Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มอาการโรคที่พบบ่อย2(ต่อ), seet-01, 4DQpjUtzLUwmJZZURGOwMhrBkEAC3QZTd10…
กลุ่มอาการโรคที่พบบ่อย2(ต่อ)
อาการซีด (pallor)
อาการที่สีของผิวหนัง (หน้า ริมฝีปาก ลิ้น เล็บ มือ เท้า ที่ด้านในของเปลือกตา หรือที่อวัยวะอื่นๆ ของร่างกายที่สามารถมองเห็นได้) ดูจางลง เนื่องจากไม่มีเลือดฝาด
อาการซีดจึงเป็นอาการที่วินิจฉัยได้ไม่ยาก เพราะอาศัยการดูความเข้มของสี (เลือด) ของผิวในบริเวณต่างๆ
สาเหตุ
ซีดจากเลือดไปเลี้ยงน้อยลง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเฉพาะที่
อาจจะเกิดขึ้นเฉพาะที่ (เฉพาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย) หรือเกิดทั่วไปก็ได้
อาการซีดเฉพาะที่มักจะพบเห็นได้ง่ายที่บริเวณปลายๆ ของอวัยวะ
อาการซีดที่เกิดจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะทั่วไปน้อยลงจนมองเห็นอาการซีด โดยทั่วไป หรือทั่วร่างกาย มักเกิดจากการตีบตัว ของเส้นเลือดทั่วร่างกายที่พบใน “ภาวะช็อก”
ซีดจากโรคเลือดจาง (โรคโลหิตจาง)
การทำลายเม็ดเลือดแดง (เม็ดเลือดแดงแตก)
โรคธาลัสซีเมีย
การให้เลือดผิดหมู่
โรคไข้มาลาเรีย
การใช้ยาบางชนิด
การขาดเหล็กและสารจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง
การไม่กินอาหารจำพวกไข่ และเนื้อสัตว์ (มังสวิรัติ)
การขาดวิตามินบางชนิด
การขาดอาหารโปรตีน
การเสียเลือด
การเสียเลือดอย่างรวดเร็ว
การเสียเลือดอย่างเรื้อรัง
การที่ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงไม่พอ
โรคเรื้อรังอื่นๆ
ไขกระดูกฝ่อ (aplastic or hypoplastic anemia)
โรคติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อเรื้อรัง (chronic infection)
ไขกระดูกถูกแทนที่ (myelophthisic anemia)
โรคทางกรรมพันธุ์บางชนิดที่ทำให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติ
การที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย
ทำการตรวจเลือด ซึ่งมักพบว่ามีระดับความเข้มข้นของเลือด (hemoglobin) ต่ำกว่า 12 กรัม/เดซิลิตร
จากประวัติอาการเจ็บป่วยและการตรวจพบภาวะซีด
การตรวจพิเศษอื่นๆ เช่น ตรวจอุจจาระ ปัสสาวะ
การรักษา
หาสาเหตุที่ทำให้ซีดแล้วรักษาสาเหตุนั้น
รักษาตามอาการ
โลหิตจาง จากภาวะขาดธาตุเหล็ก
ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ
ทำให้มีอาการซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในบ้านเรา
สาเหตุ
เกิดจากการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
เกิดจากการเสียธาตุเหล็กออกไปกับเลือด
อาการ
ในรายที่มีภาวะโลหิตจางมาก หรือเกิดขึ้นฉับพลัน มักจะมีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยง่าย หน้ามืด มึนงง เวียนศีรษะ เบื่ออาหาร ถ้าเป็นมากอาจมีอาการใจหวิว ใจสั่นร่วมด้วย
ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางชัดเจน มักพบว่ามีอาการหน้าตาซีดเซียว ฝ่ามือซีด เล็บซีด เยื่อบุเปลือกตา ริมฝีปาก และลิ้นซีดขาวกว่าปกติ
ในระยะที่มีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย มักไม่มีอาการแสดงชัดเจน
การรักษา
ให้ยาบำรุงโลหิต
ให้การรักษา โรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุของโลหิตจางร่วมด้วย
โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย (Thalassaemia)
มีสาเหตุมาจากมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ แตกง่าย ถูกทำลายง่าย
อาการ
ร่างกายเจริญเติบโตช้ากว่าคนปกติ แคระแกร็น ท้องป่อง
มีอาการซีด ตาขาวสีเหลือง ตัวเหลือง ตับโต ม้ามโต ผิวหนังดำคล้ำ กระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนรูป มีจมูกแบน กะโหลกศีรษะหนา โหนกแก้มนูนสูง คางและขากรรไกรกว้างใหญ่ ฟันบนยื่น กระดูกบาง เปราะ หักง่าย
โรคเลือดจางธาลัสซีเมียมีตั้งแต่ไม่มีอาการใดๆ จนถึงมีอาการรุนแรงมากที่ทำให้เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือหลังคลอดไม่เกิน 1 วัน
ผู้ที่มีอาการจะซีดมากหรือมีเลือดจางมาก ต้องให้เลือดเป็นประจำ
มีภาวะติดเชื้อบ่อยๆ หรือมีไข้เป็นหวัดบ่อยๆ ได้ มากน้อยแล้วแต่ชนิดของธาลัสซีเมียซึ่งมีหลายรูปแบบ
ผู้ที่มีโอกาสเป็นพาหะ
ผู้ที่มีลูกเป็นโรคนี้ แสดงว่าทั้งคู่สามีภรรยาเป็นพาหะหรือมียีนแฝง
ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคธาลัสซีเมีย
ผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นพาหะหรือมียีนแฝงสูง
ถ้าผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและแต่งงานกับคนปกติที่ไม่มียีนแฝง ลูกทุกคนจะมียีนแฝง
การรักษา
ให้รับประทานวิตามินโฟลิควันละเม็ด
ให้เลือดเมื่อผู้ป่วยซีดมากและมีอาการของการขาดเลือด
ตัดม้ามเมื่อต้องรับเลือดบ่อยๆ และม้ามโตมากจนมีอาการอึดอัดแน่นท้อง กินอาหารได้น้อย
ไม่ควรรับประทานยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก
ผู้ป่วยที่อาการรุนแรงซีดมาก ต้องให้เลือดบ่อยมากจะมีภาวะเหล็กเกิน อาจต้องฉีดยาขับเหล็ก
แบบประคับประคอง (Low Transfusion)
การให้เลือดจนหายซีด (High Transfusion)
ปลูกถ่ายไขกระดูก
การเปลี่ยนยีน
อ่อนเพลีย
เป็นความรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย, เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหรือขาดพลังงาน แตกต่างจากความเมื่อยล้า ง่วงนอน
ความเมื่อยล้าสามารถตอบสนองปกติและสิ่งสำคัญที่จะออกแรงกายแรงอารมณ์เบื่อหรือขาดการนอนหลับ แต่ยังสามารถเข้าสู่ระบบ nonspecific ของโรคทางจิตหรือทางกายภาพรุนแรงมากขึ้น
สาเหตุ
ภูมิแพ้ หรือ โรคหอบหืด
Anemia
Depression Depression or grief ซึมเศร้าหรือ เสียใจ
อาการปวด Fibromyalgia
Sleep disorders such as ongoing insomnia , obstructive sleep apnea , or narcolepsy
Underactive Underactive or overactive thyroid gland Underactive
การใช้แอลกอฮอล์หรือยาเสพติดเช่นโคเคนหรือยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้ปกติ
โรค Addison
Anorexia หรือความผิดปกติของการรับประทานอาหารอื่นๆ
Arthritis, รวมทั้ง โรคไขข้อ
โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อผิดปกติ Autoimmune diseases
โรคมะเร็ง Cancer หัวใจวาย Congestive heart failure โรคเบาหวาน Diabetes
การติดเชื้อโดยเฉพาะที่ใช้เวลานานหรือการกู้คืนจากการรักษาเช่น เยื่อบุหัวใจอักเสบจากแบคทีเรีย
โรคไต โรคตับ การขาดแคลนอาหาร
การวินิจฉัย
ประวัติ
ตรวจร่างกาย
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
รักษา
ตามสาเหตุของโรค
รักษาตามอาการ
ภาวะเพลียเรื้อรังCFS ( Chronic Fatigue Syndrome )
ไม่ใช่อาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั่วไปอย่างไข้หวัดหรือกล้ามเนื้ออักเสบ
หาสาเหตุไม่พบและอธิบายไม่ได้ เป็นทีพร้อม ๆ กันหลายอาการ จนเกือบจะไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรียกรวม ๆ กันว่า Syndrome
อาการ
บ่อยครั้งที่ภาวะเหนื่อยเรื้อรังเกิดหลังจากป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ
ปกติแล้วจะเกิดแบบต่อเนื่องหรือเป็น ๆ หาย ๆ ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน อาการจะคลุมเครือชี้ชัดได้ยากกว่าเป็นอะไร
แพทย์น้อยคนนักที่จะนึกถึง ซึ่งถ้าแพทย์ให้การรักษาตามอาการแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีหลายอาการประกอบกัน ก็เข้าข่ายว่าน่าจะเป็นภาวะเหนื่อยเรื้อรัง
การรักษา
ไม่มียาเฉพาะที่จะรักษาโรคนี้ให้หายขาด
รักษาตามอาการและการดูแลสุขภาพกายและใจจึงเป็นหนทางเดียวในขณะนี้ที่จะช่วยบรรเทาได้ พร้อม ๆ ไปกับการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ควรรีบกำจัดสิ่งที่จะไปกระตุ้นให้เป็นหนักขึ้น
นางสาวทิพย์สุดา สนิทพจน์ รหัสนักศึกษา 601410067-1