Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยารักษาโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยารักษาโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
เกิดจากความผิดปกติของรหัสสารพันธุกรรม
การเจริญเติบโตหรือการเพิ่มจำนวนเซลล์เป็นไปอย่างรวดเร็วไม่สามารถควบคุมได้และเกิดเป็นเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ ( Malignant tumor )หากเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นกับอวัยวะใด จะเรียกชื่อมะเร็ง ตามอวัยวะนั้น
เซลล์มะเร็งมีการแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลา
หากการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นเรื่อยๆและส่งผลให้เกิดการกระจายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น
ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการของโรค
เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ระยะการแบ่งตัวในวัฏจักรของเซลล์ (Cell cycle)
G0 phase : ระยะพักcell แบ่งตัวสมบูรณ์แล้ว หากได้สัญญาณการแบ่งตัว ก็จะเปลี่ยนเข้าสู่ G1 phase
G1 phase :ระยะการแบ่งตัว cell เริ่มสร้างโปรตีน + เอนไซม์เพื่อใช้ในการสร้างDNA และ RNA
S phase : Cell สร้างและสังเคราะห์ DNA ที่
เหมือนกัน อีก 1 ชุด
G2 phase : Cell สร้างองค์ประกอบต่าง ๆ
และแบ่งเป็น 2 เซลล์
M phase :Cell แบ่งตัวแบบ mitosis มีการแบ่งแยกโครโมโซมออกเป็น 2 Cell (มีองค์ประกอบเหมือนกัน+ขนาดเท่ากัน)
ยาเคมีบำบัด (chemotherapy drug)
กลไกการทำงานของยาจะมีผลเฉพาะกัยเซลล์ที่กำลังอยู่ในช่วงแบ่งตัว (Reproducing)
ประเภทยาแบ่งตามการออกฤทธิ์ในวัฏจักรเซลล์มะเร็ง
Cell cycle-specific drugs (CCS)
ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ที่อยู่ในระยะใดระยะหนึ่งของวงจรเซลล์เท่านั้น ไม่มีผลต่อระยะอื่น
ใช้ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วหรือมีการแบ่งตัวอย่างต่อเนื่อง
Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS)
ออกฤทธิ์ได้ทุกระยะในวงจรเซลล์
ใช้ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของก้อนมะเร็ง ทั้งในระดับต่ำและสูง
ยาต้านโรคมะเร็ง
ยากลุ่ม Alkylating agents
การออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์ต่อ cancer cell ในทุกระยะของ cell cycle
ยาเป็นสาร Alkylating agents
หมู่อัลคิล Alkyl group
ทำปฏิกิริยาเคมีจับกับสาย DNA ส่งผลให้ DNA ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
เกิดการแตกหักของสายDNA หรือ การถอดรหัสของ DNA ผิดพลาด
การจำลองของ DNA ผิดพลาดเกิดการซ่อมแซมตัวเองแต่เกิดการเชื่อมจับของสาย DNA คนละสายCross-linking
เซลล์ได้รับความเสียหายที่เกิดจากการเชื่อมที่ผิดพลาด
1 more item...
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Cyclophosphamide
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาเข้าสู่ร่างกายถูกเปลี่ยนโดย CYP450ให้กลายเป็นPhosphoramide
mustard
แทรกเข้าไปในขบวนการสร้าง DNA แบบ Cross -linking
มีการเติมหมู่ alkyl ที่เบส guanine บนสาย DNA
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ใช้รักษามะเร็ง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด Hodgkin’s และ Non-Hodgkin
lymphoma
มะเร็งรังไข่
มะเร็งเต้านม
มะเร็งหลายชนิดในเด็ก
ใช้เป็นยากดภูมิคุ้มกัน
ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ
ผู้ป่วย autoimmune
diseases
nephritic syndrome
rheumatoid arthritis
Ifosfamide
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ Cyclophosphamide
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
รักษามะเร็งอัณฑะ
Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับสาย DNA แบบ Cross -linking
เซลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวได้
เซลล์ตาย
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
เป็นยามาตรฐานในการรักษา
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด follicular
Carmustine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
เกิดหมู่ alkyl ไปจับกับสายของ DNA
DNA ทำให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้
DNA Strand break
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งสมอง
Dacarbazine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาถูกเปลี่ยนโดย CYP450
เป็นสารที่มีพิษต่อการสร้าง DNA และ RNA
ของเซลล์มะเร็ง
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s lymphoma
รักษามะเร็งผิวหนัง
Cisplatin, Carboplatin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับสาย DNA
ยับยั้งกระบวนการ DNA replication และ DNA transcription
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งทางเดินอาหาร
รักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
รักษามะเร็งอัณฑะ
รักษา มะเร็งรังไข่
รักษามะเร็งปอด
Busulfan
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับสาย DNA แบบ Cross -linking
เซลล์มะเร็งไม่สามารถสร้างหรือแบ่งตัวได้
เซลล์ตาย
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML
ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก ใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น เช่น cyclophosphamide
Mechlorethamine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับของสาย DNA
เกิดสาย DNA แตก
ยับยั้งกระบวนการ DNA transcription
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
เดิมใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s lymphoma
ปัจจุบันใช้น้อยลง เปลี่ยนไปใช้ cyclophosphamide และยาอื่น ๆ แทน
ผลข้างเคียง
ทำให้เกิดการกดการทำงานของไขกระดูก
จำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำ
เม็ดเลือดแดงต่ำ
เกล็ดเลือดต่ำ
ผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร
มีผลต่อ mucosal
cells
คลื่นไส้
อาเจียน
มีแผลในปาก
เบื่ออาหาร
อาการพิษต่อระบบประสาท
พบในยา Ifosfamide สูง
กว่ายาชนิดอื่น
อารมณ์แปรปรวน
เสียการทรงตัว
ชัก
เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพิษหัวใจ
ควรระวังการใช้ยาหรือเลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ
ยากลุ่ม Antimetabolites / Antineoplastic agents
ขัดขวางขบวนการสร้าง Folate, Purine, Pyrimidine
ที่มีความจำเป็นต่อการสร้า DNA และ RNA
ออกฤทธิ์ต่อระยะ S ของ cancer cell cycle
นำไปสู่การตายของเซลล์มะเร็ง
สารกลุ่มนี้มีโครงสร้างทางเคมี
คล้ายกับ nucleotide
เอนไซม์เข้าใจผิดคิดว่าเป็นสารในร่างกายและเข้าจับกันแบบผันกลับไม้ได้
เอนไซม์หมดฤทธิ์ไปการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ลดลง
ยากลุ่มนี้แบ่งเป็น 3 ประเภท ตามการขัดขวางการสร้าง DNA
Antifolate/Folate antagonist
Methotrexate
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งเอนไซม์ที่ Dihydrofolate reductase
ที่เปลี่ยนDihydrofolate ไปเป็น Tetrahydrofolate
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อม
น้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin lymphoma
รัักษามะเร็งปอด
รักษามะเร็งรก
รักษามะเร็งศีรษะและคอ
รักษามะเร็งเต้านม
Pemetrexed
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูก
metabolite
กลายเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ และ สร้างสารตั้งต้นของDNA, RNA และโปรตีน
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งปอด
รักษามะเร็งตับอ่อน
ผลข้างเคียง
ระคายเคืองต่อระบบทางดินอาหารเกิดขึ้นเมื่อได้รับยาขนาดสูง
คลื่นไส้
อาเจียน
อาจทำให้แท้งและเด็กในครรภ์พิการได้
จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลงผู้ป่วยเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นและ จำนวนเกล็ดเลือดลดลง ทำให้เลือดออกได้ง่าย
Purine analogs
6-mercaptopurine (6-MP)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
เมื่อยาเข้าสู่
กระแสเลือดจะเปลี่ยนเป็นสารRibonucleotide
ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเอนไซม์หลายตัวที่เกี่ยวข้องกับการสร้างPurine ที่ถูกนำมาใช้ในการสังเคราะห์กรดนิวคลีอิกที่จำเป็นต่อการสร้าง DNA
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL, AML, ANLL
6-thioguanine (6-TG)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ 6-MP
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL และ AMLโดยใช้ร่วมกับยา Daunorubicin และ Cytarabine
Fludarabine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA
ยับยั้งการสร้าง DNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLL
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่รุนแรง
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
หากใช้ยาในขนาดที่สูงจะทำให้เกิด leucopenia และ thrombocytopenia
มีแผลในปาก หรือริมฝีปาก
คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง
อาการอื่น ๆ
อุจจาระสีดำ
ปัสสาวะหรืออุจจาระ
เป็นเลือด
Pyrimidine analogs
5-fluorouracil (5-FU)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
thymidylate synthase
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
ชนิดฉีดทางหลอดเลือดดำ
รักษามะเร็งเต้านม
มะเร็งทางเดินอาหาร
ชนิดทายา
รักษามะเร็งผิวหนังชนิด basal cell carcinoma
Capectibine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ 5-FU
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
บรรเทาอาการ palliative treatment ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
ใช้ร่วมกับยา Oxaliplatin รักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย
Cytarabine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาไปเติมหมู่
phosphate
เกิดการยับยั้งการเชื่อมต่อสายของสายDNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
Gemcitabine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาถูกกระตุ้นให้มีการเติมหมู่phosphate
เกิดการยับยั้งการเชื่อมต่อสายของสายDNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจาย
รักษามะเร็งปอด
รักษามะเร็งรังไข
รักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ผลข้างเคียง
กดการสร้างเม็ดเลือด และการทำงานของไขกระดูก
คลื่นไส้ อาเจียน พะอืดพะอม อุจจาระ
ร่วง
ผมร่วง แต่ผมจะงอกขึ้นใหม่หลังหยุดยา
ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
สกัดมาจากเชื้อราดิน ที่เรียกว่า Streptomyces
ออกฤทธิ์ต่อเซลล์ในทุกระยะ
ยาไปรบกวน metabolism ของ DNAโดยสอดแทรกเข้าไปในสาย DNA
DNA แตก สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Dactinomycin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกเข้าไปในสาย DNA ยับยั้ง RNA polymerase
สาย single-strand ของ DNA แตก
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษา Wilms’ tumor และมะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก ใช้ร่วมกับยา Vincristine
รักษามะเร็งเยื่อรก (choriocarcinama) ใช้ร่วมกับยา Methotrexate
รักษามะเร็งในกระดูก Ewing’s tumor และ มะเร็งผิวหนัง Kaposi’s sarcoma
Doxorubicin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งTopoisomerase 2
แทรกไปอยู่ระหว่าง DNA base pairs ในสาย DNA
ปิดกั้นการสังเคราะห์DNA และRNA
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
รักษามะเร็งของพลาสมาเซลล์
รักษามะเร็งเต้านม
Bleomycin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
จับกับธาตุFe2+
ได้สารประกอบเชิงซ้อนของยากับเหล็ก
ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้อนุมูลอิสระ
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งอัณฑะ
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ชนิด Hodgkin’s และ Non-hodgkin lymphoma และ Epithelial tumor
Mitomycin C
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาเปลี่ยน
แปลงในเซลล์ไปเป็น Alkylating
agents ที่มีฤทธิ์แรงมาก
เกิดสะพานในสาย DNA
ยับยั้งการสังเคราะห์ DNA
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งปากมดลูก
รักษามะเร็งปอด
รักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ใช้ร่วมกับ 5-FU,cisplatin หรือ doxorubicin แต่ปัจจุบันนิยมใช้น้อยลง
ผลข้างเคียง
Doxorubicin มีพิษต่อหัวใจทำให้เกิด
Arrhythmia และ CHF
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ เยื่อบุในช่องปากอักเสบ อาเจียน
ผิวหนังไวต่อการฉายรังสี เยื่อบุในช่องปากอักเสบ และผมร่วง
หากยารั่วออกนอกหลอดเลือด
จะทำให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ตาย
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ(Natural and semi-synthetic products)
ตัวอย่างยา
ยากลุ่ม vinca alkaloids
กลไกการออกฤทธิ์ของยากลุ่ม vinca alkaloids
ยาจับกับโปรตีน
Tubulin
ยับยั้งการประกอบตัวของ
microtubules, mitotic spindle
เซลล์หยุดการเจริญเติบโตในระยะ metaphase
ตัวอย่างยา
Vinorelbine
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษาNon-small cell lung cancer
รักษามเร็งเต้านม
Vincristine
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งในเด็ก Wilms’ tumor และ Ewing’s sarcoma
รักษาเม็ดเลือดขาวชนิด ALL
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s
และ Non-hodgkin lymphoma
Vinblastine
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเต้านม
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s
และ non-Hodgkin lymphoma
รักษามะเร็งอัณฑะ
ผลข้างเคียง
Vincistine มีพิษต่อระบบประสาทกล้ามเนื้อ
คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อ
อาหาร ท้องเดิน ปวดท้อง
อาจพบการอักเสบของหลอดเลืดดำบริเวณที่ให้ยา
ยากลุ่ม taxanes
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับยากลุ่ม vinca alkaloids
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ
อวัยวะส่วนปลายบวม พบมากใน
ยา Docetaxel
คลื่นไส้ อาเจียน
ตัวอย่างยา
Paclitaxel, Docetaxel และ Cabazitaxel
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งปอด
รักษามะเร็งรังไข่
ยา Cabazitaxel ใช้ร่วมกับ steroids รักษามะเร็ง
ต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายและดื้อยา
Paclitaxel ถ้าใช้หลายครั้งอาจทำให้เกิดภาวะคั่งน้ำในร่างกายอาจรุนแรงถึงขั้นเกิด pulmonary edema ได้
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
กลไกการออกฤทธิ์
ลดระดับปริมาณ hormone ในร่างกาย
ลด Hormone ที่ไป
กระตุ้นการเติบโต
Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/ แบ่งตัวได้
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Glucocorticoids
ได้แก่
Prednisolone
Prednisone
Hydrocortisone
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s และ
Non-hodgkin lymphoma
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL
ผลข้างเคียงของยา
มีโอกาสติดเชื้องง่าย
โรคกระดูกพรุน (osteoporosis)
โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
Antiestrogens
ได้แก่
Tamoxifen
Toremifene
Raloxifene
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
Tamoxifen เป็นตัวเลือกแรก ใช้รักษามะเร็งเต้านม
Toremifene รักษามะเร็งเต้านม
Raloxifene ป้องกันการเกิดมะเร็งกระดูกพรุน
ผลข้างเคียงของยา
ร้อนวูบวาบ, คลื่นไส้, อาเจียน
มีเลือดประจำเดือนผิดปกติ
ใช้ระยะยาว เสี่ยงเกิด
thromboembolic diseases
Androgen (anti androgens)
ได้แก่
Goserelin
Leuprolide
Abarelix
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
Goserelin และ Leuprolide
รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
รักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
Abarelix
ใช้บรรเทาอาการผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
ผลข้างเคียงของยา
ร้อนวูบวาบ
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ระยะแรกทำให้เซลล์มะเร็งเจริญมากขึ้น จากผลกระตุ้น การหลั่ง FSH และ LH
Progestins
ได้แก่
Megestrol acetate
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเต้านม
รักษามะเร็งไต
รักษามะเร็งเยื่อบุมดลูก
ผลข้างเคียงของยา
Progestins เพิ่มอุบัติการณ์การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
การออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งสัญญาณที่ทำให้เซลล์มะเร็งเพิ่มจำนวนและเติบโต
ประเภทของยา
ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี
(Monoclonal antibodies)
การออกฤทธิ์ของยา
จับกับโมเลกุลเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์ หรือ บนผิวเซลล์
ยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวหรือเจริญเติบโต
ตัวอย่างยา
Transtuzumab
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจับกับ HER-2
receptor
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายไปแล้ว
ผลข้างเคียง
อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง
Rituximab
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจับกับ CD20
ที่ผิว B cell
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B-cell lymphoma
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
อาจทำให้เกิด Infusion reaction ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
Cetuximab
กลไกการออกฤทธิ์
จับที่EGFR
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งศีรษะและลำคอ
รักษามะเร็งลำไส้ส่วนล่าง
ผลข้างเคียง
ในระยะแรกอาจทำให้ความดันต่ำ และหายใจลำบาก
Alemtuzumab
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับCD52
1 more item...
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด BCLL
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก
อาจทำให้เกิด Infusion reaction ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
ยาโมเลกุลขนาดเล็ก
(Small molecules)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งเอนไซม์ tyrosine kinase
เกิดกระบวนการยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวหรือเจริญเติบโตและแบ่งตัวเซลล์ และยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ของก้อนเนื้อ
มะเร็ง
ตัวอย่างยา
Imatinib
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษา gastrointestinal stromal tumor
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว
Dasatinib
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CMLและ
ALL
รักษามะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib
Nilotinib
การนำไปใช้รักษาในคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML และ
ALL
รักษามะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ไปยับยั้งเอนไซม์ CYP450
CYP3A4
CYP2C9
CYP2D6
ยาต้านเชื้อราในกลุ่ม Azole และ Erythromycin
ผลข้างเคียง
มีของเหลวคั่งในร่างกาย
บวมน้ำ
กดไขกระดูกทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดneutrophil ต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
Dasatinib และ Nilotinib ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ จนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ยากลุ่มอื่นๆ (Other anticancer agents)
Asparaginase
กลไกการออกฤทธิ์
ยาเร่งปฏิกิริยา hydrolysis
เซลล์มะเร็งขาดสารจำเป็นที่จะนำไปสร้างการเจริญเติบโตและสร้างโปรตีน
เซลล์ไม่สามารถสังเคราะห์และสร้างตัวเองได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL ใน
เด็ก โดยใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone
ผลข้างเคียง
ปฏิกิริยาแพ้ที่รุนแรงอาจทำให้เสียชีวิต
ตับอ่อนอักเสบ
เกิดพิษต่อตับ
ชัก
โคม่า
Mitotane
กลไกการออกฤทธิ์
รบกวนการทำงานของไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตชั้นนอก
ฝ่อลงและลดการสร้าง cortisol
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษามะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก
ผลข้างเคียง
อาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า, มึนศีรษะ และมีผื่น
คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, อุจจาระร่วง และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมะเร็งโดยรวม
ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาครั้งแรก พยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วย และครอบครัวโดยการให้ความรู้และคำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับ เหตุผลของการให้ยาเคมีบำบัด ผลดีของการให้ยาเคมีบำบัด ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิด ขึ้นจากการให้ยาเคมีบำบัด แผนและขั้นตอนในการให้ยาเคมีบำบัด
กรณีที่รับประทานยาที่บ้าน แนะนำให้รับประทานยาตรงเวลา ขนาดที่แพทย์กำหนดเพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา
แนะนำให้ดูแลสุขภาพสุขวิทยาส่วนบุคคล
ประเมินภาวะสุขภาพของผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยา โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาที่มีผลข้างเคียงสูงและได้รับยาหลายๆชนิดในเวลาเดียวกัน
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและหลังให้ยา
แนะนำผลข้างเคียงที่อาจพบ
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดหรือสัมผัสกับบุคคลที่เป็นโรคติดต่อ โรคติดเชื้อ
ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกแล้วงดผักสด ผลไม้ที่รับประทานทั้งเปลือก เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากอาหาร
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
ใช้กด หรือ ลดความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ทางการแพทย์
รักษาและป้องกันโรคต่างๆที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากจนผิดปกติ
ภาวะ acute graft rejection จากการ
ปลูกถ่ายอวัยวะ
ป้องกันและรักษาการเกิดภูมิคุ้มกันจากเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ภาวะ graft versus host disease
(GVDH) จากการปลูกถ่ายไขกระดูก
รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวตัวเอง
rheumatoid arthritis
psoriasis
SLE
กดภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง
ป้องกันการเกิด Rh hemolytic diseases ในทารกแรกเกิด
ยากดภูมิคุ้มกัน
กลุ่มยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurin inhibitors)
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Cyclosporine A
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งเอนไซม์ calcineurin
ยับยั้งการสร้างและหลั่ง IL2 จาก T cell
T lymphocyte activation ลดลง
การนำไปใช้ทางคลินิก
ป้องกันและรักษาAcute graft rejection ในผู้ป่วยที่ถ่ายไต หัวใจ ปอดและตับใช้ร่วมกับ corticosteroids และ cytotoxic agents หรือ mTOR inhibitor
ใช้ป้องกันและรักษาGVHD ในผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายไขกระดูกใช้ร่วมกับ Corticosteroids
ใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเอง
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ม่านตาอักเสบ
โรคเรื้อนกวาง
ผลข้างเคียง
พิษต่อไต
กดไขกระดูกน้อย เสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อย เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
พิษต่อระบบประสาท
แขนขา ชา สั่น
Tacrolimus
กลไกการออกฤทธิ์
คล้ายกับ Cyclosporin แต่เป็นยาใหม่กว่าและฤทธิ์แรงกว่า 100 เท่า
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้แทน Cyclosporin ในการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ(organ transplantation)
เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย และลดขนาดของยา corticosteroids ที่ใช้ร่วมด้วยได้
ผลข้างเคียง
คล้ายกับ Cyclosporin แต่ไม่ทำให้เหงือกบวมและขนดก
พิษต่อระบบประสาท พบบ่อยกว่า Cyclosporin
ปวดศีรษะ
นอนไม่หลับ
กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic agents)
ตัวอย่างในกลุ่มนี้
Azathioprine
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสร้าง DNA, RNA และโปรตีน
active metabolite คือ
6-thioinosinic acid
ยับยั้งเอนไซม์ต่างๆในการสร้าง
purine
ยับยั้งการสร้าง DNA และยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้ร่วมกับ corticosteroids และ cyclosporinในการรักษาแบบ triple therapy
รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเองหลายชนิด
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่รุนแรงไม่ตอบสนองต่อยาอื่น
โรคโลหิตจาง ชนิด autoimmune hemolytic anemia
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือดขาวหรือเกร็ดเลือดต่ำ
คลื่นไส้, อาเจียน, เกิดพิษต่อตับ เมื่อให้ในขนาดสูง
ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ผมร่วง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เพลีย, ผื่น
Mycophenolate mofetil (MMF)
กลไกการออกฤทธิ์
ยาถูกเปลี่ยนเป็น MPA
ยับยั้งเอนไซม์ IMPDH
ยับยั้งการสร้าง
purine
1 more item...
การนำไปใช้ทางคลินิก
ป้องกันและรักษา acute graft rejection จากการปลูกถ่ายอวัยวะ (ใช้ร่วมกับยาตัวอื่นแทน Azathioprine)
ผลข้างเคียง
พบบ่อย
กดไขกระดูกทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ท้องร่วง อาเจียน
พบน้อย
ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
ตับอ่อนอักเสบ
พิษต่อตา
Sirolimus หรือ Everolimus
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการทำงานของ mTOR
ยับยั้งการเจริญและแบ่งตัวของ T cell
ยับยั้งการตอบสนองของ T cell ต่อ IL-2
การนำไปใช้ทางคลินิก
ป้องกันการเกิด acute graft rejection ใช้ร่วมกับ corticosteroids และ cyclosporin
ใช้กดระบบภูมิคุ้มกัน
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูกทำให้เกล็ดเลือดต่ำและเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้ติดเชื้อง่าย ซีด
ภาวะโพแทสเซียมต่ำในเลือด
Leflunomide
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสังเคราะห์
pyrimidine
ยับยั้งการสร้าง DNA, RNA
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านการเจริญเติบโตของเซลล์
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียง
พิษต่อตับ พิษต่อไต ต่อทารกในครรภ์
กดไขกระดูกทำให้เกล็ดเลือดต่ำและเม็ดเลือดขาวต่ำทำให้ติดเชื้อง่าย
กลุ่มอดรีโนคอร์ติคอยด์ (Adrenocorticoids)
ได้แก่
Prednisolone
Prednisone
Betamethasone
Dexamethasone
Methyprednisolone
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ steroid
receptor ภายในเซลล
ยับยั้งการสร้าง mRNA ของโปรตีนรวมทั้ง cytokine ต่าง ๆ
กดการทำงานของเซลล์ macrophage, T และ B lymphocyte
ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ lymphocyte
ยับยั้งการสร้าง cytokine หลายชนิด
ทำให้ lymphocyte ในเลือดลดลง
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้กดอาการแสดงของโรคภูมิคุ้มกัน เช่น SLE
ป้องกันและรักษาการต้านเนื้อเยื่อจากการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลข้างเคียง
ความรุนแรงขึ้นกับขนาดและระยะเวลาในการใช้ยา
เพื่อลดผลข้างเคียง ควรใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น cyclosporine
ใช้ระยะเวลานาน จะส่งผลต่อร่างกายหลายระบบ
น้ำหนักตัวเพิ่ม
ติดเชื้อง่าย
อารมณ์แปรปรวน
กลุ่มสารยับยั้ง Cytokines (Cytokines inhibitors)
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Anti-IL-2 receptor antibody
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้ง IL-2
ทำให้ lymphocyte ไม่ถูกกระตุ้น
ภูมิคุ้มกันร่างกาย
ไม่ถูกกระตุ้น
1 more item...
