Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ, 812-1, newscms…
บทที่ 3
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
3.2 การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
3.2.1 ความหมาย
การพักผ่อน (Rest)
การพักกิจกรรมการทำงานของร่างกาย หรือการพักการ
ทำงานของอวัยวะต่าง โดยนั่งเฉย ชั่วขณะหนึ่ง
ผ่อนคลาย และมีความสงบทั้งจิตใจและร่างกาย รวมถึงความไม่วิตกกังวล สงบหรือผ่อนคลายโดยไม่มีความเครียดทางอารมณ์
แบ่งออกเป็น
Absolute bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง ไม่ให้ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใดที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อย ห้ามลุกออกจากเตียง
Bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำ
กิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
การนอนหลับ
การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายไปในทางผ่อนคลาย
ระดับการรู้สติลดลง
มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าและการเคลื่อนไหวของร่างกายลดลง
อวัยวะทุกส่วนทำงานลดลง รวมทั้งสภาวะจิตใจ
3.2.2 ความสำคัญ
ส่งเสริมการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ ช่วยส่งเสริมการหายของแผล
สงวนพลังงาน พลังงานที่ใช้ของร่างกายและสมองจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงตื่น
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
3.2.3 ผลกระทบจากปัญหา
การนอนหลับ
3.2.3.1 ผลกระทบต่อร่างกาย
เมื่อยล้าคลื่นไส้
อาเจียน ท้องผูก
ปวดศีรษะ
ความทนต่อ
ความเจ็บปวดลดลง
เซลล์ต่าง ไม่มีประสิทธิภาพในการสร้างพลังงาน ATP
3.2.3.2 ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ได้ง่าย อาจมีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิด โมโหง่าย
3.2.3.3 ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอทำให้การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลง สมาธิไม่ดี และแก้ไขปัญหาได้ช้า
3.2.3.4 ผลกระทบทางสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง ความมั่นใจในการทำงานลดลง และมีการใช้ระบบบริการทางด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
3.2.4 วงจรการนอนหลับ
1) ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 1 (เริ่มมีความง่วง)
เป็นช่วงเริ่มหลับที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่การนอน
ระยะที่ 2 (หลับตื้น)
การหลับในช่วงต้น เป็นสภาพที่ไม่ได้ยินเสียงรบกวน
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)
ทั้งคลื่นสมองและชีพจรจะเต้นช้าลง ความมีสติรู้ตัวจะหายไป
ระยะที่ 4 (หลับลึก)
เป็นช่วงหลับสนิทของการนอน ใช้เวลา 30 - 50 นาที
2) ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายแทบจะหยุดการทำงานกันหมด แต่ระบบการทำงานของหัวใจ
แต่สมองจะยังตื่นตัวอยู่ ระยะนี้ช่วยจัดระบบความจำ ทำให้จดจำเรื่องบางเรื่องได้นานขึ้น
สิ่งต่อไปนี้ลดลง
คือ
การผลิตความร้อนลดลง ร้อยละ 10-15
อุณหภูมิของร่างกายลดลง 0.5-1.0 องศาฟาเรนไฮด์
ความดันเลือดซิสโตลิค (systolic) จะลดลง 20-30 mmHg ขณะหลับสนิท
อัตราการเต้นของชีพจรจะลดลง 10-30 ครั้งต่อนาที
การหายใจจะลดลง หายใจลึกและอัตราไม่สม่ าเสมอ
กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่าง คลายตัว
ความเจ็บปวด การได้ยิน การสัมผัส กลิ่น และการมองเห็นจะลดลง ตากลอกขึ้น
ปริมาณปัสสาวะลดลง
3.2.5 ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
3.2.5.1 ปัจจัยภายใน
1) ปัจจัยส่วนบุคคล
1) อายุ ในผู้สูงอายุการนอนหลับจะลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพ
2) เพศ โดยธรรมชาติแล้วเพศชายจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบแผนการนอนหลับได้เร็วและมากกว่าเพศหญิง
2) ความไม่สุขสบาย
1) ความเจ็บปวด
2) การใส่สายยางและท่อระบายต่าง
3) ท่านอนที่ไม่เหมาะสม
4) อาการคลื่นไส้ อาเจียน
5) ภาวะไข้หลังผ่าตัด
3) ความวิตกกังวล
ความกลัวและความวิตกกังวลในเรื่องต่าง เป็นปัจจัยรบกวนคุณภาพของการนอนหลับ
ความวิตกกังวลมักเกิดจากสิ่งที่คุกคามต่อสวัสดิภาพของร่างกาย และจิตใจ
3.2.4.2 ปัจจัยภายนอก
1) เสียง
2) อุณหภูมิ
3) แสง
4) ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล
5) กิจกรรมการรักษาพยาบาล
6) อาหาร
7) ยา
3.2.6 การประเมินคุณภาพการนอนหลับและการนอนหลับที่ผิดปกติ
3.2.6.1 Insomnia
1) การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว (Transient insomnia)
2) การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น (Short term insomnia)
3) การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (Chronic insomnia)
1) โรคทางจิตเวช
2) โรคทางอายุรกรรม
3) อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
4) โรคของการนอนหลับโดยตรง
3.2.6.2 Hypersomnia
เป็นการนอนหลับมาก หรือง่วงนอนมากกว่าปกติ ซึ่ง
จะแสดงออก ในแง่การนอนหลับในที่ไม่ควรหลับ
หลับขณะขับรถยนต์
หลับในห้องประชุม
3.2.6.3 Parasomnia
1) ความผิดปกติของการตื่น (around disorder)
2) ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น
3) กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
4) กลุ่มอื่น ๆ
การนอนกัดฟัน (sleep bruxism)
การปัสสาวะรดที่นอนขณะหลับ (sleep enuresis)
การกรน (primary snoring)
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
NREM
เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เวียนศีรษะ ทนต่อความเจ็บปวดได้ลดลง
REM
ความคิดบกพร่อง
การรับรู้บกพร่อง ประสาทหลอน
ผลในภาพรวมจะทำให้การทำงานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจากร่างกาย อ่อนล้า และขาดสมาธิ
3.2.7 การส่งเสริมการพักผ่อน
การนอนหลับ
3.2.7.1 การจัดสิ่งแวดล้อม
ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องใช้
อุณหภูมิ
เสียง
กลิ่น
แสงสว่าง
ความเป็นส่วนตัว
ความอบอุ่น
3.2.7.2 การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วย
Dorsal position (supine position) เป็นท่านอนหงายราบ ขาชิดติดกัน
Fowler’s position เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90 องศา
Prone position เป็นท่านอนคว่ำ
Lateral position เป็นท่านอนตะแคง
Sitting position เป็นท่านั่งที่สุขสบาย
3.2.8 การทำเตียง
การทำเตียงว่าง
วิธีปฏิบัติ
ดังนี้
ล้างมือให้สะอาดก่อนจัดเตรียมเครื่องใช้และสิ่งแวดล้อม เตรียมของใช้ให้พร้อม
ถอดนาฬิกา และสวม mask
สวมถุงมือและผ้ากันเปื้อนพลาสติก เพื่อปูองกันสิ่งสกปรกปนเปื้อนเชื้อตนเอง
น าเครื่องผ้าที่เตรียมไว้ที่เรียงล าดับการใช้ มาพาดไว้ที่ปลายเตียงด้านโต๊ะข้างเตียง
นำถังที่สะอาด และกระบอกฉีดน้ าผสมผงซักฟอก และผ้าเช็ดเตียงวางไว้ใต้เตียง
เก็บเยือกน้ำ แก้วน้ำ กระโถน และเครื่องใช้อื่นๆ จัดบริเวณเตียงให้มีที่ว่างพอควร
วางหมอนที่พนักหัวเตียง
รื้อผ้าทุกชิ้นโดยดึงชายผ้าที่เหน็บไว้ใต้ที่นอนออกมาทั้งหมด
ฉีดน้ำผสมผงซักฟอก
คลี่ผ้าปูที่นอนให้รอยพับกึ่งกลางตามความยาวของผ้าอยู่ตรงกึ่งกลางที่นอน
ปูผ้ายางในลักษณะขวางกับเตียงบนผ้าปูที่นอนระหว่างกึ่งกลาง
ปูผ้าขวางเตียงทับบนผ้ายางในลักษณะเดียวกันแล้วเหน็บผ้าส่วนที่ขวางลงใต้ผ้ายาง
ปูผ้าห่ม แบบเดียวกับผ้าปูที่นอน คลุมหมอนให้มิดชิด แต่ทeชายธงเฉพาะปลาย
จัดเตียงและตู้ข้างเตียงให้เข้าที่ ทิ้งผ้าที่เปลี่ยนแล้วในถังผ้าเปื้อน
เก็บเหยือก และแก้วน้ำ ทำความสะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที แล้วเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย
ถอดถุงมือ ถอดmask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงได้
วิธีปฏิบัติ
ดังนี้
แนะนำตัวและบอกผู้ปุวยให้ทราบวัตถุประสงค์ของการทำเตียง
ถอดนาฬิกา ใส่ mask ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และสวมถุงมือสะอาด
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียง พาดผ้าที่พนักเตียง วางถังน้ าใต้เตียง
ไขเตียงลงให้ราบ เก็บที่ไขเตียงเข้าที่
เริ่มรื้อผ้าเหมือนการทำเตียงว่าง โดยม้วนด้านนอกไว้ด้านใน
ฉีดน้ำสมผงซักฟอก แล้วเช็ดทำความสะอาดหมอน ที่นอน เตียง ตู้ข้างเตียงและเก้าอี้
กลับที่นอนอีกด้านและเช็ดให้สะอาดเหมือนข้อ 6
ปูที่นอนใหม่ เหมือนการท าเตียงว่าง
พับผ้าห่มเป็นทับซ้อนกับไปมาคล้ายพัด (fan fold) ไว้ที่ปลายเตียง
จัดเตียงและตู้ข้างเตียงให้เข้าที่ ทิ้งผ้าเก่าที่เปลี่ยนแล้วในถังผ้าเปื้อน
เติมน้ำในเยือกให้ใหม่ เปลี่ยนแก้วน้ าให้ใหม่
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
ถอดถุงมือ ถอด mask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงไม่ได้
วิธีปฏิบัติ
ดังนี้
แนะนำตัวและบอกผู้ป่วยให้ทราบวัตถุประสงค์ของการทำเตียง
ถอดนาฬิกา ใส่ mask ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และสวมถุงมือสะอาด
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียง พาดผ้าที่พนักเตียง วางถังน้ำใต้เตียง
ไขเตียงลงให้ราบ เก็บที่ไขเตียงเข้าที่
ทำเตียงที่ละด้าน โดยท าด้านตู้ข้างเตียงก่อน เดินอ้อมไปด้านตู้ข้างเตียงก่อน พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนตะแคง หันหลังให้ตู้ข้างเตียงยกเหล็กกันเตียงกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
เดินกลับมาด้านตู้ข้างเตียง รื้อเตียงด้านตู้ข้างเตียง โดยดึงชายผ้าที่เหน็บใต้ที่นอนออกทุกชิ้น
ตลบม้วนผ้าขวางเตียงและผ้ายางให้ด้านบนของผ้าอยู่ด้านใน ม้วนชิดหลังผู้ปุวย
ตลบม้วนผ้าปูที่นอนเช่นเดียวกัน
ฉีดน้ำผสมผงซักฟอก เช็ดที่นอนด้วยน้ำผสมผงซักฟอก เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด รอให้น้ำแห้ง
วางผ้าปูที่นอนตามยาวซีกด้านตู้ข้างเตียง ผ้าอยู่ตรงกลางที่นอน ปล่อยชายผ้าห้อยลงอีกครึ่งหนึ่งม้วนชิดหลังผู้ป่วย
เหน็บผ้าด้านหัวเตียง และปลายเตียงให้เรียบร้อย
ปูผ้ายางให้ม้วนด้านหนึ่งชิดหลังผู้ป่วยเหน็บชายผ้ายางเข้าใต้ที่นอน
ปูผ้าขวางเตียงให้สูงเลยขอบด้านบนของผ้ายางประมาณ 2 นิ้ว และให้ม้วนด้านหนึ่งชิดหลังผู้ปุวยเหน็บชายผ้าขวางเตียงเข้าใต้ที่นอน
พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงายก่อน แล้วค่อยพลิกนอนตะแคง หันหน้าไปทางด้านที่เปลี่ยนผ้าใหม่ ยกเหล็กกั้นเตียงขึ้น เพื่อปูองกันผู้ป่วยตกเตียง
เดินอ้อมไปด้านตรงข้ามตู้ข้างเตียง พร้อมน้ำถังเช็ดเตียงไปด้วยรื้อผ้าออกโดยดึงชายผ้าที่เหน็บไว้ใต้ที่นอนออกทุกชิ้น
ดึงผ้าปูที่นอน ผ้ายาง และผ้าขวางเตียงชุดเก่าออกม้วนให้เข้าด้านใน ดึงออกม้วนทิ้งลงถังผ้าเปื้อน
เช็ดที่นอนซีกที่เหลือด้วยน้ำผสมผงซักฟอกให้สะอาด
เช็ดแห้งด้วยน้ำสะอาด รอให้น้ำแห้ง
ดึงผ้าปูผ้าบนที่ม้วนชิดหลังผู้ป่วยไว้ทีละชิ้นจากชั้นล่างขึ้นมาทีละชิ้นดึงให้เรียบตึง ทำมุมและเหน็บผ้าเข้าใต้ที่นอนให้เรียบร้อย
พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงาย
ห่มผ้าให้ผู้ป่วย หรือผ้า upper sheet ทำมุมผ้าปลายเตียงให้เรียบร้อย
ยกศีรษะผู้ป่วย เปลี่ยนปลอกหมอน การถอดและใส่ปลอกหมอน
นำผ้าเปื้อนทิ้งลงถังผ้าเปื้อน
เช็ดหัวเตียง ตู้ข้างเตียงเก้าอี้ และจัดของให้ เป็นระเบียบเรียบร้อย
เติมน้ำในเยือกให้ใหม่ เปลี่ยนแก้วน้ำให้ใหม่
ล้างถังน้ำ ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บเข้าที่
ถอดถุงมือ ถอดmask และล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
เครื่องใช้
ได้แก่
เครื่องผ้า เหมือนการทำเตียงว่าง ยกเว้น ผ้าห่มและผ้าคลุมเตียง
กระบอกฉีดน้ำผสมผงซักฟอก ถังน้ำสะอาด และผ้าเช็ดเตียง
ถังใส่ผ้าเปื้อน
ถุงมือสะอาด ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และ mask
การทำเตียงรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ
วิธีปฏิบัติ
ดังนี้
ถ้าเตรียมรับผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว ให้พิงหมอนไวที่พนักหัวเตียง
พับผ้าคลุมเตียงซ้อนผ้าห่มทบไปมาไว้ที่ริมเตียง (fan fold) ด้านตรงข้ามที่จะรับผู้ป่วยขึ้นเตียง เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายขึ้นเตียง
วางเครื่องใช้ต่าง ใกล้เตียง หากผู้ป่วยต้องงดน้ำและอาหารทางปาก ให้นำปลาย “งดน้ำและอาหารทางปาก” (NPO) ไว้ที่ปลายเตียง
เครื่องใช้
ได้แก่
เครื่องผ้าเหมือนกับการทำเตียงว่าง
ชามรูปไต และกระดาษเช็ดปาก
เครื่องวัดความดันโลหิตพร้อมหูฟั
เครื่องใช้อื่น ตามความจำเป็น
ถังบรรจุน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์ฟอกล้างและผ้าเช็ดเตียง
เครื่องใช้
เครื่องผ้า
ได้แก่
1.1 ผ้าปูที่นอน
1.2 ผ้ายางขวางเตียง (ถ้าจำเป็น)
1.3 ผ้าขวางเตียง
1.4 ปลอกหมอน
1.5 ผ้าคลุมเตียง
1.6 ผ้าห่ม
ใช้กับทุกรูปแบบการจัดเตียง
กระบอกฉีดน้ำผสมผงซักฟอก ถังน้ำสะอาด และผ้าเช็ดเตียง
ถังใส่ผ้าเปื้อน
ถุงมือสะอาด ผ้ากันเปื้อนพลาสติก และmask
จุดประสงค์
ให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบาย
ให้เตียงและสิ่งแวดล้อมสะอาด เรียบร้อย สวยงาม
3.2.8 กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation
😊
❤
❤
❤
❤
❤
❤
❤
❤
💛
🤍
🤍
🤍
🤍
นายศราวุฒิ เป็งมูล 6201210255 เลขที่ 11 Section B วิชา พบ. 213 การพยาบาลพื้นฐาน