Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยาต้านโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
มะเร็ง(cancer)
คือ เกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรม ส่งผลให้การเจริญเติบโตของเซลล์มากกว่าปกติเกิดเป็นเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ (Malignant tumor) หารเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นกับอวันวะใดก็จะเรียกชื่อมะเร็งตามอวัยวะนั้น ประกอบด้วย 5 ระยะ ดังนี้
S phase ระยะที่สร้างและสังเคราะห์ DNA เพื่อใช้ในการแบ่งตัว
4.G2 phase ระยะแบ่งDNA และแบ่งเซลล์เป็น 2 เซลล์
2.G1 phase ระยะสร้างโปรตีนและเอนไซม์เพื่อใช้ในการสร้าง DNA และ RNA
5.M phase ระยะที่มีการแบ่งตัวแบบ mitosis มีการแบ่งแยกโครโมโวมออกป็น 2 เซลล์
1.G0 phase ระยะพักของเซลล์
การออกฤทธิ์ของยาในวัฏจักรเซลล์มะเร็ง ได้เป็น 2 ประเภท
1.Cell cycle-specific drugs (CCS)
เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ที่อยู่ในระยะใดระยะหนึ่งของวงจรเซลล์เท่านั้นยานี้ไดผลดีในเซลล์มะเร็งที่มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วหรือแบ่งตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น มะเร็งเม็ดเลือด
2.Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS)
ยาที่ออกฤทธิ์ได้ทุกระยะในวงจรของเซลล์ยากลุ่มนี้ใช้ได้ดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของก้อนมะเร็งทั้งต่ำและสูง
1.ยากลุ่ม Alkylating agents
ที่ทำให้เกิด (Alkyl group) โดยไปจับกับสายของ DNA ส่งผลไม่ให้แยก DNA ออกจากกันได้ ทำให้เซลล์แบ่งตัวไม่ได้ หรือเกิดการแตกหักของสาย DNAหรือเกิดการถอดรหัสของDNAผิดพลาด ตัวยากลุ่มนี้ได้แก่
1.Cyclophoshamide
**
กลไกลการออกฤทธิ์
เมื่อยาเช้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย CYP450 ให้กลายเป็น phosphoramide mustard แทรกเข้าไปในกระบวนการสร้าง DNA ทำให้เซลล์มะเร็งตาย
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
มีทั้งฉีดและรัลประทาน ใช้รักษามะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma มะเร็งเม็ดเลือดขาวทุกชนิด
2.Ifosfamide (Holoxan; IFOS)
กลไกลการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์เหมือน Cyclophoshamid
การนำไปใช้ทางคลินิค
มีทั้งฉีดและรับทาน ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งอัณฑะ และมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
5.Dacarbazine (DTIC)
กลไกลการออกฤทธิ์
เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย CYP450 ให้กลายเป็นสารที่มีพิษต่อ DNA และ RNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำใช้ร่วมกับยา Adriamycin, Bleomycin, Vinblastine Dacarbazine ในการีักษามะเร็งชนิด Hodgkin's lymphoma และมะเร็งผิวหนัง
6.Cisplatin, carboplatin
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA ทำให้เกิดการยับยั้ง กระบวนการ DNA replication และ DNA transcription
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำ หรือทางช่องท้อง ใช้รักษามะเร็งอัณฑะ มะเร็งรังไข มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอดและมะเร็งทางเดินอาหาร
7.Busulfan (Myleran)
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross linking ส่งผลทำให้เซลล์มะเร็งสร้างหรือแบ่งตัวได้และทำให้เซลล์ตาย
การนำไปใช้ทางคลินิค
รักษามะเร้งเลือดขาวบางชนิดและใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น เช่น cyclophamide ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
8.Mechlorethamine (Mustargen, Mustine)
กลไกลการออกฤทธิ์
ข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA ทำให้เกิดการยับยั้ง กระบวนการ DNA transcription แตก
การนำไปใช้ทางคลินิค
เดิมใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin's lymphoma แต่ปัจจุบันใช้ยานี้น้อยลง
3.Chlorambucil
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross linking ส่งผลทำให้เซลล์มะเร็งสร้างหรือแบ่งตัวได้และทำให้เซลล์ตาย
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยามาตรฐานในการการรักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด follicular
4.Carmustine
กลไกลการออกฤทธิ์
หมู่ Alkyl ไปจับกับสาย DNA ส่งผลให้ DNA เซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้
การนำไปใช้ทางคลินิค
รักษามะเร็งสมอง
พลข้างเคียงจากยากลุ่ม Alkylating agents
-ผลข้างเคียงต่อระบบอาหาร มีแผลในปาก และมีอาการเบื่ออาหาร
-อาการพิษต่อระบบประสาท
-ทำให้เกิดการกดการทำงานของไขกระดูก
-ความเป็นพิษต่อไต
-ผลต่อผิวหนัง
2.ยากลุ่ม Antimetabolites/Antineoplastic agents
มีฤทธิ์ต้านมะเร็งยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ DNA
1.Antifolate/Folate antagonist: Methotrexate ,Pemetrexed
Methotrexate
กลไกลการออกฤทธิ์
เป็นยาต้านโฟเลต ที่เปลี่ยน dihydrofolate ไปเป็น tetrahydrofolate ที่เป็น cofactor สำคัญที่นำไปใช้สร้างสารตั้งต้นของ DNA, RNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
มีทั้งรับประทานและฉีดเข้าหลอดเลือดดำเข้ากล้ามเนื้อ และทางไขสันหลัง ใช้ในการรักษามะเร็งที่ศีรษะและคอ มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin's lymphoma มะเร็งเต้านม
Pemetrexed
กลไกลการออกฤทธิ์
เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูก metabolite ให้กลายเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์และสร้างสารตั้งต้นของ DNA,RNA และโปรตีน
การนำไปใช้ทางคลินิค
ใช้รักษามะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน
ผลข้างเคียงของยากลุ่ม
Antifolate/Folate antagonist
-ผิวหนังจะถูกแสงแดดเผาได้ง่าย
-ผมร่วง
-อาจทำให้แท้งได้เมื่อตั้งครรภ์
-จำนวนเม็ดเลือดขาวลกลง
-ระคายเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร ช่องปากอักเสบ
2.Purine analogs: 6-mercaptopurine , 6-thioguanine, Fludarabine
ยา 6-thioguanine (6-TG)
กลไกลการออกฤทธิ์
คล้ายกับ 6-MP
การนำไปใช้ทางคลินิค
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL หรือ AML โดยใช้ร่วมกับยา Daunorubicin และ Cytarabine
ยา Fludarabine
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำ เนื่องจากเป็นพิษต่อทางเดินอาหารมาก หากให้โดยการรับประทาน ใช้รักษา CLL และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่รุนแรง
ยา 6-mercaptopurine (6-MP)
กลไกลการออกฤทธิ์
เป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายเบสเพียวรีน (purine analog)เป็นยาชนิดแรกที่ นำมาใช้รักษามะเร็ง เมื่อเข้าสู่กระแสเลือดจะเปลี่ยนเป็นสารไรโบนิวคลีโอไทด์ (ribonucleotide)
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาเม็ดรับประทาน ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL (acute lympholytic leukemia) และ AML (acute myelogenous leukemia) หรือ acute nonlymphocytic leukemia ; ANLL
ผลข้างเคียงของยากลุ่มยา
Purine analogs
-มีแผลในปาก
-อุจจาระสีดำ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด
-กดไขกระดูก
3.Pyrimidine analogs: 5-fluorouracil (5-ฟลูโอโรยูราซิล), Capectibine, cytarabine, gemcitabine
2.Capectibine
กลไกลการออกฤทธิ์
คล้ายกับ 5-FU
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาเม็ดรับประทาน ใช้เพื่อบรรเทาอาการผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว ปัจจุบันนิยมใช้ร่วมกับยา Oxaliplatin [เพื่อรักษาามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย
3.Cytarabine
กลไกลการออกฤทธิ์
ยาจะไปเติมหมู่ฟอตเฟต ทำให้เกิดการยับยั้งการเชื่อมต่อของสาย DNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำ นิยมใช้การหยดแบบช้าๆ เป็นเวลา 5-7 วัน ใช้รักษามะเร้งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