การนำไปใช้ทางคลินิก
ป้องกัน acute graft rejectionจากการปลูกถ่ายไต (ใช้ร่วมกับยา cyclosporine
และ corticosteroids)
ผลข้างเคียง
อาจพบอาการแพ้ยาได้
Anti-CD2
ยาตัวอย่างในกลุ่มนี้
Alefacept
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ CD2 บนผิว T cell
ยับยั้งการกระตุ้นและเกิดการทำลาย T cell
จำนวน T cell ในเลือดลดลง
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
ผลข้างเคียง
ไข้, หนาวสั่น, ปวดกล้ามเนื้อ, ติดเชื้อได้ง่าย
ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วย HIV
Anti-TNF-α antibody
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ TNF-α
ลดการหลั่ง IL-1, IL-6 เพิ่มการส่งเม็ดเลือดขาวไปยังบริเวณที่อักเสบ
ลดการเกิดการอักเสบ
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ร่วมกับยา Methothexate ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อกลุ่มยา DMARDs
รักษา Crohn’s disease ที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูกทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
วัณโรคหรือติดเชื้อทางเดินหายใจ
พบปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีดยา เช่น ผื่นแดง คัน ปวดหรือบวม
ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
Anti-IgE mAbs
กลไกการออกฤทธิ์
ปิดกั้นการจับของ IgE
กับ Fc receptor
ลดการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการแพ้แบบ
hypersensitivity reaction ชนิดที่ 1
ลดการเกิดการอักเสบ
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษาโรคหอบหืดที่เกิดจากภูมิแพ้ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อ steroids ชนิดสูดพ่น
ผลข้างเคียง
อาจเกิด Anaphylactic reaction
เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น และ อาจเหนี่ยวนำทำ
ให้เกิดมะเร็งได้
ATG และ ALG
ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
Lymphoglobulin
Thymoglobulin
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับโมเลกุลบนผิว T cell
ยับยั้งการแบ่งตัวของ T cell และเกิดการทำลาย T cell
กดภูมิคุ้มกันแบบ cell-mediated immune response
1 more item...
การนำไปใช้ทางคลินิก
รักษา Acute transplant rejection จากการปลูกถ่ายไต ใช้ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันอื่น ๆ
รักษาโรคไขกระดูกฝ่อ
ผลข้างเคียง
ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ
เป็นตุ่มตามผิวหนัง
เสี่ยงติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันโดยรวม
ในกรณีผู้ป่วยได้รับยาครั้งแรก พยาบาลเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวโดยการให้ความรู้และคำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับ เหตุผลของการให้ยากดภูมิคุ้มกัน ผลดีของการให้ยากดภูมิคุ้มกันและภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการให้ยากดภูมิคุ้มกัน
แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อหรือผู้ป่วยโรคติดต่อ
ยากดภูมิคุ้มกันหลายๆชนิดมีผลกดการทำงานของไขกระดูกอาจทำให้มีโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวและเกร็ดเลือดต่ำได้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ซีด มีไข้ไม่สบายหรือมีจ้ำเลือด ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน