Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีและแนวคิดแบบดั้งเดิม - Coggle Diagram
ทฤษฎีและแนวคิดแบบดั้งเดิม
ทฤษฎีและแนวความคิดแบบดั้งเดิมนี้
เริ่มต้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ทำให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคมในช่วงที่โลกเริ่มปรับตัวเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม
มีลักษณะมุ่งเน้นไปยังผลผลิตที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพเป็นหลัก มากกว่าการใส่ใจบุคคล
ระบบการบริหารงาน
เน้นการมีแบบแผน
มีกฎเกณฑ์
โครงสร้างชัดเจนแน่นอน
มีรูปแบบตายตัว
ลักษณะ เป็นองค์กรที่มีรูปแบบ (Formal Organization) โดยมุ่งเน้นให้เกิดผลผลิตสูงที่สุด
ยุคนี้มนุษย์ที่ใช้แรงงานจะถูกมองเป็นเสมือนเครื่องจักรกล
ทฤษฎีและแนวความคิดนี้แบ่งเป็น 2 ลักษณะดังนี้
แนวความคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์
(Scientific Management)
แนวความคิดการจัดการแบบหลักการบริหาร (Administrative Management)
แนวความคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
หมายถึงการจัดการการทำงานแบบมีระบบ
อาศัยเทคนิคหรือวิธีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
กฎระเบียบ
ใช้กับการปฎิบัติงาน
มีการศึกษาเหตุและผล
เก็บข้อมูล
วิเคราะห์เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดในการทำงาน
เริ่มเกิดขึ้นในช่วงต้นของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
เริ่มเปลี่ยนจากแรงงานคนมาเป็นแรงงานจากเครื่องจักร
ทฤษฎีในยุคนี้จะมุ่งเน้นไปยังเป้าหมาย
ผลสำเร็จ
ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นักทฤษฎีและแนวความคิดที่โดดเด่น
rederic Winslow Taylor
(เฟรเดอริค วินสโลว์เทย์เลอร์)
บิดาแห่งการจัดการแบบวิทยาศาสตร์
(Principle of Scientific Management)
เป็นบุคคลแรกที่นำแนวความคิด
การจัดการแบบวิทยาศาสตร์
(Scientific Management)
มาใช้กับระบบอุตสาหกรรม
Max Weber (แม็กซ์เวเบอร์)
เจ้าตำรับระบบราชการ (Bureaucracy)
เขาได้ทำการศึกษาระบบโครงสร้างของ
องค์กรขนาดใหญ่มากมายในยุคนั้น
เสนอการจัดการองค์กรขนาดใหญ่ขึ้นมาในปีค.ศ.1911
Lyndall Urwick & Luther Gulick
โดดเด่นในเรื่องทฤษฎีองค์กรและกระบวนการบริหารงาน
ให้ความสำคัญของการทำหน้าที่
ของฝ่ายบริหารมากกว่าการทำงานของฝ่ายพนักงานระดับล่าง
มุ่งเน้นไปยังวิธีการทำงานตลอดจน
พฤติกรรมการบริหารงานของผู้บริหารระดับสูงเป็นหลัก
หลักการที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล
POSDCoRB
P – Planning
การวางแผน ตลอดจนการจัดวางโครงสร้างของการทำงาน
O – Organizing
การจัดองค์กร ตั้งแต่การกำหนดโครงสร้าง
ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ
ตลอดจนการกำหนดส่งงาน
แบ่งงานทำอย่างเป็นระบบระเบียบ
S – Staffing
การจัดการเกี่ยวกับบุคคลากรในองค์กร
ตั้งแต่การจัดอัตรากำลัง การสรรหา การจัด
ตำแหน่ง การพัฒนา เป็นต้น
D – Directing
การอำนวยการ ตั้งแต่หน้าที่ในการตัดสินใจ วินิจฉัย
สั่งการ ออกคำสั่ง ไปจนถึงการ
มอบหมายภารกิจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา
Co – Co-ordinating
การประสานงานตลอดจนกิจกรรมต่างๆ
ให้การทำงานบรรลุเป้าหมายด้วยดี
R – Reporting
การรายงานการปฎิบัติงานตั้งแต่งานส่วนบุคคล
ไปจนถึงองค์กร เพื่อให้รู้ถึงการทำงานของฝ่ายต่างๆ
B – Budgeting
การบริหารงบประมาณ ตั้งแต่การประเมินงบประมาณ
การจัดทำบัญชีการตรวจ สอบด้านการเงิน
ไปจนถึงการนำงบประมาณมาใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด