Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและ การประกอบวิชาชีพพยาบาล - Coggle…
บทที่ 6
ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและ
การประกอบวิชาชีพพยาบาล
วิธีปฏิบัติตัวของพยาบาลวิชาชีพ
เมื่อกระทำผิดกฎหมาย
การจัดเตรียมบันทึกและเอกสารสาคัญที่เกี่ยวข้องให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีทุกชนิด
การศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนหรือการฟ้องร้องในคดีต่างๆ ที่มีความเกี่ยวพันกัน เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องคดีจริยธรรมและโทษทางการประกอบวิชาชีพ กฎหมายแพ่งโทษทางละเมิด
การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยพิจารณาตามความจำเป็นและความพร้อมของหน่วยงาน
การสังเกตสัญญาณอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผู้ป่วยอาการทรุดลงหรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิต ความวิตกกังวลที่อาจนาไปสู่ความไม่พอใจที่รุนแรง
เตรียมตัวต่อสู้คดี เตรียมทนายความและเตรียมเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจมีการเจรจายอมความ เจรจารอมชอมโดยคนกลาง
การให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นจริงในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อจากัดในการรักษาและการพยาบาลโดยยึดถือคาประกาศสิทธิผู้ป่วยและกฎระเบียบของโรงพยาบาล
การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ต่อผู้ป่วยและญาติ มีความเห็นอกเห็นใจและเห็นคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อย่าเอาแต่ใจตนเอง
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพยาบาลวิชาชีพ
ต้องขึ้นศาลในฐานะพยานบุคคล
การให้ปากคาตามคาซักถามของทนายและตามคาอนุญาตของศาล พยาบาลจะต้องเรียบเรียงเหตุการณ์และถ้อยคาที่สั้นกระชับ พูดให้เสียงดังชัดเจนและไม่ควรกลัว
การให้ความเคารพแก่ศาลอย่างเหมาะสม เมื่อไปศาลพยาบาลต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ระวังกิริยามารยาท และทาความเคารพแก่ศาลเช่นเดียวกับผู้อื่น
การสาบานตนตามความเชื่อในศาสนาหรือหลักการที่ตนยึดถือต่อหน้าศาลก่อนที่จะเริ่มให้ปากคำ
ห้ามนำหมายศาลไปเผยแพร่ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ เช่น ในสังคมออนไลน์หรือช่องทางอื่นใด โดยศาลจะถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพแก่ศาลด้วย
การรับหมายศาลที่โจทก์ก็ตามที่อ้างให้พยาบาลเป็นพยานในคดี ถือเป็นความรับผิดชอบที่พยาบาลจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด โดยให้ถือว่าเป็นการไปปฏิบัติงานตามหน้าที่ไม่ต้องลางาน แต่ต้องแจ้งหัวหน้างานรับทราบเพื่อจัดผู้ปฏิบัติงานแทน
พฤติกรรมของพยาบาลที่มีความเสี่ยงต่อ
การกระทำผิดกฎหมาย
พฤติกรรมทางวิชาชีพ
เผยแพร่ชื่อเสียงของวิชาชีพให้ประจักษ์แก่คนทั่วไป เป็นผู้นำทางการพยาบาล ส่งเสริมการศึกษาและการปฏิบัติการพยาบาล สนับสนุนการทางวิจัยทางการพยาบาล
เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึง
ความพยายามสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพ
พฤติกรรมทางสังคม
การทาให้สังคมไว้วางใจในพยาบาลและวิชาชีพการพยาบาล การยึดหลักความเสมอภาคในสังคม ประกอบวิชาชีพบนพื้นฐานจริยธรรม
และจรรยาบรรณพยาบาล
เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของพยาบาลต่อสังคม
พฤติกรรมบริการ
รับผิดชอบต่อการบริการที่มีคุณภาพสูง มีน้าใจสนใจเอาใจใส่ รับฟังและช่วยแก้ปัญหา รักษาความลับ ปลอบโยนให้กาลังใจให้บริการโดยมุ่งความเป็นเลิศ
เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่มีต่อผู้รับบริการในด้านการเคารพในสิทธิมนุษยชนและสิทธิผู้ป่วย
พฤติกรรมส่วนตัว
การแต่งกายที่สะอาดสุภาพเรียบร้อยถูกระเบียบ
รักษาสุขวิทยาส่วนบุคคล วางตัวเหมาะสมตามกาลเทศะ
เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึง
ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและต่อวิชาชีพ
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพยาบาลวิชาชีพ
ต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลย
การเตรียมแฟ้มเอกสารทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับคดีและมาตรฐานการรักษาพยาบาลเพื่อประกอบคำชี้แจงให้ศาลเข้าใจตามคดีที่เกิด
การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเจรจาและการต่อสู้คดีของพยาบาล กรณีการฟ้องคดีแพ่ง : ความรับผิดในทางแพ่ง (มาตรา 420) การฟ้องคดีอาญา: ความรับผิดในทางอาญา (มาตรา 59) การต่อสู้คดี เช่น เหตุสุดวิสัย ความจำเป็นในการรักษา
การให้ปากคำแก่ศาลอย่างตรงไปตรงมาและกระชับตรงประเด็น
การป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมาย
การให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ ต้องเป็นจริงไม่ลำเอียงด้านใดด้านหนึ่ง และเป็นเฉพาะข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น และให้ข้อมูลโดยเคารพในความสูญเสียของผู้ป่วยและครอบครัวเป็นสำคัญ
การไม่ประมาทและทาตามมาตรฐานวิชาชีพ การปฏิบัติการพยาบาลต่อผู้ป่วยต้องใช้ความเอาใจใส่และความรับผิดชอบตลอดเวลา ความบกพร่องของงานจะเกิดขึ้นได้ยาก
มีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นแกนกลางที่สาคัญในการประกอบวิชาชีพ หากยังเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้อีก สิ่งเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นด้วยความไม่เจตนาที่จะละเลยคุณธรรม
การรายงานข้อมูลที่สาคัญแก่แพทย์ ทั้งที่เกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยและข้อมูลอื่นๆ ความรอบคอบในการรายงานแพทย์เป็นสิ่งสาคัญที่จะป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดแก่ผู้ป่วย
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งผู้ร่วมงานทุกคนที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดปัญหาทุกคนจะได้ร่วมมือกันหาทางแก้ไขให้เกิดผลดีที่สุดแก่ผู้ป่วย
การทำงานเกินขอบเขตของพยาบาลเป็นสิ่งที่อาจก่ออันตรายแก่
ผู้ป่วย ดังนั้นจึงต้องเข้าใจความสามารถและหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง รวมทั้งความรับผิดชอบของแพทย์ด้วย โดยยึดความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก
ใช้ความรู้และทักษะในการทำงานเมื่อสามารถพิสูจน์ได้ หากเกิดความผิดพลาดก็อาจเนื่องด้วยเหตุสุดวิสัย ซึ่งพอจะหาทางแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น