Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ - Coggle Diagram
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
การดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล
สุขอนามัย (Hygiene)
หลักการและความรู้ของการคงไว้หรือรักษาไว้ซึ่งสุขภาพและ การป้องกันโรค
สุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal hygiene)
การดูแลตนเอง
การดูแลสุขอนามัยทั่วไปของร่างกาย
การส่งเสริมสุขอนามัย
เป็นการส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง
การป้องกันโรคต่างๆ
ความสำคัญของการส่งเสริมสุขอนามัย
การทำความสะอาดร่างกายเป็นพฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐาน
เมื่ออยู่ในภาวะเจ็บป่วย
ไม่มีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
ความสุขสบายทั้งทางร่างกาย และจิตใจจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ปุวยมีความสุขกายสุขใจ
ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
สุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นส่ิงสำคัญท่ีพยาบาลต้องมีความรู้ท่ีถูกต้องเก่ียวกับความ ต้องการการดูแลสุขวิทยาของผู้ป่วยซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน
อายุ
ความแตกต่างของอายุจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน
อายุยังเป็นตัวกาหนดกายวิภาคและสรีระของร่างกายแต่ละคน
เพศ
เพศหญิงเป็นเพศท่ีอ่อนแอ และไวต่อความรู้สึกกว่าเพศชาย
การศึกษา
บุคคลท่ีมีการศึกษา มักจะศึกษาค้นคว้า และมีความรู้ในการดูแลรักษา ความสะอาดของร่างกายและส่ิงแวดล้อม
ภาวะสุขภาพ
เจ็บปวดหรือมีการเจ็บป่วย ทางสุขภาพจิต ทำให้ขาดความสนใจ หรือละเลยการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
เศรษฐกิจ
บุคคลที่มีฐานะดี ย่อมมีโอกาสเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผม ปาก ฟัน และให้เวลากับดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลมากข้ึน
เศรษฐกิจไม่พอเพียง ผู้ปุวยอาจต้องทางานเพื่อ หารายได้จนไม่มีเวลาดูแลตนเอง
อาชีพ
บุคคลที่มีอาชีพเก่ียวกับการดูแลสุขภาพจะมีความรู้ ความเข้าใจและให้ ความสาคัญของการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลต่อการดาเนินชีวิตประจำวัน
ถิ่นท่ีอยู่
การดำเนินชีวิตภายใต้ถิ่นท่ีอยู่ท่ีแตกต่างกัน
ภาวะเจ็บป่วย
ในภาวะการเจ็บป่วย อาจส่งผลในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง
ส่ิงแวดล้อม
ในฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าว
อากาศร้อนทำให้คนเรามีเหงื่อไคลและกลิ่นตัวท่ีต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยเพิ่มมากข้ึน
ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ
เป็นผล ต่อการดูแลตนเองเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล
ห้ามสระผมขณะมีไข้ เพราะจะทาให้เจ็บป่วยมากข้ึน หรือหลังคลอดบุตรห้ามสระหรือตัดผม
เป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชนเผ่าม้ง ท่ีสืบทอดกันมา
ความชอบ
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการดูแล สุขวิทยาส่วนบุคคลมาจากครอบครัว
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย เป็นบทบาทอิสระของพยาบาลท่ีสามารถ พิจารณากระทำได้ทันทีโดยไม่ต้องมีคำส่ังของแพทย์
พยาบาลจะช่วยดูแลสุขวิทยาส่วน บุคคลให้ครบถ้วน เพื่อตอบสนองความสุขสบายของผู้ป่วย
ช่วงเวลาในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
1.การพยาบาลตอนเช้าตรู่หรือเช้ามืด (Early morning care)
หน้าที่ความ รับผิดชอบของพยาบาลเวรดึก
ช่วยเหลือเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ การให้กระบอกปัสสาวะ หรือหม้อ นอน
การทำความสะอาดร่างกาย
การเช็ดหน้า
ล้างมือ ความสะอาดปากและฟัน
การพยาบาลตอนเช้า (Morning care/ A.M care)
หน้าที่ของพยาบาลเวรเช้า
การพยาบาลภายหลังผู้ป่วยรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เป็นการพยาบาลเพื่อดูแล สุขอนามัยส่วนบุคคลประจำวัน
การพยาบาลตอนบ่ายหรือตอนเย็น (Afternoon care/ P.M. care)
หน้าที่ของพยาบาลเวรเช้า
ทากิจกรรมภายในช่วงก่อนเวลา 16.00 น.
ช่วงเวลาตอนเย็น
หน้าที่ของเวรบ่ายในการดูแลทำความสะอาดปากและฟัน การล้างมือ ล้างหน้า หวีผม สระผม การ ให้บริการหม้อนอน หรือกระบอกปัสสาวะ ตลอดจนการรักษาพยาบาลอื่นๆ
การพยาบาลตอนก่อนนอน (Evening care/ Hour of sleep care/ H.S. care)
หน้าท่ีของพยาบาลเวรบ่าย
การพยาบาลท่ีให้การดูแลเรื่องการให้หม้อนอนหรือกระบอก ปัสสาวะ
การจัดท่าให้ผู้ปุวยได้พักผ่อน อย่างสุขสบาย
ช่วยให้พักผ่อนนอนหลับได้ดีขึ้น
การพยาบาลเมื่อจำเป็นหรือเมื่อผู้ป่วยต้องการ (As needed care/ P.r.N. care)
พยาบาลให้การพยาบาลตามความต้องการของผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้กระบวนการพยาบาลในการจัดกิจกรรมการดูแลสุขอนามัยที่ตรงกับ ความต้องการของผู้ป่วย
การดูแลความสะอาดร่างกาย
พยาบาลต้องเป็นผู้ให้การดูแลความสะอาดของร่างกายของผู้ป่วย โดยมีหลักการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลความสะอาดของผิวหนัง / การอาบน้า (Bathing)
การอาบน้ำ (Bathing) เป็นการขจัดของเสียที่ร่างกายขับออกมา
การอาบน้าที่ห้องน้า (Bathing in bath room/ Shower)
การช่วยเหลือพาผู้ปุวยไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้า
การอาบโดยใช้ฝักบัว หรือตักน้ำอาบร่างกาย
ต้องระวังผู้ป่วยพลัดตกหกล้มโดยอยู่ใกล้ ห้องน้า ไม่ควรใส่กลอนประตู ห้องน้า
ประเมินความสามารถ ในการทำกิจกรรมของผู้ปุวยอยู่ในระดับ 0
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงเฉพาะบางส่วน (Partial bath)
การทำความสะอาดร่างกายผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ไม่สามารถอาบน้ำเช็ดตัวได้ครบทุกส่วน พยาบาลต้องช่วยเช็ดบางส่วนที่ผู้ปุวยไม่สารถเช็ดเองได้
อาจใช้การนั่งข้างเตียง หรือบนเตียง
หลังการผ่าตัดไส้ติ่ง กระดูกขาหักใส่เฝือก มีอาการอ่อนเพลียบ้าง
การประเมิน ความสามารถในการทากิจกรรมของผู้ปุวยอยู่ในระดับ 1-2
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์ (Complete bed bath)
การทำความสะอาดร่างกายโดยการอาบน้ำเช็ดตัวให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทั้งหมด
พยาบาลเป็นผู้อาบน้ำให้
การประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมของผู้ป่วยอยู่ใน ระดับ 3-4
จุดประสงค์
กำจัดสิ่งสกปรก
ให้ผู้ป่วยรู้สึกสบาย
ประเมินการเคลื่อนไหวของร่างกายและส่งเสริมการออกกาลังกายของข้อ
สังเกตความผิดปกติของผิวหนัง
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและป้องกันแผลกดทับ
การอาบน้าผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์
การแปรงฟัน/ ทำความสะอาดช่องปาก
การเช็คหน้าเช็ดตา การเช็ดตัวทั่วร่างกาย
การนวดหลัง
การดูแลความสะอาดของ
อวัยวะสืบพันธ์ุ และการเปลี่ยนเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอน
การนวดหลัง (Back rub or back massage)
ทำให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจและมีสัมพันธภาพท่ีดีกับพยาบาล
หลักการนวดหลัง
จัดท่าให้ผู้ป่วยสุขสบาย
ไม่นวดบริเวณที่มีการอักเสบ มีแผล กระดูกหัก ผู้ป่วยโรคหัวใจ ภาวะมีไข้ โรค ผิวหนัง โรคมะเร็งระยะลุกลามแพร่กระจาย
ไม่นวดแรงเกินไปจนผู้ป่วยเจ็บ
นวดเป็นจังหวะสม่าเสมอ
เลือกใช้แป้งหรือโลชันหรือครีม เพียงอย่างใดอย่างหน่ึง
ใช้เวลานวดประมาณ 5-10 นาที
จุดประสงค์
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ป้องกันแผลกดทับ
ให้กล้ามเน้ือผ่อนคลาย ลดความตึงตัว
กระตุ้นผิวหนังและต่อมเหงื่อให้ทางานดีข้ึน
สังเกตความผิดปกติของผิวหนังบริเวณหลัง
เครื่องใช้
ครีมหรือโลชั่นทาตัวหรือแป้ง
ผ้าห่ม 1 ผืน และผ้าเช็ดตัว 1ผืน
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตนเองบอกให้ผู้ป่วยทราบและอธิบายวัตถุประสงค์
นำเครื่องใช้ต่าง มาวางที่โต๊ะข้างเตียง กั้นม่านให้มิดชิด
ล้างมือ
จัดท่านอนคว่ำและชิดริมเตียงด้านพยาบาลยืนมีหมอนเล็ก รองใต้หน้าอก
ศีรษะไปข้างใดข้างหนึ่ง มือเหยียดตรงไปตามลาตัวถ้านอนคว่ำไม่ได้ให้นอนตะแคง
เลื่อนผ้าห่มมาบริเวณก้นกบ ปูผ้าเช็ดตัวทับบนผ้าห่ม ถ้านอนตะแคง ปูผ้าเช็ดตัวตามแนวยาวบนหลังผู้ป่วย
ทาแป้งหรือทาครีม หรือโลชั่น
นวดบริเวณหลัง
การดูแลความสะอาดปากและฟัน
วัตถุประสงค์
ปากและฟันสะอาด มีความชุ่มชื่น
กำจัดกลิ่นปาก ลมหายใจสดช่ืน ป้องกันฟันผุ
ลดการอักเสบของเหงือก กระพุ้งแก้ม
สังเกตฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม ลิ้น มีแผล หรือการติดเชื้อ หรือเลือดออกหรือ ฝ้าในช่องปาก
หลักการทำความสะอาดปากและฟัน
แปรงฟันทุกซี่ทุกด้าน นาน 5 นาที เพื่อขจัดคราบหินปูน และเศษอาหารใน เวลาเช้า หลังอาหารทุกม้ือและก่อนนอน
ผู้ป่วยท่ีมีปัญหาในช่องปาก มีแผล ปากแห้ง ไม่สามารถรับประทานอาหาร และน้ำทางปากได้ ต้องทำความสะอาดปากและฟันให้ทุก 2 ชั่วโมง
ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว ใช้เช็ดทาความสะอาดต้องเปลี่ยนบ่อยๆ
วิธีการทำความสะอาดปากและฟันผู้ป่วยที่ช่วยตนเองได้
พยาบาลแนะนาตนเอง บอกให้ผู้ป่วยทราบและอธิบายวัตถุประสงค์ และ วิธีการทำความสะอาดปากและฟันอย่างง่ายเพื่อความร่วมมือ
นำเครื่องใช้ไปท่ีเตียงผู้ป่วย เพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน
ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง หรือท่านั่ง เพื่อความสะดวกของผู้ป่วย
ล้างมือและสวมถุงมือ เพื่อป้องกันจุลินทรีย์ จากน้าในช่องปากผู้ป่วยสู่พยาบาล
ปูผ้ากันเปื้อนใต้คาง วางชามรูปไตใต้คาง ให้ผู้ป่วยช่วยถือไว้ หรือวางบนโต๊ะ คร่อมเตียง (over bed) เพื่อป้องกันเสื้อผ้าและท่ีนอนเปียก
ให้บ้วนปากด้วยน้าสะอาด และแปรงฟันตามขั้นตอน
การทำความสะอาดปากฟันในผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อยเครื่องใช้
syringe 10 cc
ลูกสูบยางแดง (baby ball หรือ syringe ball)
น้ายาบ้วนปาก เช่นน้าเกลือ น้ายาบ้วนปาก (special mouth wash)
แก้วน้า
ไม้พันสาลี
ชามรูปไต
ไม้กดลิ้น หรือไม้กดลิ้นพันสาลี
3% hydrogen peroxide
สารหล่อลื่นทาริมฝีปาก
วิธีทำความสะอาดปากฟันผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย
ใช้ลูกสูบยางดูดน้ำฉีดล้างช่องปากและในซอกระหว่างกระพุ้งแก้มและฟัน ปล่อยให้น้ำไหลลงชามรูปไตท่ีรองไว้ และใช้เครื่องดูดหรือลูกสูบยางอีกอันหนึ่งช่วยดูดน้าออก
ตรวจดูสภาพของปากและฟัน
ใช้ไม้พันสาลีชุบน้ายาบ้วนปาก
ทำความสะอาดเหมือนการแปรงฟันด้านนอก
ใช้ไม้กดล้ิน พันด้วยผ้าก๊อซเพื่อช่วยอ้าปาก
ตรวจดูสภาพของเยื่อบุปาก เหงือก ฟัน และล้ิน
ทำความสะอาดเหมือนการแปรงฟันด้านใน ด้านบดเคี้ยวให้ท่ัว
วูบฉีดล้างช่องปากให้ทั่ว ดูดน้ำออกให้หมด
เช็ดปากให้ผู้ป่วย ถ้าริมฝีปากแห้งทาด้วยวาสลิน
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าท่ีให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การดูแลความสะอาดของเล็บ
จุดประสงค์
ให้เล็บสะอาด และสุขสบาย
ป้องกันการเกิดเล็บขบ
เครื่องใช้
ถาดใส่สบู่ ผ้าถูตัว ผ้าเช็ดตัว กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ กระดาษรอง
อ่างใส่น้าอุ่น
ถุงมือสะอาด และmask
วิธีการปฏิบัติ
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ปุวย
คลี่ผ้าเช็ดตัวรองอ่างน้า แช่มือ หรือเท้าสักครู่ เพื่อให้เล็บและขี้เล็บอ่อนตัว
ช่วยให้ตัดเล็บและแคะสิ่งสกปรกท่ีเล็บออกได้ง่าย
ช้ผ้าเช็ดตัวถูสบู่พอกขัดตามซอกเล็บ ง่ามนิ้ว ถ้าเล็บสกปรกมากอาจใช้ปลาย ตะไบแคะสิ่งสกปรกออก
ยกอ่างน้าออก เช็ดมือหรือเท้าให้แห้ง
ปูกระดาษรอง ตัดเล็บให้ปลายเล็บตรงและข้างไม่โค้งไม่ตามซอกเล็บ ปลายเล็บควรปล่อยให้ยาวกว่าปลายนิ้ว
ใช้ตะไบถูเล็บให้ขอบเล็บเรียบ
เปลี่ยนนำ้ ล้างมือหรือล้างเท้าอีกครั้งหน่ึง เช็ดให้แห้ง
เก็บของใช้ไปทาความสะอาดและเก็บเข้าท่ีให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การดูแลความสะอาดของตา
การทำความสะอาดตา
ผู้ปุวยบางรายอาจมีขี้ตามากกว่าปกติ ขี้ตาอาจแห้งติดหนังตาหรือขนตา ซึ่งจำเป็นต้อง กำจัดออก ไปวันละ 2-3 คร้ัง
จุดประสงค์
กาจัดขี้ตา ทำให้ดวงตาสะอาด
ความสุขสบายของผู้ป่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ป่วย
เครื่องใช้
ถาดใส่อับสาลีชุบ 0.9% NSS และชามรูปไต
ถุงมือสะอาด และmask
การดูแลทำความสะอาดของหู
คนท่ัวไปจะดูแลหูเฉพาะด้านนอกให้สะอาดปราศจากขี้ไคลบริเวณหลังใบ หู หลังสระผมมักจะมีน้าเปียกในช่องหูใช้ผ้าขนหนูนุ่ม เช็ดให้แห้ง
การเช็ดทาความสะอาดช่องหูหลัง อาบน้าควรใช้ไม้พันสาลีเช็ดทาความสะอาดในช่องหูทั้ง 2
จุดประสงค์
กาจัดสิ่งสกปรกภายในช่องหู
ทาความสะอาดใบหูและหลังใบหู
เครื่องใช้
0.9% NSS หรือน้ำสะอาด
สำลีสะอาด หรือไม้พันสำลี 4 อัน
ผ้าสะอาด
ชามรูปไต
กระดาษเช็ดปาก
การดูแลทำความสะอาดของจมูก
การทำความสะอาดจมูก (Nose care) เป็นการทาความสะอาดรูจมูกและรักษาสุขภาพ ของเน้ือเยื่อจมูก
จุดประสงค์
กาจัดสิ่งขับถ่ายและสิ่งสกปรกภายในจมูก
ป้องกันสารคัดหลั่งแห้งยึดขนจมูกกับสายที่คาไว้
ป้องกันการเกิดแผลกดทับท่ีด้านในรูจมูกจากสายท่ีคาไว้
เครื่องใช้
ถาดใส่แก้วใส่น้าสะอาดหรือ 0.9% NSS
ไม้พันสำลีขนาดเล็ก 4-8 อัน
ผ้าก๊อซ
ชามรูปไต
กระดาษเช็ดปาก
อับสาลีชุบแอลกอฮอล์ 70% สาลีชุบเบนซิน และสาลีชุบน้ำเกลือใช้ภายนอก
พลาสเตอร์ ถุงมือสะอาด และmask
การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ เป็นการทำความสะอาดเส้น ผมและหนังศีรษะรวมท้ังการกระทาเพื่อแก้ปัญหาของเส้นผมและหนังศีรษะ
วัตถุประสงค์
ขจัดความสกปรกและสารท่ีใส่บนผม และหนังศีรษะเพื่อการตรวจรักษา
ความสุขสบายและสดช่ืนของผู้ป่วยความสุขสบายและสดช่ืนของผู้ปุวย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ป่วยและรู้สึกมีความมั่นใจ
เครื่องใช้
ถาดใส่ยาสระผม หวี หรือแปรงผม ท่ีหนีบผ้าผ้าเช็ดตัว 2 ผืน สาลี 2 ก้อน ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก 1 ผืน แก้วน้า และน้ำมันมะกอก
รถเข็นสระผมเคลื่อนที่ พร้อมถังรองน้ำทิ้ง
ผ้ายางรองสระผม
เครื่องเป่าผม
ถุงมือสะอาด และmask
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของชายและหญิง
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของผู้ชาย (Perineal care of male) เป็นการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและบริเวณใกล้เคียง
เครื่องใช้
ผ้าปิดตา
ถุงมือสะอาด
หม้อนอน (bed pan) พร้อมผ้าคลุมหม้อนอน (bed pad) ผ้ายางผืนเล็ก
ถาดใส่ของ
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของผู้หญิง (Perineal care of female) เป็นการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและบริเวณใกล้เคียง
จุดประสงค์
กำจัดส่ิงขับถ่าย ส่ิงสกปรก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยที่ได้รับ การสวนปัสสาวะคาไว้
เสริมสร้างความสุขบายให้กับผู้ป่วย
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การประเมินผู้ป่วย (Health assessment)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
ความหมายของการพักผ่อนและการนอนหลับ
การพักกิจกรรมการทางานของร่างกาย หรือการพักการ ทำงานของอวัยวะต่าง โดยนั่งเฉยๆชั่วขณะหนึ่ง
ผ่อนคลาย และมีความสงบท้ังจิตใจและร่างกาย รวมถึง ความไม่วิตกกังวล สงบหรือผ่อนคลายโดยไม่มีความเครียดทางอารมณ์
การพักผ่อนของผู้ปุวยในโรงพยาบาล
Absolute bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ปุวยนอนอยู่บนเตียง
ห้ามลุกออกจากเตียง
Bed rest เป็นการพักผ่อนโดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง
สามารถทำ กิจกรรมประจำวันได้ตามความสามารถของผู้ป่วย
การนอนหลับ
ระบวนการทางสรรีรวิทยาพื้นฐานที่สอดประสานกับจังหวะการทำงานของร่างกายด้านอื่นๆ
ระดับการรู้สติลดลง
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าและการเคลื่อนไหวของร่างกายลดลง
ความสำคัญของการพักผ่อนและการนอนหลับ
ส่งเสริมการเจริญเติบโตซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อข้ึนใหม่ ช่วยส่งเสริมการหายของแผลรวมถึงมีการช่วย สะสมพลังงานไว้ใช้ในวันต่อไป
สงวนพลังงาน
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และความจำ
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ผลกระทบจากปัญหาการนอนหลับ
ผลกระทบต่อร่างกาย
เมื่อยล้าคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดศีรษะ วิงเวียนเหมือนบ้านหมุน
ความคิดและการรับรู้บกพร่อง เหนื่อยล้า เฉื่อยชา การพูด เสียไป
ตัดสินใจได้ช้าและรู้สึกว่าตนเองมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นจากสิ่งเร้าได้ง่าย
ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
มีการเปลี่ยนแปลงของ อารมณ์ได้ง่าย
มีอาการเซื่องซึมและหงุดหงิด โมโหง่าย
หวาดระแวงและหูแว่ว ไม่สามารถยับยั้งพฤติกรรมความ ก้าวร้าวของตนเองได้
ผลกระทบต่อสติปัญญาและการรับรู้
การปฏิบัติกิจกรรมในช่วงกลางวันลดลง สมาธิไม่ดี แก้ไขปัญหาได้ช้า
ผลกระทบทางสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง
วงจรการนอนหลับ
1) ช่วงหลับธรรมดา (Non-rapid eye movement sleep: NREM)
ระยะที่ 1 (เร่ิมมีความง่วง)
ระยะที่ 2 (หลับตื่น)
ระยะท่ี 3 (หลับปานกลาง)
ระยะที่ 4 (หลับลึก)
2) ช่วงหลับฝัน (Rapid eye movement sleep: REM)
ช่วงที่กล้ามเน้ือ ต่าง ของร่างกายแทบจะหยุดการทำงานกันหมด
ในขณะที่นอนหลับสรีรวิทยาของร่างกายจะมีการขับเหงื่อออกเพิ่มมากขึ้น
การผลิตความร้อนลดลง ร้อยละ 10-15
อุณหภูมิของร่างกายลดลง 0.5-1.0 องศาฟาเรนไฮด์
ความดันเลือดซิสโตลิค (systolic) จะลดลง 20-30 mmHg ขณะหลับสนิท
อัตราการเต้นของชีพจรจะลดลง 10-30 ครั้งต่อนาที
การหายใจจะลดลง หายใจลึกและอัตราไม่สม่ำเสมอ
กล้ามเน้ือและเส้นเอ็นต่าง คลายตัว
ความเจ็บปวด การได้ยิน การสัมผัส กลิ่น และการมองเห็นจะลดลง
ปริมาณปัสสาวะลดลง
ปัจจัยท่ีมีผลต่อการพักผ่อนและการนอนหลับ
ปัจจัยภายใน
ปัจจัยส่วนบุคคล
อายุ
เพศ
ความไม่สุขสบาย
ความเจ็บปวด
การใส่สายยางและท่อระบายต่าง
ท่านอนท่ีไม่เหมาะสม
อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะไข้หลังผ่าตัด
ความวิตกกังวล
ปัจจัยภายนอก
เสียง
อุณหภูมิ
แสง
ความไม่คุ้นเคยต่อสถานที่ส่ิงแวดล้อมของโรงพยาบาล
กิจกรรมการรักษาพยาบาล
อาหาร
ยา
การประเมินคุณภาพการนอนหลับและ การนอนหลับท่ีผิดปกติ
Insomnia เป็นความผิดปกติของการนอนหลับที่พบบ่อยท่ีสุด
การนอนหลับไม่เพียงพอชั่วคราว (Transient insomnia)
การนอนหลับไม่เพียงพอระยะสั้น(Short term insomnia)
การนอนหลับไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (Chronic insomnia)
Hypersomnia เป็นการนอนหลับมาก
Parasomnia เป็นพฤติกรรมที่ควรเกิดขณะตื่นแต่กลับเกิดขณะหลับ
ความผิดปกติของการตื่น (around disorder)
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงจากหลับมาตื่นหรือจากตื่นมาหลับ
กลุ่มอาการที่เกิดข้ึนขณะหลับชนิดที่มีการกรอกตา
ผลที่เกิดจาการนอนหลับผิดปกติ
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด NREM
เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เวียนศีรษะ ทนต่อความเจ็บปวดได้ลดลง
ระดับความรู้สึกตัวบกพร่อง
ผลจากการนอนไม่เพียงพอในการนอนชนิด REM
ความคิดบกพร่อง การรับรู้บกพร่อง ประสาทหลอน
ผลในภาพรวมจะทาให้การทางานของร่างกายขาดประสิทธิภาพจากร่างกาย อ่อนล้า และขาดสมาธิ
การส่งเสริมการพักผ่อนการนอนหลับ
การจัดส่ิงแวดล้อม
ความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้
เสียง
อุณหภูมิ
กลิ่น
แสงสว่าง
ความเป็นส่วนตัว
การจัดท่าทางสาหรับผู้ป่วย
Dorsal position (supine position) เป็นท่านอนหงายราบ
Fowler’s position เป็นท่านอนราบศีรษะสูง 30-90 องศา เป็น
ท่านอนท่ีสุขสบายและเพ่ือการรักษา
Prone position เป็นท่านอนคว่า เป็นท่านอนที่สุขสบาย สาหรับ ผู้ป่วย ที่ไม่รู้สึกตัว
Lateral position เป็นท่านอนตะแคง
Sitting position เป็นท่านั่งท่ีสุขสบายสาหรับผู้ป่วยได้เปลี่ยนอิริยาบถ
การทำเตียง
การเปลี่ยนเครื่องผ้าท่ีใช้กับเครื่องนอนให้สะอาดเรียบร้อย
1) การทำเตียงว่าง (Close bed)
2) การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงได้ (Open/unoccupied bed)
3) การทำเตียงผู้ป่วยลุกจากเตียงไม่ได้ (Occupied bed)
4) การทาเตียงรับผู้ปุวยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยที่ได้รับยาสลบ (Surgical/ ether/anesthetic bed)