Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ - Coggle Diagram
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
การส่งเสริมสุขอนามัย
เป็นการส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงการคงไว้หรือรักษาไว้ซึ่ง สุขภาพและการป้องกันโรค
ความสำคัญของการส่งเสริมสุขอนามัย
การดูแลสุขภาพตนเองเป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติกันมาช้านานการทำความสะอาดร่างกาย
ตนเองเป็นพฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุกวันเมื่อบุคคลอยู่ในภาวะเจ็บป่วยจะไม่มีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจยาบาล
จะเป็นผู้ให้การพยาบาลเพื่อส่งเสริมความสุขสบายแก่บุคคลเมื่ออยู่ในภาวะเจ็บป่วยนั้น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
อายุ
ความแตกต่างของอายุจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน
เพศ
ความแตกต่างของเพศจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน เช่น เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ และไวต่อความรู้สึกกว่าเพศชาย
ภาวะสุขภาพ
เมื่อมีการเจ็บปุวยที่รุนแรงหรือเรื้อรังหรือเจ็บปวดหรือมีการเจ็บป่วย
ทางสุขภาพจิตทำให้ขาดความสนใจ หรือละเลยการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
การศึกษา
บุคคลที่มีการศึกษามักจะศึกษาค้นคว้า และมีความรู้ในการดูแลรักษา
ความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งทราบถึงประโยชน์ และโทษของการดูแลสุขอนามัย
ส่วนบุคคล
เศรษฐกิจ
บุคคลที่มีฐานะดี ย่อมมีโอกาสเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผม ปาก ฟัน
และให้เวลากับดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลมากขึ้น
อาชีพ
บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะมีความรู้วามเข้าใจและให้
ความสำคัญของการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
ถิ่นที่อยู่
การดำเนินชีวิตภายใต้ถิ่นที่อยู่ที่แตกต่างกันเช่น การดำเนินชีวิตในเขตเมืองและเขตชนบท
ภาวะการเจ็บป่วย
ในภาวะการเจ็บปุวย อาจส่งผลในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง
เช่น โรคหัวใจระยะที่ร่างกายอ่อนเพลียท าให้การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลงจึงต้องการการดูแลทดแทนจากผู้อื่น
สิ่งแวดล้อม
ในฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงท าให้รู้สึกร้อนอบอ้าวบุคคลที่อาศัยอยู่ในที่
อากาศร้อนก็จะอาบน้ำ หรือลูบตัวบ่อยครั้ง
ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ
จะเป็นผลต่อการดูแลตนเองเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคลเช่น ห้ามสระผมขณะมีไข้
ความชอบ
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการดูแล
สุขวิทยาส่วนบุคคลมาจากครอบครัว โรงเรียน และปลูกฝังจนเป็นอุปนิสัยในการดูแลตนเองด้านความสะอาดร่างกาย
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วยเป็นบทบาทอิสระของพยาบาลที่สามารถพิจารณากระทำได้ทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งของแพทย์เมื่อผู้ป่วยเข้านอนรักษาโรงพยาบาลจนถึง
จำหน่ายกลับบ้าน
ช่วงเวลาในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืดเป็นหน้าที่ความ
รับผิดชอบของพยาบาลเวรดึกมื่อผู้ป่วยตื่นนอนแล้ว
พยาบาลจะดูแลผู้ป่วยช่วยเหลือเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ
การพยาบาลตอนเช้าเป็นหน้าที่ของพยาบาลเวรเช้า
ที่จะให้การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยถ้าผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้บ้างหรือทำไม่ได้เลยพยาบาลจะช่วยเหลือ
ในการอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียง
การพยาบาลตอนบ่ายหรือตอนเย็น ป็นหน้าที่ของ
พยาบาลเวรเช้าหากท ากิจกรรมภายในช่วงก่อนเวลา 16.00 น. หากทำในช่วงเวลาตอนเย็นจะเป็นหน้าที่ของเวรบ่ายในการดูแลทำความสะอาดปากและฟัน
การพยาบาลตอนก่อนนอนเป็นหน้าที่ของพยาบาลเวรบ่าย เป็นการพยาบาลที่ให้การดูแลเรื่องการให้หม้อนอนหรือกระบอก
ปัสสาวะการล้างมือ ล้างหน้าทำความสะอาดปากฟัน
การพยาบาลเมื่อจ าเป็นหรือเมื่อผู้ปุวยต้องการพยาบาลให้การพยาบาลตามความต้องการของผู้ปุวยตลอด 24 ชั่วโมง
การดูแลความสะอาดร่างกาย
การดูแลความสะอาดของผิวหนัง/ การอาบน้ า
การอาบน้ำ
การอาบน้ำที่ห้องน้ำเป็น
การช่วยเหลือพาผู้ป่วยไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำโดยมากเป็นการอาบโดยใช้ฝักบัวหรือตักน้ำอาบร่างกายช่วยเตรียมของใช้
ให้พร้อม เปิดก๊อกน้ำให้ปรับอุณหภูมิที่เหมาะสม
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงเฉพาะบางส่วนป็นการ
ทำความสะอาดร่างกายผู้ปุวยที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างไม่สามารถอาบน้ าเช็ดตัวได้ครบทุกส่วน พยาบาลต้องช่วยเช็ดบางส่วนที่ผู้ป่วยไม่สารถเช็ดเองได้
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์ เป็นการทำความสะอาดร่างกายโดยการอาบน้ำเช็ดตัวให้ผู้ปุวยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทั้งหมดหรือผู้ป่วยที่จำกัดการเคลื่อนไหวบนเตียง
การนวดหลัง
การดูแลความสะอาดปากและฟัน
เป็นความสะอาดพื้นฐาน
ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นผู้ป่วยมีความมั่นใจในการสื่อสารด้วยวาจาและเมื่อสุขภาพของฟันแข็งแรง การเคี้ยวอาหารก็จะรับรู้ถึงความอร่อย
หลักการทำความสะอาดปากและฟัน
แปรงฟันทุกซี่ ทุกด้าน นาน 5 นาที
ผู้ป่วยที่มีปัญหาในช่องปากมีแผล ปากแห้ง ไม่สามารถรับประทานอาหาร
และน้ำทางปากได้ต้องทำความสะอาดปากและฟันให้ทุก 2 ชั่วโมง
ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวพยาบาลต้องทำความสะอาดปากและฟันให้เป็นพิเศษสำลีที่ใช้เช็ดทำความสะอาดต้องเปลี่ยนบ่อย
วิธีการทำความสะอาดปากและฟันผู้ป่วยที่ช่วยตนเองได้
พยาบาลแนะนำตนเองบอกให้ผู้ป่วยทราบและอธิบายวัตถุประสงค์ และ
วิธีการทำความสะอาดปากและฟันอย่างง่ายเพื่อความร่วมมือ
นำเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วยเพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน
ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง หรือท่านั่ง เพื่อความสะดวกของผู้ป่วย
ล้างมือและสวมถุงมือเพื่อป้องกันจุลินทรีย์ จากน้ำในช่องปากผู้ป่วยสู่
พยาบาล
ปูผ้ากันเปื้อนใต้คาง วางชามรูปไตใต้คาง ให้ผู้ป่วยช่วยถือไว้ หรือวางบนโต๊ะคร่อมเตียง (over bed) เพื่อปูองกันเสื้อผ้าและที่นอนเปียก
ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด และแปรงฟัน
การทำความสะอาดปากฟันในผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย
ใช้ลูกสูบยางดูดน้ำฉีดล้างช่องปากและในซอกระหว่างกระพุ้งแก้มและฟัน
ปล่อยให้น้ำไหลลงชามรูปไตที่รองไว้และใช้เครื่องดูดหรือลูกสูบยางอีกอันหนึ่งช่วยดูดน้ำออก แต่การใช้เครื่องดูดจะดีกว่า เพื่อป้องกันผู้ป่วยสำลักน้ำเข้าปอด
ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาบ้วนปาก
ทำความสะอาดเหมือนการแปรงฟันด้านนอก และเหงือกให้ทั่วอย่างถูกวิธี
ใช้ไม้กดลิ้น พันด้วยผ้าก๊อซเพื่อช่วยอ้าปากเพื่อความสะดวกในการทำ
ความสะอาดปาก
การดูแลทำความสะอาดเล็บ
เล็บเป็นโครงสร้างจากโปรตีน ซึ่งจะงอกยาวตามเวลา จึงต้องทำการตัดให้สั้นตามเหมาะสมกับการใช้งาน
การดูแลความสะอาดของตา
เป็นการทำความสะอาดตารวมทั้ง
การกระทำเพื่อแก้ปัญหาด้านอนามัยของตา ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงการทำความสะอาดตาที่มีขี้ตา และการดูแลอนามัยของตาในผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว
การดูแลทำความสะอาดของหู
หูเป็นอวัยวะรับรู้สึกที่เกี่ยวกับการได้
ยินและการทรงตัวโดยปกติคนทั่วไปจะดูแลหูเฉพาะด้านนอกให้สะอาดปราศจากขี้ไคลบริเวณหลังใบ
หูหลังสระผมมักจะมีน้ำเปียกในช่องหูใช้ผ้าขนหนูนุ่ม เช็ดให้แห้ง การเช็ดทำความสะอาดช่องหูหลังอาบน้ำควรใช้ไม้พันสำลีเช็ดทำความสะอาดในช่องหูทั้ง 2 ข้าง
การดูแลทำความสะอาดของจมูก
เป็นการทำความสะอาดรูจมูกและรักษาสุขภาพ
ของเนื้อเยื่อจมูก
การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
เป็นการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะรวมทั้งการกระทำเพื่อแก้ปัญหาของเส้นผมและหนังศีรษะ
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายและหญิง
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของผู้ชาย
เป็นการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลระดับพื้นฐาน การหมักหมม เปียกแฉะตลอดเวลา นอกจากจะท าให้เกิดการระคายเคือง การ
อักเสบ การติดเชื้อ ของระบบทางเดินปัสสาวะแล้ว ยังอาจเกิดแผลกดทับโดยการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอทำให้ผู้ปุวยสุขสบาย มีคุณภาพชีวิตดี และมีความสุข
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของผู้หญิงเป็นการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลระดับพื้นฐานที่ช่วยลดการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะได้วิธีหนึ่ง เพราะท่อปัสสาวะของเพศหญิง ยาวประมาณ 2-4 นิ้ว การหมักหมมเปียกแฉะตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบ การติดเชื้อ แล้วยังอาจเกิดแผลกดทับ
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การประเมินผู้ป่วย
ประเมินระดับความสารถในการดูแลตนเอง
ประเมินความชอบ ความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้ป่วย
ประเมินผิวหนัง ช่องปาก เส้นผมและหนังศรีษะ ตา หู จมูก
ประเมินปัญหาและความเสี่ยงของการรักษาและอาการผิดปกติที่อาจ
เกิดขึ้นระหว่างการดูแล
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
การวางแผนการพยาบาล
พยาบาลวางแผนการดูแลความสะอาดร่างกายโดยใช้ข้อมูลจากการ
ประเมินผู้ป่วย แล้วทำการกำหนดวัตถุประสงค์ และเกณฑ์การประเมินเลือกกิจกรรมการดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงตามข้อวินิจฉัยทางการ
พยาบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาความต้องการของผู้ป่วย
การปฏิบัติการพยาบาล
ปฏิบัติการดูแลความสะอาดร่างกาย การอาบน้ำ การนวดหลัง การทำความปากและฟัน เส้นผมและหนังศรีษะ และอวัยวะสืบพันธ์ุ
การประเมินผลการพยาบาล
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินผลคุณภาพการบริการ
การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
ความหมายของการพักผ่อนและการนอนหลับ
ผ่อนคลาย และมีความสงบทั้งจิตใจและร่างกาย รวมถึง
ความไม่วิตกกังวลสงบหรือผ่อนคลายโดยไม่มีความเครียดทางอารมณ์
การพักผ่อนของผู้ปุวยในโรงพยาบาล
Absolute bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียงไม่ให้
ร่างกายออกแรงในกิจกรรมใดๆที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อย ห้ามลุกออกจากเตียง
Bed rest
เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง สามารถทำ
กิจกรรมประจ าวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
การนอนหลับ
เป็นกระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะการ
ทำงานของร่างกายด้านอื่น ๆโดยมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่างๆของร่างกายไปในทางผ่อนคลาย
ความสำคัญของการพักผ่อนและการนอนหลับ
ส่งเสริมการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยมีการสร้างและสะสมพลังงานในขณะหลับ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ ช่วยส่งเสริมการหายของแผลรวมถึงมีการช่วยสะสมพลังงานไว้ใช้ในวันต่อไป
สงวนพลังงาน พลังงานที่ใช้ของร่างกายและสมองจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงตื่น
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำเนื่องจากการนอนหลับในระยะ REM จะมีการท างานของระบบประสาทเต็มที่ มีการกระตุ้นให้ความจำระยะสั้นเป็นความจ าระยะยาวได้
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายอยู่ใต้สมองส่วนไฮโปธาลามัสและต่อมใต้สมองส่วนหน้าทำหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิ
ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
ผลกระทบต่อร่างกาย
ทำให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆเช่น
อาการเมื่อยล้าคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดศีรษะ วิงเวียนเหมือนบ้านหมุน ความคิดและการรับรู้บกพร่อง เหนื่อยล้า เฉื่อยชา การพูด
เสียไป ตัดสินใจได้ช้าและรู้สึกว่าตนเองมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นจากสิ่งเร้าได้ง่าย
ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของ
อารมณ์ได้ง่าย อาจมีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิด โมโหง่าย เกิดความสับสนและความสามารถในการควบคุมตนเองจาก
ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอทำให้การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลง สมาธิไม่ดี และแก้ไขปัญหาได้ช้า
ผลกระทบทางสังคม
บุคคลที่นอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลทาง
สังคม ได้แก่ การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลงความมั่นใจในการทำงานลดลง และมีการใช้ระบบบริการทางด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
วงจรการนอนหลับ
การนอนหลับเป็นกลไกที่ซับซ้อนเป็นกระบวนการที่มีการเปลี่ยนแปลงตามวงจรชีวภาพของมนุษย์
ช่วงหลับธรรมดา
ระยะที่ 1(เริ่มมีความง่วง) เป็นช่วงเริ่มหลับที่เปลี่ยนจากการตื่นไปสู่การ
นอน
ระยะที่ 2 (หลับตื้น) การหลับในช่วงต้นเป็นสภาพที่ไม่ได้ยินเสียงรบกวน
จากภายนอกเป็นระยะแรกที่มีการหลับอย่างแท้จริง แต่ยังไม่มีการฝัน ระยะนี้จะถูกปลุกให้ตื่นได้
โดยง่าย
ระยะที่ 3 (หลับปานกลาง)ทั้งคลื่นสมองและชีพจรจะเต้นช้าลง ความมีสติ
รู้ตัวจะหายไป
ระยะที่ 4 (หลับลึก) เป็นช่วงหลับสนิทของการนอน ใช้เวลา 30 - 50 นาที
หากว่าร่างกายนอนหลับโดยปราศจากระยะที่ 4อาจมีการนอนละเมอหรือฝันร้ายได้ระยะนี้อุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตจะลดลง
ช่วงหลับฝัน
เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อ
ต่าง ๆ ของร่างกายแทบจะหยุดการทำงานกันหมดช่วงเวลาหลับฝันนี้จะกินเวลาประมาณ 30 นาที หลังจากผ่านช่วงหลับฝันไปแล้วก็จะกลับเริ่ม
ที่ระยะที่ 1 ของ NREM ใหม่ หมุนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อย โดยแต่ละรอบจะใช้เวลา 80-120 นาทีใน
คืนหนึ่งที่เรานอนจะหมุนผ่านวงจรแบบนี้ไปหลายรอบ
ปัจจัยที่มีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
ปัจจัยภายใน
ปัจจัยส่วนบุคคล
อายุ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้แบบแผนการนอนหลับ
เปลี่ยนแปลง
เพศ โดยธรรมชาติแล้วเพศชายจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบ
แผนการนอนหลับได้เร็วและมากกว่าเพศหญิง
ความไม่สุขสบาย
ความเจ็บปวด พบว่าความเจ็บปวดเป็นปัจจัยกวนการนอน
หลับด้านร่างกายมากที่สุด
การใส่สายยางและท่อระบายต่างๆจากสายยางและท่อ
ระบายต่างๆ เช่น สายน้ าเกลือ สายสวนปัสสาวะ สายให้ออกซิเจน เป็นต้น
ท่านอนที่ไม่เหมาะสมท่านอนมีผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
จากงานวิจัยของคลอส
อาการคลื่นไส้ อาเจียนมักพบหลังจากได้รับยาระงับรู้สึกทั่ว
ร่างกายหรือการได้รับยาชาเฉพาะที่
ภาวะไข้หลังผ่าตัด
ความวิตกกังวล
พบว่าความกลัวและความวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ เป็นปัจจัยรบกวนคุณภาพของการนอนหลับความวิตกกังวลมักเกิดจากสิ่งที่คุกคามต่อสวัสดิภาพของร่างกาย และจิตใจ
ปัจจัยภายนอก
เสียง
องค์การอนามัยโลกระบุว่าเสียงอันตราย หมายถึงเสียงดังเกิน 85 เด
ซิเบลทุกความถี่ เสียงรบกวน
อุณหภูมิ
อุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงเกินไป จะทำให้ผู้ป่วย
กระสับกระส่ายเพิ่มขึ้น และตื่นบ่อยขึ้น
แสง
แสงเป็นปัจจัยที่รบกวนการนอนหลับ โดยส่งผลต่อระยะการ
เริ่มต้นของการนอนหลับกล่าวว่า “การเปิดไฟเพื่อให้การพยาบาลบ่อยครั้งเป็นการรบกวนการนอนหลับของผู้ป่วย
ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล
การเปลี่ยนที่นอนเกิดความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่ เช่น ขนาดของเตียงนอนผู้ป่วยพลิกตัวกลัวตกเตียง ความแข็งของที่นอนและหมอนและการหุ้มด้วยผ้ายางหรือพลาสติกกันเปื้อนสิ่งสกปรกทำให้ร้อน
และเหงื่อออกมาก
กิจกรรมการรักษาพยาบาล
กิจกรรมการรักษาพยาบาลที่ผู้ปุวย
ได้รับตามเวลา ได้แก่ การทำหัตถการต่าง การพลิกตะแคงตัว การให้ยากินและฉีด การให้อาหาร และการตรวจวัดสัญญาณชีพ เป็นปัจจัยที่รบกวนการนอนหลับของผู้ป่วยได้
อาหาร
การรับประทานอาหารที่มีสารทริพโทแฟ็น(tryptophan)
ซึ่งมีอยู่ในนมจะส่งเสริมการนอนหลับ
ยา
ยาที่รบกวนการนอนหลับ ได้แก่ ยาบาบิทูเรต (barbiturates)
โดยยาจะไปออกฤทธิ์รบกวนการนอนหลับในระยะ REM เกิดฝันร้ายและภาพหลอน
การประเมินคุณภาพการนอนหลับและ การนอนหลับที่ผิดปกติ
Insomniaเป็นความผิดปกติของการนอนหลับที่พบบ่อยที่สุด
การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว
เป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นช่วงเวลาสั้น 3- 5 วัน
การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น
เป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์
การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง
เป็นการนอนหลับไม่เพียงพอเกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือนขึ้นไป
Hypersomnia เป็นการนอนหลับมาก หรือง่วงนอนมากกว่าปกติการนอนหลับในที่ไม่ควรหลับ เช่น หลับขณะขับรถยนต์ หรือรอรถติดไปแดง
Parasomniaเป็นพฤติกรรมที่ควรเกิดขณะตื่นแต่กลับเกิดขณะหลับ
เป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้น
ความผิดปกติของการตื่น
ได้แก่ อาการสับสน
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่น หรือจากตื่นมาหลับ ได้แก่ อาการขากระตุกขณะกำลังหลับละเมอพูด
กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
ได้แก่ ภาวะฝันร้าย ภาวะผีอำ
กลุ่มอื่น ๆได้แก่ การนอนกัดฟัน การปัสสาวะรด
ที่นอนขณะหลับ การกรน
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด NREM
ได้แก่ เมื่อยล้า คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก เวียนศีรษะ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด REM
ได้แก่ ความคิดบกพร่อง การรับรู้บกพร่อง ประสาทหลอน
ผลในภาพรวมจะทำให้การทำงานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจากร่างกายอ่อนล้า และขาดสมาธิ
การส่งเสริมการพักผ่อนการนอนหลับ
การจัดสิ่งแวดล้อม
ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามและน่าอยู่อาศัย
สภาพแวดล้อมของที่พักต้องสะอาด
ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้ และเครื่องอำนวยความสะดวก
ต่าง ๆ
เสียงแหล่งกำเนิดเสียงจากภายนอกห้อง หรือเกิดจากผู้ให้บริการ
หรือ จากญาติที่มาเยี่ยมไข ้
กลิ่นกลิ่นหอมและกลิ่นเหม็น
อุณหภูมิการถ่ายเทระบายอากาศดี มีแสงสว่างส่องเพียงพอ
แสงสว่าง สภาพแวดล้อมที่ดีต้องไม่มืดสลัวหรือสว่างจ้าจนเกินไป
แสงสว่างที่ดีที่สุดควรเป็นแสงธรรมชาติ
ความเป็นส่วนตัว และมิดชิดอย่างปลอดภัย สภาพหอผู้ป่วยสามัญ
ของโรงพยาบาล ส่วนมากมีลักษณะเป็นห้องโถงเตียงจัดเป็นแถวติดต่อกัน ซึ่งแต่ละเตียงจะมีม่านกั้น
การจัดท่าทางสำหรับผู้ป่วย
Dorsal position
เป็นท่านอนหงายราบ ขาชิดติดกัน ใช้ในการตรวจร่างกายทั่วไป
Fowler’s position
เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90 องศา เป็นท่านอนที่สุขสบายและเพื่อการรักษาท่านี้ลักษณะคล้ายท่านั่งบนเตียง สะดวกสำหรับให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมบนเตียง
Prone position
เป็นท่านอนคว่ำเป็นท่านอนที่สุขสบายสำหรับผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวแต่มีการหายใจปกติท่านี้จะช่วยให้น้ำลาย เสมหะไหลออกและลิ้นผู้ป่วยห้อยลงจึงไม่ปิดกั้นทางเดินหายใจ
Lateral position
เป็นท่านอนตะแคงจัดเพื่อความสุขสบายของผู้ป่วยที่ช่วยเหลือเคลื่อนไหวด้วยตนเองไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดแผลกดทับด้านหลัง
ผลเสีย คือ การจัดท่านี้จะทำให้ข้อสะโพก ข้อหัวไหล่ที่อยู่ด้านบนจะห้อยลงและหมุนเข้าด้านใน
Sitting position เป็นท่านั่งที่สุขสบายสำหรับผู้ป่วยได้เปลี่ยน
อิริยาบถ
การทำเตียง
การเปลี่ยนเครื่องผ้าที่ใช้กับเครื่องนอนให้สะอาด เรียบร้อย
การทำเตียงมี 4 ชนิด
การทำเตียงว่าง
เป็นการทำเตียงที่ผู้ป่วยจำหน่ายออกจากหอผู้ป่วย เพื่อเตรียมรับ
ผู้ป่วยใหม่ หรือทำเตียงที่ผู้ป่วยสามารถลงเดินช่วยเหลือตนเองได
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงได้
เป็นการทำเตียงให้ผู้ป่วยที่สามารถลุกจากเตียงได้ ไม่จำเป็นต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา อาจเป็นผู้ป่วยที่แข็งแรงช่วยเหลือตนเองได้ดี หรือต้องพึ่งผู้อื่นในบางส่วน หรือสามารถนั่งได้เป็นเวลานาน
การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงไม่ได้
เป็นการทำเตียงให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถลุกจากเตียงได้ จำเป็นต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลาผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หรือได้ต้องพึ่งผู้อื่นในการทำกิจกรรม
การทำเตียงรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ
เป็นการทำเตียงหลังจากส่งผู้ปุวยไปรับการผ่าตัดหรือการตรวจและได้รับยาสลบ
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการพักผ่อนและการนอนหลับ
การประเมินภาวะสุขภาพ
ประเมินคุณภาพการนอนหลับ พบว่า คุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณร้อยละ 50และคุณภาพการนอนหลับเชิงคุณภาพ หลับได้น้อยมากในเวลากลางคืน เวลากลางวันแต่หลับไม่สนิท และมีความกังวลเรื่องส่วนตัวที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
พักผ่อนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเนื่องจากมีความวิตกกังวล
การวางแผนการพยาบาล
วางแผนให้ผู้ป่วยได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอกับความต้องการของร่างกายและปลอดภัย
การปฏิบัติการพยาบาล
ประเมินสาเหตุและแบบแผนการนอนตามปกติ (แบบแผนที่ 5)
ประเมินคุณภาพการนอนหลับทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ แสงสว่างเพียงพอ ขจัดสิ่งรบกวน
จัดกิจกรรมการพยาบาลเป็นช่วง ไม่รบกวนการนอนของผู้ป่วย
แจ้งให้ผู้ป่วยทราบเรื่องแขกผู้มาเยี่ยม เพื่อขอความร่วมมือ
ไม่ให้ดื่มน้ำหลัง 6 โมงเย็น เพื่อไม่ให้ลุกขึ้นถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืน
งดกาแฟ ชา โค้ก ก่อนนอน
ให้มีกิจกรรมทำในตอนกลางวัน
สร้างสัมพันธภาพให้ผู้ปุวยไว้วางใจและระบายความวิตกกังวล
สอนเรื่องเทคนิคการคลายเครียด
พิจารณาให้ยาคลายเครียด ตามแผนการรักษา และดูแลความปลอดภัย
การประเมินผลการพยาบาล
ผลการประเมินคุณภาพการนอนหลับเชิงปริมาณไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80
ผลการประเมินคุณภาพการนอนหลับเชิงคุณภาพ