้ายางผืนเล็กออก
เอาผ้าปิดตาออก จัดใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยและจัดให้นอนในท่าที่สุขสบาย
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
จุดประสงค์
1.ก าจัดสิ่งขับถ่าย สิ่งสกปรก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
2.ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยที่ได้รับ การสวนปัสสาวะคาไว้
เสริมสร้างความสุขบายให้กับผู้ปุวย
3.4.9กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การประเมินผู้ป่วย(Health assessment)
-ประเมินความชอบ ความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้ป่วย
-ประเมินผิวหนัง ช่องปาก เส้นผมและหนังศรีษะ ตา หู จมูก
การประเมินผู้ป่วย(Health assessment)
-ประเมินปัญหาและความเสี่ยงของการรักษาและอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดูแล
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
-ไม่สนใจดูแลความสะอาดร่างกายด้วยตนเองเนื่องจากมีความเครียดเกี่ยวกับ......
-มีความทนในการทำกิจกรรมลดลงเนื่องจากเหนื่อยง่ายจากการเป็นโรค.
-การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่องงเนื่องจากเป็นอัมพาต
-พร่องความสามารถในการดูแลความสะอาดร่างกายเนื่องจาก....
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
-กำหนดวัตถุประสงค์ และเกณฑ์การประเมิน
-เลือกกิจกรรมการดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงตามข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
3.1 ความหมายของการพักผ่อนและการนอนหลับ
การพักผ่อนของผู้ปุวยในโรงพยาบาล
Absolute bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง ไม่ให้ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใด
2.Bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
การนอนหลับ
เป็นกระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะการท างานของร่างกายด้านอื่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ของร่างกายไปในทางผ่อนคลาย
3.2 ความสำคัญของการพักผ่อนและการนอนหลับ
ส่งเสริมการเจริญเติบโตซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอโดยมีการสร้างและสะสมพลังงานในขณะหลับ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ช่วยส่งเสริมการหายของแผลรวมถึงมีการช่วยสะสมพลังงานไว้ใช้ในวันต่อไป
สงวนพลังงานพลังงานที่ใช้ของร่างกายและสมองจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงตื่น
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
3.3ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
3.2.1ผลกระทบต่อร่างกาย
ทำให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลงต่าง
อาการเมื่อยล้าคลื่นไส้
อาเจียน
ท้องผูก
3.2.2ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ได้ง่าย
หงุดหงิด
เซื่องซึม
3.2.3ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอทำให้การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลงสมาธิไม่ดีและแก้ไขปัญหาได้ช้า
3.2.4ผลกระทบทางสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง
ความมั่นใจในการทำงานลดลง
มีการใช้ระบบบริการทางด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
3.4วงจรการนอนหลับ
1)ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 2 (หลับตื้น)การหลับในช่วงต้น เป็นสภาพที่ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอก เป็นระยะแรกที่มีการหลับอย่างแท้จริง
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)ทั้งคลื่นสมองและชีพจรจะเต้นช้าลง ความมีสติรู้ตัวจะหายไป การเคลื่อนไหวของตาจะหยุดลง
ระยะที่ 1 (เริ่มมีความง่วง)เป็นช่วงเริ่มหลับที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่ การนอน
ระยะที่ 4 (หลับลึก)เป็นช่วงหลับสนิทของการนอน
2) ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
3.5ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
3.5.1ปัจจัยภายใน
1) ปัจจัยส่วนบุคคล
2)เพศ
1)อายุ
2) ความไม่สุขสบาย
1)ความเจ็บปวด
2)การใส่สายยางและท่อระบายต่าง
3)ท่านอนที่ไม่เหมาะสม
4)อาการคลื่นไส้ อาเจียน
5) ภาวะไข้หลังผ่าตัด
3)ความวิตกกังวล
3.5.2ปัจจัยภายนอก
1)เสียง
2)อุณหภูมิ
3)แสง
4) ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล
5)กิจกรรมการรักษาพยาบาล
6)อาหาร
7) ยา
3.6การประเมินคุณภาพการนอนหลับและ การนอนหลับที่ผิดปกติ
3.6.1Insomnia
1)การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว (Transient insomnia)
2) การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น (Short term insomnia)
3) การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (Chronic insomnia)
3.6.2 Hypersomnia
3.6.3 Parasomnia
1) ความผิดปกติของการตื่น (around disorder)
2) ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น หรือจากตื่นมาหลับ
3) กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
4) กลุ่มอื่น ๆ
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด NREM ได้แก่ เมื่อยล้า คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูกเวียนศีรษะ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด REM ได้แก่ ความคิดบกพร่อง การรับรู้บกพร่อง ประสาทหลอน
ผลในภาพรวมจะท าให้การท างานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจากร่างกายอ่อนล้า และขาดสมาธิ
3.7การส่งเสริมการพักผ่อนการนอนหลับ
3.7.1 การจัดสิ่งแวดล้อม
ความสะอาด
ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
อุณหภูมิ
เสียง
กลิ่น
5.1 กลิ่นหอม
5.2 กลิ่นเหม็น
6.แสงสว่าง
ความเป็นส่วนตัว
ความอบอุ่น
3.7.2 การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วย
Dorsal position (supine position) เป็นท่านอนหงายราบ ขาชิดติดกัน ใช้ในการตรวจร่างกายทั่วไป
Fowler’s position เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90 องศา เป็นท่านอนที่สุขสบายและเพื่อการรักษา
Prone position เป็นท่านอนคว่ำ เป็นท่านอนที่สุขสบาย ส าหรับผู้ป่วย ที่ไม่รู้สึกตัว แต่มีการหายใจปกติ
4.Lateral position เป็นท่านอนตะแคง
5.Sitting position เป็นท่านั่งที่สุขสบายสำหรับผู้ปุวยได้เปลี่ยนอิริยาบถ
3.8การทำเตียง
1) การทำเตียงว่าง (Close bed)
2) การทำเตียงผู้ปุวยลุกจากเตียงได้ (Open/unoccupied bed)
3) การทำเตียงผู้ปุวยลุกจากเตียงไม่ได้ (Occupied bed)
4) การทำเตียงรับผู้ปุวยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ(Surgical/ether/anesthetic bed)
3.9กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
1.การประเมินภาวะสุขภาพ(Health assessment)
S:“นอนไม่หลับมา 3 วัน บางคืนหลับได้สักครู่ก็สะดุ้งตัวตื่น ”
O: จากการตรวจร่างกายพบ ท่าทางอิดโรย ไม่สดชื่น ขอบตาทั้งสองข้างเขียว
2.การวินิจฉัยทางการพยาบาล(Nursing diagnosis)
3.การวางแผนการพยาบาล(Planning)
การปฏิบัติการพยาบาล(Implementation)
5.การประเมินผลการพยาบาล(Evaluation)