Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ยาต้านมะเร็ง(Antineoplastic drugs) 560 x 292-01(39) - Coggle Diagram

- - - - ระยะพัก cell แบ่งตัวสมบูรณ์แล้ว
        หากได้สัญญาณการแบ่งตัว
        ก็จะเปลี่ยนเข้าสู่ G1 phase
    - - ระยะการแบ่งตัว cell เริ่มสร้าง
        โปรตีน + เอนไซม์เพื่อใช้สร้าง
        DNA และ RNA
    - - Cell สร้างและสังเคราะห์ DNA ที่
        เหมือนกัน อีก 1 ชุด
    - - Cell สร้างองค์ประกอบต่าง ๆ
        และแบ่งเป็น 2 เซลล์
    - - Cell แบ่งตัวแบบ mitosis
- - - - 1.1Cyclophosphamide
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ยาถูกเปลี่ยน
        โดย CYP450ให้กลายเป็น Phosphoramide
        mustard
        
        การนำไปใช้
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        รังไข่, เต้านม, เม็ดเลือดขาวทุกชนิด,
        กดภูมิคุ้มกัน : ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ
      - 1.2Ifosfamide
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        คล้ายกับ Cyclophosphamide
        
        การนำไปใช้
        รักษากลุ่มมะเร็ง : ต่อมน้ำเหลือง, อัณฑะ
      - 1.3Chlorambucil
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        แทรกการเชื่อมจับสาย DNA ของ cancer cell แบบ cross-linking
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        เป[นยามาตรฐานในการรักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLL
      - 1.4Carmustine
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        เกิด หมู่ alkyl ไปจับกับสายของ DNA ของ cancer cell
        เกิดเป็นDNA (cancer cell) : Strand break
        
        การนำไปใช้ทาง
        คลินิกมะเร็งสมอง
      - 1.5Dacarbazine
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ยาถูกเปลี่ยนโดย CYP450
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin’s lymphoma
      - 1.6Cisplatin, Carboplatin
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        แทรกการเชื่อมจับสาย DNA ของ cancer cell
        ยับยั้ง DNA replication และ DNA transcription
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        รักษากลุ่มมะเร็ง
        อัณฑะ, รังไข่, กระเพาะปัสสาวะ
      - 1.7Busulfan
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        คล้ายกับ Cisplatin
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML
        ให้ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
      - 1.8Mechlorethamine
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        คล้ายกับ Cisplatin
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ปัจจุบัน ใช้น้อยลง,
        เปลี่ยนไปใช้ cyclophosphamide และยาอื่น ๆ แทน
      - ผลข้างเคียงยากลุ่ม “Alkylating agents
        
        การทำงานของกระดูก
        Bone marrow suppression, leucopenia, anemia
    - - **2. 1ยากลุ่ม Antifolate
        
        2.1.1 Methotrexate
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ (DHFR) ที่เปลี่ยนเป็น Dihydrofolate
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        รักษากลุ่มมะเร็ง : มะเร็งรก, ศีรษะและคอ, ปอด,
        
        2.1.2 Pemetrexed
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ยาถูก metaboliteสารที่มีฤทธิ์ยับยั้ง
        การสังเคราะห์+ สร้าง สารตั้งต้นของ DNA, RNA, โปรตีน
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        รักษามะเร็ง ปอดและตับอ่อน
      - 2.2Purine analogs
        
        2.2.1 6-mercaptopurine (6-MP)
        
        2.2.1กลกไกลการออกฤทธิ์
        เป็นโครงสร้างคล้ายพิวรีน purine เมื่อเข้าสู่กระเเสเลือดจะถูกเปลี่ยนเป็นนิวคลีโอไทด์ ribonucleotide
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL และ AML
        
        2.2.2 ยา 6-thioguanine(6-TG)
        กลไกการออกฤทธิ์ คล้า
        
        กลไกการออกฤทธิ์ คล้าย กับ 6-MP
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL หรือ AML
        
        2.2.3 ยา Fludarabine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        เข้าไปแทรกในกระบวนการเชื่อมจับของสาย DNA เกิดการยับยั้งชั่งใจ สร้าง DNA
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        เป็นพิษต่อทางเดินอาหาร
      - 2.3 pyrimidine analogs
        
        2.3.1 5-fluorouracil (5-FU)
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ thymidylate synthase
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ รักษามะเร็งเต้านม
        
        2.3.2 capectibine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        คล้ายกับ 5-FU
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษาเพื่อบรรเทาอาการpalliative treatment ในผู้ป่วยมะเร็งที่แพร่กระจายเเล้ว
        
        2.3.3 cytarabine
        
        กลไกกราออกฤทธิ์
        ยาจะไปเติมหมู่ ฟอสเฟต ทำให้เกิดการยับยั้ง การเชื่อมต่อสายของ DNA
        
        2.3.4 Gemcitabine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยาจะไปกระตุ้นให้มีการเติมหมู่ฟอสเฟตเชื่อมจับกับสาย DNA
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งตับอ่อนที่แพร่กระจายไปแล้ว
    - - 3.1 Dactinomycin
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        สอดแทรกเข้าไปสาย DNA ยับยั้ง RNA polymerase
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้ร่วมกับยาvincristine ในการรักษา Wilma ‘tumor
      - 3.2Doxorubicin (DOX )
        ยาปฏิชีวนะ กลุ่ม antihracyclines
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยับยั้ง topoisomerase 2
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
      - 3.3 Bleomycin
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        โดยจะจับกับธาตุเหล็ก ได้เป็นองค์ของยาเชิงซ้อน
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษาโรคมะเร็งอัณฑะ(testicular cancer ) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
      - 3.4 mitomycin
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยาจะถูกเปลี่ยนแปลงในเซลล์ไปเป็นสาร Alkylating agents ที่มีฤทธิ์
        เเรงมาก
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
    - - 4.1ยากลุ่ม vinca alkaloids
        กลไกการออกฤทธิ์ ยาจะไปจับกับโปรตีน tubuliflore ทำให้ยับยั้งการประกอบ microtubules
        
        4.1.1 vincristine (VCR)
        
        การนำไปใช้ในทางคลินิก
        ใช้รักษมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิด acute lymphocytic
        
        4.1.2 vinblasrine (VLB )
        
        การนำ ไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด hodgkin’s และ non -Hodgkin lymphoma
        
        4.1.3 vinorelbine navelbine
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษา non -small cell lung cancer และมะเร็งเต้านม
      - 4.2 ยากลุ่ม t’axa es
        ได้แก่ paclitaxel taxol
        docetaxel taxotere และ cabazitaxel
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยาจะไปจับกับกลุ่ม เบต้า tubulin ทำให้เพิ่มการก่อตัว
    - - 5.1ยากลุ่มสเตอรอยด์ Glucocorticoid
        ได้แก่ prednisolone ,prednisone และ hydrocortisone
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเม็ดเลือดขาว
      - 5.2 ยาฮอร์โมนเอสโตเจน anti estrogens
        ได้แก่ toremifene raloxifene
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        -tamoxifen เป็นตัวเลือกแรกในการรักษามะเร็งเต้านม
        -toremifene ใช้รักษามะเร็งเต้านม และ Raloxfene ใช้การป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคกระดูกพรุน
      - 5.3 ยาออกฤทธิ์ด้านฮอร์โมน androgen
        ได้แก่ Goserelin Leuprolide. Abarelix
        
        การนำไปใช้รักษาในคลินิก
        ยา Goserelin เป็นยาที่ใช้ฝังในกล้ามเนื้อ ส่วนยา Leuprolide เป็นยาฉีด เข้าชั้นใต้ผิวหนัง
      - 5.4 ยาฮอร์โมน โปรเจสติน progestin seems
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งเยื่อบุมดลูก endometrial carcinoma
    - - 6.1 เป็นยาโมโนโคลแอนติบอดี
        monoclonal antibodies
        การจับฤทธิ์ โดยจับกับโมเลกุลเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์หรือบนผิวของเซลล์ มะเร็ง แบบเจาะจง
        
        6.1.1 trastuzumab
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ยาจะไปจับกับ human epidermoid growth factor receptor
        2 (HER -2 )ไม่สามรถส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษาโรคมะเร็งเต้านมที่เเพร่กระจายไปเเล้ว
        
        6.1.2 Rituximab
        
        กลไกออกฤทธิ์
        ยาไปจับกับ CD20 ที่ผิว B cell หลังที่จับกัน เเล้วจะกระตุ้น
        
        การนำไปใช้รักษาทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด B-cell lymphoma
        
        6.1.3 cetuximab
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ซึ่งจะจับที่ epidermal growth factor EGFR ทำให้ไม่สามารถรับสัญญาณที่จะไปกระตุ้น
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษา มะเร็งบริเวณศรีษะเเละลำคอและมะเร็งลำไส้ส่วนล่าง
        
        6.1.4 AlemtuZumab
        กลไกการออกฤทธิ์ไปจับกับ CD52 กระตุ้นให้เกิดการตอบสนอง ของระบบบภูมิคุ้มกันให้มากำจัด เซลล์มะเร็งต่อไป
      - 6.2 ยาโมเลกุลขนาดเล็ก (small molecules)
        
        กลไกการออกฤทธิ์ยากลุ่ม small molecules
        ยับยั้งเอนไซม์ ไคเนส (tryosine kinase) มีความสำคัญ ในการส่งสัญญาณ ใหเซลล์มะเร็ง ทำให้เกิดกระบวนการยับยั้งการเจริญเติบโต เเละเเบ่งตัวของเซลล์
        
        6.2.1 lmatinib
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        ใช้รักษา gastrointestinal stromal tumor ซึ่งเป็นมะเร็งลำไส้ที่พบได้น้อยชนิดหนึ่งและมะเร็ง เม็ดเลือดขาว
        
        6.2.2 Dasatinib
        
        การนำไปใช้รักษาทางคลินิก
        ใช้รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด chronic myeloid leukemia
        
        6.2.3 Nilotinib
        
        การนำไปใช้การรักษาทางคลินิก
        ใช้รักษา chronic myeloid leukemia
    - - Asparaginase
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ยาเร่งปฏิกิริยา hydrolysis
        ทำให้Cancer cell ขาดสารที่ใช้แบ่งตัวและเติบโต
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL ใน
        เด็ก (ใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone)
      - Mitotane
        
        กลไกการออกฤทธิ์ของยา
        ทำให้ไมโตครอนเดรียในเซลล์ต่อมหมวกไตชั้นนอกฝSอลง
        
        การนำไปใช้ทางคลินิก
        มะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenocortical carcinoma)