Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านโรคมะเร็ง - Coggle Diagram
ยาต้านโรคมะเร็ง
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมะเร็ง
กรณีได้รับอยากครั้งแรกพยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวโดยการให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับเหตุผลของการให้ยาผลดีของการให้ยาและภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นแผนและขั้นตอนในการให้ยา
ประเมินภาวะสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับยา
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและหลังให้ยา
ประเมินผลข้างเคียงจากการได้รับยา
กรณีได้ยาชนิดรับประทานดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาและดื่มน้ำตามมากๆ
กรณีได้รับยาชนิดฉีด
พยาบาลที่ให้ยาวควรมีความรู้ใช้ทักษะที่ถูกต้อง
ควรมีอุปกรณ์ป้องกันตัว ได้ได้แก่เสื้อกาวน์ หมวก mask แว่นตา ถุงมือ
จัดเตรียมยาในห้องที่มีพัดลมดูดอากาศ กรณีที่ยาหกควรเช็ดออกด้วยกระดาษซับและทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่แล้วจึงเช็ดด้วย 70% แอลกอฮอล์อีกครั้ง
กำจัดอุปกรณ์และภาชนะบรรจุยาในถุงขยะ ปิดปากถุงให้แน่นแยกสีถุง
ติดฉลากระบุว่าเป็นขยะปนเปื้อนสารเคมีบำบัด
เลือกเส้นเลือดดำที่จะให้ยาควรเป็นเส้นที่เห็นชัด มีขนาดใหญ่ หลอดเลือดนุ่มเรียบตรง ไม่แข็งหรือคดงอ
กรณีผู้ป่วยได้รับยาเคมีบำบัดหลายชนิด ควรเลือกฉีดยากลุ่มvesicant ก่อนตามantibioticหรือตามคำสั่งการรักษา
กรณียาเคมีบำบัดรั่วซึมออกนอกเส้นเลือด หยุดยาทันที พยายามดูดยาออกให้มากที่สุด รายงานแพทย์ เปลี่ยนหลอดเลือดบริเวณที่ให้ยาใหม่ ประคบด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นตามชนิดของยาเคมีบำบัด ยกแขนสูง หลีกเลี่ยงการกดทับและสังเกตปฏิกิริยาบริเวณที่มีอย่างงใกล้ชิด
ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษาและสังเกตอาการข้างเคียงหลังได้รับยา
ถ้ถ้าผู้ป่วยมีอาการขึ้นไส้ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเหลวเย็น เช่น น้ำส้ม โดยจิบทีละน้อยแต่บ่อยๆไม่ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทนม หรือรับประทานอาหารทีละน้อยและบ่อยครั้ง
แนะนำให้ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล เช่น ล้างมือบ่อยๆ
แนะนำให้ดูแลสุขภาพปากและฟันด้วยแปรงสีฟันขนนิ่มๆแปรงเบาๆ หรือใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาพันนิ้วมือเช็ดปากและฟัน บ้วนปากบ่อยๆ
แนะนำผลข้างเคียงที่อาจพบ เช่น ผมร่วง เพื่อป้องกันความวิตกกังวลและช่วยหาแนวทางและให้คำปรึกษาในการดูแลตนเอง
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดหรือสัมผัสกับบุคคลที่เป็นโรคติดต่อโรคติดเชื้อ หลีกเลี่ยงเข้าไปในสถานที่ชุมชนเพราะได้รับยาเคมีบำบัดมีฤทธิ์กดการทำงานของไขกระดูกทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
ผู้ป่วยมีโอกาสเป็นหมันชั่วคราวหรือถาวรหลังจากได้รับยาเคมีบำบัด ดังนั้นผู้ป่วยที่ต้องการมีบุตรจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการรักษา นอกจากนี้การคุมกำเนิดในระหว่างที่รักษาด้วยยาเคมีบำบัดและภายหลังจากการรักษาประมาณสองปีแนเนื่องจากยาเคมีบำบัดจะมีผลให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกแล้ว งดผักสด ผลไม้ที่รับประทานทั้งเปลือก เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากอาหาร
แนะนำให้สังเกตุอาการเลือดออกง่าย เช่น มีจ้ำตามตัว ปัสสาวะเป็นเลือดอถ่ายอุจจาระมีเลือดปน หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์
กรณีที่ได้รับยาที่บ้านแนะนำให้รับประทานยาตรงเวลา ขนาดที่แพทย์กำหนด เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา
ในกรณีในกรณีที่มีอาการชาตามไปประสาทส่วนปลายกล้ามเนื้ออ่อนแรง ระวังการเกิดอุบัติเหตุ มีความรู้สึกช้ารวมทั้งอาการปวดกล้ามเนื้อซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นหลังจากหยุดยาไปแล้ว4-6สัปดาห์
ยากลุ่ม Alkylating agents
Cyclophosphamide
กลไกลการออกฤทธิ์
ถูก CYP450 เปลี่ยนเป็น phosphoramide mustard แทรกในขบวนการสร้าง DNA แบบ cross-linking และมีการเติมหมู่ alkyl บนสาย DNA
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งหลายชนิดในเด็ก
Ifosfamide
กลไกลการออกฤทธิ์เหมือน Cyclophosphamide
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งอัณฑะ มะเร็งของเนื้อเยื่ออ่อน
Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross-linking ส่งผลให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถแบ่งตัวได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
เป็เป็นยามาตรฐานในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง (CLL)และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดfollicular
Carmustine
กลไกลการออกฤทธิ์
ทำให้เกิดหมู่ alkyl ไปจับสาย DNA ทำให้เกิด DNA strand break
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งสมอง
Dacarbazine
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนโดยCYP450ให้กลายเป็นสารพิษมีพิษต่อการสร้างDNA-RNAของมะเร็ง
การนำไปใช้ทางคลินิก
เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งผิวหนัง
Cisplatin, Carboplatin
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA ทำให้เกิดการยับยั้งกระบวนการ DNA replication และ DNA transcription
การนำไปใช้ทางคลินิก
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าทางช่องท้องใช้ร่วมกับยื่นในการรักษามะเร็งอัณฑะมะเร็งรังไข่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมะเร็งปอด
Busulfan (Myleran)
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA แบบ cross-linking ทำให้เซลล์ไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวด้
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิดและใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น
Mechlorethamine (Mustargen, Mustine)
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกการเชื่อมจับของสาย DNA ทำให้เกิดสาย DNA แตกและยับยั้งกระบวนการ DNA transcription
การนำไปใช้การนำไปใช้ทางคลินิก
เดิมใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin's lymphoma แต่ปัจจุบันใช้น้อยลง
ผลข้างเคียงจากยา
ทำให้เกิดการกดการทำงานของไขกระดูก จำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดแดงต่ำและเกร็ดเลือดต่ำ
มีผลต่อ mucosal cells ของทางเดินอาหารทำให้คลื่นไส้อาเจียนมีแผลในปากและมีอาการเบื่ออาหาร
พิษต่อระบบประสาท (neurotoxicity) พบในยา fosfamide สูงกว่ายาชนิดอื่นจะทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวนเสียการทรงตัวเดินเซหรืออาจทำให้เกิดอาการชักหลังการได้รับยา
พิษต่อไต cyclophosphamide และ ifosfamide ทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะปัสสาว
เพิ่มความเสี่ยงการเกิดพิษต่อหัวใจได้
ผลต่อผิวหนังคือคือทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำบริเวณขาหนีบเอวและรักแร้ ทำให้ผมร่วงและเล็บมีรอยดำ
ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
Dactinomycin wie actinomycin D
กลไกการออกฤทธิ์
สอดแทรกเข้าไปในเสาย DNA ยับยั้ง AWA polymerase ทำให้สาย single-strand ของ DNA แตก
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้ร่วมกับยา incristine ในการรักษา Mims tumor และมะเร็งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก
Doxorubicin (Dox): ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Anthracyclines
กลไกลการออกฤทธิ์
•ยับยั้ง topoisomerase 2 แทรกไปอยู่ระหว่าง DNA base pairs ในสาย DNA
•ปิดกั้นการสังเคราะห์ DNA และ RNA
•รบกวนการทำงานของเยื่อหุ้มเซลล์และสร้างอนุมูลอิสระซึ่งทำให้สาย DNA แตก
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งหลายได้ชนิดเช่น ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (acute leukemia) มะเร็งของพลาสมาเซลล์ (multiple myeloma) มะเร็งเต้านมมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมะเร็งรังไข่
Bleomycin
กลไกลการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์โดยจับกับธาตุเหล็ก (Fe”) ได้เป็นสารประกอบเชิงซ้อนของยากับเหลซึ่งทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้อนุมูลอิสระทำให้เกิดการแตกของสาย DNA และสอดแทรกในสาย DNA ยางผลต่อเซลล์ระยะ G2
การนำไปใช้ทางคลินิก
ฉีดชั้นใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้าช่องต่าง ๆ ของร่างกายเช่นช่องท้องช่องอกซ่องอุ้งเชิงกรานเป็นต้นยาใช้ในการรักษามะเร็งอัณฑะ (testicular cancer) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
Mitomycin
กลไกการออกฤทธิ์
ยาถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylating agents มีฤทธิ์แรงมากทำให้เกิดสะพานในสาย DNA มีผลยับยั้งการสังเคราะห์ DNA
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งปากมดลูกมะเร็งปอดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ผลข้างเคียงจากยา
ยา doxorubicin มีพิษต่อหัวใจ (cardiotoxicity)
ยา bleomycin มีพิษต่อปอด (pulmonary toxicity) ทำให้ปอดอักเสบและมีพังผืดในปอด
ยา Mitomycin ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อไตและเกิดพังผืดในปอด
ยา Mitomycin มีกดไขกระดูกอย่างรุนแรงทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำและเกล็ดเลือดต่ำ
รบกวนทางเดินอาหารมีอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้และอาเจียน
ผิวหนังไวต่อการฉายรังสีเยื่อบุในช่องปากอักเสบและผมร่วง
หากยารั่วออกนอกหลอดเลือด (extravasation) จะทำให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ตาย-หลืองมะเร็ง
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Glucocorticoids)
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL
ผลข้างเคียง
โอกาสติดเชื้อง่ายกลูโคสในเลือดสูง (hyperglycemia) โรคกระดูกพรุน (osteoporosis) โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (antiestrogens)
การนำไปใช้ทางคลินิก
Tamoxifen: เป็นตัวเลือกแรกในการนำมาใช้รักษามะเร็งเต้านม
Torernfere: ใช้รักษามะเร็งเต้านม
และ Raloxifene: ใช้การป้องกันการเกิดมะเร็งโรคกระดูกพรุน
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบ รบกวนทางเดินอาหาร
มีเลือดประจำเดือน
ใช้ในระยะยาวเสียต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด
ยาออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมน androgen
การนำไปใช้ทางคลินิก
ยา Goseretin เป็นยาที่ใช้ฝังในกล้ามเนื้อส่วนยา Leuprotide เป็นยาฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังกลุ่มยานี้ใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็ง และมะเร็งเต้านมในระยะแพร่กระจาย
ยา Abarelik เป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อใช้บรรเทาอาการผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบ
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ระยะแรกอาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญมากขึ้น
ยาฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestins)
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งของไต
ผลข้างเคียง
progestins เพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ยากลุ่ม Antimetabolites / Antineoplastic agents
Antifolate / Folate antagonis
Methotrexate (MTX)
กลไกการออกฤทธิ์
เป็นยาต้านโฟเลตออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ dihydrofolate reductase (DHFR) ที่เปลี่ยน dihydrofolate ไปเป็น tetrahydrofolate ที่เป็น cofactor สำคัญที่นำไปใช้สร้างสารตั้งต้นของ DNA, RNA และโปรตีน
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อไปนี้ เช่น มะเร็งรก มะเร็งที่ศีรษะและคอ มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
Pemetrexed
กลไกลการออกฤทธิ์
เข้าสู่ร่างกายจะถูก metabolite ให้กลายเป็นสารที่มีฤทธิ์ไปยับยั้งการสังเคราะห์และสร้างสารตั้งต้นของ DNA, RNA และโปรตีน
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน
ผลข้างเคียงจากยา
ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารเมื่อได้รับยาในขนาดสูงทเช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อหาร
จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลงเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และจำนวนเกล็ดเลือดลดลงทำให้เลือดออกง่าย
อาจทำให้แท้งและเด็กในครรภ์พิการได้ มีพิษต่อตับและไต
ผิวหนังจะถูกแสงแดดเผาได้ง่าย
ผมร่วง
Purine analogs
6-mercaptopurine(6-MP)
กลไกการออกฤทธิ์
เมื่อเข้าสู่กระแสเลือด เปลี่ยนเป็นสารไรโบนิวคลีโอไทด์ (ribonucleotide) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเอนไซม์หลายตัวที่เกี่ยวข้องการสร้าง purine ที่ถูกนำมาใช้ในการสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก ที่ที่จำเป็นในการสร้างDNAจึงทำให้ไม่สามารถสร้างได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดALLและ AML
6-thioguanine (6-TG)
กลไกการออกฤทธิ์
คล้ายกับ 6-MP
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLLหรือ AML
Fludarabine
กลไกการออกฤทธิ์
เข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจากของสายDNAเกิดการยับยั้ง
การนำไปใช้ทางคลินิก
เป็นพิษต่อทางเดินอาหารใช้รักษาCLLและมะเร็งตับน้ำเหลืองที่ไม่รุนแรง
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
มีมีแผลในปากหรือริมฝีปาก
อาการอื่นๆที่พบได้แต่ก็ไม่บ่อย เช่น อุจจาระสีดำ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด ไอหรือเสียงแหบ อ่อนเพลีย ตัวตาเหลืองผิวคล้ำ ท้องเสีย
Pyrimidine analogs
5-fluorouracil (5-FU)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ thymidylate Synthase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในการสังเคราะห์ DNA และ RNA
การนำไปใช้ทางคลินิก
เป็นพิษต่อทางเดินอาหาร รักษามะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินอาหาร และรักษามะเร็งผิวหนังชนิด basal cell carcinoma
Capectibine
กลไกการออกฤทธิ์
คล้าย 5-FU
การนำไปใช้ทางคลินิก
บรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว นิยมใช้ร่วมกับยา Oxaliplatin ในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย
Cytarabine
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจะไปเติมหมู่ฟอตเฟตทำให้เกิดการยับยั้งการเชื่อมต่อสายของสาย DNA
การไปใช้ทางคลินิก
เป็นยาฉีดทางหลอดเลือดดำนิยมใช้การหยดแบบช้า ๆ เป็นเวลา 5-7 วันใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
Gemcitabine
กลไกการออกฤทธิ์
เมื่อยาเข้าสู่เซลล์ยาจะถูกกระตุ้นให้มีการเติมหมู่ฟอตเฟตจะไปเข้าไปแทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งการสร้าง DNA
การนำไปใช้ทางคลินิก
ชนิดยาฉีดทางหลอดเลือดดำใช้รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจายไปแล้วมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งที่ศีรษะและคอ
ผลข้างเคียง
กดการสร้างเม็ดเลือดและกดการทำงานของไขกระดูก
มีแผลในทางเดินอาหาร
มีการขึ้นไส้อาเจียนพะอืดพะอมหรือท้องเสีย
อ่อนเพลียไม่มีแรง
ผิวหนังถูกแสงแดดเผาได้ง่ายและผมร่วง
ฝ่ามือและฝ่าเท้าลอก เล็บมือเล็บเท้าคล้ำ
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ
(Natural and semi-synthetic products)
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ
(Natural and semi-synthetic products)
กลไกลการออกฤทธิ์
ยาจะไปจับกับโปรตีน tubulin ทำให้ยับยั้งการประกอบ microtubules ยับยั้งการประกอบตัวของ mitotic spindle เซลล์หยุดการเจริญเติบโตในระยะ metaphase
Vincristine (VCR): Oncovin
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด acute lymphocytic leukemia, มะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma, มะเร็งหลายชนิดในเด็ก ได้แก่ Wilms” tumor (เนื้องอกของไต) Ewing's sarcoma มะเร็งในกระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
Vinblastine (VLB): Velban
เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งชนิด Hodgkin's และ non-Hodgkin lymphoma, มะเร็งลูกอัณฑะ (testicular cancer) และมะเร็งเต้านม
Vinorelbine: Navelbine
ใช้รักษา non-small cell lung cancer และมะเร็งเต้านม
ยากลุ่ม taxanes
กลไกลการออกฤทธิ์
ยากลุ่ม taxanes ยาจะไปจับกับ B-tubulin ทำให้เพิ่มการก่อตัวเป็น microtubules แต่ยับยั้งการสลายของ micrototubules
ผลข้างเคียง
ยา Docetaxel กดไขกระดูกทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาวและเกร็ดเลือดต่ำ
Paclitaxel ถ้าใช้หลายครั้งทำให้เกิดภาวะคั่งน้ำในร่างกาย
ปฏิกิริยาแพ้ เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก
อวัยวะส่วนปลายบวมปลายประสาทปกติ
ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal antibodies)
Trastuzumab (Herceptin)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจะไปจับกับ human epidermoid growth factor receptor 2 (HER-2) ซึ่ง receptor ชนิดนี้เกี่ยวข้องกับ tyrosine kinase ที่มีมากในมะเร็งเต้านมทำให้ HER-2 receptor ไม่สามารถส่งสัญญาณไปกระตุ้นการเจริญเติบมะเร็ง
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษาโรคมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
ผลข้างเคียง
อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวคั่ง
Rituximab
กลไกการออกฤทธิ์
ยาไปจับกับ CD20 ที่ผิว B Cell ได้หลังจากที่จับกันแล้วจะกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้มากำจัดเซลล์มะเร็ง
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดBcell lymphoma
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
อาจทำให้เกิด infusion reaction ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
Cetuximab
กลไกลการออกฤทธิ์
ซึ่งไปจับที่ epidermal growth factor (EGFR) ทำให้ไม่สามารถรับสัญญาณที่จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ และมะเร็งลำไส้ส่วนล่าง
ผลข้างเคียง
ระยะแรกอาจทำให้ความดันต่ำและหายใจลำบากได้
Alemtuzumab (Campath )
กลไกลการออกฤทธิ์
ไปจับกับ CD52 ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบได้ในเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็งชนิด B ce หรือ T cell แล้วจะไปกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้มากำจัดเซลล์มะเร็งต่อไป
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดB CLL
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
อาจทำให้เกิด infusion reaction ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (Small molecules)
Imatinib (Gleevec)
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษา gastrointestinal stromat tumor ซึ่งเป็นมะเร็งลำไส้ที่พบได้น้อยชนิดหนึ่งและมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) โดย Imatinib จัดเป็น small-molecule drug ที่สามารถผ่านเข้าสู่เยื่อหุ้มเซลล์ไปออกฤทธิ์ที่ target ได้โดยตรง
Dasatinib (Sprycel )
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด chronic myeloid leukemia และ acute lymphoblastic leukemia และรักษามะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib
Nilotinib (Tasigna)
การนำไปใช้รักษาทางคลินิก
ใช้รักษา chronic myeloid leukemia และรักษามะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib ได้
ผลข้างเคียงจากยา
มีของเหลวขคั่งในร่างกาย
พิษต่อตับทำให้บวมน้ำ
เกล็ดเลือดต่ำทำให้เลือดออกง่าย
กดไขกระดูกทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตฟิวต่ำ
Dasatinib และ Nilotinib ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ
(QT prolongation) จนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ยากลุ่มอื่น ๆ (Other anticancer )
Asparaginase
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจะไปเร่งปฏิกิริยา hydrolysis ทำให้เซลล์มะเร็งขาดสารจำเป็นที่จะนำไปสร้างการเจริญเติบโตและสร้างโปรตีนทำให้เซลล์ไม่สามารถสังเคราะห์และสร้างตัวเองได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้ในการรักษา ALL ในเด็กโดยใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone
ผลข้างเคียง
อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่แพ้รุนแรง ทำให้เสียชีวิตได้ ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบ พิษต่อตับชักและโคม่าได้
Mitotane
กลไกการออกฤทธิ์
รบกวนการทำงานของไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตชั้นนอกทำให้ฝ่อลงและลดการสร้าง Cortisol
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษามะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenocortical carcinoma)
ผลข้างเคียง
อาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า (Depression) มีนศีรษะ (Dizziness) มีผืน (Skin rash) รบกวนทางเดินอาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหารอุจจาระร่วงเป็นต้นและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง