Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 3 ยาต้านโรคมะเร็ง image - Coggle Diagram

- - - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ถูกเปลี่ยนแปลงโดย CYP450 ให้กลายเป็นphosphoramide mustard แทรกเข้าไปในขบวนการสร้าง DNA แบบ cross linking และมีการเติมหมู่ alkyl ที่เบสguanine บนสาย DNA และกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        มะเร็งรังไข่มะเร็งเต้านมมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia)
        
        กดภูมิคุ้มกัน
        
        ผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายอวัยวะผู้ป่วย autoimmune diseases เช่น rheumatoid arthritis และ nephritic syndrome
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        กลไกเหมือน Cyclophosphamide
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมะเร็งเร็งอัณฑะ (testicular carcinoma) และมะเร็งของเนื้อเยื่ออ่อน(soft Sue sarcoma)
    - - Clinical use
        
        เป็นยามาตรฐานในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง(Chronic lymphocytic leukaemia; CLL) และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด follicular
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        แทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross inking
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย CYP450 ให้กลายเป็นสารที่มีพิษต่อการสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์มะเร็ง
      - Clinical use
        
        มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin s tymphoma และมะเร็งผิวหนัง (melanoma)
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ทำให้เกิดหมู่ Alkyl ไปจับกับสายของ DNA ส่งผลให้ DNA ทำให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้เกิด DNA strand break และทำให้เซลล์ตาย
      - Clinical use
        
        รักษามะเร็งสมอง
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสายDNA ทำให้เกิดการยับยั้ง กระบวนการ DNA replication และ DNA transcription
      - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        รักษามะเร็งอัณฑะ,รังไข่,กระเพาะปัสสาวะ,ปอด ทางเดินอาหาร
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        คล้ายกับ Cisplatin
      - Clinical use
        
        รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด (chronic myelgenous leukemia CML) และใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น เช่น cyclophosphamide ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        คล้ายกับ Cisplatin
      - Clinical use
        
        เดิมใช้รักษารักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin's lymphoma
        
        ปัจจุบันใช้ยานี้น้อยลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนไปใช้ Cyclophosphamide และยาอื่น ๆ แทน
  - - - พบในยา fosfamide สูงกว่ายาชนิดอื่นจะทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวนเสียการทรงตัวเดินเซหรืออาจทำให้เกิดอาการชักหลังการได้รับยาได้
    - - cyclophospharmide และifosfamide ทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ
    - - เพิ่มความเสี่ยงการเกิดพิษต่อหัวใจได้ดังนั้นจึงควรระวังการใช้ยาหรือเลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ
    - - ผมร่วงและอาการผมร่วงจะหายไปเมื่อหยุดยา
    - - ผลต่อ mucosal cells ของทางเดินอาหารทำให้คลื่นไส้อาเจียนมีแผลในปากและมีอาการเบื่ออาหารซึ่งพบได้ในผู้ป่วยเกือบทุกราย
    - - เล็บมีรอยดำพบในยาcyclophosphamide
    - - leucopenia,anemia,thrombocytopenia
    - - ผิวหนังมีสีคล้ำโดยเฉพาะบริเวณขาหนีบเอวและรักแร้
- - - - 2.1.1 Methotrexate (MTX)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        dihydrofolate -->ยับยั้งDHFR --> tetrahydro folate -->สร้างสารตั้งต้นของ DNA, RNA และโปรตีน-->cancer cell ไม่สามารถแบ่งตัวได้
        
        Clinical use
        
        ยาฉีดเข้าทางน้ำไขสันหลังใช้รักษาโรคมะเร็งหลายชนิดใช้รักษามะเร็งต่อไปนี้เช่นมะเร็งรก ,มะเร็งที่ศีรษะและคอ, มะเร็งปอด , มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด acute (mphocytic leukemia, ALL มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin lymphoma มะเร็งกระดูก , และมะเร็งเต้านม
        
        ยามีทั้งยาชนิดเม็ดรับประทานยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำยาฉีดทางกล้ามเนื้อ
      - 2.1.2 Pemetrexed
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาถูก metabolite -->เป็นสารที่มีฤทธิ์ไปยับยั้งการสังเคราะห์และสร้างสารสารตั้งต้นของ DNA, RNA และโปรตีน-->cancer cell ไม่สามารถแบ่งตัวได้
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งปอด, มะเร็งตับอ่อน
    - - 2.2.1 ยา 6-mercaptopurine (6-MP)
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL และ AML (acute myelogenous leukemia) หรือ acute nonlymphocytice leukemia: ANLL)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        purine ที่ถูกนำมาใช้ในการสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก ที่จำเป็นในการสร้าง DNA จึงทำให้ไม่สามารถสร้างและสังเคราะห์ DNAและ RNA
      - 2.2.2 6-thioguanine (6-TG)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        คล้ายกับ 6-MP
        
        Clinical use
        
        รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL และ AML (acute myelogenous leukemia)
      - 2.2.3 ยา Fludarabine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        เข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษา CLL และมะเร็งต่อน้ำเหลืองที่ไม่รุนแรง
    - - 2.3.1 5-fluorouracil (5-FU)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ thymidylate Synthase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในการสังเคราะห์ DNA และ RNA
        
        Clinical use
        
        IV : รักษามะเร็งเต้านมมะเร็งทางเดินอาหารเช่นมะเร็งกระเพาะอาหารมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งลำไส้ใหญ่
        
        ชนิดยาทารักษา:มะเร็งผิวหนังชนิด basat cell carcinoma (เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด)
      - 2.3.2 Capectibine
        
        การออกฤทธิ์
        
        คล้ายกับ 5-FU
        
        Clinical use
        
        ใช้ร่วมกับยา Oxaltiplatin ในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย
        
        รักษาเพื่อบรรเทาอาการ (palliative treatment) ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
      - 2.3.3 Cytarabine
        
        Clinical use
        
        IV:ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจะไปเติมหมู่ฟอตเฟตทำให้เกิดการยับยั้งการเชื่อมต่อสายของสาย DNA
      - 2.3.4 Gemcitabine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        เมื่อยาเข้าสู่เซลล์ยาจะถูกกระตุ้นให้มีการเติมหมู่ฟอตเฟตจะไปเข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
        
        Clinical use
        
        IV:ใช้รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจายไปแล้วมะเร็งปอดมะเร็งรังไข่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งที่ศีรษะและคอ
  - - - มีรอยคล้ำ
    - - ผมร่วง แต่ผมจะงอกขึ้นใหม่หลังหยุดยา
    - - ผิวหนังจะถูกแสงแดดเผาได้ง่ายนำนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดสวมเสื้อแขนยาวหรือทาโลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF > 15 เท่า
    - - คลื่นไส้อาเจียนพะอืดพะอมหรืออาการท้องเสียผู้ป่วยอาจต้องได้รับยาต้านอาเจียนและยาแก้ท้องเสียร่วมด้วย
      - มีแผลฝีปากในช่องปากและเยื่อบุทางเดินอาหารควรแปรงฟันเบา ๆ และบ้วนปากวันละหลายครั้ง ๆ ด้วยน้ำยาบ้วนปากสูตรไร้แอลกอฮอล์หรือมีส่วนผสมของเกลือ
    - - กดการสร้างเม็ดเลือด และการกดการทำงานของไขกระดูก
- - - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจับกับโปรตีน tubulin
        
        ยับยั้งการประกอบ microtubutes , mitotic spindle
        
        Cancer cell หยุดการเจริญเติบโตในระยะ M phase
      - ประกอบด้วยยา
        
        4.1.2 Vinblastine (VLB)
        
        Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        มะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma, มะเร็งลูกอัณฑะ และมะเร็งเต้านม
        
        4.1.1 Vincristine (VCR)
        
        Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        เม็ดเลือดขาวชนิด ALL,ต่อมน้ำเหลืองทั้งขนิต Hodgkins และ non-Hodgki lymphoma
        
        รักษามะเร็งในเด็ก
        
        Wilms tumor และ Ewing's sarcoma
        
        4.1.3 Vinorelbine
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษา non-small cell lung cancer และมะเร็งเต้านม
      - ผลข้างเคียง :warning:
        
        Vincistine มีพิษต่อระบบประสาทกล้ามเนื้อเช่นซาตามปลายมือปลายเท้าเดินเซ (ataxia) และอาจำให้กล้ามเนื้อฝ่อลีบ
        
        Vinblastine และ vinoretbine กดไขกระดูกมากกว่า vincristine
        
        พบการอักเสบของหลอดเลือดดำ (phlebitis) บริเวณที่ให้ยา
        
        คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเดินปวดท้อง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ซีดความดันโลหิตต่ำ
    - - Clinical use
        
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        
        มะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด,มะเร็งรังไข่,มะเร็งที่ศีรษะและคอ
        
        ยา Cabazitaxel
        
        ใช้ได้กับ steroidsในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายและดื้อต่อ
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        คล้ายกลุ่มกลุ่ม vinca alkaloids
      - ผลข้างเคียง :warning:
        
        กดไขกระดูกทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ Docetaxel จะกดใจกระดูกมากกว่ายาตัวอื่น
        
        Paclitaxel ถ้าใช้หลายครั้งอาจทำให้เกิดภาวะชั่งน้ำในร่างกาย ซึ่งอาจรุนแรง, ขั้นเกิดปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) ได้
        
        ปฏิกิริยาแพ้ยาเช่นผื่นลมพิษหายใจลำบาก
        
        ผลต่อทางเดินอาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียน
        
        อวัยวะส่วนปลายบวมโดยเฉพาะยา Doxetaxel พบมากกว่ายาตัวอื่น
        
        ปลายประสาทผิดปกติ
- - - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        สอดแทรกในสาย DNA ยั้บยั้ง RNA polymerase ทำให้สาย single-strand ของ DNA แตก
      - Clinical use
        
        มะเร็งกระดูก Ewing's tumor และ Kaposi's sarcoma
        
        chorocarcinoma ใช้ยาร่วมกับ Methotrexate
        
        Wilms’ tumor และมะเร็งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก ใช้ยาร่วมกับ Vincristine
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ออกฤทธื์จับกับธาตุเหล็ก ได้เป็นสารประกอบเชิงซ้อนของยากับเหล็ก เกิดการแตกของสาย DNA สอดแทรก DNAผลต่อเซลล์ระยะ G
      - Clinical use
        
        เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำฉีดเข้ากล้ามเนื้อฉีดขั้นต้นยาใช้ในการรักษามะเร็งอัณฑะ (testicular cancer) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma เช่น Epithelial tumor เช่น squamous cell carcinoma squamous
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        หลายยากเช่นยับยั้ง ingris Treate 2 แทรกไปอยู่ระหว่าง R4 buate pars ในสาย DNA ปิดกั้นการสังเคราะห์ DHA และ REA รบกวนการทำงานของเยื่อหุ้มเอางค์และสร้างอนุมูลอิสระซึ่งทำให้สาย DNA แตก
      - Clinical use
        
        รักษามะเร็งหลายได้ชนิดเช่นใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (acute leukernia) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสะมะเร็งไทรอยด์และมะเร็งปอด
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylating agents มีฤทธิ์แรงมากทำให้เกิดสะพานในสาย DNA มีผลยับยั้งการสังเคราะห์ DNA
      - Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งปากมดลูก (carcinoma of cervix) มะเร็งปอดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
        
        มะเร็งลำไส้ใหญ่โดยอาจใช้ร่วมกับ 5-FU, Cisplatin หรือ doxorubicin
  - - - ยาจะไปรบกวนเมแทบอลิซึมของ DNA โดยสอดแทรกเข้าไปในสายDNA ซึ่งเป็นผลให้ DNA แตกและสามารถยังยั้งเซลล์มะเร็งได้
- - - - ได้แก่ Prednisolone , Prednisone และ Hydrocortisone
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองHodgkin's และnon-Hodgkin lymphoma มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        osteoporosis
        
        โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
        
        hyperglycemia
        
        มีโอกาสติดเชื้อง่าย
    - - ได้แก่ Tamoxifen , Toremifene , Raloxifene
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        ใช้ในระยะยาวเสี่ยงต่อการเกิด thromboembolic diseases
        
        มีเลือดประจำเดือนผิดปกติ
        
        ร้อนวูบวาบรบกวนทางเดินอาหารคลื่นไส้อาเจียน
        
        Clinical use
        
        Tamoxifen เป็นตัวเลือกแรกในการนำมาใช้รักษามะเร็งเต้านม
        
        Toremifene ใช้รักษามะเร็งเต้านม
        
        Raloifene ใช้การป้องกันการเกิดมะเร็งโรคกระดูกพรุน (osteoporosis)
    - - ได้แก่ Goserelin, leuprolide , Abarelix
        
        Clinical use
        
        Abarelix
        
        บรรเทาอาการผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
        
        Goserein ,Leuprolide
        
        CA prostate, มะเร็งเต้านมในระยะแพร่กระจาย และ endometriosis
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
        
        ในระยะแรกอาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญมากขึ้นจากผลกระตุ้นการหลั่ง FSH และ LH ในช่วงแรก
        
        ร้อนวูบวาบ
    - - ได้แก่ Megastrol acetate เป็น progesterone สังเคราะห์
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        progestions เพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
        
        Clinical use
        
        endometrial Carcinoma,มะเร็งเต้านม และมะเร็งของไต
  - - - ลด hormone ที่ไปกระตุ้นการเติบโตของ cancer cell
        
        cancer cell ไม่สมารถสร้างแบ่งตัวได้
- - - - 6.1.1 Trastuzumab (Herceptin)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจับกับ HER-2 receptor
        
        HER-2 receptor ส่งสัญญาณไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
        
        cancer cell ไม่สมารถสร้างแบ่งตัวได้
        
        Clinical use
        
        โรคมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        ภาวะหัวใจล้มเหลวคั่ง (CHF) ,คลื่นไส้อาเจียน,ปวดท้อง
      - 6.1.3 Cetuximab (Erbitux)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจับ EGFR
        
        ไม่สามารถรับสัญญาณ ที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของ cancer cell ได้
        
        cancer cell ไม่สมารถสร้างแบ่งตัวได้
        
        Clinical use
        
        รักษามะเร็งศีรษะ,ลำคอ,มะเร็งลำไส้ส่วนล่าง
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        ในระยะแรกอาจทำให้ความดันต่ำและหายใจลำบากได้
      - 6.1.2 Rituximab (Rituxan)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจับกับ CD20 ที่ผิว B cell
        
        กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันมากำจัด cancer cell
        
        Cancer cell ตาย
        
        Clinical use
        
        ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B-cell lymphoma
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        เกิด Infusion reaction ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
      - 6.1.4 Alemtuzumab (Campath)
        
        Clinical use
        
        มะเร็งเม็ดเลือดขาว BCLL
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจับกับ CD52
        
        กระตุ้นให้ระบบภูมิภูมิกันมากำจัด cancer cell
        
        Cancer cell ตาย
        
        ผลข้างเคียง :warning:
        
        อาจทำให้เกิด infusion reaction
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        จับโมเลกุลเป้าหมาย ภายนอกเซลล์ บนผิวเซลล์
        
        ยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร้งแบ่งตัวหรือเจริญโต
    - - กลไกการออกฤทธิ์
        
        เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้
        
        ยาไปยับยั้งเอนไซม์ไคเนส (tyrosine Monase) เอนไซม์นี้มีความสำคัญในการส่งสัญญาณให้เซลล์มะเร็งารแบ่งเซลล์
        
        จับโมเลกุลเป้าหมาย ภายในเซลล์และ บนผิวเซลล์
        
        ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ในก้อนเนื้อมะเร็ง
      - 6.2.2 Dasatinib
        
        Clinical use
        
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML และ ALL, รักษามะเร็งที่ดื้อยา lmatinib ได้
      - 6.2.3 Nilotinib
        
        Clinical use
        
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML และ ALL, รักษามะเร็งที่ดื้อยา lmatinib ได้
      - 6.2.1 Imatinib
        
        Clinical use
        
        gastrointestinal stromal tumor ,Leukemia
      - ผลข้างเคียง :warning:
        
        พิษต่อตับทำให้บวมน้ำ,เกล็ดเลือดต่ำ เลือดออกง่าย
        
        กดไขกระดูก neutrophit ต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
        
        Fluid retentionเช่นascites,pericardial effusion,plural effusion,pulmonary edema
        
        Dasatinib และ Nilotinib ทำให้ QT prolongation จนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
      - ปฏิกิริยาระหว่างยา
        
        ต้านเชื้อราในกลุ่ม Azole และ Erythromycin
        
        ลดการทำลายและขับยา Imatinib ทำให้ระดับยา Imatinib ในกระแสเลือดสูงขึ้นเกิดพิษจากยาได้
        
        ยับยั้งเอนไซม์ CYP450 เช่น CYP344, P2C9 และ CYP2D6
        
        CYP2D6 ถ้าหากให้ร่วมกับยาWarfarin, Theophylline จะทำให้ระดับยาเหล่านี้ในกระแสเลือดสูงขึ้นเกิดพิษจากยาได้
- - - - Clinical use
        
        ใช้ในการรักษา ALL ในเด็กโดยใช้ร่วมกับ และ Prednisone
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยาจะไปเร่งปฏิกิริยา hydrolysis
        
        เซลล์มะเร็งขาดสารจำเป็นที่จะนำไปสร้างการเจริญเติบโตและสร้างโปรตีน
        
        เซลล์ไม่สามารถสังเคราะห์และสร้างตัวเองได้
      - ผลข้างเคียง :warning:
        
        อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ที่รุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบพิษต่อตับซักและโคม่าได้
    - - Clinical use
        
        Adrenocortical carcinoma
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        รบกวนการทำงานของไมโตครอนเตรียในเซลล์ต่อมหมวกไดชั้นนอกทำให้ผิดลงและลดการสร้าง cortisol
      - ผลข้างเคียง :warning:
        
        Depression,Dizziness,Skin rash
        
        รบกวนทางเดินอาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหารอุจจาระร่วงเป็นต้นและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- - - - กลายเป็น
        
        Malignant tumorและMetastasis
        
        ผู้ป่วย: ความทุกข์ทรมานจากอาการของโรคและเกิดอันตรายถึงชีวิต
        
        ยับยั้งโดย
        
        ยาต้านโรคมะเร็ง
  - - - Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS)
        
        ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของก้อนมะเร็งทั้งต่ำและสูง
        
        ออกฤทธิ์ต่อ Cancer Cell ทุกระยะ
      - 1.Cell cycle-specific drugs (CCS)
        
        ไม่มีผลต่อCancer Cell ระยะอื่น
        
        ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วหรือมีการแบ่งตัวอย่างต่อเนื่อง
        
        ออกฤทธิ์ต่อ Cancer Cell ในระยะหนึ่ง