Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อทางศาสนา (ศาสนาอิสลาม) -…
หลักการดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อทางศาสนา
(ศาสนาอิสลาม)
สาระสำคัญ
อิสลาม
แปลว่า การยอมจำนน การปฏิบัติตาม และการนอบน้อม
(ต่อพระเจ้าคือ พระอัลลอฮ์)
ศาสดาของศาสนาอิสลาม คือ นบีมูฮัมหมัด
มีผู้นับถือมากเป็นอับสอง รองจาก ศาสนาคริสต์
ผู้นับถือศาสนาอิสลาม คือ มุสลิม เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า
ผู้ที่นอบน้อม ยอมจำนนนต่อข้อบัญญัติพระอัลลอฮ์
ศาสนาอิสลามมีต้นกำเนิดที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย
ศาสนสถานของชาวมุสลิมคือ มัสยิด หรือ สุเหร่า (แปลว่า สถานที่กราบ) เป็นที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เป็นโรงเรียน เป็นที่พบปะชุมนุม ทำบุญ เลี้ยงฉลอง จัดพิธีมงคลสมรส สถานที่พักพิงของผู้ไรร้ที่พำนัก
สัญลักษณ์ ศาสนาอิสลาม
รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และดาวอยู่ข้างบน
ดาว
คือเครื่องหมายนำทาง บอกทิศเมื่อมนุษย์ต้องเดินทางกลางทะเล หรือทะเลทราย ชาวอาหรับสมัยก่อนเดินทางตอนกลางคืนเพราะตอนกลางวันอากาศกลางทะเลทรายจะร้อนมาก
ดาวคือเครื่องหมายในการบอกทิศทาง
เดือนครึ่งเสี้ยว
คือเครื่องหมายของกาลเวลา เดือนส่งผลถึงระดับน้ำขึ้นน้ำลงที่แตกต่างกัน เดือน คือการกำหนดเวลาเริ่มต้นของเดือนใหม่และสิ้นสุดเดือนเก่า เดือนคือเวลา
ที่ผ่านไป
ที่มนุษย์ต้องใคร่ครวญถึงการกระทำของตัวเอง
สัญลักษณ์รูปเดือนครึ่งเสี้ยว
สำคัญที่สุด
จะเป็นสิริมงคล
ที่สุดของมุสลิมคือ
ในเดือนรอมฎอน
ที่ต้องอาศัยการดูดวงจันทร์เพื่อเข้าสู่เดือนแห่งการถือศีลอด
สองสิ่งนี้เป็นสิ่งเตือนใจ และเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์
ชาวมุสลิมจึงให้ความสําคัญและนำมาเป็นสัญลักษณ์ของอิสลาม
นิกายในศาสนาอิสลาม
นิกายซุนนี (Sunni)
ซุนนี แปลว่า มรรคา หรือจารีต เป็นนิกายของศาสนาอิสลามที่นับถือคัมภีร์เล่มหนึ่งชื่อ
ซุมนา
เป็นคัมภีร์อรรถกถาของคัมภีร์อัลกุรอาน ผู้นับถือคัมภีร์นี้เป็นผู้ที่เคร่งครัด ต้องการให้คัมภีร์เดิมอ่านง่ายและเข้าใจง่ายขึ้นจึงได้แต่งอรรถกถาอธิบายความในคัมภีร์เดิม
เป็นพวกออร์ธอดอกซ์ของอิสลาม และไม่ชอบให้ใครมาเปลี่ยนแปลงคำสอนที่มีอยู่เดิมในคัมภีร์ เพราะป้องกันการคลาดเคลื่อนในหลักคำสอนแท้จริง
พวกซุนนีถือว่าภายหลังจากที่นบีมุฮัมมัดเสียชีวิตแล้ว และได้มีกาหลิบที่สืบต่อมาอีกเพียง 4 คนเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ไม่มีกาหลิบสืบต่อ มีแต่ผู้นับถือศาสนาอิสลามธรรมดา
นิกายนี้ใช้หมวกสีขาวเป็นสัญลักษณ์และเป็นนิกายที่มีผู้นับถือมากที่สุดประมาณ 700 ล้านคน ถือว่าเป็นนิกายดั้งเดิม
ส่วนมากมีอยู่ในประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกา และชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย
มีผู้นับถือ 75-90%
นิกายชีอะฮ์หรือชิเอฮ์ (Shiah)
เชื่อกันว่าอิหม่าม หมายถึง หัวหน้าสุเหร่าหรือมัสยิด ซึ่งเป็นผู้สืบต่อศาสนาจากนบีมุฮัมมัด
อิหม่ามเป็นผู้หมดมลทินจากบาป และ เป็นสื่อกลางการติดต่อระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า เป็นผู้แปลถ้อยคำของพระเจ้าที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน
แยกออกมาจากนิกายซุนนี พวกชีอะฮ์ถือว่าต่อจากกาหลิบอะลีมาแล้ว เชื้อสายของอาลีควรจะได้รับการแต่งตั้งหรือทำการเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าทางศาสนาออกมาอีก
นิกายชีอะฮ์มีผู้นับถือมากที่สุดในประเทศอิหร่าน อิรัก อินเดีย อัฟกานิสถาน และซีเรีย
ชีอะฮ์ หรือชิเอฮ์ แปลว่า ผู้ปฏิบัติตาม หรือสาวก
มีผู้นับถือ10 -20 %
หลักการข้อบังคับของชาวมุสลิม
จะต้องรู้ จะต้องประพฤติ เริ่มตั้งแต่อายุ 3ขวบเป็นต้นไป
2.หลักปฏิบัติหน้าที่ในศาสนา (อิบาดะห์)
แบ่งได้เป็น 5 ประการ
3.การถือศีลอด
เป็นการฝึกฝนให้ตัวเองมีจิตผูกพัน และยำเกรงต่อพระเจ้า
เป็นการอดอาหารในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้อย่างตายตัวนั้น
ผู้ถือศีลอดจะรับประทานอาหาร 2 มื้อ คือ มื้อตอนดึกถึงก่อนฟ้ารุ่งสาง และมื้อค่าตอนเมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า
การถือศีลอดทำให้เกิดการประหยัดทั้งอาหารของโลก และสิ่งฟุ่มเฟือยสิ่งต่างๆ
4.การบริจาคศาสนทานซะกาต
2.การละหมาด หรือ สวด (นมาซ หรือ นมัสการ)
5เวลาต่อวัน
ได้แก่
เวลาเย็น
เวลาพลบค่ำ
เวลากลางวัน
เวลากลางคืน
เวลาย่ำรุ่ง
5.การประกอบพิธีฮัจญ์
1.การปฏิญาณตนเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม
3.หลักคุณธรรม (อิห์ซาน)
เป็นหลักเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่มุสลิมต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการดำเนินวิถีชีวิต
ฮารอม Harom Harom คือ การแต่งกาย การปกปิดส่วนควรสงวนของร่างกาย
แยกออกเป็นเพศได้ดังนี้
เพศชาย ให้ปิดระหว่างสะดือกับหัวเข่า
เพศหญิง ให้ปิดทั้งร่าง ยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือ
วัฒนธรรมแต่งกายของมุสลิมทั้งชายและหญิงมีสาระสำคัญเหมือนกันคือ มิดชิดและปิดศีรษะ
เรียกว่า การสวมใส่ ฮิญาบ
ฮาลาล Halal คือ การกระทำที่อนุญาต
1.หลักศรัทธา ความเชื่อในศาสนา
ศรัทธาในพระคัมภีร์อัลกุรอาน และมีคัมภีร์อื่นๆ เช่น นบีดาวูด(ดาวิด)
นบีมูซา (โมเสส) นบีอีซา (เยซู)
ศรัทธาในวันกียามะฮ์หรือ วันปรโลก วันคืนชีพ หลังจากวันสิ้นโลก มนุษย์ทุกคนรอวันตัดสินชาระความ
ศรัทธาในบรรดาศาสนทูต หรือ ศาสดาซึ่งมี 258
ท่านที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์ อัลกุรอาน
ศรัทธาในการลิขิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ศรัทธาในมลาอิกะฮ์ คือ บ่าวผู้สัตย์ซื่อของพระอัลลอฮ์ ไม่มีรูปกาย ไม่มีเพศ ไม่มีการดำเนินชีวิตเหมือนมนุษย์ เป็นสื่อกลางระหว่างพระอัลลอฮ์กับมนุษย์
1.ศรัทธาในพระเจ้าเป็นฐาน ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในพระเจ้า คือ พระอัลลอฮ์ อย่างไม่มีข้อสงสัย พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างทุกสิ่งในเอกภพ พระเจ้าสร้างอดัม(อิสลามเรียกท่านนบีอาดัม)
4.ทุกคนต้องเรียนรู้หลักการของศาสนาอิสลาม ไม่มีขอยกเว้นเป็นหน้าที่พึงปฏิบัติ
พิธีกรรมสำคัญในศาสนาอิสลาม
พิธีสุหนัต
เด็กชายมุสลิมอายุระหว่าง 2-10 ขวบ จะต้องได้รับพิธีสุหนัต
การตัดหนังหุ้มปลายองคชาติซึ่งถือว่า เป็นหน้าที่และเป็นสิ่งควรสรรเสริญ
จะมีการสวมพวงมาลัยให้เด็กก่อนแล้วจึงผ่าหรือตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เสร็จแล้วให้ของขวัญแก่เด็ก
ปัจจุบันนี้ เมื่อไปคลอดที่โรงพยาบาลอาจจะให้แพทย์ที่ทำคลอดทารกเพศชาย ตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของทารกนั้น เป็นการทำพิธีสุหนัตด้วยเลยก็ได้
พิธีการถือศีลอด
ชาวมุสลิมปฏิบัติในเดือนรอมฎอนตลอด 1เดือน
เป็นการอดอาหารการดื่มกินและเว้นการร่วมประเวณี
มุสลิมทุกคนควรจะได้ถือปฏิบัติกันโดยเคร่งครัด
(ยกเว้นผู้ป่วย / มีประจาเดือน / สตรีมีครรภ์)
การบริจาคศาสนทาน “ซะกาต”
มุสลิมต้องจ่ายให้แก่ผู้ที่มีสิทธิได้รับเมื่อครบรอบปี
ถ้ามุสลิมคนใดมีทรัพท์สิน เงินทอง สินค้าที่เหลือในรอบปีแล้วไม่ทำการบริจาค
ผู้นั้นก็ผู้หนึ่งที่ทำผิดบัญญัติของอิสลาม
วัตถุประสงค์ของการบริจาคซะกาต
เพื่อปลูกฝังให้มุสลิมทั้งหลายเป็นผู้มีจิตใจเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งกันและกัน
เพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในสังคมด้วยวิธีการสังคมสงเคราะห์
เพื่อชำระจิตใจของผู้บริจาคให้บริสุทธิ์ไม่ตกเป็นทาสแห่งวัตถุด้วยความโลภ และเห็นแก่ตัว
พิธีฮัจญ์
สาหรับชาวมุสลิมผู้มีฐานะดีมีสุขภาพดีบรรลุศาสนภาพ
โดยผู้ที่ควรไปเข้าร่วมปฎิบัติในพิธีฮัจญ์ ได้แก่
ผู้ชายอายุ 15 ปี
ผู้หญิง 19 ปี
การประกอบพิธีฮัจญ์
คือ การเดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ เมืองเมกกะประเทศซาอุดิอาระเบีย
มุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ มหานครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย
อย่างน้อย 1 ครั้ง
เป็นข้อบังคับสาหรับทุกคนที่มีความสามารถพอจะเดินทางไปได้
สถานที่ในการประกอบพิธีฮัจญ์มีเพียงแห่งเดียวโลก
สถานที่นี้มีทั้งราชาและยาจก นายและบ่าว ผิวขาว ผิวดำ ทุกคนแต่งกายเหมือนกันด้วยผ้าขาวเพียง 2 ชิ้น ทุกคนเท่าเทียมกัน
ผู้ที่ประกอบศาสนกิจนอกเหนือจากการละหมาด การถือศีลอด การบริจาคซะกาต การไปประกอบพิธีฮัจญ์มิใช่เพื่อโอ้อวดหรือเพื่อแสดงความมั่งคั่งของตน แต่เป็นการไปเพื่อทดสอบความศรัทธาและความเข้มแข็งอดทน
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพของศาสนาอิสลาม และ
การให้บริการทางการแพทย์และพยาบาล
ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพ
ห้ามทำแท้ง การทำแท้งจะทำได้ในกรณีจำเป็นที่ต้องรักษาชีวิตของแม่
การขลิบอวัยวะเพศชายเป็นเรื่องที่แนะนำให้ปฏิบัติ
การช่วยให้ฆ่าตัวตายหรือการุนฆาตเป็นเรื่องต้องห้าม
การช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายในการใส่เครื่องช่วยหายใจโดยผู้ป่วยมีภาวะเป็นผักเป็นเรื่องที่ไม่สนับสนุนให้ทำ
หลังคลอดจะมีการขอรกเอาไรปฝัง
การผ่าศพชันสูตรเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ยกเว้นเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย
การให้บริการทางการแพทย์และพยาบาล
การดูแลเรื่องอาหาร
การอดอาหารจะทำปีละครั้งช่วงเดือนรอมฎอน
ยกเว้นผู้ป่วยและหญิงตั้งครรภ์
มุสลิมจะล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร
การดูแลอาหารเป็นอาหาร ฮาลาลไม่มีหมู ไม่มีแอลกอฮอล์
มุสลิมจะใช้มือขวาในการจับอาหารและเครื่องดื่มในการประทาน
หากผู้ดูแลสัมผัสอาหารควรใช้มือขวา
การดูแลทางจิตวิญญาณ
การสวดมนต์จะทำวันละ5ครั้ง
การสวดมนต์จะหันหน้าไปทางเมืองเมกกะ
(หรือหันหน้าไปทางทิศตะวันตก)
มีสถานที่ล้างเท้าก่อนทำพิธี หรือจัดทำอ่างน้ำสำหรับอาบ
เพื่อทำการสวดทางศาสนา
ควรเอาสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาอื่นออกจากห้องผู้ป่วย
จัดสถานที่ละหมาด
การดูแลผู้ป่วยระสุดท้าย
มุสลิมต้องยอมรับการเจ็บป่วย ว่าเป็นสิ่งที่พระอัลลอฮ์กำหนดมาให้และต้องแสวงหาวิธีการรักษา การเจ็บป่วยเป็นสิทธิของพระอัลลอฮ์เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ผู้ป่วยต้องอดทนต่อการเจ็บป่วย การเจ็บป่วยย่อมได้รับการลดบาปและได้กุศล
ผู้ป่วยต้องเอามือตนเองวางบนส่วนที่ตนเจ็บ แล้วให้การละหมาด
หรือขอพรจากอัลลอฮ์
การขอพรจากพระอัลลอฮ์พร้อมจับมือผู้ป่วยหรือสัมผัส
การส่งเสริมกำลังใจ ตักเตือนให้เขาระลึกถึงความอดทน ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น และเชื่อมั่นว่าจะหายป่วย
ต้องไม่ตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์ผู้ป่วยและไม่แสดงท่าทีรังเกียจ ญาติต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ทอดทิ้งผู้ป่วย ถ้าไม่ดูแลถือว่าเป็นการกระทำที่สังคมรังเกียจ
ความเชื่อเกี่ยวกับความตายของมุสลิม
การจัดการศพตามวิถีอิสลาม
ให้นำศพมาอาบน้ำชาระสิ่งสกปรกที่ติดอยู่รีดท้อง เพื่อให้สิ่งปรกภายในเคลื่อนที่ออกมา แล้วรดน้าให้สะอาดทั้งตัว
นำศพมาวางบนผ้าขาวซึ่งปูไว้ 3 ชั้น นำมือไว้ที่ระดับอกให้มือขวาทับบนมือซ้ายแล้วห่อด้วยขาว 3 ชั้น
นำศพไปบรรจุในหีบศพถ้าหากอยู่ในที่กันดาร
ไม่ใช้หีบศพก็ได้แต่ให้ทำหลุมเพื่อเตรียมฝัง
เมื่อฝังในที่ใดแล้ว ห้ามขุดศพนั้นขึ้นมาไม่ว่าประการใด ๆ
การฝังให้วางศพนอนตะแคงข้างขวา หันหน้าศพไปทางทิศตะวันตกแล้วนำดินที่ขุดขึ้นมากลบไรปจนหมด