5-fluorouracil (5-FU)
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ thymidylate synthase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในการสร้าง DNA และ RNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
ฉีดทางหลอดเลือดดำ รักษามะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อนและมะเร็งลำไส้ใหญ่
4.Gemcitabine
กลไกลการออกฤทธิ์
เมื่อยาเข้าสู่เซลล์ ยาจะถูกกระตุ้นให้เติมหมู่ฟอตเฟต จะเข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ใช้รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจายไปแล้ว มะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งที่ศีรษะและคอ
3.ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
เป็นสารที่สกัดมาจากเชื้อราดินเรียกว่า
Streptomyces
ยาที่มีผลต่อเซลล์ในทุกระยะ
2.Doxorubicin (DOX):
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้ง topoisomerase 2 แทรกไปอยู่ระหว่าง DNA base pairs ในสาย DNA ปอดกั้นการสังเคราะห์ DNA and RNA และสร้างอนุมูลอิสระซึ่งทำให้สาย DNA แตก
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำ ใช้รักษาทะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของพลาสมาเซลล์ มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งไทรอยด์ และมะเร็งปอด
3.Bleomycin
กลไกลการออกฤทธิ์
ทำให้เกิดการตกสลายของ DNA และสอดแทรกในสาย DNA ยามีผลต่อเซลล์ระยะ G2
การนำไปใช้ทางคลินิค
ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ กล้ามเนื้อ ชั้นใต้ผิวหนัง เช่น ช่องท้อง ช่องอก ช่องอุ้งเชิงกราน รักษามะเร็งอัณฑะ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
1.Dactinomycin or actinomycin D
กลไกลการออกฤทธิ์
สอดแทรกเข้าไปในสาย DNA ยับยั้ง RNA polymerase ทำให้สาย single-strand ของ DNA แตก
การนำไปใช้ทางคลินิค
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำ ใช้ร่วมกับยา Vincritine ในการรักษา Wilms' tumor และมะเร้งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก
4.Mitomycin
กลไกลการออกฤทธิ์
ถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylating agents ที่มีฤทธิ์แรงมาก ทำให้เกิดสะพานในสาย DNA มีผยับยั้งการสังเคราะห์ DNA
การนำไปใช้ทางคลินิค
ใช้รักษามะเร็งปากมกลูก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยอาจใช้ร่วมกับ 5-FU, cisplatin หรือ doxorubicin แต่ปัจจุบันนิยมใช้น้อยลง
ผลข้างเคียงยากลุ่ม Anticancer antibiotics
-Mitomycin ก่อให้เกิดพิษต่อไต และเกิดพังผืดในปอด
-ยากดการทำงานของไขกระดูก
-Bleomycin มีพิษต่อปอด
-รบกวนทางเดินอาหาร
-Doxorubicin (DOX) มีพิษต่อหัวใจ
-ผิวหนังไวต่อการฉายรังสี
-หากยารั่วออกนอกหลอดเลือดจะทำให้ผิวหนังบริเวณรอบๆตาย
ยาภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
ช่วยภูมิคุ้มกันที่มากเกินไป
1.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurin inhibitors)
1.1 Cyclosporin A (CsA)
การนำไปใช้ ช่วยในผู้ป่วยที่ปลูกถ่าย หัวใจ ตับ และปอด
ผลข้างเคียง
-พิษต่อระบบประสาท
-ความดันโลหิตสูง
-มีพิษต่อไต
-กดไขกระดูกเล็กน้อย
กลไกล ยับยั้งเอนไซม์ calcineurin ส่งผลยับยั้งการสนร้างและหลั่ง IL-2 จาก T cell ส่งผลให้ T lymphocytenactivation ลดลง
1.2 Tacrolimus (FK506)
กลไกล ออกฤทธิ์เหมือน Cyclosporin
การนำไปใช้ รักษาผู้ป่วยที่ไดรับการปลุกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียง คล้ายกับ cyclosporin อาจปวดศีรษะ สั่น นอนไม่หลับ และชัก
2.กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic agents)
2.2 Mycophenolate mofetil (MMF): Cellcept
การนำไปใช้ ป้องกันรักษาการปฏิเสธปลูกถ่ายอวัยวะเฉียบพล้น
ผลข้างเคียง กดไขกระดูก ท้องร่วง อาเจียน ตับอ่อนอักเสบ พิาต่อตา
กลไกล ยามีผลยับยั้งการแบ่งเซล์ของ B และ T lymphocyte
2.3 Sirolimus or Everolimus
การทำงาน ใช้ป้องกันการเกิดป้องกันรักษาการปฏิเสธปลูกถ่ายอวัยวะเฉียบพล้น
ผลข้างเคียง กดไจกระดูก ซีด ไขมันในเลือดสูงรุนแรง เป็น hypokalemia
กลไกล ยับยั้งการเจริญเติบโตหรือแบ่งตัวของ T cell และยับยั้งการตอบสนองของT cell
2.1Azathuoprine (Imuran)
การนำไปใช้ รักษา จากการปลุกถ่ายไตหรือตับ หรือรักษาโรคภูมิแพ้ตนเอง
ผลข้างเคียง กดการทำงานของำขกระดูก คลื่นไส้อาเจียน ตัวเหลือง
กลไกล มีฤทธิืยั้งยั้งเอนไซม์ต่างๆในการสร้างพิวรีน
2.4 Leflunomide
การนำไปใช้ รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียง พิษต่อตับ พิษต่อไต กดไจกระดูก
กลไกล ยับยั้งการสังเคราะห์ pyrimidine ต้านการเจริญของเซลล์
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
4.ยากลุ่มสารสกัดจาดพืชธรรมชาติ (Naturai and semi-synthetic products)
4.1. Vinca alkaloids
เป็นสารสกัดจากพืช ได้แก่ vincristin, vinblastine, vinorelbine
กลไกลการออกฤทธิ์
ยาจะไปจับกับโปรตีน tubulin ทำให้ยับยั้งการประกอบ microtubuline ยับยั้งการประกอบตัวเองของ mitotic spindle เซลล์หยุดการเติบโตในระยะ metaphase (M phase; ระยะที่มีการแบ่งตัวแบบ mitosis)
1 Vincristin (VCR): Oncovin
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด acute lymphocytic leukemia, มะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้ง2ชนิด มะเร็งหลายชนิดในเด็ก มะเร็งในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
2 vinblastine (VLB) Velban
เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้ง 2 ชนิด มะเร็งลูกอัณฑะและมะเร็งเต้านม
3 vinorelbine
ใช้รักษา non-small cell lung cancer และมะเร็งเต้านม
ผลข้างเคียงจากยาVinca alkaloids
-vinblastine และ vinorelbine กดไขกระดูกมากว่า Vincristin
-คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเดิน ปวดท้อง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ซีด ความดันต่ำ
-Vincristin มีพิษต่อระบบประสาทกล้ามเนื้อ เช่น ชาตามปลายมือปลายเท้า
-อาจพบการอักเสบของหลอดเลือดดำบริเวณที่ให้ยา
4.2.ยากลุ่ม taxanes
ได้แก่ Paclitaxel, Taxol, Docetaxel Taxotere, Cabaxitaxel
กลไกลการออกฤทธิ์ของกลุ่มยา taxanes
ยาจะไปจับกับ B-tubulin ทำให้เพิ่มการก่อตัวเป็น microtubules แต่ยับยั้งการสลายของสาย microtubules ทำให้การแบ่งเซลล์ไมโตซิสไม่สมบูรณ์
ผลข้างเคียงของยากลุ่ม taxanes
-Paclitaxel ทำให้เกิดภาวะคั่งน้ำในร่างกาย รุนแรงถึงเกิดปอดบวมน้ำ
-ผลต่อทางเดินอาหาร
-กดไขกระดุก
-อวัยวะส่วนปลายบวม
-ปลายประสาทผิดปกติ
5.ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
การรักษาจึงต้องยับนั้งและป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโต
5.2.ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (antiestrogens)
ได้แก้ Tamoxifen, Toremifene, Raloxifene
การนำไปใช้รักษาในคลินิค
Toremifeneใช้ในการรักษามะเร็งเต้านมและ, Raloxifeneใช้ป้องกันการเกิดมะเร็งในกระดูกพรุน
Tamoxifen ตัวเลือกแรกในการนำมาใช้รักษามะเร็งเต้านม
ผลข้างเคียง
-ร้อนวูบวาบ คลื่นไส้อาเจียน
-มีเลือดประจำเดือนผิดปกติ
-เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด
5.3 ยาออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมน (anti androgens)
ได้แก่ Gosreelin, Leuprolide, Abarelix
การนำไปใช้รักษาในคลินิค
-ยาGosreelin เป็นยาที่ใช้ฝังในกล้ามเนื้อ ส่วนยา Leuprolide เป็นยาฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
-ยา Abarelix เป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อบรรเทาอาการของคนเป็นมะเร้งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
ผลข้างเคียง
-เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
-ระยะแรกอาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญมากขึ้นจากผลกระตุ้นการหลั่ง FSH and LH
-ร้อนวูบวาบ
5.1.ยากลุ่มสเตียรอยด์(Glucocorticoids)
ได้แก่ Predniolone, Prednisone, Hydrocortrisone
การนำไปใช้รักษาทางคลินิค
ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือทั้งสองชนิด และมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL
ผลข้างเคียง
มีโอกาสติดเชื้อง่าย กลูโคสในเลือดสูง โรคกระดูกพรุน โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
5.4 ยาฮอร์โมนโปรเจสติน(Progestins)
ได้แก่ Megestrol acetate, Megace เป็น progesterone สังเคราะห์
การนำไปใช้ในรักษาในคลินิค
รักษามะเร็งเยื่อบุบมดลุก มะเร็งเต้านม และมะเร็งของไต
ผลข้างเคียง
progestins เพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
6.ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
ยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งโดยส่งผลต่อเซลล์ของร่างกายเล็กน้อย
6.1 ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal antibodies) ออกฤทธิ์โดยจับกับโมเลกุลกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์
2.Rituximab (Rituxan)
กดไขกระดูก
3.Cetuximab(Erbutux)
แรกๆอาจทำให้ความดันต่ำ และหายใจลำบากได้
1.Trastuzumab (Herceptin)
อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
4.Alemtuzumab (Campath)
กดไขกระดุก เกร็งบวม
6.2 ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (Small molecules) ยับยั้งเอนไซม์ไคเนส
2.Dastinib (Sprycel)
ใช้รักษามัเร็งที่ดื้อยาและมะเร็งเม้ดเลือดขาว
3.Nilotinib (Tasigna)
ใช้รักษามะเร็งที่ดื้อยา
1.Imatinib (Gleevec)
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งในลำไส้
ผลข้างเคียง
-กดไขกระดุก
-เกล็ดเลือดต่ำ
-เป็นพิษต่อตับ
-มีของเหลวคั่งในร่างกาย
7.ยากลุ่มอื่น (Other anticancern agents)
7.1 Asparaginase
กลไกล ยาจะไปเร่งปฏิกิริยา hydrolysis ทำให้เซลล์ มะเร็งขาดสารจำเป็นทำให้ไม่สามารถสร้างและสังเคาระห์ตัวเองได้
ผลข้างเตียง อาจจะแพ้รุนแรง ตับอ่อนอักเสบ
7.2 mitotane
กลไกล รบกวนการทำงานของไมโตครอยเดียทำให้ฝ่อ
การใช้ ใช้รักษามะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก
ผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
ยาภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
3.กลุ่มอดีโนคอร์ติคอยด์ (Adrenocortocoids)
รักษา โรคภูมแพ้ตัวเอง ในการปลุกถ่ายไขกระดูก
ผลข้างเคียง น้ำหนักตัวเพิ่ม หน้ากรมคล้ายพระจันทร์ อารมณืแปรปรวนง่่าย
กลไกล นิวเคลียสไปยับยั้งการสร้าง mRNA ของดปรตีนหลายชนิด
4.กลุ่มสารยับยั้ง (Cytokines inhibitors)
4.2 Anti-CD2
การนำไปใช้ รักษาผุ้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
ผลข้างเคียง ไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ ติดเชื้อง่าย
กลไกล ยับยั้งการกระตุ้น T cell ทำให้ลดลงในกระแสเลือด
4.4 Anti-TNF-a antibody
นำไปใช้ รักษาโรคหอบหือที่เกิดจากภูมิแพ้
ผลข้างเคียง เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น ปวดหัว
กลไกล ยาที่ปิดกั้นการจับของ IgE and Fc receptor ส่งผลให้การหลั่งสารที่เกิดการแพ้
4.1 Anti-IL-2 receptor antibody
นำไปใช้ รักษาโดยการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน
ผลข้างเคียง อาจพบการแพ้ยาได้
กลไกล กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่ากายทำให้เกิดการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะแบบเฉียบพลัน
4.3 Anti-TNF-a antibody
การนำไปใช้ รักษาโรคข้ออักเสบรูม่ตอยดื
ผลข้างเคียง กดไขกระดุก ผื่นแดงที่ฉีด ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
กลไกล กระตุ้นการเคลื่อนตัวของเม็ดเลือดขาว
4.5 Anti-lymphocyte globulin
การนำไปใช้ รักษาการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียง มักมีไข้ หนาวสั่น เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล้ดเลือดต่ำ มีตุ่มตามผิวหนังและปวดข้อ
กลไกล เกิดการทำลาย T cell กดภูมิคุ้มกัน