Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

7.1.ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum Hemorrhage) น.ส.ธมลวรรณ สีปัสสา ปี 4A…

- - - - รกลอกตัวเพียงบางส่วน
        หรือลอกตัวไม่ได้ เนื่องจากรกติดแน่น (placenta adherens) สามารถแบ่งเป็นplacenta
        accrete, increta และ percreta
      - เศษรกค้าง ส่วนใหญ่
        เป็นสาเหตุทําให้เกิดการตกเลือดหลังคลอดในวันที่ 6-10 หลังคลอด
      - การทําคลอด
        รกไม่ถูกวิธี การเร่งทําคลอดรกด้วยการนวดและบีบมดลูกจะรบกวนกลไกการหลุดลอกตัวของรก
      - ความผิดปกติของรก เช่น รกมีความบางและแผ่กว้าง (placenta membranesia) รกมีขนาดใหญ่ มีรกน้อย รกเกาะต่ํา (placenta previa)
    - - มดลูกอ่อนแรง เนื่องจากการคลอดเฉียบพลัน (precipitate labor) หรือระยะการเจ็บครรภ์คลอดยาวนาน (prolong labor)
      - การยืดขยายของกล้ามเนื้อมดลูกมากกว่าปกติ เชนการตั้งครรภ์แฝด (multiple gestation) ครรภแฝดน้ํา (polyhydramnios)ทารกตัวโต (macrosomia)
      - การติดเชื้อในโพรงมดลูก เช่น การอักเสบของเยื่อบุถุงน้ําคร่ํา(chorioamnionitis)
      - ผ่านการคลอดมาแล้วหลายคร้ัง (multiparity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ 5 ครั้งขึ้นไป
      - กระเพาะปัสสาวะเต็ม การตกเลือดก่อนคลอ
        มีประวัติการตกเลือดในคร้ังก่อน
      - การใช้ยาทําให้มดลูกคลายตัว (uterine relaxing agent) เช่นยาระงับความรู้สึกทั่วไป การใช้ยาลดการหดรัดตัวของมดลูก(tocolytic drugs เช่น magnesium sulfate, bricanyl)
      - การชักนําหรือการเร่งคลอด (induced oraugmented labor) เช่น oxytocin
      - รกค้าง เช่นรกติดแนน่ มดลูกปลิ้น (uterine inversion)
  - - - 4.1 การใช้ถุงรองเลือด
      - 4.2 การทํา Active management of 3rd stage of labor (AMTSL)
    - - 5.1 ประเมินสัญญาณชีพทุก 15 นาที 4 ครั้ง และทุก 30 นาที 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังภาวะตกเลือด
        หลังคลอดและภาวะ shock ถ้า BPs < 80-90 mmHg, PR> 100/min, RR > 30/minและประเมินอาการ
        ของมารดาร่วมด้วย เช่น มีอาการวิงเวียน ตัวเย็น เหงื่อออก
      - 5.2 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก (Tone) โดยประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ระดับยอดมดลูกและกระเพาะปัสสาวะ ทุก 15 นาที 4 ครั้ง และทุก 30 นาที 2 ครั้งดูแลให้ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัว ของมดลูกตามแผนการรักษาของแพทย์
        ประเมินลักษณะของเลือดที่ออกทางช่องคลอดโดยปกติ
  - - - ตรวจหาและแก้ไขภาวะซีดขณะตั้งครรภ์ โดยการรายงานแพทย์และให้คาํแนะนําเกี่ยวกับภาวะโภชนาการและการรับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก
      - ให้คําแนะนําในการดูแลตนเอง การพักผ่อน อาการผิดปกติ เช่นการมีเลือดออกระหว่างการตั้งครรภ์
      - ลงบันทึกปัจจัยเสี่ยงในสมุดฝากครรภ์และแฟ้มประวัติโดยปั๊มตราสีแดง High risk
      - คัดกรองความเสี่ยงของการตกเลือดหลังคลอด
    - - ระมัดระวัง และเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ควรใช้ partograph ติดตามความก้าวหน้าของการคลอดเพื่อป้องกันภาวะเจ็บครรภ์คลอดยาวนาน ฟังเสียงหัวใจทารก สังเกตที่ออกผิดปกติทางช่องคลอดให้คําแนะนําการเบ่งคลอดที่ถูกวิธี ตัดฝีเย็บในระยะเวลาที่เหมาะสม
      - ผู้คลอดที่มีปัจจัยเสี่ยง ต้องมีการเตรียมความพร้อม รายงานแพทย์ให้การพยาบาลตามแนวทางการดูแลของหน่วยงาน เช่น เปิดเส้น เลือดสําหรับให้สารน้ํา เจาะเลือด เตรียมเลือดไว้ให้พร้อม
      - ดูแลให้ได้รับ Oxytocin ในระยะที่ 3 ของการคลอด โดยวิธี Active Management of TheThird Stage of Labor (AMTSL) เพื่อปองกีนการตกเลือดหลังคลอด
    - - ขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์และพยาบาล
      - ให้ O2mask with bag 10 lit/minพร้อมเปิดเส้นเลือดให้สารน้ําเพิ่มอีกเส้นตามแผนการรักษาและปรับตามคาํสงัการรักษาของแพทย์
      - ประเมินผู้คลอดอยู่ในภาวะช็อกหรือไม โดยประเมินดังตารางด้านลา่ ง ถ้าช็อกรีบรายงานแพทย์
        เพื่อแกืไขภาวะช็อกก่อน
      - ประเมินสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัวทุก 5 นาที หรือทุก 15 นาที จนกว่าจะคงที่
        เพื่อประเมินความรุนแรงของการเสียเลือด
      - จัดให้นอนราบตะแคงหน้าไม่หนุนหมอน เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองดีขึ้น และให้ทาง
        เดินหัวใจโล้ง
      - ดูแลให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย (keep warm) เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกาย
      - ตรวจสอบกระเพาะปัสสาวะ ถ้าเต็มกระตุ้นให้ปัสสาวะ ถ้าป้สสาวะเองไม่ได้ให้สวนปัสสาวะ
        ป้องกันการขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
      - ประเมินสาเหตุของการตกเลือดหลังคลอด ควรทําไปพร้อมกัน ถ้ามดลูกหดรัดตัวไม่ดีให้คลึงมดลูก
        ทางหน้าท้องเพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก