Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ใช้ในระบบประสาทอัตโนมัติ (Drug used in Autonomic Nervous System) -…
ยาที่ใช้ในระบบประสาทอัตโนมัติ
(Drug used in Autonomic Nervous System)
การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ
ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ( Parasympsthetic nervous system )
เปรียบเสมือนการชะลอหรือห้ามระบบ "เพื่อให้พักผ่อนหรือย่อยอาหาร" ( Rest or Digest ) ได้แก่ ลดอัตราการเต้นของหัวใจหลอดลมตีบแคบลง
ระบบประสาทซิมพาเทติก ( Sympathetic nervous system)
ทำงานเพื่อให้สามารถ "ต่อสู้หรือถอยหนี"
(Fight or Fight ) เพิ่มการใช้พลังงาน ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น cardiac output หลอดลมขยายการทำงานของระบบทางเดินอาหารลดลง
การสื่อประสาท ( neurotransmitter ) และตัวรับ (Receptor) ในระบบประสาทอัตโนมัติ
สารสื่อประสาทในระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เรียกว่า Cholinergic agents
สารสื่อระบบประสาทในระบบโซมาติก จะมีเส้นประสาทที่ไปยังกล้ามเนื้อลายซึ่งหลั่ง Ach ออกฤทธิ์ที่ Nicotinic receptors กล้ามเนื้อลาย
สารสื่อประสาทในระบบประสาทซิมพาเทติก เรียกว่า Adrenergic agents
การแบ่งประเภทของ Adrenergic receptors
B1
พบที่หัวใจเมื่อถูกกระตุ้นจะเพิ่มแรงบีบตัว อัตราการเต้นของหัวใจ
B2
พบที่กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด หลอดลม ทางเดินปัสสาวะ และมดลูกเมื่อถูกกระตุ้นจะเกิดการคลายตัว และกล้ามเนื้อลายก่อให้เกิดการสลายไกลโคเจน
a2
พบที่ปลายประสาทซิมพาเทติกที่เนื้อเยื่อต่างๆและในสมองการกระตุ้นจะยับยั้งการหลั่งของ norepinephrine (NE)
B3
พบที่เซลล์ไขมันเมื่อมีการกระตุ้นทำให้เกิดการสลายไขมัน
a1
พบที่กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด ทางเดินปัสสาวะ และมดลูกทำให้เกิดตอบสนองแบบหดตัวยกเว้นระบบทางเดินอาหารทำให้การยับยั้งการดคลื่อนไหว
การแบ่งประเภทของ Cholinergic recepter
Nicotinic receptor พบที่ปมประสาท
Muscarinic receptor
M3
พบได้ตามต่อมมีท่อต่างๆกล้ามเนื้อเรียบของทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ การกระตุ้นทำให้เกิดการตอบสนองแบบ Excitation
M4
พบที่ระบบประสาท การกระตุ้นทำให้เสริมการหลั่งของ Dopamine
M2
พบที่หัวใจและบางส่วนของ Peripheral neuron การกระตุ้นทำให้เกิดการตอบสนองแบบยับยั้ง
M5
พบที่ Dopamine neuron การกระตุ้นทำให้เสริมการหลั่งของ Dopamine
M1
พบที่สมอง Peripheral neuron และ Gastric parietal เมื่อมีการกระตุ้นทำให้เกิดการตอบสนองแบบ Excitation
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทอัติโนมัติ
ยากระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก
(Adrenergic drugs)
กลุ่ม catecholamines
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ผลต่อเมแทบอลิซึม ผลต่อตับ เพิ่มการสลาย glycogen และ สร้าง glucose จาก lipid และ
โปรตีนผ่าน a1, B2 receptor เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine effect) ตับอ่อนลดการหลัง insulin ผ่าน a2 receptor เพิ่มการหลั่งglucagon ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
ผลกระตุ้นหัวใจ กระตุ้นเพิ่มอัตราการเต้นและแรงบีบของกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มความเร็วในการส่ง
สัญญานไฟฟ้าที่ AV node โดยผ่าน B1-receptor
ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ตื่นตัวและลดความอยากอาหาร
ผลต่อกล้ามเนื้อเรียบ การกระตุ้นผ่าน B2-receptor ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อลายขยาย ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อหลอดลม
ผลต่อตา (Eye effect) การกระตุ้น a receptor ที่ radial muscle ของม่านตา ทำให้
กล้ามเนื้อหดตัว มีผลให้รูม่านตาขยาย ผลต่อ B receptor ทำให้เพิ่มการสร้างน้ำลูกตา
ระบบไหลเวียนเลือด การกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดให้หดตัว (vasoconstriction)
ผ่าน a1 receptor
Epinephrine (Adrenaline)
กลไกการออกฤทธิ์
เป็นสาร agonist ออกฤทธิ์กระตุ้นได้ทั้ง a (a1 และ a2) และ B (B1 และB2) receptor ถูก
ทำลายอย่างรวดเร็วโดย MAO และ COMT ดังนั้นให้โดยการรับประทานไม่ได้
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ระบบหายใจ ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจคลายตัว หลอดลมขยายตัว
ผลต่อเมตาบอลิซึม ภายในร่างกายทำให้กลูโคสและ Lactose ในเลือดสูง
ยาเข้าสู่สมองได้น้อยจึงไม่มีฤทธิ์กระตุ้นสมอง
ระบบทางเดินอาหาร มีผลทำให้กล้ามเนื้อเรียบของทางเดินอาหารคลายตัว กล้ามเนื้อหูรูดบีบตัว
ระบบไหลเวียนโลหิต มีฤทธิ์แรงที่ในการบีบหลอดเลือดและกระตุ้นหัวใจ เนื่องจากยามีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง เพิ่มทั้งอัตราการเต้นและแรงบีบตัวของหัวใจ มีผลเพิ่มความดันโลหิต
การนำไปใช้ทางคลินิก
ภาวะแอนาฟิแล็กซิส (anaphylaxis) เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลัน ที่เกิดจากการแพ้ยา แพ้สารต่าง ๆ ยาลดอาการหดเกร็งของหลอดลม (Bronchospasm) ทำให้หลอดลมขยาย และลดการบวม
ของกล่องเสียง
ใช้เพื่อห้ามเลือด (Topical hemostasis) ประคบเฉพาะที่บริเวณเยื่อเมือก ลดอาการเลือดออก
ภาวะหัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest) เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น Heart block, Ventricularfbrillation ยา epinephrine เป็นยาชนิดแรกที่ควรเลือกใช้ แต่ไม่ใช้ในการรักษาภาวะช็อกจากหัวใจ
ใช้ผสมยาชาเฉพาะที่ ใช้ใน spinal block เพื่อช่วยให้ออกฤทธิ์นานขึ้น ลดการแพร่กระจายของยา
ชาออกไป
Norepinephrine (NE) / Noradrenaline
ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับ epinephrine โดยการกระตุ้นที่ a1 และB1 receptorแต่มีความชอบ(affinity) ต่อ a receptor สูงกว่าทำให้เพิ่มความต้านทานรวมของหลอดเลือดส่วนปลายได้มาก (Total
peripheral resistance; TPR) ทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
ประโยชน์ทางคลินิก
รักษาความดันโลหิตต่ำรุนแรง ที่ไม่
ตอบสนองต่อยาอื่น เนื่องจากการทำงานประสาท
ซิมพาเทติกล้มเหลว
Dopamine ; DA(Dopaminex, Dopmin, Intropin)
Dopamine เป็น Neurotransmitter ในสมอง เมื่อถูกเมตาโบไลท์จะได้ norepinephrine และ
epinephrine ยาออกฤทธิ์ต่อ receptors
ประโยชน์ทางคลินิก
รักษาภาวะช็อกจากหัวใจ (Cardiogenic shock) จากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน(Acute myocardial infarction)
Dobutamine
เป็นสารสังเคราะห์ มีโครงสร้างคล้าย DA มีฤทธิ์ a1 และ B agonistออกฤทธิ์กระตุ้น B1receptor ฤทธิ์ต่อ a-receptor มีน้อย Dobutamine เป็นยาที่กระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ เพิ่ม Cardiacoutput โดยมีผลเล็กน้อยต่ออัตราการเต้นของหัวใจ
อาการข้างเคียง
ระบบไหลเวียน: หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปอดบวมน้ำ เจ็บหน้าอก (ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นใน
ผู้ป่วย hyperthyroidism)
ระบบประสาท: วิตกกังวล ปวดศีรษะ อาการสัน อาจเกิด cerebral hemorrhage
Tissue necrosis โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Norepinephrine ถ้าฉีดเข้าหลอดเลือดดำรั่วไปเนื้อเยื่อ
รอบ ๆ จะเกิด vasOConstriction อย่างมากจนเนื้อตายได้
Alpha-adrenergic agonist (a-agonist)
Alpha-1 agonist
Phenylephine เป็นยาออกฤทธิ์จำเพาะต่อ G1- receptor ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอด
เลือดหดตัว
Midodrine เป็นยาออกฤทธิ์จำเพาะต่อ..a1-receptor ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่ม ออกฤทธิ์นาน 3-4 ชั่วโมง ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการ postural hypotension หรืออาการหน้ามืดจากความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
Alpha-2 agonist
ยามีฤทธิ์เป็น d2-agonist มีฤทธิ์เฉพาะเจาะจงที่ d2-adrenergic receptor ได้แก่
Clonidine
ออกฤทธิ์กระตุ้น a2- receptor ที่สมองและหลอดเลือด สามารถผ่านสมองใช้เป็นยาลดความดัน
โลหิต-มีชนิดรับประทานและแผ่นแปะผิวหนัง ทำให้ลดการหดตัวของหลอดเลือด ลดความต้านทานของหลอด
เลือด
ประโยชน์ทางคลินิก
ใช้รักษาความดันโลหิตสูง เป็นยาที่เลือกใช้ในสตรีตั้งครรภ์
รักษาอาการขาดเหล้า หรือ อาการถอนพิษ (withdrawal) ของสุรา เฮโรอี่นและมอร์ฟีน คือ ยาช่วยลดอาการ
Beta-adrenergic agonist
ยาในกลุ่มนี้อาจแบ่งเป็นกลุ่มที่มีความจำเพาะกับไม่จำเพาะต่อ 8-receptor subtype ยาที่ไม่ำเพาะต่อ B-receptor เช่น Isoproterenol (Isoprenaline) ไม่มีใช้ทางคลินิก สำหรับยาที่จำเพาะต่อ B2
receptor แบ่งตามระยะเวลาการออกฤทธิ์
B2 adrenergic agonist
ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (Short-Acting Beta Agonists, SABAS)
Salmeterol & formoterol เป็นยาที่มีระยะเวลาการออกฤทธิยาว นานกว่า 12 ชั่วโมง เมื่อให้รูปแบบยาพ่น่วยบรรเทาอาการหืด Salmeterol มี onset ช้าใช้เวลาหลายช่วโมง
อาการข้างเคียงและความเป็นพิษ
เกิดจากการกระตุ้น B-receptor ในผู้ป่วยโรคหัวใจอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงมากขึ้น อาการได้แก่ ใจสั่น อาการสั่น อาการกระวนกระวาย วิตกกังวลหัวใจเต้นเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใช้รับประทาน
ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว (Long-acting beta agonists, LABAS)
ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (Short-Acting Beta Agonists, SABAS) โดแกSalbutamol (Ventolin) & Terbutaline ยาจำเพาะต่อ B2receptor ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลม
คลายตัว
B3 adrenergic agonist
Mirabegron เป็นยาออกฤทธิ์จำเพาะต่อ B3-receptor มีผลให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะคลายตัว
ใช้ในการรักษาอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ (overactive bladder)
Indirect-acting and mixed-type adrenergic agonist
Ephedrine & pseudoephedrine
ยา Ephedrine ไม่ได้ใช้ทางคลินิกแล้ว ส่วน เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทมีใช้อย่างจำกัดในโรงพยาบาล ยาทั้งสองออกฤทธิ์ทางอ้อมโดยเพิ่มการปลดปล่อยสาร catecholamine และตัวยายังสามารถกระตุ้นที่ receptor ได้โดยตรง pseudoephedrine ใช้เป็นยาลดน้ำมูกและคัดจมูก
อาการ
ข้างเคียงมีมากในผู้ป่วยโรคหัวใจ
ความดันโลหิตสูง
นอนไม่หลับ
หัวใจเต้นเร็ว
Amphetamine
ประโยชน์ทางคลินิกของยาในกลุ่ม Sympathomimetics
Asthma & COPD ใช้เป็นยาขยายหลอดลม ยาในกลุ่ม B2-adrenergic receptor เป็นยาหลัก Asthma & COPD ใช้เป็นยาขยายหลอดลม ยาในกลุ่ม B2-adrenergic receptor เป็นยาหลัก
Glaucoma ยากลุ่ม B2- agonist ช่วยลดความดันในลูกตา โดยลดการผลิตน้ำในลูกตา
Anaphylaxis ยาหลักที่ใช้ได้แก่ epinephrine ๆที่ใช้ร่วม B2 agonist ขยายหลอดลม
Antihypertensive ยากลุ่ม a2- adrenergic agonist เช่น clonidine ยาออกฤทธิ์ในระบบ
ประสาทส่วนกลาง ช่วยลดความดันโลหิต
ภาวะช็อก
ยาที่กระตุ้น B-adrenergic receptor ทำให้กระตุ้นแรงบีบตัวและอัตราการเต้นของหัวใจ
ยาที่กระตุ้น a- adrenergic receptor มีผลเพิ่มความดันโลหิต
Dopamine มีผลเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงที่ไต
ลดการคั่งการบวมของเนื้อเยื่อในจมูก (nasal decongestion) ยาที่มีฤทธิ์กระตุ้น
adrenergic receptor หดหลอดเลือด ลดอาการบวม
ภาวะหัวใจหยุดเต้น Epinephrine ใช้ในภาวะหัวใจหยุดเต้นมีผลเพิ่มความดันโลหิตและเพิ่มเลือด
ไปเลี้ยงหัวใจ
อื่น ๆ ได้แก่ overactive bladder ใช้ยา B3-receptor agonist มีผลคลายกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ
ผลเด่นชัดต่อระบบประสาทส่วนกลาง ผลต่ออารมณ์ จิตใจ บุคลิกภาพ เพิ่มความตื่นตัว ลดความรู้สึก
อ่อนล้า ลดความอยากอาหาร มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีอารมณ์ครื้นเครง จนกระทั่งมีอาการเคลิ้มเป็นสุข
อาการข้างเคียง
นอนไม่หลับ
กระสับกระส่าย
ประสาทหลอน
ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยตรงในการกระตุ้น adrenergic receptors ร่วมกับการกระตุ้นการหลั่ง NE
ออกจากปลายประสาทและเป็นกลุ่มที่สามารถผ่านเข้าสมองได้ดี
ยาต้านมัสคารินิค (Antimuscarinic Drugs)
กลไกการออกฤทธิ์
Atropine เป็น muscarinic antagonists ออกฤทธิ์แย่งที่กับ Ach ในการจับ Muscarinic receptors แบบแข่งขัน (Competitive inhibition) ทำให้ยามีผลลด parasympathetic tone ในร่างกายส่วนของร่างกายที่ตอบสนองต่อฤทธิ์ยาได้ไว คือ ต่อมมีท่อต่างๆเช่น ต่อมเหงื่อ
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ระบบทางเดินอาหาร
การปิดกั้น muscarinic receptors ทำให้ parasympathetic tone ที่ระบบทางเดินอาหารลดลงจึงลดการบีบตัวของหลอดอาหารไปจนถึงลำไส้ใหญ่
ระบบทางเดินหายใจ
มีฤทธิ์ขยายหลอดลม ยับยั้งการหลั่งของสารคัดหลั่งที่จมูก ปาก คอ นอกจากนี้ atropine ยังสามารถลดหดเกร็งของหลอดลมจากสารต่างๆ ในร่างกาย
ระบบตา
ทำให้กล้ามเนื้อเรียบ iris sphincter และ ciliary m. ไม่สามารถหดตัวได้ทำให้ม่านตาขยายไม่สามารถควบคุมเลยส์ให้มองเห็นภาพที่ชัดได้ เกิดต้อหิน ตาแห้ง เพราะยาไปยับยั้งการหลั่งน้ำตา
กล้ามเนื้อเรียบอื่น
ลดความตึงตัวและความแรงในการบีบตัวของท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบากโดยเฉพาะผู้สูงอายุ รวมถึงกล้ามเนื้อเรียบมดลูก
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ผลทำให้หัวใจเต้นเร็ว เนื่องจากการลด Parasyspathetic tone ที่หัวใจนอกจากนี้atropine ยังมีฤทธิ์โดยตรงทำให้หลอดเลือดขยายตัวโดยเฉพาะหลอดเลือดใต้ผิวหนัง
ต่อมเหงื่อ
atropine ทำให้ร่างกายขับเหงื่อได้น้อยลงส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกทางเหงื่อได้ อุณหภูมิในร่างกายจึงสูงและเกิดไข้ได้
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้เป็นยาขยายหลอดลม (bronchodilators )
ใช้เป็นยาเตรียมผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด Atropine ยั้บยั้งการหลั่งกรดน้ำย่อย น้ำลายและสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ
ใช้ทางจักษุแพทย์ ทำให้รูม่านตาขยายจึงใช้เป็นยาหยอดขยายม่านตาก่อนการตรวจตา
ใช้เป็นยารักษาโรคพาร์กินสัน รักษากลุ่มอาการที่เรียกว่า extrapyramidal syndrome (อาการเกร็งกระตุกกล้ามเนื้อ) ยาลดการทำงาน Ach มีผลทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว
ใช้รักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวมากเกินไปสาเหตุจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
รักษาภาวะล้มเหลวของระบบไหลเวียนโลหิต Atropine ทำให้หัวใจเต้นช้าลงเล็กน้อยในระยะแรกเมื่อใช้ในขนาดสูง หัวใจเต้นเร็วขึ้น
ใช้เป็น Antispasmodics ยาลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในช่องท้อง
ใช้เป็นยาป้องกันและรักษาอาการเมารถ เมาคลื่น เกิดจากความผิดปกติในหูชั้นในที่ควบคุมและรักษาภาวะสมดุลของการทรงตัว
ใช้เป็นยาต้านพิษ (Antidote ) ที่เกิดจาก organophosphate ยาที่ใช้ได้แก่ Atropine
Antisecretory รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้โดยอาศัยฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรอและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
อาการข้างเคียงและความเป็นพิษ
เกิดจากฤทธิ์ anticholinergic อาการรุนแรงมากน้อยขึ้นกับขนาดยาที่ใช้ อาการที่พบ ได้แก่ ปากแห้งคอแห้ง ตาพร่ามัว ใจสั่น ร้อนวูบวาบทางผิวหนัง ท้องผูก ปัสสาวะลำบาก ควรสังเกตและบันทึกปริมาณน้ำดื่ม
และจำนวนปัสสาวะ เพราะยาอาจทำให้ปัสสาวะคั่งได้
ยาปิดกั้นอะดรีเนอร์จิครีเซพเตอร์ (Adrenoceptor blocking drugs)
Alpha-adrenergic antagonists (a-blocker)
Prazosin, Doxazosin
ยาที่มีใช้ในปัจจุบัน คือ selective a1-antagonist ออกฤทธิ์จำเพาะต่อ a1-receptorที่อยู่ภายใน
เซลล์ของกล้ามเนื้อเรียบ ที่ผนังหลอดเลือด ที่หัวใจ และที่ต่อมลูกหมาก ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ลดความต้านทานของหลอดเลือดแดง ผนังหลอดเลือดขยาย ทำให้ลดความดันโลหิตได้ดีและรวดเร็ว
อาการข้างเคียงและความเป็นพิษ
การที่ความดันโลหิตต่ำในขณะเปลี่ยนอิริยาบถ (postural
hypotension) ซึ่งมักพบบ่อยจากการใช้ยาในระยะแรกๆ
Beta-adrenergic antagonists (B-blocker)
ยากลุ่ม B-blocker มีความหลากหลายในคุณสมบัติ ได้แก่ ความจำเพาะต่อ receptor subtype
หรือฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่น ๆ
Non-selective B-blocker
Propranolol
ลดอาการใจสั่น และมือสั่นในผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ (hyperthyroidism)
และลดหัวใจเต้นเร็ว หรือป้องกันอาการใจสั่นจากสาเหตุต่าง ๆ
ลดอาการตื่นเต้นได้ง่ายทำให้เกิดภาวะสงบ
ใช้รักษาความดันโลหิตสูง โดยใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะหรือยาขยายหลอดเลือด เนื่องจากก
ขัดขวางที่ B receptor ลดการกระตุ้นหัวใจ และลดความดันโลหิต
ัรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ (supraventricular และ ventricular arrhythmias)
Selective B-blocker
Metoprolol และ Atenolol เป็น Selective B1-blocker ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก และเป็นยาสำคัญใช้เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวจากกล้ามเนื้อหัวใจ
อาการข้างเคียงและความเป็นพิษ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ แม้ว่ายากลุ่มนี้จะรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่สามารถชักนำให้เกิดได้
โดยเฉพาะเมื่อหยุดยาอย่างกะทันหัน
ระบบประสาท อาจพบอาการ ปวดศีรษะ วิ่งเวียน นอนไม่หลับ เหนื่อยล้า
ระบบหายใจ จากการปิดกั้นตัวรับ B2 อาจทำให้หลอดลมตีบแคบ ผู้ป่วยโรคหอบหืดไม่ควรใช้
ยากลุ่มนี้
ยากลุ่มนี้มีผลกับระบบต่อมไร้ท่อและกระบวนการเมแทบอลิซึม จึงอาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จากการตอบสนองเพิ่มระดับน้ำตาลผิดปกติ
ระบบหัวใจและหลอดเลือด propranolol ทำให้หัวใจเต้นช้า เกิดจากการปิดกั้นตัวรับ 8 ที่หัวใจ
และหลอดเลือด และ atrioventricular block
ยาโคลิเนอร์จิค ( Cholinergic drugs)
Cholinergic agonist ได้แก่ Ach และสารสังเคราะห์ Cholone ester และ Pilocarpine
ออกฤทธิ์โดยตรงง Acetylcholine (Ach) และสารสังเคราะห์ choline ester
Ach จัดเป็นยาต้นแบบของยากลุ่มนี้แต่ไม่สามารถนำมาใช้ในการรักษาเนื่องจากกฤทธิ์กระจายมา
ออกฤทธิ์สั้นเนื่องจากยาถูกทำลายอย่างรวดเร็วด้วย Ach จึงเกิดการสังเคราะห์ Choline ester อื่นๆมาใช้
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์กระตุ้นที่ Muscarinic และ Nicotinic receptor
ฤทธิ์ทางเภสัชกร
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหดตัว เพิ่มความดันกระเพาะปัสสาวะ เพิ่มการบีบตัวของท่อปัสสาวะและการคลายตัวของกล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะปัสสาวะ
ระบบทางเดินอาหาร
เพิ่มการหลั่งสารคัดหลั่ง คือ น้ำลาย และกรดในกระเพาะอาหาร ต่อมในตับอ่อนและลำไส้เล็ก กระตุ้นกล้ามเนื้อทางเดินอาหารบีบตัว
ระบบหายใจ
ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมหดตัว ต่อมในหลอดลม หลั่งสารคัดหลั่งเพิ่มขึ้นถ้าการกระตุ้นมีมากจะเกิดการคล้ายหืด
ฤทธิ์ต่อตา
ทำให้ม่าตาหรี่เป็นผลจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ Sphincter muscal ของ iris ลดความดันในเบ้าตา
ระบบไหลเวียนเลือด
สาร Muscarinic agonist มีผลโดยตรงทำให้ลดความต้านทานหลอดเลือดส่วนปลาย ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ลดความดันโลหิต ลดการเต้นของหัวใจ
ระบบประสาทส่วนกลาง
สารมีฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วน cortex มีบทบาทเกี่ยวกับการรับรู้การเคลื่อนไหว ความอยากอาหาร ความปวด
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้รักษาต้อหิน ยา Pilocarpine ชนิดหยอดใช้ในการรักษาต้อหินเฉียบพลันโดยยามีฤทธิ์กระตุ้นให้ม่านตาหรี่ ลดความดันในลูกตา
ใช้รักษาอาการท้องอืด ไม่ถ่าย เช่น โรคกรดไหลย้อน ยา Bethanechol จะกระตุ้นการบีบตัว เพิ่มแรงดัน
ใช้รักษาระบบทางเดินปัสสาวะ Bethanechol ใช้รักษาอาการปัสสาวะไม่ออกจากหัตถการผ่าตัดจากการคลอดบุตรหรือโรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะไม่ทำงาน
อาการข้างเคียงและความเป็นพิษ
ผลของยาเกิดจากการกระตุ้น muscarinic receptor โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่มีผลทั่วร่างกาย เช่น Bethanechol,Pilocarpine ชนิดเม็ด
อาเจียน
มีน้ำลายน้ำมูกน้ำตาไหล
อาการมึนเวียนศรีษะคล้ายจะเป็นลม
ปวดปัสสาวะ ปวดมวนท้อง
ข้อห้ามใช้
โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เนื่องจากยากระตุ้นการหลั่งกรดและย่อยมากขึ้น
ผู้ป่วยลำไส้อุดตัน นิ่วทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากการกระตุ้นการบีบตัวจะก่ออันตรายได้
ผู้เป็นโรคหืดหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเนื่องจากจะทำให้หลอดลมหดตัว
Anticholinesterase agent ( Cholinesterase inhibitors)
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธิ์ยั้บยั้งการทำงานของเอนไซม์ Acetylcholinesterase ( AChe ) หรือ Cholinesterase ( ChE ) ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ทำลาย Ach ผลทำให้ Ach ไม่ถูกทำลาย Ach จึงไปกระตุ้น cholinergic receptors
การจับกับเอนไซม์ถ้าเป็นชั่วคราว จัดอยู่ในกลุ่ม reversible ได้แก่ edrophonium,neostigmine และ pyridostigmine และมีฤทธิ์สั้น
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ผลต่อ muscarinic receptor คล้ายกับ Cholinergic agonist ได้แก่เช่น ผลต่อกล้ามเนื้อเรียบ ทางเดินปัสสาวะ แต่ละผลเหล่านี้อาจรุนแรงเนื่องจากการใช้ยากลุ่มนี้มีผลทั่วร่างกาย
ผลต่อ nicotinic receptor ผลต่อกล้ามเนื้อลาย การบีบตัวของใยกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีอาการสั่นพริ้ว
การนำไปใช้ทางคลินิก
ใช้ในการรักษาโรค Myasthenia gravis (MS) ซึ่งร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันมาทำปฎิกิริยากับ nicotic receptor ผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง ยาช่วยเพิ่มAch ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงกลับมามีแรงดีขึ้น
ใช้ในการยุติฤทธิ์ของยาคลายกล้ามเนื้อกลุ่มที่เป็น competitive antagonist เพื่อให้ผู้ป่วยกลับหายใจได้ปกติเร็วขึ้นหลังการผ่าตัด
ใช้ในการรักษาอาการลำไส้ กระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัว ได้แก่ยยา Neostigmine
รักษา Alzheimer's disease ยาช่วยปรับปรุงด้านความจำ ความเข้าใจ ( cognitive) ทำให้สมองเสื่อมช้าลง เช่น doepezil , galantamine และ rivastigmine
อาการข้างเคียง และความเป็นพิษ
organophosphste หรือ ยาฆ่าแมลง เป็นยาที่จับกับเอนไซม์อย่างถาวร ( irreversible) เมื่อได้รับสารนี้จะเกิดอาการพิษได้แก่ รูม่านตาเล็ก หายใจลำบาก หัวใจเต้นช้า การรักษาโดยให้ยาต้านพิษ ได้แก่ Atropine และ pralidoxime ( 2-PAM) เพื่อยั้บยั้ง Muscarinic effect